หมอลู่เพิ่งเดินทางมาถึงในตอนตีห้าแต่หมอลู่ก็ยังมีแรงที่จะช่วยงานพวกแพทย์ประจำแผนกที่อยู่แถวนั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งเขากำลังฉกฉวยงานจากมือของแพทย์ประจำบ้านมาทำเองทั้งหมด
แพทย์ประจำบ้านเคยเห็นทักษะการผ่าตัดของหลิงรันในห้องสาธิตมาก่อน พวกเขายังคงเต็มใจที่จะติดตามหลิงรันและเรียนรู้เคล็ดลับหรือทำทั้งสองอย่างจากหลิงรัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนและเก็บความคิดเหล่านี้ไว้ในใจ แต่แพทย์ประจำถิ่นก็ยกย่องหลิงรันเป็นอย่างมากสำหรับความสงบและความอ่อนโยนของเขา เขาไม่เคยดุใครเลยและไม่แม้แต่จะพูดคุยกับใครในห้องผ่าตัด
ในความเป็นจริงการพูดคุยส่วนใหญ่ในห้องผ่าตัดนั้น มักจะเกิดจากการที่พวกแพทย์อาวุโสต้องการลดความตึงเครียดของทีมผ่าตัดของเขา ด้วยสาเหตุนี้มันทำให้แพทย์อาวุโสพยายามเล่นมุขตลก หรือชวนคุยข่าวสารบ้านเมือง แต่อย่างไรก็ดีการตอบสนองของแพทย์มือใหม่ก็ต้องสอดรับกับแพทย์อาวุโสด้วยไม่อย่างงั้นบรรยากาศในห้องผ่าตัดคงจะตรึงเครียดซึ่งในความคิดของแพทย์มือใหม่ส่วนใหญ่พวกเขาไม่ค่อยสนใจสิ่งที่แพทย์อาวุโสเหล่านั้นพูดสักเท่าไรกับมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระแต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นเข้าใจตลอดเวลา
หลังจากนอนหลับมาครึ่งวันหมอลู่และได้ปรุงหมูหม้อสองหม้ออย่างเต็มอิ่ม เขาก็ได้กับมามีสปิริตอีกครั้ง เขาเดินตามหลิงรันเพื่อทำการผ่าตัดรักษาเอ็นร้อยหวายและการปลูกถ่ายนิ้ว ซึ่งตอนนี้เขารู้สึกสดชื่นมากๆและมองไปที่หลิงรันซึ่งเป็นคนที่กระตือรือร้นและมีสปิริตสูงกว่าเขาอยู่แล้ว มันทำให้หมอลู่เสียวสันหลังหวาบๆ ‘ฉันถูกวิญญาณชั่วร้ายครอบงำอยู่หรือเปล่า?’
“ ไปเดินตรวจรอบวอร์ดกันเถอะ ตอนนี้เรายังไม่ผู้ป่วยให้ผ่าตัด ” หลิงรันอ้าปากของเขาราวกับว่าเขาเพิ่งกินเนื้อแกะหมอไฟอิ่มไปเพียง 40% ของท้องเขาเท่านั้น
หมอลู่เองก็อิ่มแค่ 30% เท่านั้น เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า“ มันเช้าแล้วไม่ใช่หรอทำไมถึงไม่มีผู้ป่วยเหลืออยู่เลย? โรงพยาบาลเฉพาะทางนั้นก็ไม่ได้ดีเหมือนที่ฉันคิดไว้เลยนิ ”
เมื่อเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลทั่วไปโรงพยาบาลเฉพาะทางมีความสามารถในการรับผู้ป่วยได้น้อยกว่า
แม้แต่สถาบันหนึ่งเช่นศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและเวชศาสตร์การกีฬาก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลหยุนหัวเมื่อเอาผู้ป่วยมาเทียบกัน หากเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลอื่น ๆ เช่นโรงพยาบาลหัวซานความแตกต่างของจำนวนผู้ป่วยก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน
ตอนแรกพยาบาลหมุนเวียนก็ค่อนข้างง่วงนอนในตอนนี้ แต่เมื่อเธอสังเกตเห็นหลิงรันเธอก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที่ ในขณะนั้นหลังจากได้ยินสิ่งที่ หมอลู่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโรงพยาบาลของเธอ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจเท่าไร“ ผู้ป่วยยังไม่กินอาหารเช้าเลย คุณคิดว่าจำนวนผู้ป่วยจะสามารถตอบสนองคุณได้ทุกเช้าเหมือนมอนเตอร์ในเกมหรือยังไง?”
หมอลู่ได้แต่หัวเราะเบา ๆ “ถ้าพวกเขาทำได้จริงอย่างที่เธอว่าฉันยอมเติมเงินเกมนั้นให้เลย”
พยาบาลหมุนเวียนจึงพูดจากดูถูกเหยียดหยามว่า“ คุณมีเงินด้วยหรอ?”
“ เธอรู้หรือไม่ว่ามีตีนหมูต้นทุนราคาอยู่ที่ 39 แต่ฉันขายไป 90 หยวนเธอรู้ไหม?
พยาบาลที่หมุนเวียนอยู่ดูลังเล “ คนเราสามารถทำเงินได้มากแค่ไหนจากการขายตีนหมู…?”
หมอลู่ต้องการพูดอะไรบางอย่างออกไป แต่เขาส่ายหัวแล้วปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป
พยาบาลหมุนเวียนพูดอีกครั้ง“มันก็เป็นปกติอยู่แล้วที่คุณก็ต้องทำงานอื่นหาเงิน แต่ก็ไม่เห็นว่าคุณจะดูมีเงินสักเท่าไรเลย”
“เงิน? การหาเงินสำหรับฉันมันเป็นของกล้วยๆ…” หมอลู่มองเธออย่างหยิ่งยโส
“ หยุดคุยโม้ถ้าคุณมีรายได้มากกว่าการทำอาชีพหมอ โดยการขายตีนหมูแล้วทำไมคุณยังจะต้องมาเรียนหมออยู่อีกล่ะ?” พยาบาลโยนคำถามให้กับหมอลู่เพื่อที่เธอจะรอให้หมอลู่เปิดเผยความลับที่หมอลู่ไม่ยอมพูดสักที่เกี่ยวกับเงินของเขา .
หมอลู่ก็รู้สึกอึดอัดใจแต่ก็ดูเหมือนจะตกตะลึงเล็กน้อย
“ ไปตรวจรอบวอร์ดกัน” หลิงรันถอดถุงมือและเสื้อผ่าตัดของเขาออก เขานวดคอด้วยมือข้างหนึ่งและนวดคอของหมอลู่ ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง
หมอลู่ร้องครวงครางเมื่อเขาถูกนวด จากนั้นราวกับว่าสมองของคิดได้ช้าลงเขาถามคำถามโง่ออกไป“ หมอลิงคุณจะสร้างความสมดุลระหว่างการหาเงินและอาชีพของคุณได้อย่างไร”
หลิงรันมองดูไปที่หมอลู่ราวกับว่าเขาเป็นคนงี่เง่าและหลิงรันก็พูดว่า “ตอนนี้การหาเงินกับอาชีพของคุณยังดีอยู่หรือป่าว?“
“ เพราะว่าหมอลู่สามารถมีรายได้มากๆโดยการเป็นหมอ แต่แพทย์ประจำแผนอย่างเขาสามารถทำเงินได้เท่าไหร่เชียว? ต่อให้เขาจะทำงานเป็นศัลยแพทย์อิสระ…” หมอลู่คิดถึงตีนหมูที่เขาขายไปในตอนบ่ายและรู้สึกภูมิใจในตัวเอง
“ ปกติแล้วฉันไม่สามารถใช้เงินเดือนที่ได้รับหมดหรอก และฉันก็ไม่ได้ต้องการเงินเพิ่มขึ้นแล้ว “หลิงรันมองดูที่ หมอลู่ด้วยท่าทางที่ทำให้เขารู้สึกงง “ ทำไมคุณอยากได้เงินเพิ่มหรอ?”
“หมอหลิงคุณอาจจะไม่เห็นความสำคัญของเงินนะ” หมอลู่ส่ายหัวและเขาพูดว่า“ เอาจริงๆคือ ถ้าพูดถึงแค่เรื่องบ้านเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญในการมีบ้าน ถ้าเรามีเงินเยอะๆเราก็จะสามารถซื้อบ้านได้เมื่อซื้อบ้านได้เราก็จะหาแฟนได้ เมื่อมีแฟนพร้อมกับมีเงินเราก็จะแต่งงาน เมื่อแต่งานเสร็จเราก็จะมีครอบครัว แต่ทุกอย่างมันก็ต้องใช้เงินซึ่ง ถ้าหาเงินไม่ได้จริงๆสิ่งเลวร้ายสุดอาจไม่ใช่การไม่มีบ้านแต่คือการไม่มีครอบครัวคอยดูแลพวกฉันในตอนแก่…”
หมอลู่พูดได้ดีมากและเขาดูตื่นเต้นมาก ทันใดนั้นเขาพบว่าไม่มีใครสนใจเขาเลย
หลิงรันกำลังคิดถึงบางอย่างในขณะที่เขาคอยนวดคอของ หมอลู่ พยาบาลสาวสองคนเฝ้ามองหลิงรันในขณะที่วิสัญญีแพทย์เฝ้าดูผู้ป่วย …
หมอลู่ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที ‘ทำไมฉันถึงพูดกับหมอหลิงถึงเรื่องนี้ด้วย‘
หลิงรันเดินออกจากห้องผ่าตัด เขาต้องการเชิญหัวหน้าแพทย์เจียนเทียนยูที่กำลังเดินตรวจรอบวอร์ด แต่เขาก็เรียกเจียนเทียนยูไม่ทัน
หัวหน้าแพทย์ เจียนเทียนยู รีบหลบจากการเดินตรวจวอร์ดเพื่อหลบหน้าหลิงรันแล้วส่งแพทย์ประจำบ้านที่ไปส่งหมอหลิงในการเดินตรวจรอบวอร์ดเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่หลงทาง
แพทย์ประจำแผนกน้ำหนัก 226 ปอนด์ เขาถือสมุดบันทึกไว้ในมือและเขามีปากกาหกด้ามในกระเป๋าของเขา เขาไม่ได้กล่าวทักทายกับหลิงรันและหมอลู่ เขาพาพวกเขาเดินออกไปและไปที่ห้องหนึ่ง เขาจำได้ว่าห้องนี้เป็นคนไข้ที่อารมฌ์ร้อนและครอบครัวของคนไข้ก็อารมฌ์พอๆกัร
“ ไปกันเถอะ ” แพทย์ประจำบ้านที่ชั่งน้ำหนัก 226 ปอนด์ทักทายผู้ป่วยและครอบครัวของผู้ป่สนในลักษณะที่เป็นมิตร แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะแนะนำหลิงรันกับพวกเขา
หมอผู้นี้พร้อมที่จะเป็นคู่ปรับกับหลิงรันด้วยความยุติธรรมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาเต็มใจที่จะช่วยเหลือและปกป้องหลิงรันที่เป็นศัตรูของเขาตลอดชีวิต เขาจะไม่ยอมให้สิ่งต่าง ๆ ง่ายขึ้นสำหรับศัตรูของเขาไปตลอดชีวิต
แพทย์ประจำแผนกน้ำหนัก 226 ปอนด์ยืนอยู่ที่มุมห้องหยิบน้ำแร่ที่เขาถือติดตัวเปิดฝามันออกและจิบน้ำเล็กน้อยจากนั้น เขามองไปที่หลิงรันในขณะที่เขาถึงเรื่องชั่วร้ายและนั่นเป็นนิสัยที่ไม่ดีของเขา ‘อย่าคิดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายในโรงพยาบาลของเราเพียงเพราะคุณเป็นอัจฉริยะ โรงพยาบาลมีความซับซ้อนเกินกว่าที่คุณคิดและมันก็ซับซ้อนกว่าสภาพแวดล้อมของห้องผ่าตัดอีกด้วย
“ สวัสดีครับ บาดแผลของคุณยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?” หลิงรานประหลาดใจกับแพทย์ประจำบ้านที่น้ำหนัก 226 ปอนด์ด้วยคำถามนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยิ้ม แต่เขาก็มีแรงบันดาลใจที่น่าประทับใจ
“มันเจ็บ .” วันแรกหลังจากการผ่าตัดเป็นสิ่งที่อึดอัดที่สุดเสมอ ผลกระทบจากยาชาจะหายไปในเวลานั้นและผู้ป่วยไม่สามารถออกจากเตียงเพื่อใช้ห้องน้ำแม้ว่าเขาหรือเธอต้องการมันจะทำให้ผู้ป่วยอยู่ในอาการอึดอัดมากๆ
“ขอฉันดูหน่อย . คุณรู้สึกว่าไม่สบายตัวหรอ?” หลิงรันหยิบเจลทำความสะอาดมือที่มีที่เขานำติดตัวไปด้วย เขาใช้มันบนมือของเขากระจายไปทั่วฝ่ามือของเขาแล้วขยับเท้าของผู้ป่วยเล็กน้อยด้วยปลายนิ้วของเขาเพื่อสังเกต
ผู้ป่วยกัดฟันของตัวเองแล้วพูดว่า“ ฉันรู้สึกเจ็บเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ”
“ มีอาการอื่นเพิ่มเติมอีกไม?”
“ อาการม้วนท้อง ”
“ นั่นคือความเจ็บปวดจากอาการท้องอืด ”
ตอนนี้ผู้ป่วยไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของเขาอย่างไรดี
“ มีอะไรอีกไหม” หลิงรันถามอีกครั้ง
“ ไม่” ผู้ป่วยตอบด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ความกังวลในใจของเขาก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ
หลิงรันพยักหน้าและพูดว่า“ อาการบวมน้ำของคุณควบคุมได้ค่อนข้างดี หลอดเลือดแดงหลังเท้าของคุณแข็งแรงสีดูปกติผิวหนังไม่ตายและไม่ติดเชื้อ ข้อเท้าของคุณรู้สึกแข็งหรือไม่?”
ผู้ป่วยตกใจกับคำพูดหลายชุดและพูดอย่างรวดเร็วว่า“ มันไม่แข็งทื่อ แต่ฉันไม่สามารถขยับได้นี้ยังปกติหรอเนี่ย ”
“ อย่าขยับ ” หลิงรัน หยุดชั่วคราวและถามว่า“ ญาติของผู้ป่วยอยู่ไหน”
ญาติของผู้ป่วยยืนขึ้น
หลิงรันรีบมองไปหมอลู่โดยใช้คางของเขา
หมอลู่คุ้นเคยกับกระบวนการนี้มาก เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยเช่นกันและด้วยความชัดเจน เขากล่าวว่า“ ขออาหารเบา ๆ ที่มีโปรตีนสูงวิตามินสูงหรือไฟเบอร์สูงพวกคุณเข้าใจไหม”
“ เราเข้าใจ ” ญาติเหล่านั้นหวังว่าผู้ป่วยจะดีขึ้น
หลิงรันพยักหน้าและถามว่า“ มีปัญหาอื่นอีกไหม?”
“ อืม…จะใช้เวลานานเท่าไหร่จนกว่าสามีของฉันจะดีขึ้น” หญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางครอบครัวของผู้ป่วยถามอย่างตั้งใจ
หลิงรันขมวดคิ้ว“ ตอนนี้เขาไม่ดีขึ้นเหรอ?”
“ เขายังไม่สามารถลุกขึ้นและเดินได้ ”
“ อีกซักพักเขาจะกลับมาทำอย่างงั้นได้ ” หลิงรันไม่มีความอดทนต่อคำถามดังกล่าว