ตอนที่ 304 สวินอ๋องหรงจัง (3)

หวนคืนชะตาแค้น

“​พี่​สาม​”​ ​หรง​จิ​่​นก​้​มห​น้า​ลง​เล็กน้อย​พลาง​เอ่ย​เรียก​เสียง​ขรึม

มู่​ชิง​อี​แอบ​ตกใจ​อยู่​บ้าง​ ​บุรุษ​วัยกลางคน​ผู้​นี้​ก็​คือ​สวิน​อ๋อง​หรง​จัง​องค์​ชาย​สาม​ของ​แคว้น​เย​่ว​์​นั่นเอง​ ​อายุ​ไม่​ต่าง​จาก​เหล่า​องค์​ชาย​แคว้น​เย​่ว​์​คนอื่นๆ​ ​นัก​ ​จื้อ​อ๋อง​หรง​หวง​ที่​อายุ​มาก​ที่สุด​เป็น​บุตร​ที่​ฮองเฮา​ทรง​ให้กำเนิด​ขณะที่​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ยัง​เป็น​องค์​ชาย​อยู่​ ​ปีนี​้​อายุ​ได้​สี่​สิบ​แปด​ปี​แล้ว​ ​ใน​ฐานะ​ที่​หรง​จัง​เป็น​องค์​ชาย​สาม​ปีนี​้​จึง​อายุ​ปา​ไป​สี่​สิบสอง​ปี​แล้ว​ ​ทว่า​องค์​ชาย​สี่ต​วน​อ๋อง​กลับเป็น​บุตร​ที่​ให้กำเนิด​หลังจาก​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ทรง​ขึ้น​ครองราชย์​แล้ว​ ​ปีนี​้​อายุ​สามสิบ​แปด​ปี​ ​ถึงแม้​จะ​อายุ​ต่างกัน​สี่​ปี​ ​แต่​หาก​เทียบ​หน้าตา​ของ​หรง​จัง​แล้ว​กลับ​ดู​แก่​กว่า​หรง​เหยี​่​ยน​นับ​สิบ​กว่า​ปี​ได้

เดิมที​หรง​จัง​มองไม่เห็น​หรง​จิ​่น​ ​เขา​ย่างกราย​เดิน​ช้าๆ​ ​พลาง​เหม่อมอง​ดอก​พุด​ตาน​สีชมพู​อ่อน​ที่​ออกดอก​เต็ม​ข้างทาง​ ​ครั้น​ได้ยิน​เสียง​ของ​หรง​จิ​่น​เขา​ถึง​ชะงัก​ฝีเท้า​ ​พอ​เห็น​หรง​จิ​่​นก​็​ผงะ​ไป​ก่อนที่จะ​พยักหน้า​เอ่ย​เสียง​นิ่ง​ ​“​น้อง​เก้า​เอง​หรือ​”

หรง​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​ ​ชั่วขณะ​นั้น​ทั้งสอง​ต่าง​เงียบกริบ​ไม่​พูด​อะไร​ ​ราวกับ​นิสัย​ฉลาด​ปลิ้นปล้อน​และ​ความสามารถ​ใน​การ​ชวน​หาเรื่อง​คุย​ของ​หรง​จิ​่น​จะ​ถูก​หลงลืม​ไป​ยาม​อยู่​ต่อหน้า​เขา​ผู้​นี้

เห็นได้ชัด​ว่า​หรง​จัง​เอง​ก็​ไม่ได้​พยายาม​จะ​ชวน​น้องชาย​คนเล​็ก​ผู้​นี้​พูดคุย​เช่นกัน​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ไม่มี​อะไร​จะ​พูด​แล้วจึง​ใช้​แววตา​เรียบ​เฉย​กวาด​มอง​มู่​ชิง​อี​ที่อยู่​ด้านหลัง​หรง​จิ​่​นที​หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ ​“​น้อง​เก้า​ตามสบาย​เถิด​”​ ​พอ​พูด​จบ​ก็​เดินผ่าน​ข้าง​กาย​ของ​หรง​จิ​่น​ไป

หลังจาก​เห็น​เงา​แผ่น​หลัง​ของ​หรง​จัง​เดิน​ไกล​ออก​ไป​เรื่อยๆ​ ​แล้ว​ ​มู่​ชิง​อีก​็​จับจ้อง​หรง​จิ​่​นที​่​กำลัง​มอง​ไป​ทางเดียว​กัน​ด้วย​สีหน้า​ไร้ความรู้สึก​ซึ่ง​นานๆ​ ​จะ​เห็นที​แบบนี้​ ​ชั่ววูบ​หนึ่ง​นาง​แอบ​คิด​สงสัย​ว่า​หรง​จิ​่น​จะ​ร้องไห้​ออกมา​ตรงนี้​หรือไม่

“​หรง​จิ​่น​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เรียก​เสียง​เบา​อย่าง​เป็นห่วง​ ​เรื่อง​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​พระ​ชายา​ของ​หรง​จัง​และ​เหมย​กุ้ย​เฟย​เป็น​ที่​กล่าวขาน​กัน​ใน​หมู่​ชาวบ้าน​ไม่น้อย​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่มีใคร​กล้า​เปิดปาก​พูด​อะไร​อย่างโจ่งแจ้ง​ ​แต่​หาก​จะ​หัก​ดิบ​ห้าม​เลย​ก็​คง​เป็นเรื่อง​ที่​เป็นไปไม่ได้​ ​อีก​อย่าง​ท่าที​ที่​หรง​จิ​่น​แสดง​ต่อ​หรง​จัง​ ​เกรง​ว่า​…​คง​ไม่ได้​เป็น​ดั่ง​คำเล่าลือ​เสีย​ทั้งหมด​กระมัง

หรง​จิ​่น​หันกลับ​มาม​อง​มู่​ชิง​อี​อยู่นาน​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ฉีก​ยิ้ม​พร้อม​กะพริบตา​ปริบๆ​ ​เอ่ย​ ​“​พี่​สาม​ไม่​ค่อย​ชอบ​ข้ามา​แต่ไหนแต่ไร​แล้ว​ ​ข้า​หน้าตา​หล่อเหลา​สง่างาม​เช่นนี้​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่​ชอบ​ข้า​เสีย​ได้​ ​ช่าง​ชวน​ให้​น่า​ปวดใจ​เสีย​จริง​”

มู่​ชิง​อีก​็​ไม่ได้​ขัด​อะไร​เขา​ ​แค่​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​นั่นสิ​ ​องค์​ชาย​เก้า​หน้าตา​หล่อเหลา​สง่างาม​ขนาด​นี้​ ​คน​ทั่วทั้ง​ใต้​หล้า​หลงใหล​จน​เสีย​อาการ​กัน​หมด​แล้ว​ ​ขาด​ไป​แค่​คน​สอง​คนองค​์​ชาย​ก็​ปล่อย​ๆ​ ​ไป​บ้าง​เถิด​”

​“​ข้า​ไม่ได้​อยาก​ให้​คนอื่น​มา​หลงใหล​ข้า​ ​ขอ​แค่​ชิง​ชิง​หลงใหล​เสีย​อาการ​กับ​ข้า​คนเดียว​ก็​พอแล้ว​”​ ​หรง​จิ​่น​ยิ้ม​ตาหยี​กล่าว

หลังจาก​แยกย้าย​กับ​หรง​จิ​่น​ ​มู่​ชิง​อีก​็​เดิน​เนิบนาบ​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​จวน​ตระกูล​กู้​อย่าง​ช้าๆ​ ​นาง​เดิน​พลาง​นึกย้อน​ถึง​สีหน้า​ของ​หรง​จิ​่น​เมื่อ​ครู่​ ​ถึงแม้​ทักษะ​การแสดง​ของ​หรง​จิ​่น​จะ​แยบยล​สม​บทบาท​มาก​ก็​จริง​ ​แต่​ยาม​อยู่​ต่อหน้า​มู่​ชิง​อีส​่​วน​มาก​ทักษะ​เหล่านี้​จะ​ลดลง​ ​แม้ว่า​ท่าที​ของ​หรง​จิ​่น​จะ​ดู​ไม่ใส่ใจ​นัก​ ​แต่​ใน​ใจ​ของ​มู่​ชิง​อีก​ลับ​รู้ดี​ว่า​สำหรับ​ใน​ใจ​ของ​หรง​จิ​่น​แล้ว​พี่​สาม​อย่าง​หรง​จัง​แตกต่าง​ไป​จาก​พี่น้อง​คนอื่นๆ​ ​ไม่ว่า​จะ​เพราะ​เหมย​กุ้ย​เฟย​หรือ​ด้วย​เหตุผล​ใด​ก็ตาม​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​หรง​จิ​่น​ให้ความสนใจ​เขา​มาก​เป็นพิเศษ

“​อู๋​ซิน​”

ไม่นาน​อู๋​ซิน​ใน​ชุด​เครื่องแบบ​องครักษ์​ทั่วไป​ของ​จวน​ตระกูล​กู้​ก็​ปรากฏ​กาย​อยู่​ด้านหลัง​นาง​ ​“​คุณชาย​”

มู่​ชิง​อี​เดิน​พลาง​เล่น​พัด​ใน​มือ​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​หรง​จิ​่น​และ​สวิน​อ๋อง​เป็น​เช่นใด​บ้าง​”

อู๋​ซิน​พึมพำ​เสียง​เบา​ ​“​ก็ดี​ขอรับ​”

“​ก็ดี​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​ดู​จาก​ท่าที​ของ​หรง​จัง​และ​หรง​จิ​่น​แล้ว​คง​เรียกว่า​ก็ดี​ไม่ได้​กระมัง

อู๋​ซิน​กล่าว​ ​“​หาก​เทียบ​กับ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​องค์​ชาย​เก้า​กับ​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​ถือว่า​ก็ดี​แล้ว​ขอรับ​”​ ​ครั้น​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ​มู่​ชิง​อีก​็​อดอยาก​ยกมือ​ขึ้น​มากุม​ขมับ​ไม่ได้​ ​“​ตกลง​แล้ว​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​เขา​กับ​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​แย่​ขนาด​ไหน​หรือ​”

อู๋​ซิน​ก้มหน้า​นึกย้อน​ทบทวน​ครู่หนึ่ง​ถึง​กล่าว​ ​“​องค์​ชาย​เก้า​เคย​ทะเลาะเบาะแว้ง​กับ​คุณชาย​ใหญ่​ของ​ตระกูล​จื้อ​อ๋อง​ ​เคย​ด่า​พระ​ชายา​จวง​ว่า​เป็น​หญิง​แก่​อัปลักษณ์​ ​ปีก่อน​น้องสาว​แท้ๆ​ ​ของ​พระ​ชายา​ซื่อ​จื่อ​ของ​จวนต​วน​อ๋อง​ชวน​องค์​ชาย​เก้า​ดื่ม​ชา​ ​แต่​พอ​รับ​แก้ว​ชามา​ก็​สาด​ใส่​หน้า​แม่นาง​ผู้​นั้น​จน​หมด​แก้ว​ ​ส่วน​องค์​ชาย​ห้า​…​องค์​ชาย​ห้า​อยาก​ให้​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​พระ​ชายา​รอง​มา​เป็นสาว​รับใช้​ของ​องค์​ชาย​เก้า​ ​องค์​ชาย​เก้า​ตวัด​แส้​ฟาด​นาง​ผู้​นั้น​จน​เสียโฉม​ ​อีกทั้ง​ยัง​ร้องขอ​ฝ่า​บาท​ให้​เอา​หญิง​คน​นั้น​มา​เป็น​จี้​เฟย​ของ​องค์​ชาย​ห้า​ ​ปีก่อน​องค์​ชาย​เก้า​เผลอ​เตะ​องค์​ชาย​เจ็ด​ตกน้ำ​โดย​ไม่ทัน​ระวัง​แล้ว​ยิ้มเยาะ​บอกว่า​องค์​ชาย​เจ็ด​อ้วน​เหมือน​หมู​…​แล้วก็​องค์​ชาย​แปด​…​”

“​พอแล้ว​”​ ​มู่​ชิง​อี​ร้อง​โอดครวญ​อย่าง​ปวดใจ​ ​จากนั้น​ก็​ใช้​มือ​คลึง​หว่าง​คิ้ว​อย่างเบามือ​แล้ว​ห้าม​อู๋​ซิน​ไม่​ให้​นึกย้อน​เรื่อง​ความหลัง​อีก​ ​สรุป​ได้​ประโยค​หนึ่ง​ว่าการ​ที่​ประชาชน​ใน​เมืองหลวง​เกลียดชัง​หรง​จิ​่น​ใช่​ว่า​จะ​ไม่มี​สาเหตุ​เสียที​เดียว​ ​เพราะ​ความร้าย​กาจ​ของ​คน​ผู้​นี้​คง​บรรยาย​ออกมา​ไม่มีวัน​จบสิ้น

“​เขา​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​ขนาด​นี้​ ​ฮ่องเต้​มิท​รง​ตรัส​อัน​ใด​เลย​หรือ​”

อู๋​ซิน​ส่าย​ศีรษะ​อย่าง​นึก​คลางแคลงใจ​เช่นกัน​ ​เรื่อง​ที่​ฝ่า​บาท​ทรงโปรด​ปราน​องค์​ชาย​เก้า​ไม่ใช่​เรื่อง​โกหก​ ​หาก​เป็น​องค์​ชาย​คนอื่น​ไม่ว่า​จะ​อยู่​ใน​ยุคสมัย​ใด​คน​ยโส​โอหัง​เช่นนี้​คง​ถูก​เบียด​ออก​ไป​นาน​แล้ว​ ​แต่​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​กลับ​แตกต่าง​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​เหมือนว่า​พระองค์​จะ​ทรงโปรด​ปราน​องค์​ชาย​เก้า​อย่างไร​้​ขีดจำกัด​ ​ไม่ว่า​หรง​จิ​่น​จะ​ทำ​อะไร​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ไม่เคย​ถาม​ว่า​ใคร​ถูก​ใคร​ผิด​สักครั้ง​ ​หาก​คนอื่น​ทำผิด​พระองค์​จะ​ลงโทษ​อย่างหนัก​ ​ทว่า​หาก​หรง​จิ​่น​เป็น​ฝ่าย​ผิด​ ​พระองค์​กลับ​ทำ​เหมือนว่า​มองไม่เห็น​เสีย​อย่างนั้น

“​น่าสนใจ​ยิ่งนัก​”​ ​มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​เอ่ย​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ทำ​เช่นนี้​เป็น​เพราะ​โปรดปราน​หรง​จิ​่​นองค​์​ชาย​ผู้​นี้​จริงๆ​ ​หรือ​เลี้ยง​บุตรชาย​ผู้​นี้​ให้​เสียคน​กัน​แน่​ ​จาก​ความคิด​ของ​มู่​ชิง​อี​ใน​ตอนนี้​แล้ว​เกรง​ว่า​จะ​เป็น​อย่าง​หลัง​มากกว่า​ ​หาก​พ่อ​คน​หนึ่ง​รัก​ลูก​ของ​ตัวเอง​จริงๆ​ ​ก็​ย่อม​ต้อง​นึกถึง​อนาคต​ของ​เขา​บ้าง​ ​สุขภาพ​ของ​หรง​จิ​่น​ไม่ดี​นัก​จึง​ไม่ใช่​ตัวเลือก​ที่​ดีที​่​จะ​มาสื​บท​อด​บัง​ลังก์​ต่อ​ได้​ ​บัดนี้​เขา​ล่วงเกิน​องค์​ชาย​ทุกคน​เช่นนี้​ ​หาก​วันหน้า​ฮ่องเต้​คน​ใหม่​ขึ้น​ครองราชย์​คนที​่​จะ​ซวย​คน​แรก​ก็​คือ​เขา​ ​ควร​รู้​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​อายุ​เกือบ​เจ็ดสิบ​ชันษา​แล้ว​ ​ต่อให้​จะ​อายุ​ยืนยาว​แต่​จะ​มีชีวิต​อยู่​ต่อ​ได้​อีก​กี่​ปี​เชียว​ ​ทว่า​หรง​จิ​่​นอา​ยุ​ยัง​ไม่​ถึง​ยี่สิบ​ปีดี​ด้วยซ้ำ

“​น่าสนใจ​หรือ​”​ ​อู๋​ซิน​ไม่เข้าใจ​ ​เขามอง​ไม่​ออก​สักนิด​ว่า​เรื่อง​นี้​มีต​รง​ไหน​ที่​น่าสนใจ​ ​เพียงแต่​เอ่ย​ต่อไป​ว่า​ ​“​ดังนั้น​…​เพราะเหตุนี้​เหล่า​องค์​ชาย​องค์​หญิง​ทุกคน​ถึง​ไม่​ชอบ​ขี้​หน้า​องค์​ชาย​เก้า​นัก​ขอรับ​”

“​แล้ว​เขา​เห็น​สวิน​อ๋อง​เข้าตา​นัก​หรือ​”

“​อืม​…​จะ​ว่า​เช่นนั้น​ก็​ไม่ได้​”​ ​อู๋​ซิน​ขบคิด​แล้ว​เอ่ย​ต่อไป​ว่า​ ​“​น่าจะ​เพราะ​พวกเขา​เป็น​คน​แน่นิ่ง​เย็นชา​มาต​ลอด​ ​อีก​อย่าง​สวิน​อ๋อง​เอง​ก็​รักษาตัว​อยู่​ใน​จวน​มา​หลาย​ปี​ ​ต่อให้​องค์​ชาย​เก้า​จะ​ไม่​ชอบ​ขี้​หน้า​ก็​คง​มิ​อาจ​แวะ​ไปหา​เรื่อง​ยุแหย่​ถึง​จวน​ได้​กระมัง​ ​อีกทั้ง​องค์​ชาย​เก้า​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​อย่างมาก​ ​ไม่ว่า​จะ​ด้วย​สาเหตุ​ใด​แรกเริ่ม​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​ย่อม​อยาก​ดึง​องค์​ชาย​เก้า​มา​เข้าพวก​ด้วย​อยู่​แล้ว​ ​แต่​สวิน​อ๋อง​ไม่เคย​ทำ​เช่นนั้น​มาก​่อน​ ​น่าจะ​เพราะเหตุนี้​องค์​ชาย​เก้า​เลย​ไม่​ค่อย​เกลียดชัง​สวิน​อ๋อง​ขอรับ​”

“​ใคร​กัน​!​”​ ​พวกเขา​เดิน​มาถึง​ตรอก​เงียบสงัด​แห่งหนึ​่ง​โดยไม่รู้ตัว​ ​ทันใดนั้น​ ​อู๋​ซิน​ก็​หันกลับ​ไป​ดึง​ตัว​มู่​ชิง​อี​มา​ไว้​ด้านหลัง​อย่าง​ระแวดระวัง

ผ่าน​ไป​สักพัก​ ​กลุ่มคน​ที่​กำ​อาวุธ​ต่างกัน​ใน​มือ​ก็​เดิน​ออกมา​จาก​ตรอก​สอง​ข้าง​แล้ว​ล้อม​ปิดทาง​ไว้

คิ้ว​ทรง​ดาบ​ของ​อู๋​ซิน​ขมวด​มุ่น​เล็กน้อย​ ​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​พวก​เจ้า​เป็น​ใคร​กัน​ ​ใคร​ส่ง​พวก​เจ้า​มา​”

บุรุษ​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​หัวหน้า​มอง​พวกเขา​สอง​คน​แล้ว​ยิ้ม​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​ขึงขัง​ ​“​ใคร​ส่ง​พวกเรา​มา​อย่างนั้น​หรือ​ ​เรื่อง​นี้​…​พวก​เจ้า​ลง​ไป​ถาม​ยมบาล​ใต้ดิน​เอง​ดีกว่า​ ​เพียงแต่​น่าเสียดาย​คุณชาย​ที่​แสน​หล่อเหลา​ขนาด​นี้​ดัน​รนหาที่​ตาย​เสีย​เอง​”

มู่​ชิง​อี​ยกมือ​ขึ้น​สะกิด​ไหล่​ของ​อู๋​ซิน​ ​จากนั้น​อู๋​ซิน​ก็​ถอย​หลบ​เล็กน้อย​อย่างเงียบเชียบ​ ​ทว่า​ก็​ยังคง​คุ้มกัน​นาง​ไว้​ด้านหลัง​อย่าง​ระแวดระวัง​เช่นเคย​ ​มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​พลาง​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​บาง​ ​“​ข้า​เพิ่ง​มา​เมืองหลวง​ครั้งแรก​ไม่มีทาง​เคย​ล่วงเกิน​ใคร​อยู่​แล้ว​ ​หาก​ทุกท่าน​ต้องการ​ชีวิต​ของ​ข้า​ย่อม​ต้อง​มีเหตุผล​บ้าง​กระมัง​”