บทที่ 321 ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ในห้องเดียวกันสองต่อสอง

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ส่วนกุญแจนั้นจะต้องเป็นในตอนที่วุ่นวายกันเมื่อครู่นี้ แล้วหล่นไปที่ห้องพักของโรงแรมแล้วแน่ ๆ เลย!

ซูสือจิ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พวงกุญแจพวกนั้นมีเพียงแค่กุญแจห้องของคอนโดมิเนียมห้องนั้น ดังนั้นเธอก็เลยจะไม่กลับไปตามหาที่ห้องอีก

อย่างมากที่สุดก็แค่รอจนถึงพรุ่งนี้ตอนเช้า ก่อนจะให้ช่างทำกุญแจช่วยเปลี่ยนล็อกให้เธอใหม่

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ในตอนที่ลั่วฝานหวากำลังสูบบุหรี่ไปมาอยู่ ก็สูบจนหมดมวนแล้ว ความรู้สึกก็ค่อย ๆ เย็นลงบ้างแล้ว ในตอนที่กลับเข้าไปในตัวรถนั้นเอง ซูสือจิ่นสบตามองเขา แต่ทว่าก็ไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมาเลย

เขารู้สึกหมดคำจะเอ่ยขึ้นเล็กน้อย แต่ทว่ากลับเอ่ยขึ้นมาอย่างประนีประนอมว่า “ทำไมหรือครับ?”

ซูสือจิ่นหลุบสายตาลงต่ำ “กุญแจฉันหายไปแล้วค่ะ ประเดี๋ยวคุณไปส่งฉันที่โรงแรมคราวก่อนหน้านี้ก็พอค่ะ พรุ่งนี้ฉันค่อยไปหาช่างมาเปิดล็อกใหม่เอง”

ลั่วฝานหวาฟังความหมายแฝงออก เขาหรี่ตาลง “หยานชิงเจ๋อไม่กลับบ้านหรือครับ?”

ซูสือจิ่นรู้สึกขายหน้าเล็กน้อย เธอเบนสายตาหนี “เขาคงจะเป็นเพราะว่ากำลังยุ่งอยู่กับเรื่องของคุณพ่อของเขา ดังนั้นเขาก็เลยยังไม่รู้ว่าพวกเรา……”

“ทราบแล้วล่ะครับ” ลั่วฝานหวาเอ่ยแทรกซูสือจิ่นขึ้นมา “ผมจะไปส่งคุณที่โรงแรม”

ถึงแม้ว่าจะเย็นตัวลงเยอะมากแล้ว แต่ทว่าลั่วฝานหวาก็ยังคงมีโทสะอยู่บ้างเล็กน้อย ตลอดทางทั้งสองคนนิ่งเงียบไม่เอ่ยอะไรเลยอย่างอึมครึม จนกระทั่งมาถึงที่โรงแรม

ในตอนที่ซูสือจิ่นกำลังจะลงจากรถนั้นเอง ลั่วฝานหวาก็เดินมาที่เบาะข้างคนขับแล้ว หลังจากนั้น ก็เข้าไปอุ้มซูสือจิ่นออกมาทันที

“ฉันเดินเองได้ค่ะ——” ซูสือจิ่นขืนตัวออกอยู่ครู่หนึ่งแต่ทว่าก็ไม่เป็นผล

“ซิปกางเกงยีนคุณมันแตกหมดแล้วนะครับ คุณแน่ใจนะว่าจะเดินเองน่ะ?!” ลั่วฝานหวาเอ่ย อดไม่ได้ที่จะอุ้มซูสือจิ่นแล้วเดินเข้าไปด้านในเลย

เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ซูสือจิ่นได้ทำบัตรสมาชิกกับทางนี้เอาไว้แล้ว ประจวบเหมาะเข้ากับพนักงานบริการส่วนหน้าคนนั้นรู้จักเธอเข้าพอดี พนักงานวัยรุ่นคนนั้นสบตามองเธอ อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ “คุณซู นานแล้วครับเนี่ย เท้าของคุณยังไม่หายอีกหรือครับ?”

ซูสือจิ่นรู้สึกกระดากกระเดื่องเล็กน้อย ก่อนจะหมุดหน้าเข้ากับแผ่นอกของลั่วฝานหวาไปครู่หนึ่ง

ลั่วฝานหวาไม่ได้เอ่ยอะไร ก่อนจะใช้บัตรประชาชนของตนเองเปิดห้องพักมาห้องหนึ่ง

เขาอุ้มซูสือจิ่นขึ้นไปที่ชั้นบน มาถึงห้องพัก ก็รินน้ำอุ่นให้เธอหนึ่งแก้ว หลังจากนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “อาบน้ำอาบท่าก่อนเถอะครับ ผมจะไปเติมน้ำให้คุณเอง”

“ไม่เป็นไรค่ะ” ซูสือจิ่นเอ่ย “ตอนนี้ฉันดีขึ้นแล้วค่ะ ฝานหวาคะ วันนี้ขอบคุณมากเลยนะคะ”

ลั่วฝานหวาเห็นท่าทีในตอนนี้ของเธอ ก็เข้าใจได้ในทันทีเลยว่าเธอต้องการที่จะส่งแขกแล้ว

หัวใจของเขามีความรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ทว่า ก็ยังเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะเติมน้ำเอาไว้ให้ซูสือจิ่น หลังจากที่เดินออกมาแล้ว เขาสบตามองเธอก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังว่า “สือจิ่นครับ ยุคนี้ไม่ใช่ยุคที่ทำอะไรเพื่อคนอื่นอย่างเงียบ ๆ แล้วนะครับ ในเมื่อคุณเสียสละตัวเองเพื่อเขาขนาดนี้แล้ว ก็ควรที่จะพูดมันออกมานะครับ ให้เขาได้รับรู้มันบ้าง”

พูดจบ ลั่วฝานหวาก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันไปเอ่ยกับซูสือจิ่นว่า “ผมจะออกไปห้องพักด้านนอก คุณอาบน้ำก่อนเถอะครับ วันนี้ใช้บัตรประชาชนของผม พรุ่งนี้ผมยังต้องคืนห้องพักกลับด้วย”

ซูสือจิ่นพยักหน้าหงึกหงัก เธอกลัวว่าลั่วฝานหวาจะไม่ค่อยไว้ใจเธออีกคนหนึ่ง หัวใจของเธอมีความรู้สึกที่ไม่รู้จะพูดมันออกมาได้อย่างไร จึงทำได้เพียงแค่ใช้ความเงียบสงบปกปิดทุกอย่างแทน

“เสื้อผ้าของคุณขาดแล้ว ตอนนี้ดึกมากขนาดนี้แล้วก็คงจะซื้อไม่ได้แล้วละครับ ห้างสรรพสินค้าเองก็เปิดค่อนข้างดึกด้วย ตอนนี้ผมจะกลับไปเอาชุดใหม่มาให้คุณสักชุดหนึ่งก็แล้วกันนะครับ เป็นของน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเอง เผอิญว่าเธอปิดเทอมฤดูหนาวอยู่บ้านพอดี รูปร่างคุณกับเธอก็คงจะพอ ๆ กัน คุณคงจะสวมใส่มันได้แน่”

ลั่วฝานหวาจากไปแล้ว ทันใดนั้นเองภายในห้องพักก็เหลือเพียงแค่ซูสือจิ่นเพียงคนเดียวเท่านั้น

เธอเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะแช่ตัวลงไปในอ่างน้ำอุ่น จนกระทั่งความอบอุ่นค่อย ๆ โอบล้อมรอบตัวเองเธอเอาไว้ทั้งร่าง จิตใจของเธอที่บีบรัดตัวกันแน่นจึงค่อย ๆ ผ่อนคลายตัวลงอย่างช้า ๆ

เรื่องในวันนี้ ล้วนแล้วแต่ไม่เหมือนกับที่เธอคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้เลย หวนนึกขึ้นมาได้ในตอนนี้แล้ว เธอก็ยังมีความหวาดกลัวในภายหลังอย่างลึกซึ้งมากอยู่ดี

ถ้าหากว่าลั่วฝานหวาไม่ได้เข้าไปแล้วละก็……

เธอไอโขลกออกมาครั้งหนึ่ง ก่อนจะพูดพึมพำขึ้นมาว่า “ชิงเจ๋อ หวังว่าวันนี้ที่ฉันทำไปมันจะคุ้มค่านะคะ”

จนกระทั่งเริ่มรู้สึกเย็นขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว ซูสือจิ่นถึงออกมาจากอ่างน้ำ

เธอสวมใส่ชุดนอนที่ทางโรงแรมตระเตรียมเอาไว้ กำลังจะเป่าผม ลั่วฝานหวาก็มาแล้ว

เธอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวออกไป เมื่อเห็นว่ามือของเขาถือถุงเอาไว้อยู่ ดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นไปว่า “ฝานหวา ขอบคุณนะคะ”

แสงไฟในตัวห้องนั้นมืดสลัวเล็กน้อย แต่ทว่า ภายใต้แสงไฟสีส้มอบอุ่นเช่นนี้ กลับทำให้ผิวพรรณของซูสือจิ่นนั้นถูกปกคลุมไปด้วยสีแดงอมชมพูราวกับไข่มุกทันที

ลั่วฝานหวาสบตามองเธอที่อยู่ใกล้ออกไป หัวใจกระตุกเล็กน้อย

บอกตามตรง ครั้งแรกที่ได้เจอหน้ากัน เขานั้นมีความประทับใจต่อเธออย่างลึกซึ้งมากจริง ๆ

เพียงแค่รู้สึกว่าความรู้สึกภายนอกที่แสดงออกมานั้นเป็นสาวน้อยที่ทั้งน่ารักทั้งน่าหยิก

แต่ทว่าหลังจากนั้น ตระกูลของเขากลับวางแผนการดูตัวของพวกเขา พวกเขาได้พบหน้ากัน เธอไม่ได้แสดงเสแสร้งมีท่าทีอะไรเลย นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าเธอพิเศษมากขึ้นไปอีก และก็เป็นครั้งแรกที่ยินยอมและยอมรับการวางแผนของครอบครัว

วันนั้น เธออยู่ที่บ้านของเขาและกำลังเผชิญหน้ากับอันตราย เขารีบเข้าไปหา เมื่อเห็นเธอนั้นไร้ความช่วยเหลือแต่ทว่ากลับมีท่าทางแน่วแน่นั้น ทันใดนั้นเอง หัวใจของเขาก็มีความคิกหนึ่งขึ้นมาทันที คิดเพียงแค่อยากที่จะปกป้องเธอ ไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บ

หลังจากนั้น เขาไปเยี่ยมเธอบ่อยขึ้น รอยยิ้มของเธอนั้นสดใสงดงาม เขาค่อย ๆ ค้นพบว่าหัวใจของตนเองนั้น แม้กระทั่งกำลังคิดอยู่เลย วันหน้าถ้าหากแต่งงานกันจริง ๆ จริง ๆ แล้ว หลังจากที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน มันจะมีความสุขมากขนาดไหน

แต่ทว่า เธอกลับไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อเขาเลย หลังจากที่ไปมาหาสู่กันหลายครั้งแล้ว เขาก็ยิ่งค้นพบว่าภายในหัวใจของเธอกลับมีผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ แต่ทว่าเขากลับนึกไม่ถึงเลยว่า คนคนนั้นกลับเป็นหยานชิงเจ๋อ

เขาเองก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไรไป เมื่อก่อนอาจจะเป็นเพราะว่าเขาชื่นชอบเธอไปแล้วนิดหน่อย แต่ทว่า กลับเป็นในตอนที่เธอกับหยานชิงเจ๋ออยู่ในกันนั้นเอง เขากลับยังปล่อยใจไม่ลง

แม้กระทั่ง เธอบอกว่าจะทดสอบ เขาก็ยังช่วยเธอทดสอบหัวใจของหยานชิงเจ๋อด้วยจริง ๆ

แต่ทว่าตอนนี้……

เขาสบตามองซูสือจิ่นที่กำลังสวมใส่ชุดนอนอยู่ รู้สึกเพียงแค่ว่าจู่ ๆ เลือดในกายก็แปรเปลี่ยนและตีรวนขึ้นมาทันที ทันใดนั้นเอง กลับไร้หนทางที่จะควบคุมได้ไปเสียแล้ว

ลูกกระเดือกของลั่วฝานหวาขยับตัวขึ้นลงไปมา เขาหัวเราะเยาะตนเองครู่หนึ่ง ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันในห้องสองต่อสอง ความรู้สึกล่อแหลมเช่นนี้ เขานั้นก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะคิดอยู่ดี

แต่ทว่า เธอเองก็แต่งงานเรียบร้อยแล้ว ขอเพียงแค่ยังไม่หย่าร้างกัน เขาชอบเธอก็ช่าง สรีระร่างกายที่วู่วามนั่นก็ช่าง ล้วนแล้วแต่จำเป็นที่จำต้องกดข่มความคิดนั่นให้หมด!

เมื่อคิดมาได้จนถึงตรงนี้แล้ว ลั่วฝานหวาจึงหันไปเอ่ยกับเธอครั้งหนึ่งว่า “คุณเข้าไปก่อนเถอะครับ ผมเองก็จะไปอาบน้ำแล้วล่ะ” หลังจากนั้น เขาก็หมุนตัวแล้วเข้าไปในห้องน้ำแล้ว

ซูสือจิ่นนึกว่าลั่วฝานหวายังคงไม่สบอารมณ์อยู่ เธอหยักหน้าหงึกหงัก เมื่อเห็นว่าผมใกล้จะแห้งแล้ว ดังนั้นแล้วจึงถือเสื้อผ้าไปพลางเอ่ยขึ้นมาว่า “ฝานหวา ขอบคุณนะคะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะนอนแล้ว ฝันดีนะคะ”

“ฝันดีครับ” น้ำเสียงของลั่วฝานหวาแหบพร่าเล็กน้อย

เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะปิดประตูอย่างรวดเร็ว

เนิ่นนาน ร่างทั้งร่างของเขาล้วนแล้วแต่ไม่อาจกลับไปเป็นอย่างเดิมได้

ภายในห้องนอน ซูสือจิ่นเช็ดผมจนแห้งแล้ว ก่อนจะนั่งครุ่นคิดอยู่บนเตียงครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเวลานั้นดึกมากแล้ว ในตอนที่กำลังจะนอน โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา

เป็นฉินไห่เทาที่โทรเข้ามา

หัวใจของเธอเป็นประกายในทันที กำลังจะรับสาย แต่นึกอะไรขึ้นมาได้ ดังนั้นเธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเดินออกมา

ลั่วฝานหวาเองก็จัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นซูสือจิ่นออกมา จึงรู้สึกงุนงงเล็กน้อย “ทำไมหรือครับ?”

“ฉินไห่เทาโทรมาค่ะ” ซูสือจิ่นเผยโทรศัพท์มือถือให้เห็นครู่หนึ่ง

ลั่วฝานหวารับไป เลื่อนรับสาย อีกทั้งยังกดเปิดลำโพงอีกด้วย

“ซูสือจิ่น” น้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อนเป็นอย่างมากของฉินไห่เทาดังขึ้น “ผมคิดได้แล้วนะครับ ผมตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่สอง”

ซูสือจิ่นกับลั่วฝานหวาสบตามองกันครู่หนึ่ง เธอกำลังจะเอ่ยอะไรขึ้น แต่ทว่าลั่วฝานหวากลับเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมาก่อนว่า “ดีครับ พวกเราบีบหลักฐานของคุณเขาไว้อยู่ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ดังนั้นแล้ว ขอเพียงแค่พรุ่งนี้เช้า คุณส่งตัวผู้ดูแลคนนั้นออกมา พวกเราก็จะทำลายหลักฐานของคุณที่อยู่ในมือของพวกเราเองครับ”

“ผมจะเอาอะไรมาเชื่อถือพวกคุณ?” ฉินไห่เทาเอ่ย

“เชื่อไม่เชื่อคุณตัดสินใจเอาเองครับ” ลั่วฝานหวาเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ “กลับกันนะครับ คนที่จะติดคุกไม่ได้เป็นหยานชิงเจ๋อนี่ แต่ทว่า ถ้าหากว่าพรุ่งนี้พวกคุณไม่ได้ส่งตัวผู้ดูแลมา ถ้าอย่างนั้นแล้วคุณก็ไปเข้าคุกเป็นเพื่อนกับพ่อของหยานชิงเจ๋อแล้วกันนะครับ กลับกันพวกคุณก็สามารถคบค้าสมาคมกันได้แทน!

“แม่ง!” ฉินไห่เทาสบถคำถามออกมาหนึ่งประโยค ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อดทนต่อไปแล้ว แต่ทว่าก็ยังคงประนีประนอมต่อ “ได้! พรุ่งนี้เช้าผมจะให้คนของผมส่งตัวออกไป แต่ว่านะ พวกคุณฟังผมเอาไว้กันให้ดี ถ้าหากว่าพวกคุณไม่ทำลายคลิปนั่นไป อีกทั้งยังกล้าเอามาขู่ผม ระวังผมจะกลับไปเล่นงานพวกคุณก็แล้วกัน!”

ถือว่าทั้งหมดก็ได้มีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างสมบูรณ์แล้ว โทสะของฉินไห่เทาจึงค่อยกลับคืนสู่ความสงบลง

เขาตบศีรษะของตนเองครั้งหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นกับตนเองว่า “ไม่ใช่สิ! ตีสามแบบนี้แล้ว เขาโทรหาซูสือจิ่น แต่ลั่วฝานหวากับอยู่ด้วย ถ้าอย่างนั้นแล้ว ไม่แน่ว่าซูสือจิ่นอาจจะไม่ได้กลับบ้านอย่างนั้นหรือ? ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับหยานชิงเจ๋อสินะ!”

แต่ทว่า วันนี้ในตอนที่มา ลั่วฝานหวาเห็นว่าเสื้อผ้าของซูสือจิ่นถูกฉีกจนขาด อีกทั้งยังมีท่าทางจะเอาเรื่องอย่างสุดชีวิตนั่นอีก แล้วก็อุ้มซูสือจิ่นเอาไว้ในอ้อมกอดด้วย ถ้าอย่างนั้นแล้วความสัมผัสของทั้งสองคนนั้นก็คงไม่ง่ายสินะ……

เมื่อคิดมาได้จนถึงตอนนี้แล้ว นัยน์ตาของฉินไห่เทาเป็นประกายขึ้นมาในทันที ก่อนที่มุมปากจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

สองวันมานี้หยานชิงเจ๋อนั้นยุ่งจนตัวเป็นเกลียวเลยจริง ๆ

เขาแทบจะติดต่อเบื้องบนอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ได้รู้มาว่าท่านข้าราชการคนนั้นนิสัยดื้อรั้นหัวแข็งแล้ว แม้กระทั่งเขาก็ยังเข้าใจถึงงานอดิเรกของภริยาของท่านข้าราชการคนนั้นอีกด้วย หลังจากนั้น จึงตัดสินใจที่จะลงมือทางฝั่งของภริยาของเขา

วันนี้ เขาพึ่งจะได้เส้นสายมานิดหน่อย เมื่อได้ยินว่าท่านภริยาคนนั้นเลี้ยงกล้วยไม้และกำลังหลงมันเป็นอย่างมาก เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว เขาจึงนัดเพื่อนทางด้านนี้โดยเฉพาะ ก่อนจะเตรียมตัวพูดคุยกับเรื่องกล้วยไม้

พวกเขานัดว่าจะพบหน้ากันที่โรงแรม เป็นเพราะว่าพูดคุยกันเรื่องนี้จนดึกดื่นมากแล้ว ดังนั้น หยานชิงเจ๋อจึงเปิดห้องแล้วนอนในโรงแรมเลย

นอนจนกระทั่งฟ้าสว่าง โทรศัพท์มือถือของหยานชิงเจ๋อกับดังขึ้นมา เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าใครกันที่โทรมาในตอนเช้ามากขนาดนี้ เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก ดังนั้นจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงรับสาย “สวัสดีครับ”

“หยานชิงเจ๋อ ยังจำผมได้หรือเปล่า?” เป็นเสียงของฉินไห่เทา

หยานชิงเจ๋อขมวดคิ้ว “คุณเป็นใครครับ?”

“ฉินไห่เทา” ฉินไห่เทาเปิดเผยตัวตน “ที่แท้คุณก็ขี้ลืมนี่เองสินะ!”

หลังจากที่เกิดบิดาเกิดเรื่องนั่นขึ้นมาแล้ว หยานชิงเจ๋อนั่นก็แทบจะคาดเดาได้ทันทีเลยว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร เขาหรี่ตาลง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอาฆาต “ฉินไห่เทา ดูท่าแล้วตอนนั้นยังสั่งสอนคุณไปไม่พอสินะ!”

“ฮ่า ๆ ใช่ครับ ผมกลัวจังเลย!” ฉินไห่เทาหัวเราะออกมาอีกสองสามครั้ง หลังจากนั้นจึงเอ่ยว่า “ดังนั้นแล้ว ผมตัดสินใจแล้วว่าในตอนเช้าของวันนี้จะส่งตัวผู้ดูแลไปให้ พวกเรามาจับมือร่วมกันเถอะ!”

เขาทำเรื่องราวให้มันยุ่งยากมากขนาดนี้แล้ว ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงยอมส่งตัวผู้ดูแลมาให้อย่างง่ายดายมากขนาดนี้? หัวใจของหยานชิงเจ๋อเต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยเสียงราบเรียบว่า “บอกข้อตกลงของคุณมา”

“ผมไม่มีข้อตกลงอะไรเลยครับ” ฉินไห่เทาหัวเราะไป ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงเป็นอย่างมาก “เป็นเพราะว่าผมนั้นรับข้อตกลงของพวกคุณเอาไว้เรียบร้อยแล้วต่างหากล่ะครับ”

หัวใจของหยานชิงเจ๋อหนักอึ้งในทันที “หมายความว่าอย่างไร?!”

“แต่ว่านะครับ เมื่อคืนผมรู้สึกดีเป็นอย่างมากเลยล่ะ!” ฉินไห่เทาราวกับว่ากำลังหวนนึกถึงความหลังอยู่ก็ไม่ปาน “ความปรารถนาอันแสนจะยาวนานหลายปีนี้ของผม ในที่สุดก็ได้ลิ้มลองมันแล้ว! แต่น่าเสียดายจังเลย พึ่งจะนอนด้วยกันไปแค่ครั้งเดียว ยังรู้สึกไม่พอเลยครับ!”

มือของหยานชิงเจ๋อที่ถือโทรศัพท์เอาไว้อยู่เพิ่มแรงบีบเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะทุ่มสุดกำลังเพื่อที่จะทำให้หัวใจสงบลง “ฉินไห่เทา คุณบอกกับผมมาให้ชัดเจน มันหมายความว่าอะไรกันแน่?!”

“หยานชิงเจ๋อ คนที่ผมคิดอยากที่จะได้มาโดยตลอด หกปีก่อนคุณก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไงครับ?” ฉินไห่เทาหัวเราะไปพลาง ทันใดนั้นเอง ก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะเอ่ยว่า “แต่น่าเสียดายจังเลยครับ ผมพึ่งจะรู้สึกดีได้เพียงแค่ครั้งเดียวเอง เธอกลับถูกผู้ชายคนอื่นพาตัวไปเสียแล้ว!”

“ฉิน! ไห่! เทา!” หยานชิงเจ๋อเอ่ยขึ้นทีละคำ “ถ้าหากว่าคุณแตะต้องเธอ ผมรับประกันได้เลยว่าตระกูลของคุณทั้งหมดอยู่ได้ไม่ถึงสุดสัปดาห์นี้แน่!”