บทที่ 282 เฮ่าเทียนเผยฤทธิ์เดช ร่วมมือสังหารจักรพรรดิปีศาจ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 282 เฮ่าเทียนเผยฤทธิ์เดช ร่วมมือสังหารจักรพรรดิปีศาจ

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตปรายตามองเจียงอี้ ยิ้มกล่าวอย่างดูถูก “ไว้หน้ากันสักครั้งหรือ เจียงอี้ เจ้านับเป็นตัวอะไรได้?

ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ากับข้าต่างรุ่นกัน เจ้าจะคู่ควรเป็นบุตรแห่งสวรรค์คนแรกของเผ่าเทพอีกาทองหรือ ถ้าเจ้าเป็นรุ่นเดียวกับข้า มรรคจิตของเจ้าถูกข้าบดขยี้ไปนานแล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงอี้พลันหงุดหงิดขึ้นมา

เขาหยิบป้ายคำสั่งแผ่นหนึ่งออกมา พูดเสียงเย็นว่า “นี่คือป้ายคำสั่งประมุขปีศาจ สามารถสั่งการได้ทั้งเผ่า ตอนนี้ข้ากำลังสั่งเจ้า ห้ามไปตามรังควานหานเจวี๋ยอีก!”

เพลิงแท้สุริยะบนร่างของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตพลันโหมกระหน่ำรุนแรง จากนั้นหดตัวและควบแน่นเป็นรูปร่างมนุษย์อย่างรวดเร็ว

หลังจากเปลี่ยนร่าง จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตเดินไปทางเจียงอี้ทีละก้าวด้วยแววตาเย็นชา เผยรอยยิ้มน่าสยดสยองออกมา

“ประมุขปีศาจก็อยากยุ่งเรื่องข้าหรือ หลังจากที่ข้าเข้าสู่ระดับเทพ ผู้นำคนต่อไปของเผ่าเทพอีกาทองจะเป็นข้า!

เจ้าหนูเจียงอี้ เจ้าโอหังเกินไปแล้ว ในเมื่อเจ้าต้องการขอร้องแทนนายแห่งโลกเขย่าพิภพ เช่นนั้นเจ้าก็ต้องตายด้วย! ให้เจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดแทนเขาเสียก่อน!”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตหัวเราะอย่างกำเริบเสิบสาน น้ำเสียงเต็มไปด้วยจิตสังหาร

เขาพุ่งไปทางเจียงอี้ทันที

เจียงอี้หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ มือขวาหยิบดาบวิเศษออกมา พร้อมเผชิญหน้าทันที

‘ข้าต่างหากที่เป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าเทพอีกาทอง!’

เจียงอี้คำรามในใจ เขาก็เดือดดาลเพราะความเย่อหยิ่งของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตเช่นกัน

คิดว่าข้ากลัวเจ้าจริงๆ หรือ

……

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

อีกยี่สิบปีผ่านไป

หานเจวี๋ยรู้สึกถึงความงดงามของชีวิตอีกครั้ง ไม่มีภัยคุกคามจากศัตรูที่ทรงพลัง สามารถฝึกบำเพ็ญได้อย่างสบายใจ

หัวใจราวสายน้ำนิ่ง เป็นผลให้ความเร็วในการฝึกบำเพ็ญของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก บวกกับแรงกรรมของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร หานเจวี๋ยเข้าใกล้จักรพรรดิเซียนสามวัฏมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกับที่ตบะยกระดับขึ้น ร่างกายของหานเจวี๋ยก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

ภายใต้การพัฒนาของวิชาชุบร่างวัฏจักรดารา แม้แต่หานเจวี๋ยเองก็รู้สึกว่ากายดาราอนธการเริ่มน่ากลัวมากขึ้นทุกที

ถ้ารอให้เขาก้าวเข้าสู่ระดับเทพแล้ว เรียกว่าไม่อาจจินตนาการได้ชัดๆ!

ช่วงเวลาครบสิบปีมาถึง หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาสาปแช่งจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต จักรพรรดิปีศาจ และจอมปีศาจอินทรีทองต่อ

เขาสาปแช่งไปพลาง ตรวจดูจดหมายไปพลาง

ทันใดนั้นเขาก็เห็นจดหมายแจ้งเตือนฉบับหนึ่งและอดขมวดคิ้วไม่ได้

[เจียงอี้สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตศัตรูของท่าน ร่างดับสูญมรรคผลสลาย โชคดีที่เสี้ยววิญญาณได้รับการคุ้มครองจากบรรพชน]

เผ่าเดียวกันสังหารกันเอง?

จู่ๆ หานเจวี๋ยก็คิดถึงความเป็นไปได้ข้อหนึ่งขึ้นมา

เจียงอี้คงไม่ได้ถูกจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตโจมตีเพราะเขาหรอกกระมัง?

ไม่สิ เจ้าหมอนั่นหยิ่งผยองขนาดนั้น

หัวคิ้วของหานเจวี๋ยขมวดมุ่น อารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที

เขาตรวจดูค่าความสัมพันธ์ เมื่อพบว่าภาพประจำตัวของเจียงอี้ยังอยู่ เขาก็ถอนหายใจโล่งอกทันใด

ตายแล้ว แต่ยังไม่ตายสนิท

เป็นความโชคดีในความโชคร้าย!

ต้องบอกเลยว่าจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตโหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ

แววตาของหานเจวี๋ยแน่วแน่มั่นคง

เขาต้องหาทางฆ่าจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตให้ได้ ไม่เช่นนั้นมรรคจิตจะได้รับความเสียหาย

หนึ่งเดือนต่อมา หานเจวี๋ยใช้แบบจำลองการทดสอบ แต่น่าเสียดายที่ยังคงไม่สามารถเอาชนะจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตได้

ยังต้องฝึกฝนอีก!

ตอนที่หานเจวี๋ยทอดถอนใจ อู้เต้าเจี้ยนเดินเข้ามาในถ้ำเทวา มาที่ตรงหน้าหานเจวี๋ยและพูดว่า “เฮ่าเอ๋อร์อยากพบท่านเจ้าค่ะ”

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้นก่อนกล่าว “ให้เขาเข้ามาได้”

อู้เต้าเจี้ยนออกไปบอกต่อทันที

หมู่นี้ความเร็วในการฝึกบำเพ็ญของหลงเฮ่าพุ่งสูงขึ้น มีบางอย่างผิดปกติ

ไม่นานนัก หลงเฮ่าก็สาวเท้าเข้ามาคุกเข่าตรงหน้าหานเจวี๋ย และกล่าวด้วยความเคารพว่า “อาจารย์ พักนี้ข้ามักจะฝันตอนที่ฝึกบำเพ็ญอยู่บ่อยๆ ในความฝันมีคนลึกลับคนหนึ่งกำลังถ่ายทอดพลังวิเศษให้ข้า แต่ข้ามองใบหน้าที่แท้จริงของเขาไม่ชัด”

เขาเป็นถึงเทพเซียน จะฝันได้อย่างไร

ผิดปกติเกินไปแล้ว!

หานเจวี๋ยหรี่ตา เป็นไปตามคาด เฮ่าเทียนเริ่มเผยฤทธิ์เดชแล้ว

สำหรับเฮ่าเทียน หานเจวี๋ยรู้สึกกลัวมากอยู่เสมอมา

จักรพรรดิสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดผู้นี้เห็นได้ชัดว่ามีแผนร้ายครั้งใหญ่

“นอกจากถ่ายทอดพลังวิเศษให้เจ้าแล้ว ยังพูดอะไรอีกหรือไม่” หานเจวี๋ยเอ่ยถาม

หลงเฮ่ากัดฟัน ลังเลอยู่ครู่หนึ่งถึงจะตอบ “เขาบอกว่าข้าเป็นผู้ฝ่าเคราะห์ ข้าจะโค่นปวงสวรรค์หมื่นโลกา ข้าจะล้างบางวังสวรรค์…แต่ข้าเป็นโอรสจักรพรรดิสวรรค์ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไร…”

เขาตื่นตระหนกยิ่ง

เรื่องมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต เขาก็ได้ยินจากปากจอมปีศาจคุกรัตติกาลและสวินฉางอันมาไม่น้อย

ว่ากันว่าเมื่อมหาเคราะห์ไปจนถึงขีดสุด สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะถูกควบคุมโดยแรงกรรม ไม่อาจควบคุมตัวเองได้ จะจมดิ่งอยู่ท่ามกลางการเข่นฆ่า

เขากลัวว่าตัวเองก็จะเป็นเช่นเดียวกัน

หานเจวี๋ยกล่าวปลอบ “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เจ้าอยู่ที่นี่ก็จะไม่เข้าสู่เคราะห์”

ช้าก่อน

จู่ๆ หานเจวี๋ยก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้ ในใจพลันเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย

ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพรรคพวกพี่น้องของหลงเฮ่า เขาจะอยากมุ่งหน้าไปที่แดนเซียนหรือไม่

ขณะนี้วังสวรรค์กำลังเผชิญวิกฤติ ไม่อาจรับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เฮ่าเทียนคำนวณกุญแจสำคัญนี้ได้แล้วหลอกล่อหลงเฮ่าหรือ

หลงเฮ่าได้ยินคำพูดของหานเจวี๋ยก็พลันสบายใจขึ้นไม่น้อย

เขาเชื่อใจหานเจวี๋ยมากที่สุด ฐานะของหานเจวี๋ยในใจเขาถึงขั้นสูงกว่าจักรพรรดิสวรรค์เสียอีก อย่างไรเสียหลังจากถือกำเนิดเขาก็ไม่ได้เห็นหน้าจักรพรรดิสวรรค์มากนัก ในช่วงไม่กี่ปีที่อาศัยอยู่ในวังสวรรค์ จักรพรรดิสวรรค์มาพบเขาแค่สองครั้ง

ทุกครั้งที่นึกเรื่องนี้ หลงเฮ่ากระทั่งเศร้าใจเล็กน้อย

เขารู้ว่าตนมีพี่น้องชายหญิงมากมาย ทุกคนทำงานภายใต้คำสั่งของจักรพรรดิสวรรค์

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “อย่าไปสนใจคนในฝันนั่นเลย แล้วก็อย่าฝึกฝนพลังวิเศษของเขาด้วย”

หลงเฮ่าพยักหน้ารับ

ต่อมา หานเจวี๋ยเริ่มแสดงธรรมให้เขาฟัง คิดจะหักล้างอิทธิพลของเฮ่าเทียน

หลังจากเทศนาหนึ่งเดือนเต็ม หลงเฮ่าจึงค่อยจากไป

เขาเพิ่งไปได้ไม่นาน ถูหลิงเอ๋อร์ก็มาเยือนอีกครั้ง

“อาจารย์ปู่ ข้าออกไปจากเกาะสำนักซ่อนเร้นได้หรือไม่ ข้าอยากไปเดินเล่นที่ยมโลกสักหน่อย ข้ารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเรียกหาข้า” ถูหลิงเอ๋อร์ถามอย่างคาดหวัง

หานเจวี๋ยปฏิเสธโดยพลัน “ไม่ได้ ถ้าเจ้าไป เจ้าก็ไม่ใช่ศิษย์ของข้าอีกต่อไป!”

ถูหลิงเอ๋อร์ที่เป็นมหาเวทกลับชาติมาเกิดต้องถูกเผ่าจอมเวทหลอกล่อเป็นแน่

มหาเคราะห์มาถึงแล้ว หานเจวี๋ยคร้านจะสนใจยายเมิ่ง หวังเพียงว่าถูหลิงเอ๋อร์จะไม่สร้างปัญหาให้เขาหรือเปิดเผยร่องรอยของเกาะสำนักซ่อนเร้น

แข็งแกร่งเหมือนยายเมิ่งก็ยังถูกลอบโจมตีเป็นครั้งคราว หากถูหลิงเอ๋อร์ออกไป ย่อมมีช่วงที่จะขอความช่วยเหลือแน่นอน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถูหลิงเอ๋อร์นึกน้อยใจทันที

หานเจวี๋ยพูดอย่างเคร่งขรึม “มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตมาเยือนแล้ว เมื่อใดเจ้าจากไป สำนักซ่อนเร้นอาจจะมีภัยครั้งใหญ่เพราะเจ้าก็ได้ จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตยังตามหาพวกเราอยู่ เจ้าอยากทำให้เราตายจริงๆ หรือ”

ถูหลิงเอ๋อร์ตกใจจนรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน ไม่กล้าบอกว่าอยากออกไปอีก

จากนั้นเมื่อหานเจวี๋ยสอนพลังวิเศษให้นางแล้วก็ให้นางออกไป

อู้เต้าเจี้ยนนั่งอยู่บนเบาะรองนั่งของตน กล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “นายท่าน นี่ก็คือมหาเคราะห์หรือ หลอกล่อให้พวกเราหลงเข้าสู่เคราะห์โดยไม่รู้ตัว?”

“ไม่ผิด ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจแล้ว”

“วางใจเถอะ ไม่ว่าอย่างไรข้าจะไม่ยอมออกไปเด็ดขาด!”

“เด็กดี”

หานเจวี๋ยยิ้มอย่างพึงพอใจ

ทั้งสำนักซ่อนเร้น คนที่ทำให้เขาเบาใจมากที่สุดคือไก่คุกรัตติกาล ลี่เหยา และอู้เต้าเจี้ยน

สามคนนี้มีแต่กลัวว่าจะถูกขับไล่

หานเจวี๋ยหลับตาลง ฝึกบำเพ็ญต่อไป

ต่อจากนี้เขาจะทะลวงสู่จักรพรรดิเซียนสามวัฏ!

รอให้เขาบรรลุถึงระดับจักรพรรดิเซียนสามวัฏแล้ว บางทีอาจจะมีพลังให้ต่อสู้กับจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตได้!

เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า

ผ่านไปอีกห้าสิบปีในพริบตา

หานเจวี๋ยที่กำลังฝึกบำเพ็ญเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา

“หือ? เขามาหาข้าทำไม”

หานเจวี๋ยหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนจะส่งพลังจิตกระโดดเข้าสู่อาณาเขตฟ้าบุพกาล

อาณาเขตฟ้าบุพกาลคืออาณาเขตที่หานเจวี๋ยเข้าไปตอนพิสูจน์จักรพรรดิ และมีเพียงคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้

เต้าจื้อจุนแห่งวังเทพบอกว่ามีอะไรก็ให้มาหาได้

เมื่อเห็นหานเจวี๋ยปรากฏตัว เต้าจื้อจุนพูดขึ้นว่า “สหายเต๋า กล้าร่วมมือกับข้าเพื่อสังหารจักรพรรดิปีศาจหรือไม่”

……………………………………..