บทที่ 315 ทำไมต้องหลบ
ลี่จุนถิงเดือด ทำไมในช่วงคับขันแบบนี้เจียงหยุนเอ๋อก็ถูกลักพาตัวไปอีกแล้ว
“สืบ ไปสืบมาเดี๋ยวนี้ ต้องจับคนคนนี้มาให้ได้”
ลี่จุนถิงมองคนที่ตีถวนจื่อจนสลบในกล้องวงจรจนนัยน์ตาลุกเป็นไฟหมดแล้ว
ซู่จี้งยี้ตื่นตัวขึ้นมา พยักหน้าตอบรับ “ครับ”
จากนั้น ซู่จี้งยี้ก็รีบขับรถไปสืบ
เจียงหยุนเอ๋อฟื้นขึ้นมาก็เป็นหนึ่งวันหลังจากนั้นแล้ว ฤทธิ์ยานั่นแรงมากจริงๆ
ตอนที่ตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกหนักหัวมึนหัวไปหมด
เธอได้ยินเสียงคนพูดก็อยากจะลืมตาขึ้น แต่หนังตากลับหนักอึ้ง
ดังนั้นจึงได้แต่ปิดตาลงก่อน ผ่อนคลายลงแล้วค่อยลืมตาขึ้นอีกครั้ง
พอมองสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ชัดเจนแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็พบว่าตัวเองอยู่บนเรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่ง
ส่วนถวนจื่อตอนนี้ก็นอนอยู่ข้างๆเธอ
เจียงหยุนเอ๋อตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขย่าถวนจื่อเบาๆ “ถวนจื่อ ถวนจื่อ?”
ถวนจื่อขมวดคิ้ว ขนตาสั่นระริกสองสามทีแล้วค่อยๆลืมตาขึ้น
เห็นว่าคนตรงหน้าคือเจียงหยุนเอ๋อ ถวนจื่อก็กระโจนเข้าใส่อย่างตื่นเต้น “หม่ามี้”
เจียงหยุนเอ๋อกอดถวนจื่อไว้ในอ้อมกอดพร้อมกับลูบหัวของเขาเบาๆ “หม่ามี้อยู่นี่”
เห็นถวนจื่อปลอดภัยดี เจียงหยุนเอ๋อก็น้ำตาไหลออกมาสองสามหยดด้วยความดีใจ
ตอนนั้นก่อนที่เธอจะสลบไป เธอคิดว่าตัวเองจะไม่ได้เจอกับถวนจื่อแล้วซะอีก นึกไม่ถึงว่าในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ ถวนจื่อยังอยู่ข้างๆเธอ
“ให้หม่ามี้ดูซิว่ามีบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” เจียงหยุนเอ๋อยกมือของถวนจื่อขึ้น ดูซ้ายทีขวาที แล้วยังหมุนตัวของถวนจื่อหนึ่งรอบ
ถวนจื่อขยับคอของตัวเองแล้วร้อง “ซี๊ด”ออกมา
“เป็นอะไร?”
“หม่ามี้ ผมเจ็บคอ” ถวนจื่อชี้ไปที่ถูกพนักงานคนนั้นฟัน
เจียงหยุนเอ๋อรีบไปดู พบว่าตรงนั้นช้ำจนม่วงแล้ว เห็นรอยช้ำที่เด่นชัดขนาดนี้บนผิวขาวอ่อนนุ่มของถวนจื่อก็รู้สึกปวดใจสุดขีด
“หม่ามี้เป่าให้ลูกนะ ไม่เป็นอะไรนะจ๊ะ” เจียงหยุนเอ๋อเป่าเบาๆให้ถวนจื่อ
“หม่ามี้เป่าก็ไม่เจ็บแล้ว” ถวนจื่อไม่อยากให้เจียงหยุนเอ๋อเป็นห่วง เจ็บก็ต้องทนไว้
เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าไม่ควรปล่อยให้เด็กเป็นแบบนี้ จึงคิดจะออกไปหายาทาแผลข้างนอก “หม่ามี้พาลูกไปหายาข้างนอกนะ”
พูดเสร็จก็จูงถวนจื่อออกจากห้องเก็บสินค้า
พอออกมาจากห้องเก็บสินค้า เจียงหยุนเอ๋อถึงกับตะลึงงันไปเลย
บนดาดฟ้าเรือคือคนงานมากมายหลากหลาย ในนั้นยังมีคนผิวดำด้วยไม่น้อย
แต่ละคนรูปร่างใหญ่โต หน้าตาดุร้าย เจียงหยุนเอ๋อถึงกับยืนงงอยู่กับที่
ที่นี่คือที่ไหนกันแน่? ทำไมตัวเองถึงอยู่ที่ไหน? เรือลำนี้จะไปไหน?
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเจียงหยุนเอ๋อ เธอไม่รู้ว่าตัวเองตอนนี้ควรทำอย่างไรต่อ
คนงานหลายคนหันหน้ามาดูเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อ สายตาฉายแววสงสัยออกมา
เจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อที่เป็นผู้หญิงและเด็กปรากฏบนเรือลำนี้ มันก็เข้ากันไม่ได้จริงๆ
และในเวลานี้เอง มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมา หลายคนพยักหน้าทักทายเขาและเรียกเขาว่ากัปตัน
เจียงหยุนเอ๋อคิดในใจว่าตัวเองควรไปถามเขา
กัปตันเรือเดินมาตรงหน้าเจียงหยุนเอ๋อถามเธอว่า “คุณตื่นแล้วเหรอ?”
“ค่ะ” ถึงแม้เจียงหยุนเอ๋อจะหวาดกลัวเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็เปิดปากถาม “ฉันอยากรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน?”
กัปตันเรือตอบอย่างเรียบเฉย “นี่เป็นเรือลักลอบเข้าฝั่ง คนบนเรือคือแรงงานที่เตรียมจะไปแอฟริกา”
เจียงหยุนเอ๋อตะลึงอยู่กับที่ “อะไรนะ? แรงงานลักลอบเข้าฝั่ง?”
กัปตันเรือพยักหน้า
แล้วทำไมเธออยู่ดีๆถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ใครกันที่ใจดำขนาดนี้ ส่งตัวเองกับถวนจื่อมาที่นี่
เจียงหยุนเอ๋อตกใจกลัวขึ้นมาทันที เธอจินตนาการไม่ออกเลยว่าตัวเองจะไปสถานที่แบบไหน
“ไม่ได้ ฉันจะกลับไปตอนนี้ คุณหยุดจอดให้พวกเรากลับไปก่อนได้ไหมคะ?” เจียงหยุนเอ๋อขอร้อง
กัปตันเรือขมวดคิ้ว “จอด? จอดที่ไหน? ตอนนี้คุณอยู่ใจกลางทะเล จะจอดเข้าฝั่งก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองวัน ความหมายของคุณคือจะให้ผมเสียเวลาหนึ่งถึงสองวันไปจอดเรือที่ฝั่งเพื่อคุณงั้นเหรอ?”
กับตันเรือมองเจียงหยุนเอ๋อด้วยสายตาเหลือเชื่อ ในใจคิดว่าผู้หญิงก็ยุ่งยากแบบนี้แหละ ชอบคิดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เจียงหยุนเอ๋อพูดอย่างร้อนใจ “แต่ฉันไม่ควรมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงอยู่ที่นี่”
“คุณถามผม ผมยังอยากจะถามคุณเลย” กัปตันเรือถลึงตาใส่เจียงหยุนเอ๋อ
“ขอร้องล่ะค่ะ ปล่อยพวกเราไปได้ไหมคะ?” เจียงหยุนเอ๋อดึงแขนเสื้อของกัปตันเรือพร้อมกับขอร้องวิงวอน
“คุณเลิกฝันกลางวันซะที” กัปตันเรือสะบัดแขนเจียงหยุนเอ๋อออกแล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “คุณขึ้นเรือมาแล้วยังคิดจะไปอีกเหรอ? ปล่อยคุณไปแล้วคนบนเรือผมจะทำยังไง? ผมขอเตือนคุณให้อยู่นิ่งๆจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นคุณได้เจอดีแน่ เห็นแก่คุณที่เป็นผู้หญิง ผมก็จะไม่ให้คุณทำอะไร”
กัปตันเรือพูดจบก็เดินจากไปเลย
แขนของเจียงหยุนเอ๋อแข็งทื่อบนกลางอากาศ น้ำตาไหลพรากลงมาตามแก้มเงียบๆ
ทำไมตัวเองถึงได้มาอยู่สถานที่แบบนี้ ตอนนี้ถึงจะเป็นจนตรอกหมดหนทางของจริง
ถวนจื่อตอนนี้ก็เริ่มกลัวแล้ว ดึงชายเสื้อของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ “หม่ามี้ ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี?”
ถวนจื่อมองลุงที่อยู่ข้างๆ รู้สึกดุมากเลย ไม่น่าอยู่ด้วยเลยสักนิด
เจียงหยุนเอ๋อเงียบไม่พูดอะไร ส่ายหน้าอย่างจนใจ
เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำยังไง เธอรู้แค่ว่ามีคนอยากให้พวกเขาออกจากลี่จุนถิงไปถาวรและกลับไปไม่ได้อีกตลอดกาล
“หม่ามี้ ไม่เป็นไรนะครับ ถวนจื่อจะอยู่กับหม่ามี้เอง” เห็นเจียงหยุนเอ๋อร้องไห้ ถวนจื่อก็ปวดใจสุดขีด รีบกอดขาของเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อนั่งยองๆกอดถวนจื่อกลับ
ถวนจื่อตบหลังของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ เหมือนกับเวลาปกติที่เจียงหยุนเอ๋อปลอบเขา
เขารู้ว่าตอนนี้คุณพ่อไม่อยู่ เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาก็ต้องเป็นลูกผู้ชายตัวน้อยๆ ปกป้องเจียงหยุนเอ๋อให้ดี
และในเวลานี้เอง จู่ๆเจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกหนาวสะท้านด้านหลัง รู้สึกเหมือนมีสายตาที่คิดมุ่งร้ายหลายคู่กำลังจ้องตัวเองอยู่
เธอไม่กล้าอยู่นาน อุ้มถวนจื่อกลับไปที่ห้องเก็บสินค้าแล้วหามุมหลบซ่อนตัวไว้
“หม่ามี้ ทำไมพวกเราต้องหลบด้วย?” ถวนจื่อไม่รู้ว่าทำไมเจียงหยุนเอ๋อถึงกลัวและตื่นเต้นขึ้นมากะทันหันแบบนี้
“ชู่ว์” เจียงหยุนเอ๋อทำสัญลักษณ์มือ “พวกเราไม่คุ้นเคยกับที่นี่ คุณพ่อก็ไม่อยู่ พวกเราต้องปกป้องตัวเองดีๆ ระวังตัวหน่อยก็ดีเหมือนกัน”
เจียงหยุนเอ๋อเพิ่งตระหนักได้ว่า เรือลำนี้ไม่แน่อาจจะมีแค่เธอที่เป็นผู้หญิงคนเดียวก็ได้ เดิมทีผู้ชายพวกนั้นก็มองตัวเองด้วยสายตาที่ไม่ปกติอยู่แล้ว
เจียงหยุนเอ๋อไม่กลัวเรื่องที่แน่นอน ก็กลัวเหตุไม่คาดฝัน สถานการณ์คับขันแบบนี้ เธอต้องปกป้องตัวเองและถวนจื่อให้ดี เตรียมการป้องกันให้พร้อม
ไม่ว่ายังไง ตอนนี้ก็ต้องพึ่งพาตัวเองแล้วเท่านั้น
“รู้แล้วครับ” ถวนจื่อพยักหน้า ระแวดระวังตัวขึ้นมาทันที