ตอนที่ 355 แผนการที่เปิดเผย ยืมดอกไม้ถวายพระ (6)

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

————————————-

0

ตอนที่ 355 แผนการที่เปิดเผย ยืมดอกไม้ถวายพระ (6)

เรื่องในเรือนหลัง มืดมิดตามคาด

ยังไม่ได้ตบแต่งเข้าตระกูล ก็มีคนคิดอยากจะทำร้ายนางแล้ว!

มั่วเชียนเสวี่ยย่อมรู้ดีว่าการที่กุ้ยเสี่ยวซีอยู่ที่งานชมดอกไม้ต่อย่อมมีแผนการบางอย่าง แต่ตีนางให้ตาย นางก็ไม่เคยคิดว่าสตรีคนนั้นจะมีความคิดชั่วร้ายเช่นนี้!

เดิมทีคิดว่านางเป็นเหมือนพวกเหมยฮูหยินเท่านั้น เพียงจะพูดสิ่งที่ระคายหูตนเท่านั้น!

สุนัขที่กัดคนไม่เห่าหอน!

แท้จริงแล้วเรื่องสนุกที่แท้จริงอยู่ด้านหลัง!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ คิ้วของมั่วเชียนเสวี่ยตึงแน่น!

มั่วเชียนเสวี่ยไม่เคยเป็นคนที่ยอมให้ผู้อื่นรังแกง่ายๆ!

แม้พอจะเข้าใจเรื่องบางอย่างแล้ว ทว่ามั่วเชียนเสวี่ยยังคงนิ่งสงบ ยังคงวางตัวเป็นเหมือนเสื้อผ้าและเครื่องประดับ พูดคุยกับสตรีชั้นสูงที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน

เวลาเพียงไม่นาน กุ้ยเสี่ยวซีกลับมาแล้ว

นางยกถ้วยใบหนึ่งมาด้วยตนเอง ยิ้มแล้วเดินมาทางมั่วเชียนเสวี่ย

ทุกคนบนโต๊ะต่างไม่ข้าใจว่ากุ้ยเสี่ยวซีทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร สีหน้าของทุกคนล้วนฉายความสงสัย!

มั่วเชียนเสวี่ยก็นั่งอยู่ตรงนั้น นั่งรอเงียบๆ

คาดว่าคงจะเป็นน้ำต้มสมุนไพรถ้วยนี้ในมือนางกระมัง

ในเมื่อเจ้ากล้าที่จะยกมาให้ข้าดื่ม เช่นนั้นข้าจะคงสภาพเดิมเอาไว้แล้วให้เจ้ากลืนกินเข้าไป!

กุ้ยเสี่ยวซียิ้มอ่อนโยน ยืนตรงหน้าโต๊ะของมั่วเชียนเสวี่ย น้ำต้มสมุนไพรในมือ ถูกนางจับเอาไว้ตลอดเวลา มองไปทางมั่วเชียนเสวี่ย

“ข้ากุ้ยซื่อคือฮูหยินของคุณชายรองหนิง วันข้างหน้าคุณหนูเชียนเสวี่ยตบแต่งเข้าตระกูล เช่นนั้นก็เป็นพี่สะใภ้ของกุ้ยซื่อ เป็นนายหญิงของตระกูลหนิง ฮูหยินอันดับหนึ่งตระกูลขุนนางชั้นสูง ข้าได้ยินว่าคุณหนูเชียนเสวี่ยสุขภาพไม่ดีนัก วันนี้เป็นการยากนักที่จะได้พานพบ ข้าอยากจะอาศัยน้ำต้มสมุนไพรนี้มาแสดงความเคารพของข้าที่มีต่อคุณหนูเชียนเสวี่ย!”

พูดจบ กุ้ยเสี่ยวซีโค้งตัวลง ยื่นน้ำต้มสมุนไพรไปด้านหน้าเล็กน้อย หยุดลงตรงหน้ามั่วเชียนเสวี่ย

โต๊ะที่พวกนางนั่งคือโต๊ะใหญ่สุดของบรรดาแขกสตรี เกิดเรื่องอะไรขึ้นเล็กน้อยย่อมมีคนหันมามอง

กุ้ยเสี่ยวซีชาติกำเนิดสูงศักดิ์ ทั้งยังได้สามีเป็นบุตรสายตรง ในคนหนุ่มสาวของตระกูลหนิงตำแหน่งของสามีนางเป็นรองจากหัวหน้าตระกูลหนิงเท่านั้น ตามหลักแล้วความสัมพันธ์ของพวกนาง คนหนึ่งตบแต่งเข้าตระกูลแล้วอีกคนหนึ่งยังไม่ได้ตบแต่งเข้าตระกูล นางควรจะสงวนท่าทีและคงความทระนงตน รอมั่วเชียนเสวี่ยไปประจบ

ทว่า ท่าทีของนางกลับอ่อนน้อม ทุกคนที่อยู่ในโถงหลักอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า สมกับเป็นอดีตสตรีอันดับหนึ่งผู้มากความสามารถของเมืองหลวงจริงๆ เป็นตัวอย่างของสตรี ปฏิบัติตัวเช่นนี้กับว่าที่พี่สะใภ้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

คนเฉลียวฉลาด รู้ว่าพี่ชายรักน้องชาย น้องชายเคารพพี่ชาย เป็นน้องภรรยาที่ดีคอยช่วยเหลือและรักใคร่

คุณชายส่วนมากในงาน เวลานี้ ล้วนอิจฉาหนิงเซ่าอวี่ ที่ได้แต่งงานกับสตรีเช่นนี้ คนเป็นสามีไม่มีสิ่งใดจะร้องขออีกแล้ว

สตรีชั้นสูงโดยมากในงาน เวลานี้ ล้วนอิจฉามั่วเชียนเสวี่ย ไม่ได้อิจฉาที่นางแต่งงานกับหัวหน้าตระกูล แต่อิจฉาที่วันข้างหน้าแต่งเข้าตระกูลแล้วมีได้ภรรยาของน้องสามีดีๆ เช่นนี้

มั่วเชียนเสวี่ยขมวดคิ้วเป็นปม รู้สึกยากที่จะปฏิเสธ

คำพูดของกุ้ยเสี่ยวซีไม่ได้มีสิ่งใดที่นำมาตำหนิได้ เพราะถึงอย่างไรนางก็ถือเป็นภรรยาของน้องสามี ส่วนตนแม้จะยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูล แต่ฮ่องเต้ก็มีสมรสพระราชทานแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนแปลงการแต่งงานได้ ถือเป็นพี่สะใภ้ที่ถูกต้อง!

แผนการทุกอย่าง ไม่อาจเทียบกับแผนการนี้

หากนางไม่รับและไม่ดื่ม ในสายตาของทุกคนก็เป็นการทระนงตน

แต่หากนางให้คนมาทดสอบ เช่นนั้นก็เป็นการเสียน้ำใจ

แม้จะสืบพบว่ามีบางอย่างในน้ำต้มสมุนไพร แน่นอนว่าย่อมมีคนยอมรับความผิด ทุกคนล้วนไม่มีวันเชื่อว่าสตรีอ่อนโยนเช่นนี้จะเป็นคนลงมือด้วยตนเอง รอยยิ้มอ่อนโยนอาบด้วยยาพิษ

ช่างเป็นแผนการที่ดีจริงๆ!

แต่คนที่คิดแผนการนี้กลับคิดไม่ถึงว่า มั่วเชียนเสวี่ยในตอนนี้ไม่ใช่มั่วเชียนเสวี่ยคนเดิมแล้ว ไม่ใช่มั่วเชียนเสวี่ยที่รักษาคุณธรรมและข้อห้ามของสตรี แต่เป็นมั่วเชียนเสวี่ยที่มาจากอีกโลกหนึ่ง คือมั่วเชียนเสวี่ยที่กล้าคิดและกล้าทำ!

มั่นใจอย่างหนักแน่นว่ามั่วเชียนเสวี่ยจะไม่มีวันปฏิเสธใช่หรือไม่

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชูอีและสืออู่พยุงมั่วเชียนเสวี่ยลุกขึ้น มุมปากของนางยกขึ้น มองกุ้ยเสี่ยวซีที่ยืนก้มหน้าถือน้ำต้มสมุนไพร

หลังจากนั้น มั่วเชียนเสวี่ยยื่นมือออกไป ค่อยๆ รับน้ำต้มสมุนไพรในมือของกุ้ยเสี่ยวซีมา

แม้สืออู่จะไม่ทราบเรื่องตั้งแต่ต้น แต่นางไม่ใช่คนโง่ สัญชาตญาณของนางบอกว่าตระกูลหนิงนี้ นอกจากกูเหยียแล้ว ไม่มีผู้ใดเป็นคนดี! กุ้ยเสี่ยวซีคนนี้คือคนชั่ว!

คุณหนูรับน้ำต้มสมุนไพรที่นางยื่นมาให้เช่นนี้ หากในน้ำต้มสมุนไพรถูกคนใส่บางอย่างลงไป แล้วจะไม่ถึงแก่ชีวิตหรือ

สืออู่คิดอยากจะเข้าไปห้ามปราม ทว่าชูอีมือไวตาเร็วหยุดนางเอาไว้ก่อน!

สืออู่ใช้สายตาถามชูอีว่าเหตุใดต้องหยุดนางด้วย ทว่าชูอีเพียงส่ายหน้าให้สืออู่เล็กน้อย

สิ่งที่คุณหนูทำ ย่อมมีความตั้งใจของคุณหนู!

พวกนางติดตามรับใช้คุณหนูมานาน คล้ายไม่มีวันเชื่อว่าคุณหนูจะโง่เขลาถึงขั้นเห็นหลุมพรางอยู่ตรงหน้า แล้วยังกระโดดลงไป!

รอดูก่อนเถอะ

มั่วเชียนเสวี่ยรับน้ำต้มสมุนไพรมาจากมือของกุ้ยเสี่ยวซีด้วยความนิ่งสงบ สังเกตสีหน้าของกุ้ยเสี่ยวซี คล้ายจะเห็นว่านางโล่งอกอย่างไรอย่างนั้น ลดมือทั้งสองข้างลง

โล่งอกตั้งแต่ตอนนี้เนี่ยนะ ลำพองใจเร็วเกินไปหรือไม่

มั่วเชียนเสวี่ยยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย มองสีหน้าของทุกคนที่แตกต่างกัน ยกน้ำต้มสมุนไพรขึ้นแนบชิดริมฝีปาก

ชะงักครู่หนึ่ง แล้ววางลงช้าๆ

ทุกคนในโถงหลัก ต่างฉงนว่าเหตุใดมั่วเชียนเสวี่ยยกขึ้นใกล้ปากแล้วแต่ไม่ยอมดื่ม ทั้งยังมีคนโล่งอกกับการกระทำนี้ของมั่วเชียนเสวี่ย!

คนที่โล่งอก แน่นอนว่าคือชูอี สืออู่ ท่านหญิงซูซูและหลันรั่วเมิ่ง เฟิงอวี้เฉินและซูชี…

น้ำต้มสมุนไพรที่ไม่มีที่มาที่ไป มั่วเชียนเสวี่ยจะดื่มได้อย่างไร หากมีคนลอบวางยาพิษคิดทำร้าย จะทำเช่นไร

พวกเขาคอยจับตาดูมั่วเชียนเสวี่ยตลอดเวลา ก่อนหน้านี้สีหน้าของกุ้ยเสี่ยวซีเปี่ยมไปด้วยความอำมหิต แววตาเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง แล้วจะปิดบังคนฉลาดเช่นพวกเขาได้อย่างไร

ทว่า พวกเขายังเห็นมั่วเชียนเสวี่ยสั่งให้ชูอีเดินตามออกไป เพราะเหตุใด ด้วยหัวใจพิสุทธิ์เจ็ดห้องของพวกเขามีหรือที่จะเดาเรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้

สตรีตระกูลหนิงไม่สงบเสงี่ยม!

คิดก็ส่วนคิด แต่พวกเขาไม่ได้เคลื่อนไหว เพราะถึงอย่างไร…ล้วนไม่มีสิทธิ์

ซูซูยืนอยู่ข้างกาย หลันรั่วเมิ่งก็นั่งโต๊ะเดียวกัน มั่วเชียนเสวี่ยย่อมเห็นปฏิกิริยาของท่านหญิงซูซูและหลันรั่วเมิ่ง เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ นางเพียงล้อพวกนางเล่นเท่านั้น!

แต่ว่าตอนนี้นางเล่นพอแล้ว ไม่ได้คิดจะยื้อเวลาต่อไป เพราะถึงอย่างไรแผนการเหล่านี้ ภายในใจของนาง ไม่ชอบใจเท่าใดนัก

วางน้ำต้มสมุนไพรในมือลงช้าๆ มั่วเชียนเสวี่ยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ จู่ๆ นางก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองกุ้ยเสี่ยวซีด้วยความแปลกใจ ส่งยิ้มให้นาง

“ฮูหยินรองเกรงใจแล้ว แค่ว่าน้ำต้มสมุนไพรนี้ พูดไปแล้ว ไม่ควรให้ฮูหยินรองมาเคารพเชียนเสวี่ย! ในทางตรงกันข้ามเชียนเสวี่ยต่างหากที่ควรเคารพฮูหยินรอง วันข้างหน้าต้องขอให้ฮูหยินรองดูแลต่างหาก…”

“คุณหนูเชียนเสวี่ย พูดอะไรเช่นนี้…”