เฉินฮวนฮวนรู้สีกว่าพระเจ้าไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น
หลังจากถูกทำร้ายจากเหตุการณ์ระหว่างเยี่ยจิ่งเฉินกับหลิวเยว่เอ๋อร์ เธอก็ถูกเฟิงหานชวนทำร้ายอีกครั้ง
เดิมทีคิดว่าในมุมของความรักและมิตรภาพ ไม่มีทางมีผลลัพธ์ที่ดีได้ แต่พระเจ้าก็ได้ส่งคนที่โง่ๆเซ่อๆอย่างหลินอวี่หยางมาอยู่ต่อหน้าเธอ
อย่างไรก็ตาม การที่ใช้วิธีโง่เขลาโดยการส่งข้อความซุบซิบทางโทรศัพท์มือถือให้เธอดูโดยไม่ถูกจับได้ เธอรู้สึกว่าหลินอวี่หยางไม่ได้ซื้อบื้อ
ตรงกันข้าม มันคือความจริงใจแบบหนึ่ง
หลินอวี่หยางปกป้องเธอต่อหน้าจ้าวซี และช่วยเหลือเธอทุกอย่าง เว้นแต่เรื่องขัดแย้งในห้องน้ำครั้งนั้น ที่เหลือทั้งหมดหลังจากนั้นหลินอวี่หยางทำเรื่องดีดีต่อเธอทั้งนั้น
“ฮวนฮวนพวกเราเป็นเพื่อนกัน เธอจะพูดขอบคุณฉันทำไม” หลินอวี่หยางทำปากบูดไม่พอใจและดูออกว่ารู้สึกเสียใจ
เฉินฮวนฮวนล็อคหน้าจอโทรศัพท์และส่งคืนให้หลินอวี่หยางพร้อมกับยิ้มและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้อยากจะเป็นเพื่อนกับคุณ แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว จากนี้ต่อไปเราจะเป็นเพื่อนกัน”
หลินอวี่หยางตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าดูมีความสุข เธอกระโดดขึ้นและกอดร่างของเฉินฮวนฮวนไว้
เฉินฮวนฮวนตะลึงกับการกระทำของเธอ ทั้งหัวเราะและร้องไห้ไม่ออก เงยหน้าขึ้นและตะโกนว่า:”คุณรีบปล่อยฉันนะ ฉันจะถูกคุณรัดจนตายแล้ว”
“ออ คุณเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ฉันไม่มีทางรัดเธอจนตายอย่างเด็ดขาด” หลินอวี่หยางรีบกระโดดลงมากอดเฉินฮวนฮวนและปลอบว่า:”ฮวนฮวน หลังจากนี้ฉันจะปกป้องเธอเอง หากเธอมีอะไรให้ฉันช่วยเหลือรีบบอกเลย แล้วหากเธออยากจะสั่งสอนใครก็รีบบอกฉัน หากมีเรื่องอะไรฉันจะเป็นโล่กำบังให้เธอเอง!”
เฉินฮวนฮวนรู้สึกสายตาอ่อนหล้า ครั้งนี้ไม่ได้รู้สึกเศร้าโศกเสียใจแต่ตื้นตันใจ
“ได้” เธอรับคำอย่างไม่ลังเล
ทั้งสองคนกอดกันมันทำให้เพื่อนร่วมห้องต่างอิจฉา โดยเฉพาะจ้าวซีที่แอบกระทืบเท้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสายตาที่จ้องมองเฉินฮวนฮวนว่าจะโกรธขนาดไหน
กอดกันอยู่ครู่หนึ่ง เฉินฮวนฮวนผลักหลินอวี่หยางออกแล้วบอกว่า”คุณรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าเจอกัน”
“พรุ่งนี้เช้าเหรอ ดีดี พวกเรายังไม่เคยทานอาหารเช้าด้วยกันเลย!” หลินอวี่หยางกระโดดขึ้นอย่างมีความสุขอีกครั้ง
แต่เมื่อเธอหันหลังจะจากไปเหมือนเธอคิดอะไรออก หันศีรษะกลับมาแล้วถามว่า “ฮวนฮวน จู่ๆเธอดีกับฉัน ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะ….”
หลินอวี่หยางกำลังจะถามออกมาแล้วรีบเอามือปิดปาก เธอรู้ว่าเรื่องนี้จะพูดมากเกินไปไม่ได้ จะให้คนอื่นได้ยินไม่ได้
แม้ว่าเฉินฮวนฮวนจะไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอกำลังจะพูด แต่เธอก็เข้าใจความหมายของหลินอวี่หยางว่าหมายถึงอะไร เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันไม่สนใจเขาแล้ว”
ฮวนฮวน ฉันจะแนะนำหนุ่มเอ๊าะๆให้เธอรู้จัก!” หลินอวี่หยางตบหน้าอกของตัวเอง ทำราวกับว่าให้ฝากความหวังไว้ที่ตัวเธอ
จากนั้นเธอก็ออกจากหอพักของเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนส่ายหัว ใบหน้าแสดงออกถึงความยินดีพร้อมรอยยิ้ม
เธอคิดไว้ว่า เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเฟิงหานชวนกับตัวเธอ รอให้ค่ายฝึกสิ้นสุดลงค่อยบอกกับหลินอวี่หยาง
เฟิงหานชวนได้อยู่กับผู้หญิงที่ชื่อหลีซืออวิ๋นแล้ว ไม่แน่อาจจะเป็นเหมือนอย่างที่เธอคิดไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่การฝึกของเธอสิ้นสุดลงก็อาจถูกเฟิงหานชวนทิ้ง
อย่างไรก็ตามเธอก็ทำใจไว้แล้ว และมันก็ไม่สำคัญ
เดิมทีเธอก็เป็นคนที่ไม่มีอะไรอยู่แล้ว จะมีเฟิงหานชวนอีกคนหรือไม่ ก็ไม่มีผลอะไรกับเธอ
……
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์
เหลือเพียงสัปดาห์สุดท้ายที่ค่ายฝึก ความยากในการฝึกฝนก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันเฉินฮวนฮวนรู้สึกว่านอกจากความเหน็ดเหนื่อยก็คือความเหน็ดเหนื่อย เธอไม่มีอารมณ์จะนึกถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เหล่านั้น .
จ้าวซีและพรรคพวก ก็ได้รับคำเตือนจากหลินอวี่หยาง ไม่อนุญาตให้ออกไปอ้างถึงตัวตนของเฟิงหานชวน ดังนั้นในเวลาหนึ่งสัปดาห์ จึงผ่านไปอย่างสงบสุข
ทุกคนถูกรายล้อมไปด้วยการฝึกอบรมเกือบทุกวัน การพูดคุยถึง “ชายหนุ่มลึกลับ” ก็น้อยลงเรื่อยๆ
วันนี้ ก็มาถึงชั้นเรียนสุดท้ายแล้ว เฉินฮวนฮวนหิวจนปวดกระเพาะ คิดเพียงว่าอยากจะรีบกลับไปพักผ่อน
ในขณะเดียวกันนี้ เฉินเฟยหยางปรากฏตัวที่ประตูห้องเรียนและตะโกนเข้ามาว่า: “เฉินฮวนฮวน อาจารย์หนีบอกว่าคุณยังกรอกข้อมูลไม่เสร็จ ให้คุณไปที่สำนักงานของเธอเพื่อกรอกข้อมูล”
เฉินฮวนฮวนตกตะลึงไม่ทันตั้งตัว ทั้งตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
กรอกข้อมูล ที่สำนักงานของคุณหนีซวง…
เฟิงหานชวนมาอยู่ที่นี่หรือเปล่านะ?