ตอนที่ 323 โอคาซีมาเยือน

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 323 โอคาซีมาเยือน
ตอนที่ 323 โอคาซีมาเยือน

อ้อมแขนของโอคาซีกระชับขึ้นเล็กน้อยจนถึงรู้สึกอัตราการเต้นของหัวใจ

“ได้ครับ”

“เดี๋ยว ท่านพูดว่าไงนะคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองแฟนหนุ่มด้วยความประหลาดใจ หากไม่เห็นว่าหูของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอคงจะคิดว่าแฟนหนุ่มของเธอเปลี่ยนไปแล้ว

“นี่ ฉันแค่ไม่ได้เจอท่านมาสองสามวัน ท่านถึงกับจะมาหาฉันที่ห้องเลยเหรอคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นแกล้งหยอกล้ออย่างจงใจ “บอกมาหน่อยสิว่าจะทำอะไร? จะเข้ามาหลอกล่อฉันเหรอคะ?”

“ฉันคิดว่าท่านเป็นคนที่ใสซื่อซะอีก แต่กลับไม่ได้ใสซื่อจริง ๆ ฮึ่ม”

“ครับ” โอคาซีตอบ

“อะไรนะคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นถามเขา

“ผมไม่ได้ใสซื่อครับ หัวใจของผมเองก็ไม่ได้ใสซื่อเหมือนกัน” โอคาซีพูดและยิ้มเบา ๆ “งั้นคืนนี้จะมาหาผมที่ห้องไหมครับ?”

“ฮึ่ม ใครกลัวเถอะ ไม่รู้แล้วว่าใครใสซื่อใครไม่ใสซื่อแล้วกันแน่”

ทั้งสองคนพูดคุยกันเสียงดังลั่นจนทหารชิงเหย้าที่หูดีหันศีรษะออกไปเงียบ ๆ โดยเฉพาะนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งที่แทบจะก้มหัวลงไปอยู่ใต้โต๊ะ ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ยังคงเป็นนักเรียนที่ใสบริสุทธิ์กันอยู่

พวกเขาไม่เคยได้จับมือผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ ทว่าองค์หญิงสามของพวกเขากลับเริ่มขับขี่เสียแล้ว!

ทหารหญิงมองดูองค์หญิงสามด้วยความอิจฉาริษยา พวกเธอก็อยากจะมีแฟนหนุ่มสุดหล่อเหมือนกันนะ!

แล้วมองดูกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวพวกเธอสิ มีแต่พวกขี้เหร่ไม่เอาไหน ไม่อยากจะมองดูด้วยซ้ำ

เจ้าพวกน้องชายปีหนึ่งดูดีกันมาก แต่ในความสัมพันธ์แบบคู่แต่งงาน มันจะไม่ดูเหมือนวัวแก่กินหญ้าอ่อนไปหน่อยเหรอ?

ทหารหญิงทั้งหลายรู้สึกลังเล และถอนหายใจออกมาด้วยใบหน้าที่โศกเศร้า จนสหายชายทั้งหลายรู้สึกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวที่มักจะทำตัวเหมือนชายชาตรีพวกนี้? ทำไมจู่ ๆ พวกเธอถึงถอนหายใจและอุทานออกมา

ทันใดนั้นรุ่นน้องที่อยู่ชั้นปีที่หนึ่งทั้งหลายก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว และจ้องมองเหล่าทหารหญิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ดวงตาของพวกเขากวาดมองราวกับเรดาร์ แล้วถึงกับตกใจ

“คือว่า…รุ่นพี่มีอะไรหรือเปล่าครับ?” ชายหนุ่มอายุน้อยเอ่ยถามทหารหญิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยอาการสั่นเทา

“ไม่มีอะไร แค่คิดว่าพวกนายเด็กเกินไป” พวกเขาเพิ่งอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ หากพวกเธอลุกเข้าไปหานักเรียนพวกนี้ มันจะไม่ดูโหดร้ายเกินไปหน่อยเหรอ

โธ่…น่าเสียดาย พวกเธอเป็นทหารหญิงแท้ ๆ แต่จะต้องกลายเป็นหญิงโสดไปตลอดชีวิตอย่างนั้นเหรอ?

“ทำไม พวกเธอมองหาแฟนอยู่เหรอ? มองมาทางพวกเราสิ พวกเราก็ออกจะหล่อ อีกอย่างพวกเราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว เธอเองก็รู้ดีว่าฉันเหมาะสมจะเป็นสามีที่สุดแล้ว” ทหารหนุ่มใช้โอกาสนี้สารภาพรักกับทหารหญิงที่อยู่ด้านข้าง

“ไปให้พ้น” นี่คือคำตอบของทหารหญิงทั้งหลายที่ขับไล่ทหารหนุ่ม

โธ่เอ๊ย น่าเวทนานัก!

ทหารหนุ่มทั้งหลายต่างคร่ำครวญเช่นกัน

ชีวิตนี้สิ้นหวังแล้ว…!

ทั้งสองพูดคุยกันอย่างหวานชื่นอยู่นานก่อนจะปล่อยกันและกันออกจากอ้อมกอด จากนั้นจึงจับมือกันมานั่งลงที่โต๊ะเพื่อเริ่มกินเค้ก

“มากินเค้กสิคะ” สวี่หลิงอวิ๋นส่งเค้กให้โอคาซีหนึ่งก้อน “ส่วนผสมไม่สมบูรณ์นัก แต่ว่ากินได้เหมือนกันค่ะ”

โอคาซีก้มหน้าลงกินเงียบ ๆ ก่อนจะป้อนเนื้อให้เธอ “กินเยอะ ๆ หน่อยสิครับ ท่านน้ำหนักลดลงไปเยอะเลยนะ”

จะผอมบ้างไม่ได้เหรอ? เดิมทีใบหน้าของเธอจะดูกลมเล็กน้อย แต่ตอนนี้กลับเผยให้เห็นคางแหลมคม

“ก็ได้ ขอบคุณนะคะที่รัก” สวี่หลิงอวิ๋นพูดหลังจากทานอาหาร “อ้าม…! ที่รักคะ ยังเหลือเนื้ออีกชิ้นนะคะ ท่านเองก็น้ำหนักลดลงเหมือนกัน”

ทหารที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม รวมถึงนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งวางตะเกียบและชามข้าวของตัวเองลงเงียบ ๆ นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว

เมื่อเห็นเช่นนั้น สวี่หลิงอวิ๋นก็หัวเราะออกมา

“ดูสิคะว่าพวกเขาตลกกันแค่ไหน ฉันแค่แกล้งพวกเขา พวกเขาก็หนีเตลิดกันไปแล้ว”

โอคาซีจ้องมองเธอเงียบ ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก

หลังจากอาหารเย็น สวี่หลิงอวิ๋นเดินโซซัดโซเซเข้าไปในห้องกับโอคาซี ทหารทั้งหลายที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวหันศีรษะออกไปอีกทาง

ฮึ่ม! เทียบไม่ติดเลยสินะ!

พวกเขาเคยคิดว่าสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกดีได้ นั่นก็คือต่อให้ท่านพลเอกจะเก่งกาจสักแค่ไหน แต่เขาก็ยังโสดอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทว่าตอนนี้…

พวกเขาอยากจะร้องไห้!

ฮือ ๆๆๆ! ทำไมพวกผู้หญิงจะต้องมองหาคนที่ยอดเยี่ยมกันด้วย? พวกเขาไม่เคยรังเกียจหญิงสาวที่ใกล้ตัวเลย แต่หญิงสาวพวกนี้กลับรังเกียจพวกเขา!

“ท่านเหนื่อยไหมคะ” สวี่หลิงอวิ๋นกอดอีกฝ่ายไว้แน่นราวกับหมีโคอาลา ก่อนจะวางนิ้วลงบนคิ้วได้รูปที่ดูตึงเครียดเล็กน้อย

ใต้ตาที่หมองคล้ำจะได้หมดไป!

“ไม่หรอกครับ” อันที่จริงเขาไม่ได้นอนหลับมาสองวันแล้ว

แต่เมื่อได้เห็นหญิงสาวที่เขารัก เขากลับรู้สึกสุขใจแม้ไม่ได้นอน

นี่คือความสบายทางจิตใจ

“งั้นเอาแบบนี้! รีบเข้านอนเถอะค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นผลักอีกฝ่ายลงไปบนเตียง และปิดตาของเขา “อย่าแอบลืมตานะคะ”

โอคาซีสัมผัสร่างกายอรชรอันแสนบอบบางของเธอ เขาจะหลับสบายภายในอ้อมกอดของสาวงามได้อย่างไร?

“อย่าแตะต้อง!” สวี่หลิงอวิ๋นสะบัดมือปลาหมึกของเขาออก และพูดอย่างไม่พอใจว่า “นอน!”

โอคาซีถึงกับหมดคำพูดเมื่อมองดูเธอ ถ้ามือของเธอไม่ได้สัมผัสเข้ากับร่างกายของเขา บางทีเขาก็อาจจะเชื่อฟังหญิงสาวตรงหน้า

สวี่หลิงอวิ๋นสะบัดมือเธอออกจากเสื้อของอีกฝ่ายอย่างเขินอาย “เอาล่ะ เลิกแตะต้องได้แล้ว! นอนเถอะ! คราวนี้ฉันจะหลับจริง ๆ แล้วนะคะ”

ค่ำคืนที่ไร้ความฝัน…

ผู้คนและเหล่าทหารของจักรวรรดิชิงเหย้าตกอยู่ในความสงบสุขที่ยากจะหาได้ และเพลิดเพลินไปกับช่วงที่เงียบสงบ

ทว่าจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์กลับกำลังย่ำแย่

จักรวรรดิทั้งห้า รวมถึง จักรวรรดิอีโน่ จักรวรรดิคัสเซิล จักรวรรดิบาดักต่างได้รับสาส์นขอความช่วยเหลือจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์

พวกเขาดีใจมากที่อีกฝ่ายจะหยิบยื่นพืชพลังงานให้เป็นของตอบแทน

“ดี! ถือว่าเป็นข้อตกลกที่ไม่เลวเลยทีเดียว!” ข้อตกลงคุ้มค่ากว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้

นั่นคือพืชพลังงาน!

จักรวรรดิทั้งห้าส่งกองกำลังเข้าไปที่ละหนึ่งกอง แต่ในขณะเดียวกัน จักรวรรดิที่วางตัวเป็นกลางจำนวนนับไม่ถ้วนก็เต็มใจจะออกไปต่อสู้

ทว่าคำถามคือหากจักรวรรดิจำนวนมากออกไปช่วยเหลือพร้อม ๆ กัน แล้วจะต้องแบ่งพืชพลังงานกันอย่างไร?

“บอกพวกเขาไปว่า” เหมยหมี่พูดขึ้นอย่างเย็นชา “เราเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นเสมอ ใครก็ตามที่เต็มใจจะช่วยปีกพิสุทธิ์คลี่คลายการปิดล้อม ไม่เพียงแต่จะได้รับพืชพลังงานเป็นของตอบแทนเท่านั้น แต่เราจะแบ่งปันพืชพลังงานอีกอันที่สำคัญแก่พวกเราที่สุดให้คนคนนั้นด้วย”

ทุกคนที่อยู่ในห้องใต้ดินรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว และจ้องมองมาทางองค์หญิงเหมยหมี่ ค่าตอบแทนมันสูงขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือเปล่า?

“บอกพวกเขาไปว่านี่คือความจริงใจอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จะแสดงต่อทุกคน” เหมยหมี่พูด “และถ้าพวกเขาเล่นไม่ซื่ออะไร จนจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์พังพินาศลง เราจะทำลายล้างพืชพลังงานกว่าห้าสิบชนิด ไม่หลงเหลือให้ใครทั้งสิ้น”

“ฮึ…” ทุกคนจับจ้องไปที่ใบหน้าเย็นชาของเหมยหมี่ และรับรู้ได้ว่าองค์หญิงกำลังเอาจริง

ทำลายล้างทั้งหมด? นั่นคือพืชพลังงานที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์สะสมมาหนึ่งพันห้าร้อยปีเชียวนะ!