เฟิงหานชวนตกใจเล็กน้อย
เพราะเขาไม่คิดว่าจะได้ยินชื่อหลีซืออวิ๋นจากปากของเฉินฮวนฮวน
“ทำไมจู่ๆ ถึงเอ่ยถึงเธอล่ะ?” สีหน้าของเฟิงหานชวนแปลกใจเล็กน้อย
“ไม่มีอะไร” เฉินฮวนฮวนแค่อยากจะกินสเต็กให้เสร็จไวๆ แล้วกลับไปพักผ่อน
เธอรู้สึกว่าคืนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคุยเรื่องแบบนี้กับเฟิงหานชวน
“เป็นเพราะเรื่องเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วหรือ? ผมกับอาเยี่ยนไปรับเธอที่สนามบินเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงของเธอ หรือเป็นเพราะเธอโทรมาหาเราในตอนดึกที่เรากำลัง……แล้วผมก็รับสาย?
เฟิงหานชวนรู้ว่าเฉินฮวนฮวนไม่เคยเห็นหลีซืออวิ๋น เพียงสิ่งเดียวที่น่าจดจำของหลีซืออวิ๋นน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว
ชายหนุ่มถามตรงเกินไป เฉินฮวนฮวนไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี
แต่ในเมื่อเธอเอ่ยถึงชื่อของหลีซืออวิ๋นแล้ว เฟิงหานชวนถามเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นแต่ไม่ได้พูดถึงงานเลี้ยงในคืนนั้น
“ไม่ใช่ทั้งนั้น” เฉินฮวนฮวนส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร”
ในเมื่อเฟิงหานชวนต้องการปกปิด งั้นเธอก็จะไม่ถาม รวมถึงวันนี้เธอก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพูดถึงเรื่องนี้กับเฟิงหานชวน
“ฮวนฮวน คุณกำลังปิดบังอะไรผมอยู่หรือเปล่า?” เฟิงหานชวนมองผู้หญิงที่อยู่ต่อหน้าเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อยและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เฉินฮวนฮวนไม่ได้แสดงทีท่าแบบนี้กับเขา
“ฉันจะมีเรื่องอะไรปิดบังคุณ? ฉันฝึกฝนที่นี่ทุกวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จะมีเรี่ยวแรงที่ไหนไปคิดถึงเรื่องอื่น” เฉินฮวนฮวนตอบโดยไม่ลังเล
เฟิงหานชวนก็รู้สึกว่าเธอพูดถูก เขารู้ว่าเวลาฝึกที่ฐานฝึกถูกจัดเต็มและเขาก็ไม่เคยได้ยินว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเฉินฮวนฮวน
“เหนื่อยเกินไปหรือเปล่า?” เขารู้สึกว่ามีความเป็นไปได้เพียงเพราะเหตุนี้เท่านั้น
“ใช่” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าอย่างแรง
“รีบทานแล้วกลับไปพักผ่อนที่หอพัก ฉันมารบกวนคุณแล้ว” จู่ๆ เฟิงหานชวนรู้สึกผิดขึ้นมา ตอนนี้เขากำลังกินเวลาพักผ่อนของเฉินฮวนฮวน
เมื่อเห็นเฟิงหานชวนแสดงความรู้สึกผิด เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกวิตกกังวล เขาเป็นห่วงเธอหรือเปล่า?
ดูเหมือนว่า เฟิงหานชวนไม่ได้ต้องการยุติการทดลองแต่งงานกับเธอ เพราะตอนนี้เขาดีกับเธอมากจริงๆ
แต่ว่า นี่สามารถพิสูจน์อะไรได้?
พิสูจน์ให้เห็นว่าเฟิงหานชวนต้องการเหยียบเรือสองลำหรือ?
เฉินฮวนฮวนก้มศีรษะลง ทานสเต็กคำสุดท้าย เธอเคี้ยวพร้อมทั้งลุกขึ้นยืน
“เฟิงหานชวน ขอบคุณที่เอาสเต็กมาให้ฉัน แต่วันต่อๆไปคุณไม่ต้องมาอีกก็ได้ และไม่ต้องเอาอะไรมาให้ฉัน” เธอมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามและพูดอย่างจริงจัง
เฟิงหานชวนมองไปที่หญิงสาว ดวงตาทั้งคู่สลด
เฉินฮวนฮวนก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะตอบหรือไม่ ก้าวเท้าเดินตรงไปยังประตูสำนักงาน เพียงแต่ว่าเธอเดินไปแค่สองสามก้าว ก็ถูกชายหนุ่มคว้าข้อมือไว้
ชายหนุ่มดึงตัวเธออย่างแรง เฉินฮวนฮวนถูกหมุนตัวกลับเข้าสู่อ้อมกอดของชายหนุ่ม
เธอเพิ่งกลืนสเต็กในปากลงไป ฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มก็จับหัวเธอ แล้วจูบเธออย่างอบอุ่น
เดิมทีเฉินฮวนฮวนต้องการปฏิเสธ แต่เธอไม่มีแม้แต่โอกาส เธอถูกคุมตัวอยู่และไม่สามารถหลุดพ้นได้
แต่เมื่อคิดว่าริมฝีปากของเฟิงหานชวนอาจจะเคยจูบหลีซืออวิ๋น หรืออาจจะมีผู้หญิงคนอื่นอีก การต่อต้านของเฉินฮวนฮวนก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ปราศจากความโอนอ่อนผ่อนตามเช่นจูบครั้งก่อน
ดูเหมือนว่าเฟิงหานชวนก็รู้สึกเหมือนกัน เขายิ่งรู้สึกว่าวันนี้เฉินฮวนฮวนผิดปกติมากจริงๆ ไม่พบกันแค่หนึ่งสัปดาห์ เป็นไปได้ไหมที่เฉินฮวนฮวนจะเสียใจที่อยู่กับเขา?
เขาปล่อยตัวเฉินฮวนฮวนทันที ส่วนเฉินฮวนฮวนดูเหมือนจะโล่งใจ สูดอากาศบริสุทธิ์สองสามครั้ง และถอนหายใจด้วยความโล่งอก
การกระทำทั้งหมดของเธออยู่ในสายตาของเฟิงหานชวน รวมถึงวันนี้หญิงสาวคนนี้ไม่ได้เรียกเขาว่า “อาหาน” เลย ได้แต่เรียกชื่อเต็มของเขา——เฟิงหานชวนในทุกคำ
“คุณเสียใจที่แต่งงานกับผมหรือเปล่า” เขามองไปยังหญิงสาวตรงหน้าและถามด้วยน้ำเสียงที่เข้ม “ไม่ได้เจอกันเจ็ดวัน จู่ๆเธอก็เปลี่ยนไป หรือจะเป็นเพราะหนุ่มหน้ามนคนนั้น ?”
เฉินฮวนฮวนรู้ทันทีว่า เฟิงหานชวนหมายถึงเฉินเฟยหยาง เธอรู้สึกประหลาดใจและตอบอย่างเฉยเมย: “ฉันกับเขาพบกันแค่สองครั้ง โดยรวมแล้วพูดคุยกันได้ไม่กี่คำ ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ”
“ยิ่งกว่านั้น ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะเสียใจที่แต่งงานกับคุณ คุณช่วยฉันไว้มากมาย ฉันก็สมควรตอบแทนคุณด้วยตัวของฉัน”
เรื่องที่เฟิงหานชวนช่วยเธอ เธอสามารถนับออกมาได้หลายเรื่องทีเดียว ไม่ต้องพูดถึงความใจดีที่เขามีให้กับตัวเธอ เพียงเรื่องฝังศพยายของเธอ ช่วยเธอเอาสร้อยคอของแม่กลับมา และช่วยให้เธอได้บ้านของแม่กลับคืนมา…
เพียงแค่เรื่องเหล่านี้ ก็เพียงพอที่เธอจะตอบแทนบุญคุณเขาชั่วชีวิต
เพียงแค่ว่าสิ่งที่เธอรับไม่ได้คือการหลอกลวง ที่จริงเขามีผู้หญิงคนอื่น แต่แสร้งทำเป็นว่ามีเธอเป็นภรรยาเพียงคนเดียว
“งั้นเธอบอกฉันทีว่าทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้?” ตอนนี้เฟิงหานชวนสับสนจริงๆ
เขาได้สอบถามสถานการณ์จากหนีซวงและเธอบอกว่าทุกวันนี้เฉินฮวนฮวนมีแต่ฝึกซ้อมกับฝึกซ้อม เธอยังบอกอีกว่าเฉินฮวนฮวนมักจะหาเรื่องมาได้เป็นพิเศษ เธอพึ่งเข้ามาก็ได้คุณหนูเป็นเพื่อนแล้ว
คุณหนูคนนั้นชื่อหลินอวี่หยางเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของหลินซื่อกรุ๊ป เฟิงหานชวนส่งคนตามสืบและได้รู้ว่าถึงแม้หลินอวี่หยางจะเป็นคนหัวดื้อ แต่มีนิสัยเรียบง่ายตรงไปตรงมา เป็นคนที่สามารถรับมีดแทนเพื่อนได้
เคยมีเพื่อนที่ชั่วร้ายทรยศเหมือนหลิวเยว่เอ่อร์ แต่ตอนนี้เฉินฮวนฮวนมีเพื่อนอย่างหลินอวี่หยางได้ ทำให้เฟิงหานชวนยินดีกับเธอ ทั้งยังเฝ้ารอว่าเมื่อพบเฉินฮวนฮวน เธอจะกระตือรือร้นที่จะแบ่งปันข่าวดีนี้กับเขาด้วยความสุข
เขาไม่ได้เอ่ยออกมา เพียงแค่หวังว่าเฉินฮวนฮวนจะพูดออกมาเอง หวังว่าเธอจะแบ่งปันความคิดและชีวิตของเธอกับเขา
แต่ตอนนี้ ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เฟิงหานชวนคิด
“เฟิงหานชวน ทำไมคุณถึงปิดบังฉันหล่ะ? คุณไม่จำเป็นต้องปิดฉันจริงๆ ฉันแค่อยากได้ยินจากปากของคุณเอง” เฉินฮวนฮวนยื่นมือออกไปเช็ดปาก เงยหน้าขึ้น มองดูชายหนุ่มที่สูงกว่าเธอมากด้วยดวงตาค่อนข้างแดงคู่นั้น
เฟิงหานชวนตะลึงในทันที สีหน้าของเขาตกใจ
ต้องการได้ยินจากปากเขา เรื่องที่เขามีเรื่องปิดบังเธอ?
หรือว่า……ฮวนฮวนรู้เรื่องทั้งหมดของเขาแล้ว?
“ฮวนฮวน เธอรู้เรื่องได้ยังไง!” เฟิงหานชวนขมวดคิ้วถามอย่างไม่อยากเชื่อ
ทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เฉินฮวนฮวนอยู่ฝึกที่ฐานฝึก จู่ๆเธอจะรู้เรื่องบลูส์คลับในคืนนั้นได้อย่างไร?
เมื่อเห็นท่าทีของเฟิงหานชวน เฉินฮวนฮวนรู้สึกเจ็บปวดที่เบ้าตามาก จำเป็นต้องให้เธอพูดชัดเจนขนาดนี้เขาถึงจะยอมรับ!
“คุณไม่ต้องสนใจว่าฉันจะรู้ได้อย่างไร ยังไงฉันก็รู้เรื่องแล้ว” เฉินฮวนฮวนพยายามกลั้นน้ำตาไว้
เธอหายใจเข้าลึกๆ มองเฟิงหานชวนอย่างจริงจังและพูดว่า “วันนี้ฉันเหนื่อยมาก ตอนนี้ฉันอยากนอนหลับ”
“นอกจากนี้ ช่วงนี้ฝึกซ้อมหนักมาก ทุกวันหลังจากฝึกซ้อมแค่อยากกลับไปอาบน้ำและนอน ดังนั้นคุณไม่จำเป็นจริงๆที่จะต้องมาพบฉันในตอนกลางคืน
“เกี่ยวกับเรื่องนั้นถ้าคุณต้องการคุยกับฉัน เมื่อการฝึกของฉันจบลงเราจะคุยกันอีกครั้ง”