ตอนที่ 563 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (2) / ตอนที่ 564 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (3)
ตอนที่ 563 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (2)
“โอสถวิเศษพวกนั้นเป็นที่นิยมมากเลยหรือ” เฉียวฉู่ถามพลางใส่รองเท้า สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“พูดอะไรเช่นนั้นขอรับ! ภายใต้ผืนฟ้านี้คนที่สามารถปรุงโอสถดีๆ เช่นนี้ออกมาได้มีเพียงไม่กี่ตระกูลหรือสำนักเท่านั้น นับตั้งแต่ที่สำนักชิงอวิ๋นหายไปอย่างกะทันหัน โอสถที่ส่งขายในตลาดก็ลดลงฮวบฮาบ แต่นี่ก็ทำให้สำนักอื่นที่ถูกสำนักชิงอวิ๋นบดบังรัศมีและถูกกดชื่อเสียงในด้านการปรุงยามานานมีโอกาสได้พลิกตัว หลังพบว่าชะตาชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่ละคนก็มีความสุขกับชื่อเสียงและความเคารพที่พวกเขาได้รับเป็นอย่างมาก แม้แต่โรงหมอธรรมดากับร้านขายสมุนไพร ก็ยังถือโอกาสนี้ขึ้นราคาโอสถไปอีกหลายเท่าตัวเลยขอรับ” พนักงานเมื่อเห็นว่าเฉียวฉู่สนใจหัวข้อนี้จึงพูดจ้อไม่หยุด
สำนักชิงอวิ๋นอาจจะเสื่อมทรามและกระทำเรื่องชั่วช้าไว้มากมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นสำนักใหญ่ที่ผลิตเม็ดยาจำนวนมหาศาลให้แก่ผู้คนในทุกๆ เดือน นอกเหนือไปจากโอสถวิเศษที่หลอมขึ้นโดยผู้อาวุโสทั้งสิบสองคนแล้ว พวกศิษย์สายในยังหลอมยาบำรุงและยารักษาโรคออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งขายให้แก่ประชาชนทั่วทั้งแผ่นดิน
ถึงแม้ยาบำรุงและยารักษาโรคพวกนั้นจะไม่ใช่เม็ดยาที่มีคุณภาพอยู่ในขั้นสูงสุด กระนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับโอสถทั่วไปและยารักษาโรคที่วางขายในโรงหมอกับร้านขายสมุนไพรแล้ว พวกมันก็ยังมีคุณภาพสูงกว่ามากโข และชื่อเสียงของสำนักชิงอวิ๋นในฐานะสำนักอันดับหนึ่งเอง ก็ทำให้โอสถของพวกเขาเป็นที่ต้องการอย่างสูง
ดังนั้น การหายไปอย่างกะทันหันของสำนักชิงอวิ๋นจึงทำให้เกิดการขาดแคลนโอสถอย่างหนัก
ไม่เพียงแต่โอสถระดับสูงจะลดลงเป็นอย่างมากเท่านั้น กระทั่งโอสถที่ระดับต่ำกว่าก็ยังมีจำนวนลดลง
จำนวนโอสถที่ไม่เพียงพอ ทำให้ผู้คนพากันแห่ซื้อโอสถทั้งหมดที่พวกเขาจะสามารถหาซื้อได้ไปกักตุนไว้
หลายตระกูลหรือสำนักที่สามารถหลอมโอสถได้เอง ล้วนเป็นพันธมิตรหรือไม่ก็เข้าร่วมกับขุมอำนาจต่างๆ ไปนานแล้ว ดังนั้นโอสถที่ดีที่สุดที่พวกเขาหลอมได้ จึงถูกจัดส่งให้กับพันธมิตรของพวกเขาก่อนเสมอ เหลือเพียงส่วนเล็กๆ ที่เกินมาหรือมีคุณภาพต่ำจะถูกปล่อยขายให้กับคนภายนอก
นอกจากตระกูลหรือสำนักเหล่านั้นแล้ว ก็ยังมีบางคนที่มีทักษะการหลอมโอสถที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลที่แข็งแรง ก็ล้วนมีขุมอำนาจที่ทรงพลังผลักดันอยู่เบื้องหลัง ปริมาณโอสถที่พวกเขาพอจะหลอมออกมาขายได้จึงยิ่งน้อยลงไปอีก
ตราบเท่าที่บุคคลที่มีความสามารถในการหลอมโอสถที่โดดเด่นถูกค้นพบ พวกเขามักก็จะถูกดึงตัวไปอย่างรวดเร็วจากขุมอำนาจทุกประเภท
การหาซื้อโอสถวิเศษที่มีคุณภาพสูงจึงกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างยิ่ง
และจากเหตุผลนี้เอง เมื่อโรงประมูลชานหลินปล่อยข่าวออกมาว่าพวกเขามีโอสถวิเศษที่ประเมินค่าไม่ได้ออกมาให้ประมูล ผู้คนจำนวนมากจึงพากันหลั่งไหลมายังโรงประมูลชานหลินด้วยความสนอกสนใจ จนโรงประมูลที่กว้างใหญ่เริ่มมีทีท่าว่าจะไม่สามารถจุผู้คนมหาศาลที่มาเข้าร่วมการประมูลได้อีก
“ถ้าคุณชายทุกท่านสนใจโอสถวิเศษพวกนั้น ท่านก็สามารถเสนอราคาระหว่างการประมูลได้เลยนะขอรับ นายท่านได้แจ้งให้แก่พวกข้าทราบล่วงหน้าแล้วถึงสถานการณ์ของโอสถวิเศษ เนื่องจากคำขอของลูกค้า ทางโรงประมูลจึงไม่สามารถให้สิทธิ์พิเศษแก่แขกผู้มีเกียรติของเราได้ ต้องขออภัยทุกท่าน ณ ที่นี้ด้วย” พนักงานเมื่อสังเกตเห็นว่าเฉียวฉู่ดูจะสนใจโอสถวิเศษพวกนี้ เขาจึงอธิบายเป็นเชิงลุแก่โทษ
ถ้ามันเป็นสิ่งของธรรมดาทั่วไปมากกว่านี้อีกสักหน่อย เหอฉางเล่ออาจจะสามารถใช้ฐานะเจ้าของโรงประมูลชานหลินให้สิทธิพิเศษแก่พวกเขาได้ แต่ไม่ใช่สำหรับครั้งนี้ กับโอสถวิเศษที่ล้ำค่าเช่นนี้
เฉียวฉู่หัวเราะในลำคอและโบกมือไล่พนักงานให้ออกไปจากห้อง
“ถ้าข้าสนใจพวกมัน เจ้าคิดว่าข้าจำเป็นต้องแย่งประมูลด้วยหรือ แค่ขอจากน้องเสียก็ได้แล้ว” เฉียวฉู่แอบชำเลืองจวินอู๋เสียที่นั่งนิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้วยิ้มจนตาหยี
“น้องเสีย เจ้าเห็นด้วยหรือไม่”
จวินอู๋เสียเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วหันหน้าหนี คร้านจะตอบคำถามงี่เง่าไร้สาระพวกนั้น
การกระทำที่เย็นชาของจวินอู๋เสียไม่ได้ส่งผลต่อเฉียวฉู่สักนิด เขาหันไปถามฮวาเหยาต่อว่า “พี่ฮวา โอสถวิเศษที่น้องเสียฝากให้ท่านนำไปประมูลครั้งนี้มีจำนวนเท่าใดหรือ”
ฮวาเหยาตอบ “เจ็ดขวด”
“เจ็ดขวดหรือ!…อืมมม…ถ้าหนึ่งขวดขายได้หนึ่งแสนตำลึง เช่นนั้นพวกเราก็จะได้เงินมากถึงเจ็ดแสนตำลึงเลยใช่หรือไม่!” เฉียวฉู่กลืนน้ำลาย เขาประเมินราคาจากครั้งล่าสุดที่พวกเขา ‘แหกตา’ กลุ่มคนหนุ่มสาวที่หน้าประตูสำนักศึกษาเฟิงหัว
ตอนที่ 564 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (3)
“โอสถวิเศษครั้งนี้แตกต่างจากเม็ดยาเมื่อครั้งก่อน” จวินอู๋เสียพูดเสียงเรียบ
เมื่อครั้งที่หน้าประตูสำนักศึกษาเฟิงหัว นางไม่มีทางเลือก ไม่เช่นนั้นนางคงไม่หยิบเอาเม็ดยาที่สามารถเสริมปราณและบำรุงเส้นโลหิตออกมาขายหรอก
“แต่พวกมันก็ยังสามารถขายได้ราคาสูงอยู่ใช่หรือไม่ เจ็ดขวดน่าจะได้อย่างน้อยก็หนึ่งแสนตำลึงกระมัง” เฉียวฉู่ถามพร้อมกับเกาหัวอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
จวินอู๋เสียชำเลืองมองเขา “ใครบอกเจ้าว่าข้าจะขายเป็นขวด”
“หือ” เฉียวฉู่ยิ่งสับสนหนักขึ้นไปอีก
ฮวาเหยาส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ เขาทนเห็นเฉียวฉู่แสดงความโง่เขลามากกว่านี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว
“ครั้งนี้น้องเสียให้โอสถวิเศษข้ามาเจ็ดขวด แต่ละขวดบรรจุโอสถห้าเม็ด ข้ากับเหอฉางเล่อปรึกษากันแล้ว เขาเห็นด้วยว่าทุกขวดจะต้องลงประมูลแยกกันครั้งละหนึ่งเม็ด”
เฉียวฉู่พยักหน้าอย่างงงๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เขาก็ถามคำถามออกไปคำหนึ่ง
“แล้วเราจะได้เงินเยอะหรือไม่”
“…” ฮวาเหยาส่งสายตาแบบเหยียดหยามสุดๆ ไปให้เฉียวฉู่ และตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เปลืองน้ำลายไปกับเจ้าโง่หัวขี้เลื่อยนี่อีก
เฉียวฉู่ถอยกลับไปอย่างอับอายพร้อมกับถูจมูก เขารู้สึกอยากดื่มน้ำขึ้นมากะทันหัน
ผู้คนที่มาโรงประมูลมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่สามารถปิดประตูหน้าได้อีก อย่างไรก็ตามยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยพยายามเบียดเข้ามา
สถานการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ สร้างความประหลาดใจให้แก่จวินอู๋เสียที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นสองเป็นอย่างมาก
นางไม่รู้ว่ามาก่อนเลยว่าโอสถวิเศษจะเป็นที่ต้องการมากขนาดนี้ แม้ว่าการตอบสนองที่หน้าประตูของสำนักศึกษาเฟิงหัวก่อนหน้านี้จะมากเกินไปบ้าง แต่โอสถวิเศษที่นางนำออกมาขายในครั้งนั้นมีฤทธิ์ต้านทานสวรรค์มากเกินไป ซึ่งไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนบนโลกใบนี้มันจึงพอเข้าใจได้ แต่โอสถที่นางให้ฮวาเหยานำไปฝากขายที่โรงประมูลในครั้งนี้ แม้จะดีมากเช่นกัน แต่ฤทธิ์ของพวกมันเทียบไม่ได้กับโอสถที่พวกเขาเคยขายไปก่อนหน้านี้แม้เสี้ยวกระผีกเดียว
เหอฉางเล่อแค่กระจายข่าวให้คนรู้ว่าโรงประมูลชานหลินจะมีโอสถวิเศษนำออกมาประมูล เขาไม่ได้ชี้แจงถึงสรรพคุณของพวกมันเลยสักคำ แต่ก็ยังกระตุ้นให้เกิดฉากที่น่าทึ่งมากถึงขนาดนี้
จวินอู๋เสียตัดสินใจแล้วว่านางจะต้องหาเวลาพิจารณาโอสถของตัวเองให้จริงจังมากกว่านี้แล้ว
ตลอดมานางตั้งใจเพียงจะใช้โอสถของตัวเองกับจวนหลินอ๋องและคนในกองทัพรุ่ยหลินเท่านั้น จึงไม่เคยให้เวลากับโอสถของตัวเองเพิ่มอีก
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตอนนี้นางไม่สามารถกลับไปยังจวนหลินอ๋องได้ และเงินที่มีอยู่ก็ร่อยหรอลงไปทุกที แหล่งที่มาของรายได้หลังจึงเริ่มกลายเป็นปัญหาใหญ่ของนาง
นางไม่ได้คาดหวังสักนิดว่าเฉียวฉู่และคนอื่นๆ ที่ยากจนข้นแค้นมาครึ่งชีวิตจะออกไปทำงานจนร่ำรวยมั่งคั่งขึ้นมา
ดังนั้น ถ้าหากว่าเม็ดยาของนางเป็นที่นิยมขึ้นมาจริงๆ นั่นหมายความว่านางจะสามารถทำกำไรจากมัน และใช้มันเป็นแหล่งหารายได้ได้ตลอดไปใช่หรือไม่
จวินอู๋เสียตัดสินใจที่จะเฝ้าสังเกตการณ์เพิ่มเติมอีกสักนิดก่อนที่นางจะสรุปผล
ทุกคนกำลังรอคอยให้การประมูลเริ่มขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ ทั้งโรงประมูลยามนี้แน่นเอี้ยด มีคนมากมายที่ไม่มีที่นั่งจึงยืนเรียงแถวกันอยู่ตรงกำแพงด้านข้างและด้านหลัง…
ภาพตรงหน้าทำเอาเหอฉางเล่อยิ้มไม่หุบด้วยความยินดี
แม้ว่าโรงประมูลชานหลินจะมีชื่อเสียงค่อนข้างดี และมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ไม่เคยนำโอสถวิเศษออกประมูลมาก่อน เนื่องจากไม่มีสำนักที่สามารถหลอมโอสถล้ำค่าอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ตำบลที่เคยเป็นเพียงตำบลเล็กๆ เจริญขึ้นมากเนื่องจากสำนักศึกษาเฟิงหัว และผู้มาเยือนส่วนใหญ่ก็เป็นศิษย์จากสำนักศึกษาเฟิงหัวนั่นเอง
ดังเช่นในวันนี้ เมื่อกวาดสายตามองไปยังฝูงชนที่แออัดอยู่ในโรงประมูล หลายคนนั้นล้วนเป็นเหล่าศิษย์ที่สวมชุดเครื่องแบบของสำนักศึกษาเฟิงหัวทั้งสิ้น พวกเขารวมตัวกันเป็นกลุ่มและมาถึงตั้งแต่ช่วงแรกๆ เพื่อที่จะได้จับจอง นั่งอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด พิจารณาจากสีหน้ากระตือรือร้นของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคาดหวังกับการประมูลในวันนี้มากเพียงใด
เหอฉางเล่อตื่นเต้นมาก เขาไม่ได้คาดหวังว่าโอสถวิเศษเหล่านั้นจะเรียกคนให้แห่แหนมาที่โรงประมูลชานหลินมากมายขนาดนี้
นี่เป็นจำนวนคนมากที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์ของโรงประมูลชานหลินเคยต้อนรับมา!
“นายท่าน พวกเราจะเริ่มได้หรือยังขอรับ” ผู้รับผิดชอบการประมูลถามความเห็นของเหอฉางเล่อเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่จัดอาภรณ์บนร่างของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดี