บทที่ 356 กรรมตามทัน

เจียงเช่อกับจี้หมิงซูคิดไม่ถึงว่าวางแผนมานานเพียงนี้ ขึ้นเวทีมาก็หลายครั้ง บรรดาชาวบ้านเหล่านี้ปฏิบัติต่อพวกเขาราวกับเทพ ทว่าวันนี้กลับมีคนมาตั้งตนแข่ง

เนื่องจากอยู่ห่างออกไปไกล ทำให้จี้หมิงซูจำไม่ได้ว่าเด็กสองคนนั้นก็คือฝาแฝดที่มากับจี้จือฮวนในวันนั้น

เวลานี้นางกำลังตกตะลึงกับมังกรตัวจริงที่โผล่ขึ้นมาบนท้องฟ้า ขาทั้งสองข้างสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

นั่นคือมังกร นั่นคือมังกรในตำนาน

หรือว่าทุกสิ่งที่พวกเขาทำจะถูกสวรรค์ลงโทษจริง ๆ มีเทพเจ้าลงมาจริง ๆ หรือ?

“เจียงเช่อ เจียงเช่อทำเช่นไรดี เป็นเทพเจ้าจริง ๆ มังกรจริง ๆ”

เจียงเช่อมองไม่เห็น แต่ด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนกของจี้หมิงซู เขาก็เข้าใจได้ว่าตอนนี้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว มีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่จะสามารถปกป้องเขาได้

“กลับวัง รีบกลับวัง!”

เจียงเช่อต้องการจะออกไปจากที่นี่ ฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขาจับข้อมือของจี้หมิงซูเอาไว้ “เร็วเข้า สั่งให้คนเปิดทางให้พวกเรากลับวัง!”

จี้หมิงซูถูกเขาบีบข้อมือจนรู้สึกเจ็บ จึงได้เดินไปหาทหารองครักษ์ด้วยใบหน้าซีดขาว

ทว่าจะมีเรื่องง่ายเช่นนั้นที่ใดกัน เมื่ออยู่บนกองไฟแล้ว ไม่จุดไฟจะใช้ได้ที่ใดกัน!

พวกเขาเป็นเต่าในไหมาตั้งนานแล้ว ยังคิดจะจากไปง่าย ๆ นั่นช่างไร้สาระสิ้นดี ราวกับความเพ้อฝันของคนปัญญาอ่อน!

จี้หมิงซูสั่งให้ทหารองครักษ์รีบเปิดทาง แต่บรรดาทหารองครักษ์กลับไม่ยอมขยับ และไม่แม้แต่จะปรายตามองพวกเขาด้วยซ้ำ

จี้หมิงซูร้อนใจขึ้นมา “ข้าสั่งให้เจ้าคุ้มกันพวกเรากลับวังหลวง เจ้าไม่ได้ยินหรือ!?”

ทหารองครักษ์เหล่านั้นหันหน้ามา มองไปที่จี้หมิงซูพลางยิ้มเยาะ นับเป็นตัวอะไรกัน

เมื่อคืนนี้จางตงไหลไปที่ค่ายทหารองครักษ์ของพวกเขาด้วยตัวเอง บอกแค่ว่าวันนี้ให้พวกเขาเอาคนมาส่ง แต่ไม่ได้บอกว่าให้พากลับด้วย

นี่หมายความว่าอย่างไรยังไม่เข้าใจอีกหรือ ไท่ซ่างหวงทนดูต่อไปไหวอีก จึงต้องการให้พวกนักต้มตุ๋นที่พูดจาเหลวไหลทำให้คนหลงเชื่อเหล่านี้ตายน่ะสิ!

การวางท่าเมื่อครู่นั่น พวกเขายังคิดว่าเป็นฮ่องเต้ที่ไหนมาครองบัลลังก์เสียอีก

ทหารองครักษ์ไม่พอใจเจียงเช่อมานานแล้ว คนใดบ้างที่เข้ามาโดยไม่ใช้เส้นสายของตระกูล อยู่ดี ๆ ก็ถูกนักต้มตุ้นมาชี้นิ้วสั่ง ใครบ้างจะทนได้

บัดนี้ไท่ซ่างหวงมีบัญชา ให้ความเป็นธรรมกับพวกเขา ใครจะอยากช่วยสองคนนี้อีก

สิ่งที่รอพวกเจ้าอยู่ก็คือความตาย และมันก็วางอยู่ตรงหน้านี้แล้ว

จี้หมิงซูเองก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติ “เจียงเช่อ พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน!”

ใบหน้าสงบนิ่งของเจียงเช่อเผยความโมโหออกมา “เป็นไปได้อย่างไร!?”

หรือว่าฮ่องเต้เซี่ยเจินระแวงเขา? ไม่น่าใช่ ไม่มีเขา ตอนกลางคืนฮ่องเต้เซี่ยเจินแม้แต่จะหลับตาก็ยังลำบาก!

แต่ว่าเขาเป็นคนตาบอด เขาไม่สามารถแยกทิศทางได้ ทำได้เพียงจับจี้หมิงซูเอาไว้ไม่ปล่อย

ดังนั้นสิ่งแรกที่จี้หมิงซูคิดออกก็คือมองไปทางที่องค์ชายรองอยู่ แต่ว่าที่หน้าต่างบานนั้นกลับไร้ผู้คนมานานแล้ว

เซี่ยหยางในเวลานี้มือเพิ่งจะฟื้นคืนพละกำลังได้เล็กน้อย ก็ปาถ้วยชาบนโต๊ะตรงหน้าลงกับพื้น “สารเลว!”

ยังมีหน้ามาบอกว่าจะช่วยเขาอีก จี้หมิงซูเหตุใดถึงทำเรื่องโง่เง่าเช่นนี้ได้?!

อีกทั้งยังทำให้ชื่อเสียงของเขาพลอยเสื่อมเสียไปด้วย เพราะเขาเคยมีความสัมพันธ์กับจี้หมิงซู น้ำสกปรกทั้งหมดจึงสาดมาที่เขา และกลายเป็นว่าเรื่องทั้งหมดคือแผนการของเขา

หากเสด็จพ่อทรงทราบจะคิดเช่นไร คิดว่าเขาเป็นคนสั่งการเจียงเช่อหรือไม่?!

เซี่ยหยางยอมรับว่าแอบเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ แต่เรื่องเจียงเช่อเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะเขาไม่ได้ทำจริง ๆ!

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ใครจะยังสนใจอีกว่าเขาทำจริงหรือไม่ ทุกคนรู้เพียงแค่ว่าคนพวกนี้เป็นงูกับหนูที่อยู่ในรูเดียวกัน ไม่มีใครดีสักคน!

“ดูนั่น เจ้านักต้มตุ๋นสองคนนั้นคิดจะหนี! อย่าให้พวกมันหนีไปได้!”

“ท่านเทพบอกว่าพวกมันเป็นคนวางยา! ที่พวกเราป่วยก็เพราะพวกมันเป็นคนวางยา!!”

ฝูงชนเกรี้ยวกราด ทหารองครักษ์เหล่านั้นก็นั่งมองอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้บรรดาชาวบ้านปีนขึ้นไปบนแท่นพิธีเพื่อจับตัวเจียงเช่อและจี้หมิงซู สถานการณ์ตอนนี้วุ่นวายอย่างมาก

“อย่าเข้ามา! พวกเจ้าอย่าเข้ามานะ!” จี้หมิงซูกรีดร้องออกมา นางไม่รู้วรยุทธ์จึงทำได้เพียงหลบอยู่ด้านหลังของเจียงเช่อ

เจียงเช่อแม้จะมีวรยุทธ์ แต่การพาจี้หมิงซูที่เอาแต่เกาะตนเองไม่ยอมปล่อยและส่งเสียงกรีดร้องข้างหูรบกวนการฟังของเขาตลอดเวลา ทำให้เปลืองแรงในการรับมือเป็นอย่างมาก

“จับเจ้านักต้มตุ๋นสองคนนั้นแล้วลากลงมา!!”

ผู้คนวิ่งขึ้นไปบนแท่นพิธีมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเข้าใกล้พวกเขา

อดีตยิ่งศรัทธามากเท่าใด การเอาคืนในตอนนี้ก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น บางคนกระชากคอเสื้อตัวเองและดึงยันต์ที่ขอพรทุกเช้าค่ำ อีกทั้งยังจ่ายเงินจำนวมากเพื่อซื้อมาทิ้งลงกับพื้น จากนั้นก็ใช้เท้าบดขยี้อย่างแรงไปสองที

“คืนเงินข้ามา! เจ้านักต้มตุ๋น!!”

น้ำลายที่กระเซ็นออกมาแทบจะทำให้จี้หมิงซูจมอยู่ในนั้นได้ เจียงเช่ออย่างไรเสียก็มองไม่เห็น สองหมัดยากจะสู้สี่มือ*ได้ มีคนกระชากชุดคลุมของเขา เดิมเสื้อผ้าแขนกว้างก็เคลื่อนไหวไม่สะดวกอยู่แล้ว ไปทางใดก็ถูกฉุดกระชาก กวานหยกบนศีรษะของเขาถูกคนชิงไป ทำให้ผมสีดำของเขาสยายออก และยังถูกคนดึงอย่างแรง เจียงเช่อถูกกระชากผมจนรู้สึกเจ็บ จึงแค้นใจและใช้มีดสั้นที่ตนเองพกติดตัวมาแทงสวนออกไป

* สองหมัดยากจะสู้สี่มือ (双拳难敌四手) หมายถึง คนคนเดียวยากจะสู้กับคนหลายคนได้

“โอ๊ย! จะฆ่าคนแล้ว! พวกมันคิดจะฆ่าคนด้วย!!”

“มีเลือดด้วย นักต้มตุ๋นจะฆ่าคนแล้ว!”

ผู้คนต่างกรูเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ พุ่งเข้าไปหาพวกเขา หน้ากากบนใบหน้าของจี้หมิงซูก็ถูกคนกระชากออกเช่นกัน ใบหน้าที่เดิมทากาวปลาเอาไว้กลับน่ากลัวมากขึ้นไปอีก เนื้อที่นูนขึ้นถูกกระชากจนหลุดออกมา จี้หมิงซูรู้สึกว่าใบหน้าปวดแสบปวดร้อนอย่างมาก

ผู้คนที่มุงดูอยู่ต่างถอยหลังไปสองก้าวด้วยความตกใจ

“ผี! น่ากลัวยิ่งนัก!”

“อย่ามองข้า! พวกเจ้าห้ามมองข้า! ข้าสั่งให้พวกเจ้าหลับตา!” จี้หมิงซูใช้มือปิดหน้า พลางตะโกนใส่ฝูงชนด้วยความอับอายและไม่พอใจ

“กลัวอะไร นางก็แค่คนเลว นั่นคือบทลงโทษจากเทพยดา!”

“ยังอยากจะเป็นฮองเฮาอะไรกัน ไร้สาระราวกับเรื่องเพ้อฝันของคนปัญญาอ่อน!”

จี้หมิงซูโมโหจนอยากจะฆ่าพวกเขาทิ้ง เจียงเช่อปกป้องนางเอาไว้ในอ้อมกอด หมัดของทุกคนจึงทุบลงที่หลังของเขา แต่เจียงเช่อกลับไม่คิดจะหลบ

“เจียงเช่อ เจียงเช่อข้าไม่อยากเป็นเช่นนี้! เจียงเช่อข้าจะทำเช่นไรดี!” จี้หมิงซูร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในอ้อมแขนของเขา นางกลับชาติมาเกิด มันไม่ควรเป็นเช่นนี้นี่นา!

เหตุใดนางถึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่นางกำจัดทุกสิ่งที่สามารถคุกคามนางได้แล้วนี่นา!

เหตุใดยังสู้ชาติที่แล้วไม่ได้ด้วยซ้ำ!?

เจียงเช่อถูกคนทุบตีจนกระอักเลือดออกมา “ข้าขอถามเจ้าหนึ่งประโยค เจ้าตอบข้ามาตามตรง”

เขาอยากจะถามนาง ว่าที่นางทำดีกับเขาเพื่อใช้ประโยชน์จากเขาใช่หรือไม่?

แต่จี้หมิงซูฟังไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น นางจมอยู่กับความจริงที่ตัวเองล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง มือที่ยื่นมาทางนางเหล่านั้นช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก ราวกับเห็นคนที่ถูกนางฆ่าเหล่านั้นกางกรงเล็บดุร้ายและกระโจนใส่นาง

“ไสหัวไป ไสหัวไปให้หมด! ข้าคือฮองเฮา ข้าคือคนที่จะได้เป็นฮองเฮา ชาวบ้านชั้นต่ำอย่างพวกเจ้า ตายเพื่อข้าก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว!”

เจียงเช่อได้ยินคำพูดเหลวไหลของนางในที่สุดก็ปล่อยมือ เขาปล่อยมือเพียงครู่เดียวก็ถูกชาวบ้านลากออกไป จนกระทั่งจี้หมิงซูได้สติอีกครั้งจึงตระหนักได้ว่าคนที่ปกป้องนางเป็นคนสุดท้าย ก็ถูกนางทำหล่นหายไปเสียแล้ว

“เจียงเช่อ เจียงเช่อเจ้ากลับมานะ!!”

เจ้าไปแล้วใครจะปกป้องข้า

“เลิกตีได้แล้ว เลิกตีข้าได้แล้ว!” จี้หมิงซูคำรามขึ้นมา และหลบหลีกอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับไม่สามารถหลบความโกรธแค้นของชาวบ้านพ้น

“เจ้ารู้จักเจ็บด้วยหรือ!? ตอนที่เจ้าเหยียบย่ำพวกเรา เคยคิดหรือไม่ว่าพวกเราก็มีหนึ่งชีวิตเช่นกัน!”

“เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองถึงกับวางยาพิษพวกเรา แล้วก็แสร้งเป็นคนดีเพื่อให้พวกเราซื้อน้ำมนต์ของเจ้า! เจ้าช่างมีจิตใจที่เลวทรามยิ่งนัก คนอย่างเจ้าสมควรตายและตกนรกไปซะ!”

.