เธอตบเขา: “คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ! หยานชิงเจ๋อ คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันไม่ต้องการที่จะเป็นแบบนี้! ฉันไม่ต้องการทำแบบนี้กับคุณ!”
“ไม่อยากทำแบบนี้กับผมอย่างนั้นเหรอ?” ดวงตาของหยานชิงเจ๋อแดงก่ำ: “อยากทำแบบนี้กับคนอื่นใช่ไหม!”
เขารู้สึกว่าเขาแทบจะเป็นลมด้วยความโกรธ: “ในเมื่อคุณชอบลั่วฝานหวาขนาดนั้น ทำไมตอนนั้นคุณถึงต้องไปห้องของผมด้วย! ทำไมต้องสัญญากับคุณแม่ของผมว่าคุณจะแต่งงานกับผม?!”
เมื่อเขาถามประโยคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาถามเธอว่าทำไมเธอถึงชอบลั่วฝานหวา หยานชิงเจ๋อรู้สึกเพียงว่าความเจ็บปวดในใจของเขารุนแรงมากยิ่งขึ้น
เขาแทบอยากจะทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อถามเธอว่า ลั่วฝานหวามีดีอะไร พวกเขาแต่งงานกันแล้ว และเขาได้ตัดสินใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเธอแล้ว แต่เธอก็ยังอยากอยู่กับคนอื่น!
เหอะ เหอะ ชอบลั่วฝานหวา? ซูสือจิ่นมองหยานชิงเจ๋อผ่านม่านน้ำตา
เธอชอบลั่วฝานหวาตั้งแต่เมื่อไหร่? ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เธอชอบใครซึ่งเขาไม่เคยรู้อะไรเลย!
เป็นใครกันที่รออยู่ที่บ้านตลอดเมื่อเขาเดินทางไปทำธุรกิจต่างจังหวัด? ใครกันที่ทำอาหารเต็มโต๊ะรอเขากลับมาในวันนั้น?
แล้วเป็นใครที่ในคืนนั้น นอนพิงแนบอกและฟังเสียงหัวใจของเขา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับเขาคนนั้นคือใคร?
เมื่อซูสือจิ่นคิดที่นี่ เธอรู้สึกเศร้าในใจ
ทันใดนั้นเธอก็ไม่อยากเถียงอีก ไม่ต้องการจะพิสูจน์อะไรอีกแล้ว
เธอยังคงหลั่งน้ำตา เม้มริมฝีปากแน่นและไม่พูดไม่จา
เมื่อหยานชิงเจ๋อเห็นสภาพของเธอเช่นนี้ก็รู้สึกสับสนมาก
ในเวลานี้ทั้ง ๆที่เขาอยู่ใกล้เธอมากขนาดนี้ แต่เขากลับรู้สึกว่าเธออยู่ไกลจากเขาเหลือเกิน
เป็นผลทำให้เขายิ่งต้องการเธอมาก และโกรธจนราวกับว่าเขารอไม่ไหวที่จะกัดกินเธอในทันที
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน เธอก็ไม่ตอบสนองใด ๆ นอกจากน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุด
ในใจของหยานชิงเจ๋อรู้สึกผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเขากำลังจะพูดอะไรอยู่นั้น เขาก็เห็นว่าเศษกระจกที่ตกอยู่บนพื้นมีคราบเลือดติดอยู่
รูม่านตาของเขาหดเกร็งและเกิดคำถามขึ้นในใจ
เขาใช้แรงเกินไปจนทำให้เธอบาดเจ็บหรือเปล่า?
ทันใดนั้น ดูเหมือนว่ามีเข็มแทงเข้าไปในหัวใจของเขา หยานชิงเจ๋อรีบคว้าตัวของซูสือจิ่นอุ้มขึ้นมาทันที แล้วเดินไปที่ห้องนอนอย่างรวดเร็ว
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาวางเธอลงบนเตียงและสำรวจมองเธออย่างละเอียด แต่กลับไม่เห็นรอยบาดแผลใด ๆ เลย
ด้วยความสงสัยบางอย่างในใจของเขา เขาก็สำรวจดูซูสือจิ่นอีกรอบ แต่เขากลับไม่พบอะไรเลย
บางที อาจเป็นเพราะว่าเขาดูผิด?
หยานชิงเจ๋อรู้สึกโล่งใจ และทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่า เมื่อกี้นี้เขามีท่าทางตื่นตระหนกและเป็นห่วงเป็นใยเธอขนาดนั้น!
ทั้ง ๆที่รู้ว่าเธอไปพัวพันกับชายอื่น แต่เขาก็ยังกังวลว่าจะทำร้ายเธอ!
ความไม่พอใจผุดขึ้นในหัวใจของเขา ดังนั้นเขาจึงเอนตัวเข้าไปใกล้เธอ
ในตอนนี้ เธอเป็นเหมือนตุ๊กตาหุ่นกระบอก และเธอไม่มีการตอบสนองเขาเลย
ไม่ว่าเขาจะแข็งกระด้างต่อเธอหรืออ่อนโยนต่อเธอ เธอก็ดูเหมือนไม่รู้สึกรู้สายังไงอย่างงั้นแหละ ทำให้อารมณ์โกรธและความรู้สึกขุ่นเคืองใจไปจนถึงความรู้สึกไม่พอใจที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
เขาใช้แรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ได้น้ำยินเสียงเจ็บปวดของซูสือจิ่นออกมาเบา ๆ เขาจับคางของเธอแล้วพูดเน้นทีละคำว่า: “คุณรู้ไหมว่าผมเจ็บปวดแค่ไหน?!”
แม้ว่าโดยปกติแล้วเขาจะดูเย็นชาและเฉยเมย และดูเหมือนว่าจะเป็นคนพูดง่าย แต่อย่างไรก็ตาม มีเพียงคนใกล้ชิดของเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเขาไม่เคยยอมให้ผู้อื่นแตะต้องของของเขาอย่างเด็ดขาด
เธอแต่งงานกับเขาแล้ว เธอเป็นผู้หญิงของเขา เขาจะยอมให้ใครมาแตะต้องเธอได้อย่างไรกัน? !
หยานชิงเจ๋อกอดซูสือจิ่นแน่น รู้สึกว่าการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเท่านั้นที่สามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ในขณะนี้
เขายังคงปู้ยี่ปู้ยำร่างกายของเธอไม่หยุด ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เขารู้สึกเหนื่อยล้า
และในที่สุด เขาก็ปล่อยร่างกายของเธออย่างควบคุมไม่ได้ ร่างกายของเขากระตุกและหายใจอย่างแรง
ดูเหมือนพวกเขาจะลืมป้องกัน……
เมื่อหยานชิงเจ๋อร่วมรักเสร็จ เขาก็ตระหนักถึงสิ่งนี้ขึ้นมาได้
ทันใดนั้น เขาก็นึกอะไรบางสิ่งขึ้นมาได้ และร่างกายของเขาก็สั่นเทาในทันที!
เมื่อคืนนี้เธออยู่กับลั่วฝานหวาทั้งคืน ถ้าเช่นนั้นแล้ว ตอนที่พวกเขาอยู่ในโรงแรมด้วยกัน มันจะเป็นเช่นนี้เหมือนกันหรือเปล่า? !
เขารู้สึกทรมานราวกับว่าเหมือนถูกเข็มฝังไปทั้งตัว และทุกลมหายใจก็รู้สึกเจ็บปวด เขามองดูเธอ: “อย่าลืมซื้อยานะ!”
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการเธอกับลูก แต่ถ้าเธอท้อง ลูกในท้องเกิดไม่ใช่ลูกของเขาล่ะ และเมื่อคืนนี้เธออยู่กับลั่วฝานหวาทั้งคืน ถ้าเช่นนั้น เขาคงจะเสียสติจนฆ่าพวกเขาตายแน่ ๆ !
หลังจากที่หยานชิงเจ๋อพูดจบ เขากลัวว่าเมื่อตัวเองจะนึกถึงเรื่องเมื่อคืน และกลัวว่าตัวเองจะทำอะไรลงไปโดยขาดสติหุนหันพลันแล่น เขาจึงรีบก้าวออกจากห้องนอนทันที
เขาเดินไปที่หน้าต่างและเก็บกางเกงของเขาขึ้นมาจากนั้นเดินไปที่ห้องรับแขก และไปเปลี่ยนชุดหยิบกุญแจที่ซูสือจิ่นเพิ่งเปลี่ยนมาใหม่บนโต๊ะ แล้วออกจากห้องอพาร์ตเมนต์ทันที
ในห้องซูสือจิ่นได้ยินเสียงปิดประตู และร่างกายของเธอซึ่งไม่เคลื่อนไหวเลยก็สั่นไปทั้งตัวทันที
เมื่อกี้นี้เขาบอกให้เธอกินยาคุมเหรอ……
ดังนั้นเขาไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ใดๆเกี่ยวข้องกับเธออย่างนั้นเหรอ!
การที่พวกเขาแต่งงานกันเป็นเพราะถูกที่บ้านบังคับ เขาแต่งงานโดยที่เขาไม่เต็มใจอย่างนั้นเหรอ
หลังจากร่วมรักกับเธอแล้ว เขากลัวว่าเธอจะตั้งครรภ์อย่างนั้นเหรอ
ถึงตอนนี้ เป็นเพราะเขาไม่สามารถควบคุมมันได้ เลยต้องการให้เธอกินยา……
ซูสือจิ่นกำลังนอนอยู่บนเตียง เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัวราวกับว่าเธอถูกทับด้วยเหล็ก
เธอจำได้ว่าเธอต้องการกลับไปเป็นซูสือจิ่นคนเดิม แต่เธอกลับพบว่าเธอไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิด
เมื่อเวลาค่อย ๆผ่านไป ซูสือจิ่นไม่ได้ทานแม้แต่อาหารเช้าเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอจึงหมดเรี่ยวแรง และตอนนี้เธอหิวจนตาลายแล้ว
เพราะเธอรู้สึกท้องไส้ไม่ค่อยดี เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง
ทันทีที่เธอลุกขึ้น เธอรู้สึกมีอะไรอุ่น ๆไหลออกมาจากด้านล่าง
ใบหน้าของเธอซีดเซียว ขาของเธอยังบวมรุนแรง แต่เธอก็พยายามฝืนตัวเองไปอาบน้ำ
เมื่อเธอออกมาจากห้องน้ำ เธอรู้สึกหิวมาก เธอเอาเสื้อมาคลุมจากนั้นเดินไปหาขนมปังที่ห้องครัว พออุ่นเสร็จแล้วเธอก็ทานพร้อมกับน้ำต้มสุก
หลังจากทำเช่นนี้แล้ว อยู่ ๆเวลานี้เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นจะทำอะไรได้อีก ดังนั้นจึงเดินไปที่หน้าต่างอีกครั้งด้วยความงุนงง
เมื่อกี้นี้ เขาต้องการเธออย่างคนบ้าคลั่ง และในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีร่องรอยอะไรหลงเหลืออยู่ที่นั่นเลย
ซูสือจิ่นเห็นรอยเลือดแดงใต้หน้าต่าง และรู้สึกได้ว่าฝ่ามือของเธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
เธอมองดูรอยแผลบนฝ่ามือที่ถูกตัวเองข่วนในขณะที่อาบน้ำ แผลโดนน้ำจนเปื่อยและในเวลานี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว แผลนั้นมันไม่ลึกจึงดูไม่ออกว่าได้รับบาดเจ็บ
เธอค่อย ๆฉีกยิ้ม
บาดแผลที่แท้จริงนั้นมองไม่เห็นจริง ๆ
บาดแผลดังกล่าว มักจะสึกกร่อนจากส่วนลึกโดยไม่ได้ตั้งใจ และค่อย ๆ เน่าเปื่อยทีละน้อย พอรู้ตัวมันก็เหมือนรังปลวกอาศัยอยู่ ซึ่งได้กลายเป็นหนองไปแล้ว
ซูสือจิ่นมองดูหิมะด้านล่าง และนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น แน่นอนว่าความหวานเป็นแค่ช่วงเวลาระยะสั้น ระหว่างเธอกับเขาก็เหมือนของขวัญจากเอลฟ์ หลังจากหิมะตกครั้งที่สอง มันก็ไม่มีอีกแล้ว……
ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง และซูสือจิ่นนั่งอยู่ในห้องใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เธอต้องการอธิบายให้เขาฟัง แต่ในก้นบึ้งของหัวใจเธอก็โกรธเช่นกัน
เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นเพราะเธอตกหลุมรักเขาคนนั้นก่อน ดังนั้นเธอจึงต้องประนีประนอมอย่างไม่มีเงื่อนไขตลอดเวลาอย่างนั้นเหรอ?
แต่ถ้าไม่มีการประนีประนอม ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป?
เขาจะทอดทิ้งเธอและจากไปหรือไม่?
ซูสือจิ่นรู้สึกเหมือนความคิดเธอกำลังโต้เถียงกันอยู่ ในที่สุดเมื่อเธอทนไม่ไหว เธอรีบหยิบกุญแจพร้อมกระเป๋าเงิน แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เขาต้องการให้เธอซื้อยา เธอลืมมันไปได้อย่างไร?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอก็หัวเราะเยาะตัวเองและรีบไปร้านขายยาทันที
เมื่อพนักงานเห็นเธอ และพบว่าริมฝีปากของเธอบวมจึงพูดกับเธอว่า: “คุณผู้หญิง ต้องการซื้อยาแก้ร้อนในหรือเปล่าคะ?”
ซูสือจิ่นส่ายหัวและพูดกับพนักงานโดยไม่เขินอายว่า: “ไม่ ฉันซื้อยาคุมกำเนิดค่ะ”
พนักงานชะงักไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนพนักงานไม่คิดว่าเธอจะใจกล้าขนาดนี้ เธอจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณซื้อยาคุมกินเป็นแผงหรือยาคุมฉุกเฉินคะ?”
“ยาคุมฉุกเฉินค่ะ” ซูสือจิ่นกล่าวว่า “ได้ผลก็พอค่ะ”
“ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ มีสองยี่ห้อ คุณจะเลือกยี่ห้อไหนดีคะ” พนักงานถาม
“ซื้อทั้งหมดเลยค่ะ!” ในขณะที่พูดอยู่นั้นซูสือจิ่นก็หยิบทั้งสองกล่องขึ้นมาแล้วไปจ่ายเงิน และแวะซื้อน้ำขวดหนึ่งจากซุปเปอร์มาร์เก็ตข้าง ๆ ราวกับว่าเธอกำลังจะพิสูจน์ให้ใครเห็นอย่างงั้นแหละ เธอเปิดกล่องขึ้นมาหยิบยาแล้วกลืนลงไปทันที
หลังจากทำเรื่องนี้เสร็จแล้ว เธอถึงกับอยากจะถ่ายรูปและส่งไปให้หยานชิงเจ๋อดู
อย่างไรก็ตาม เธอเพิ่งจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็รีบเก็บกลับไปที่เดิมทันที
ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?
ใจของเขาไม่อยู่แล้ว เธอจะทำหรือไม่ทำ มันก็ไม่แตกต่างกัน
ซูสือจิ่นหัวเราะ เธออยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตจนด้านนอกฟ้ามืดแล้ว เธอค่อยกลับบ้าน
ตั้งแต่หยานชิงเจ๋อขับรถออกจากอพาร์ตเมนต์ไปก็ขับรถด้วยความเร็ว
เขาไม่รู้ว่าตัวเองต้องการไปที่ไหน ดังนั้นเขาจึงขับรถวนอยู่ในเมืองอย่างไร้จุดหมาย
แต่วันนี้ทางด่วนรถกลับไม่ติดเลยสักนิด และเมื่อเขาขับรถวนไปถึงรอบที่ 6 รถก็จอดกะทันหัน
เขามองลงไปที่แดชบอร์ดและพึ่งรู้ตัวว่าน้ำมันหมดแล้ว ! ก่อนหน้านี้ระบบควบคุมได้แจ้งเตือนหรือยัง? เขาเหมือนจำอะไรไม่ได้เลย
ทันใดนั้นก็ไม่สามารถขับรถต่อไปได้ จึงทำให้เขาอารมณ์เสียเป็นพิเศษ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเรียกการช่วยเหลือฉุกเฉิน จากนั้นดึงประตูรถแล้วเดินลงไป
ในขณะนี้ เขาบังเอิญอยู่บนสะพานลอย เนื่องจากที่ที่เขาอยู่นั้นค่อนข้างสูง ดังนั้นเขาจึงมองเห็นทัศนียภาพทั้งหมดรอบตัวเขา
ข้างนอกอากาศหนาวมาก และเขาสวมเพียงชุดสูทเท่านั้น ลมหนาวพัดเข้ามาและลมนั้นทะลุผ่านเข้าไปในร่างกายของเขาทันที
อย่างไรก็ตาม หยานชิงเจ๋อดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลยซะงั้น เพียงแค่ยืนอยู่บนสะพาน ปล่อยให้ลมพัดผมของเขาจนยุ่งเหยิง
ดูเหมือนเขาจะคิดมาก และดูเหมือนว่าสมองของเขาจะว่างเปล่า
เขาไม่ต้องการที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ แต่เมื่อใดก็ตามที่เขานึกถึงซูสือจิ่นและลั่วฝานหวาอยู่ด้วยกัน เขารู้สึกว่าถ้าหากฆ่าเขาให้ตายยังทรมานน้อยกว่าเสียอีก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว หยานชิงเจ๋อรู้สึกหนาวจนแข็งทื่อ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางถนนก็เข้ามาให้การช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่ช่วยเขาเติมน้ำมันจนเต็ม แล้วทดสอบรถให้เขาสักครู่จากนั้นก็จากไป
หยานชิงเจ๋อกลับมานั่งในรถอีกครั้ง แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นควรไปที่ไหน
อย่างไรก็ตาม เขาแค่รู้ว่าตัวเองนั้นไม่สามารถกลับไปได้ และถ้าเขากลับบ้าน เขาก็ไม่รู้ว่าระหว่างเขาและซูสือจิ่นจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นขนาดไหน
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถสูญเสียไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
แม้ว่าความสัมพันธ์ในขณะนี้กำลังจะพังทลาย