ตอนนี้หลินอวี่หยางโมโหมาก
เธอไม่คิดว่าเฉินฮวนฮวนจะเคยถูกแฟนเก่าทำร้าย แม้จะเป็นเพราะแฟนเก่า หลังจากนี้ไปเธอก็ไม่อยากมีความรักแล้ว
นั่นแสดงให้เห็นว่าเฉินฮวนฮวนถูกผู้ชายคนนั้นทำร้ายมากแค่ไหน!
นี่เป็นเรื่องร้ายแรงมากเรื่องหนึ่ง!
“หยางหยาง เธออย่าตกใจเลย…” เฉินฮวนฮวนเพียงอยากล้มเลิกความคิดที่หลินอวี่หยางจะจับคู่เธอกับเฉินเฟยหยาง แต่คิดไม่ถึงว่าหลินอวี่หยางจะโมโหขึ้นมาเพราะเรื่องนี้
ทำไมต้องเอาเจ้าหมอนั่นมารุมทำร้ายด้วย
ใบหน้าของเฟิงหานชวนผุดขึ้นมาในหัวของเฉินฮวนฮวน ตามมาด้วยร่างกายกำยำสูงใหญ่ของเขา ภาพลักษณ์เช่นนี้ของเขา ดูเหมือนจะไม่ค่อยใกล้เคียงกับเจ้าหมอนั่นเลยใช่ไหม
พูดตามตรงเลยว่า เฟิงหานชวนเป็นผู้ชายเฮงซวย!
แม้ว่าเฟิงหานชวนจะช่วยเหลือเธอมากมาย แต่ผู้ชายที่เหยียบเรือสองแคมอย่างเฟิงหานชวน ทั้งห่วยแตกทั้งน่ารังเกียจจริงๆ ต่างอะไรกับเยี่ยจิ่งเฉิน!
“ฮวนฮวน ฉันจะไม่ตกใจได้ยังไง นึกถึงก่อนหน้านี้เราไม่รู้จักกัน ฉันไม่สามารถอยู่ข้างๆ เธอปกป้องเธอได้ แต่ตอนนี้ฉันอยู่ข้างเธอแล้ว ความคับข้องใจที่เธอได้รับ ฉันจะช่วยเธอเอาคืน!” หลินอวี่หยางตบหน้าอกของตัวเอง และกล่าวอย่างผึ่งผาย ดูเหมือนว่ามีคุณธรรมน้ำมิตรภาพเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้น ขอบตาของเฉินฮวนฮวนร้อนผ่าว ในใจรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก เสียงของเธอก็สะอึกสะอื้นขึ้นมา “หยางหยาง…”
เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าตัวเองและหลินอวี่หยางหากไม่ทะเลาะกันก็คงไม่รู้จักกันจริงๆ ในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งสัปดาห์ ราวกับพวกเธอเป็นเพื่อนกันมานานหลายปีแล้ว
“ฮวนฮวน อย่าทุกข์ใจเลยนะ รอฉันออกไปช่วยเธอแก้แค้น ฉันจะพาเธอไปอธิบายกับคุณน้าหวังให้ชัดเจนก่อน” ขณะที่พูด หลินอวี่หยางก็จูงมือเฉินฮวนฮวน และพาเธอเดินลงไปชั้นล่าง
เมื่อทั้งสองคนมาถึงฝ่ายหอพัก คุณน้าหวังกำลังจะเข้านอน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
เธอสวมชุดนอนเดินออกมาเปิดประตู เมื่อเห็นว่าตรงหน้าเป็นหลินอวี่หยาง เธอก็โบกมือไปมา และกล่าวว่า “ดึกมากแล้ว ใช้โทรศัพท์ไม่ได้แล้ว รีบกลับไปนอนเถอะ”
“คุณน้าหวัง ฉันไม่ได้มาใช้โทรศัพท์ค่ะ ฉันพาเฉินฮวนฮวนมาแก้ข่าว” หลินอวี่หยางกล่าว พร้อมกับดันเฉินฮวนฮนมายืนตรงหน้าคุณน้าหวัง
เฉินฮวนฮวนโค้งคำนับให้คุณน้าหวังหนึ่งครั้ง และกล่าวอธิบายว่า “คุณน้าหวัง ฉันกับเฉินเฟยหยางไม่ใช่อย่างที่คุณน้าคิดนะคะ ตอนกลางคืนอาจารย์หนีให้ฉัน…”
เฉินฮวนฮวนเล่าต้นสายปลายเหตุให้คุณน้าหวังฟังอย่างจริงจัง
“ไอโยว ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันคิดว่าเธอกับเฉินเฟยหยาง…ฉันคิดมากเอง เธอก็อย่าถือสาเลยนะ หลิวเฟยเฟยมาคุยกับฉัน ฉันก็พูดไปเรื่อยไม่กี่ประโยคหรอก” คุณน้าหวังโบกมือไปมาด้วยความขัดเขินเล็กน้อย
แม้ว่าเธอจะยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทว่าเธอก็อายุมากแล้ว เธอยังซุบซิบนินทาเรื่องของเด็กสาว และยังถูกเด็กสาวมาอธิบายถึงหน้าประตู ความจริงแล้วเธอเองก็รู้สึกขัดเขินทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรค่ะคุณน้าหวัง ฉันกลัวคุณน้าจะเข้าใจผิด ฉันก็เลยมาอธิบายให้คุณน้าฟังโดยเฉพาะ” เฉินฮวนฮวนไม่ได้ตั้งใจจะมากล่าวโทษคุณน้าหวังอยู่แล้ว เธอเพียงต้องการมาบอกความจริงเท่านั้น
ไม่เช่นนั้น เมื่อข่าวอื้อฉาวแพร่กระจายมากขึ้นเรื่อยๆ จะอธิบายได้ยาก ข่าวลือที่พูดต่อๆ กันจนคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเช่นนี้ เธอเคยมีประสบการณ์ด้วยตัวเองมาแล้ว
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจผิดเอง ฉันจะไม่พูดส่งเดชอีก พวกเธอรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” คุณน้าหวังโบกมือไปมา และรีบปิดประตู
เฉินฮวนฮวนถอนหายใจด้วยความโล่งใจที่ยุติต้นตอข่าวลือได้ทันเวลา
เรื่องของเธอและเฉินเฟยหยางในคืนนี้ มีเพียงคุณน้าหวังและหลิวเฟยเฟยเท่านั้นที่รู้ เธอสามารถห้ามปรามคุณน้าหวังได้แล้ว และจุดอ่อนของหลิวเฟยเฟยก็อยู่ในมือ เธอไม่เอาไปพูดส่งเดชอย่างแน่นอน
ดังนั้น เรื่องนี้ถือว่าจบลงแล้ว หลังจากนี้เธอระมัดระวังตัวและรักษาระยะห่างกับเฉินเฟยหยางก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว
“หยางหยาง พวกเรากลับไปนอนกันเถอะ” ตอนนี้เฉินฮวนฮวนรู้สึกผ่อนคลายลงไม่น้อย เธอหันกลับมาบอกหลินอวี่หยาง
หลินอวี่หยางพยักหน้า ทั้งสองคนเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองด้วยกัน
เมื่อมาถึงปากทางของบันไดชั้นสอง ทั้งสองคนก็แยกกัน เพราะห้องพักของหลินอวี่หยางเป็นห้องแรกที่อยู่ริมสุดของระเบียงทางเดิน และห้องพักของเฉินฮวนฮวนเป็นห้องสุดท้ายที่อยู่ริมสุดของระเบียงทางเดิน
“ฮวนฮวน ฉันไปส่งเธอ” หลินอวี่หยางบอกอย่างกระตือรือร้น
“ไม่ต้องหรอก เธอรีบกลับห้องพักตัวเองเถอะ กลางวันเหนื่อยมามากแล้ว กลางคืนก็รีบเข้านอนเร็วหน่อย” ในใจเฉินฮวนฮวนรู้สึกขอบคุณหลินอวี่หยางเป็นอย่างมาก เธอสัมผัสได้ถึงมิตรภาพอันอบอุ่น
“ฮวนฮวน นี่เธอรักฉันแล้วใช่ไหม” หลินอวี่หยางหัวเราะแหะๆ และกล่าวว่า “งั้นฉันไม่แซวเธอแล้ว บ๊ายบาย!”
“อือ” เฉินฮวนฮวนพยักหน้า และโบกมือให้หลินอวี่หยาง ก่อนจะเดินไปที่ห้องพักของตัวเอง
ทว่า เธอเดินไปได้เพียงสองก้าว เหมือนว่าเธอนึกอะไรบางอย่างได้ เธอหันกลับมาเรียกหลินอวี่หยางไว้ “หยางหยาง วันนี้ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ตอนกลางคืนฉันมีเรื่องจะบอกเธอเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไรเหรอ ฮวนฮวน เธอมีลับลมคมในกับฉันนะ พูดตอนนี้เลยสิ!” หลินอวี่หยางราวกับถูกยั่วเย้ากระตุ้นความอยากรู้ เธอพูดรบเร้าเฉินฮวนฮวน
“เรื่องนี้ต้องคุยยาว วันนี้ฉันง่วงมากแล้ว พรุ่งนี้ฉันเล่าให้เธอฟังแน่นอน” เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเปลือกตาของตัวเองกำลังจะปิดลง เธอไม่มีเรี่ยวเเรงจะเล่าเรื่องอะไรแล้วจริงๆ
“งั้นก็ได้ ฉันจะรอคืนพรุ่งนี้ ตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงคืนพรุ่งนี้เร็วๆ” ใบหน้าของหลินอวี่หยางดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็กลับห้องพักของตัวเอง เฉินฮวนฮวนเอนตัวนอนลงบนเตียง เธอกำลังคิดจะบอกหลินอวี่หยางเรื่องของตัวเองกับเฟิงหานชวนในคืนพรุ่งนี้
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ผล็อยหลับไป
……
เช้าของวันรุ่งขึ้น ระหว่างเวลาเลิกเรียน
ห้องพักของเมนเทอร์
เมื่อหลิวเฟยเฟยเดินเข้ามาก็รีบล็อกประตู แล้วโผไปหาซุนเลี่ยงที่นั่งอยู่บนโซฟา
“อาจารย์ซุน~” เธอขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“เมื่อคืนหาเจอไหมว่าใครแอบดูเรา” ใบหน้าของซุนเลี่ยงดูแย่มาก ตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงตอนนี้ เขาแทบไม่ยิ้มเลย
หลิวเฟยเฟยรู้ว่าเขากังวลว่าทีมงานจะรู้เรื่องของพวกเขา เธอรีบกล่าวว่า “ฉันหาเจอแล้ว เฉินฮวนฮวนห้องสี่ และเฉินเฟยหยางเด็กฝึกงานของทีมเขียนบทและกำกับการแสดงค่ะ”
“แม่งเอ้ย เฉินฮวนฮวน!?” เมื่อซุนเลี่ยงได้ยินชื่อนี้ เขาก็สบถคำหยาบออกมาทันที
“อาจารย์ซุน คุณอย่าตกใจไปเลยค่ะ เฉินฮวนฮวนไม่พูดเรื่องของเราหรอกค่ะ” หลิวเฟยเฟยเขย่าแขนของซุนเลี่ยงพร้อมกับกล่าวด้วยเสียงกระเง้ากระงอด
“เธอเป็นลูกศิษย์คนโปรดของกู้ไหว ไม่แน่ว่าตอนนี้เธออาจจะบอกเรื่องของเรากับกู้ไหวไปแล้ว!” เมื่อซุนเลี่ยงกล่าวถึงกู้ไหว เขาก็ดีดตัวขึ้นจากโซฟาด้วยความโกรธ และพับแขนเสื้อขึ้น
ปกติแล้วซุนเลี่ยงมักจะสนใจแต่ผู้หญิงสวยๆ ไม่ใช่เด็กฝึกหัดทุกคนที่รู้ บังเอิญว่าเฉินฮวนฮวนเป็นคนสวย และเป็นเด็กฝึกหัดที่กู้ไหวชื่นชม ดังนั้นซุนเลี่ยงจึงรู้สึกประทับใจเฉินฮวนฮวน
เขาค่อนข้างเกลียดกู้ไหว ตอนนี้ตัวเองถูกคนของกู้ไหวแอบเห็นแล้ว อารมณ์โกรธของเขาก็พุ่งขึ้นมาทันที
“เป็นไปไม่ได้หรอก?” หลิวเฟยเฟยมองว่าท่าทางของเฉินฮวนฮวน ดูไม่เหมือนคนช่างพูด เธอยืนขึ้นแล้วกอดซุนเลี่ยงเอาไว้ และกล่าวว่า “เมื่อคืนฉันเตือนเธอแล้ว เธอไม่น่าจะบอกคนอื่นหรอกค่ะ เพราะหลินอวี่หยางก็ไม่รู้เรื่องของเรา”
“ถ้าเฉินฮวนฮวนพูดจริง เธอต้องบอกหลินอวี่หยางเป็นคนแรกสิ หลินอวี่หยางไม่รู้อะไรเลยสักนิด เมื่อเช้าฉันลองหยั่งเชิงดูแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหลินอวี่หยางรู้ ฉันไม่จำเป็นต้องลองหยั่งเชิงหรอกค่ะ เธอต้องมาเล่นงานฉันแล้ว”
น้ำเสียงที่มั่นใจของหลิวเฟยเฟย กลับไม่สามารถปลอบประโลมซุนเลี่ยงได้
“ผมจำได้ว่าหลินอวี่หยางสนิทกับเฉินฮวนฮวน คุณค่อนข้างสนิทกับหลินอวี่หยาง คุณรู้ไหมว่าเฉินฮวนฮวนมีจุดอ่อนอะไร คุณเอาจุดอ่อนของเธอมาขู่ไม่ให้เธอพูดเรื่องของเรา!” นัยน์ตาทั้งสองของซุนเลี่ยงจ้องเขม็งไปข้างหน้าอย่างดุเดือด เขากัดฟันกรอดกล่าวว่า “อย่าให้เธอบอกเรื่องของเรากับกู้ไหว!”
เดิมทีกู้ไหวก็ดูถูกวิธีการทำงานของเขาอยู่แล้ว หากกู้ไหวรู้เรื่องเขาลอบคบกับเด็กฝึกหัดหญิง คนนิสัยอย่างกู้ไหวต้องรายงานเขาต่อบริหารระดับสูงของหวาเถิงอย่างแน่นอน