ตอนที่ 323 กล่องสมบัติที่ถูกลืม

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 323 กล่องสมบัติที่ถูกลืม

“นี่คือน้องหมาที่จะมาแสดงกับผมเหรอครับ อาจารย์เซี่ยนอวี๋พาเข้ามาในบริษัทได้ยังไงครับ”

ช่วงเย็นก่อนเลิกงาน

จางซิ่วหมิงมายังแผนกประพันธ์เพลงชั้นเก้า

มีจุดประสงค์สองประการ หนึ่งคือพบกับหลินเยวียนเพื่อพูดคุยเรื่องบทภาพยนตร์ สองคือเพื่อพาหนานจี๋กลับไปเลี้ยงดูเพื่อสร้างความสนิทสนม

ปรากฏว่า ทันทีที่เห็นหนานจี๋ จางซิ่วหมิงก็รู้สึกคุ้นเคยขึ้นมา

หลินเยวียนเอ่ยแนะนำ “มันชื่อหนานจี๋ครับ ครั้งนี้เล่นเป็นปากง”

น่าสนใจตรงที่

หนานจี๋เข้าไปวนรอบจางซิ่วหมิง ดมกลิ่นไปรอบๆ และในที่สุดก็ลูบขากางเกงของจางซิ่วหมิง ดูสงบเสงี่ยมและว่านอนสอนง่าย

จางซิ่วหมิงหัวเราะอย่างมีความสุข “เจ้าหมาตัวนี้สนิทกับผมดีนะครับ”

หนานจี๋กระดิกหางให้หลินเยวียน

หลินเยวียนเอ่ย “มันได้กลิ่นหมาจากคุณน่ะครับ”

จางซิ่วหมิง “…”

หมายความว่ายังไงนะ?

หลินเยวียนถาม “คุณเลี้ยงหมาเหรอครับ”

จางซิ่วหมิงถึงตระหนักได้ว่าตนเข้าใจผิดไป “ที่บ้านผมเลี้ยงหมา…รู้ได้ยังไงครับ หรือคุณสื่อสารกับหมาได้?”

หลินเยวียนตอบ “ผมรู้สึกได้น่ะครับ”

จางซิ่วหมิงงุนงง ผมรู้สึกได้?

หลินเยวียนอธิบาย “บนเสื้อของคุณมีขนหมาติดอยู่น่ะครับ”

จางซิ่วหมิง “…”

เป็นเด็กหนุ่มที่พิเศษมากๆ

เขาคิดในใจ จากนั้นก็กล่าวอย่างจริงจัง “เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญู ผมเตรียมจดรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละคร อาจารย์เซี่ยนอวี๋มีอะไรอยากบอกไหมครับ”

“มีครับ”

หลินเยวียนพูด “คุณชอบผู้หญิงแบบไหนครับ”

จางซิ่วหมิงแทบตอบไปตามสัญชาตญาณ “ผมชอบผู้หญิงแบบภรรยาผมครับ”

หลินเยวียนถาม “ภรรยาเป็นนักแสดงหรือเปล่าครับ”

จางซิ่วหมิงหลุดหัวเราะ “ที่แท้ก็ถามถึงนักแสดงนำหญิงใช่ไหมครับ นึกไม่ถึงว่าอาจารย์เซี่ยนอวี๋จะถามความเห็นผมด้วย ถ้าถามผมละก็ โจวเสวี่ยก็ไม่เลวนะครับ”

หลินเยวียนพยักหน้า “งั้นก็โจวเสวี่ยแล้วกันครับ”

หลินเยวียนจำโจวเสวี่ยได้ เธอเป็นนางร้ายหมายเลขหนึ่งจากเรื่องนักปรับเสียงเปียโน นางงูพิษสวยสังหาร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าโจวเสวี่ยจะแสดงบทร้ายได้เพียงอย่างเดียว

ในฐานะนักแสดงหญิงอายุสี่สิบปีที่ยังสวยสะพรั่ง โจวเสวี่ยสามารถรับบทได้หลากหลายมากทีเดียว

จางซิ่วหมิงยิ้มขื่น “ให้ผมตัดสินใจแบบนี้เลยเหรอครับ”

หลินเยวียนเอ่ยอย่างเห็นดีเห็นงามด้วย “ผมว่าก็เหมาะสมดีนะครับ”

จางซิ่วหมิงแววตาประหลาดใจ

เมื่อมีนักเขียนบทหน้าใหม่ซึ่งเพิ่งสร้างชื่อในวงการ บวกกับนักแสดงนำระดับราชาภาพยนตร์อย่างตน เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูจะต้องได้รับความความสนใจไม่น้อยอย่างแน่นอน

และภาพยนตร์ระดับนี้ นักแสดงนำหญิงย่อมได้รับผลพลอยได้ไปด้วย

กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ

หลินเยวียนสามารถใช้ตัวละครนี้แลกมาซึ่งผลประโยชน์จากนักแสดงหญิงหลายคน

ไม่ต้องพูดถึงกฎลับ

ด้วยหน้าตาของหลินเยวียน ไม่ถูกใครเสนอกฎลับให้ ก็นับว่าเขาเอาตัวรอดได้เก่งมากแล้ว

สิ่งที่เรียกว่าผลประโยชน์ สามารถเป็นไปได้หลากหลายด้าน

ปรากฏว่าเซี่ยนอวี๋กลับเลือกนักแสดงอย่างง่ายดายตามคำพูดของเขา โดยที่ไม่ได้หยิบยกตัวละครขึ้นมาเป็นประเด็นถกเถียงด้วยซ้ำไป

คนทำหนังแบบนี้ มักจะใสซื่อจริงๆ

เมื่อนึกถึงตรงนี้ จางซิ่วหมิงพยักหน้า “อาจารย์เซี่ยนอวี๋ งั้นผมขอพาหนานจี๋กลับไปก่อน”

“ได้ครับ”

หลินเยวียนโบกมือ

หนานจี๋ไม่แม้แต่เหลือบมองหลินเยวียน เดินออกไปกับจางซิ่วหมิงอย่างร่าเริง ไม่ได้มีท่าทีอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด

“ตัวแทนหลินน่าสนใจจริงๆ”

จางซิ่วหมิงรำพัน พลางจูงสุนัขเดินไปยังรถยนต์

ในตอนนั้น คนขับรถขับเข้ามา “อาจารย์จางขึ้นรถเถอะครับ”

“ได้”

ขณะที่จางซิ่วหมิงกำลังจะเดินขึ้นไปข้างหน้า หนานจี๋ถึงกับก้าวไปเปิดประตูรถ ก่อนจะเข้าไปนั่งอย่างผึ่งผาย อวดพุงขาวนุ่มนิ่ม แลบลิ้นหันไปมองหน้าต่าง

จางซิ่วหมิงมองอย่างงงงัน

เปิดประตูได้ด้วย ท่านั่งเลียนแบบคน เจ้าหมาตัวนี้ของอาจารย์เซี่ยนอวี๋กลายเป็นสัตว์ภูตแล้วหรือเปล่าเนี่ย?

……

โจวเสวี่ยได้รับคำเชิญจากกองถ่ายในเย็นวันนั้น

เมื่อรู้ว่าตนได้รับเลือกเป็นนักแสดงนำหญิงในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเซี่ยนอวี๋ เธอก็ดีใจจนกระโดดเข้าไปหอมผู้ช่วยฟอดใหญ่

ผู้ช่วยเป็นหญิงสาวตัวเล็ก เธอกระโดดโลดเต้นตามโจวเสวี่ยไปด้วย ปลื้มปีติจนพูดไม่ออก ปากพึมพำไม่หยุดว่า

“ขอบคุณอาจารย์เซี่ยนอวี๋!”

“นักแสดงนำชายคืออาจารย์จางซิ่วหมิง นี่เป็นโอกาสได้ร่วมงานกับราชาภาพยนตร์เลยนะคะ!”

โจวเสวี่ยเป็นนักแสดงที่ชื่อเสียงค่อยๆ จางหายไปเมื่ออายุมากขึ้น เมื่อยังอายุน้อย งานก็ไม่ได้นับว่ามากมาย ครั้นอายุยิ่งมาก ผู้คนก็ย่อมลืมเลือนเป็นธรรมดา นี่เป็นชะตากรรมซึ่งนักแสดงประสบคล้ายคลึงกัน

จนกระทั่งโจวเสวี่ยได้ร่วมแสดงเรื่องนักปรับเสียงเปียโน การงานของเธอจึงได้ดีขึ้นมาบ้าง

เพราะฉะนั้นโจวเสวี่ยจึงรู้สึกขอบคุณเซี่ยนอวี๋

ปรากฏว่า โจวเสวี่ยนึกไม่ถึง ว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่หลังจากนักปรับเสียงเปียโน เซี่ยนอวี๋จะยังนึกถึงตนอีก

ถ้าหากตนอายุน้อยกว่านี้ ถ้าหากเซี่ยนอวี๋ไม่ได้หล่อเหลาถึงขนาดนี้ โจวเสวี่ยคงทึกทักไปว่าอีกฝ่ายมีใจให้ตน

สำหรับเธอแล้ว การได้รับเลือกจากเซี่ยนอวี๋ถึงสองครั้ง ราวกับสวรรค์ประทานอาหารเลิศรสลงมาให้ก็มิปาน

ดีใจเหลือเกิน!

อันที่จริง

นักแสดงหลายคนของสตาร์ไลท์ ล้วนโหยหาอาหารเลิศรสนี้จากเซี่ยนอวี๋ แต่น่าเสียดายที่อาหารนี้มีจำกัด หลายคนถูกลิขิตมาให้ต้องผิดหวัง

หลินเยวียนไม่ได้ตระหนักรู้เลยว่า ในยามนี้คำพูดเพียงประโยคเดียวของเขาก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของใครหลายคนได้

หลายวันหลังจากนั้น กองถ่ายเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูก็ง่วนอยู่กับการเตรียมงาน

ทางจางซิ่วหมิงเองก็ติดต่อกับหลินเยวียนบ้างเป็นครั้งคราว

จากที่จางซิ่วหมิงบอกเล่า เขากับหนานจี๋เข้ากันได้เป็นอย่างราบรื่น สนิทสนมถึงระดับที่นอนด้วยกันได้แล้ว

“เป็นหมาที่แสนรู้มากเลยนะครับ เปิดประตูรถได้ นั่งบนชักโครกได้ ที่เหลือเชื่อมากไปกว่านั้นก็คือ มันดูซีรีส์กับผมด้วยนะครับ!” จางซิ่วหมิงอธิบายอย่างเกินจริง

หลินเยวียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ซีรีส์อะไรครับ”

จางซิ่วหมิง “…”

นี่คือจุดที่คุณสนใจ?

เมื่อนึกถึงว่าหนานจี๋เป็นสุนัขของหลินเยวียน จางซิ่วหมิงจึงคิดว่าหลินเยวียนน่าจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว จึงเข้าใจความนิ่งขรึมของหลินเยวียน

ถึงอย่างไรเจ้าหมาตัวนี้ก็มหัศจรรย์มากจริงๆ

หลินเยวียนกลับไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแปลกที่สุนัขจะทำสิ่งเหล่านี้ได้

สุนัขยังช่วยตำรวจจับโจรได้เลย

เขาจำได้ว่าเคยดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งในโลกเดิม สุนัขกับแมวเกือบครองโลกได้เชียวนะ

และหากใช้คำอธิบายตามเรื่อง ‘แมว’ ของโฮชิ ชินอิจิ เจ้าสัตว์ที่น่ากลัวชนิดนี้ก็ครองโลกเป็นที่เรียบร้อย

เรื่องเหล่านี้เป็นรายละเอียดปลีกย่อย

สิ่งที่หลินเยวียนขบคิดในตอนนี้ก็คือ จะสานต่อธรรมเนียมอันดีงามของเรื่องนักปรับเสียงเปียโน ด้วยการใส่เพลงเปียโนลงไปอีก?

ไม่ได้ใส่ลงไปทื่อๆ

อย่างน้อยที่สุดก็ใช้เป็นเพลงพื้นหลังได้

ยิ่งไปกว่านั้น ในภาพยนตร์เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญู ตัวเอกชายเป็นอาจารย์ด้านดนตรี

หลินเยวียนสามารถใส่บทเพลงเข้าไปโดยไม่ทำให้เกิดความรู้สึกขัดเขิน

ครั้งก่อนผลลัพธ์หลังจากใส่เพลงในเรื่องนักปรับเสียงเปียโนนั้นดีมาก

เช่นเดียวกับเพลงวิวาห์ในฝัน ที่เหมาะกับการโปรโมตในภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมระดับนี้

“จริงสิ ยังมีกล่องสมบัติเงินอีกหนึ่งใบ…”

หลินเยวียนยังมีกล่องสมบัติเงินซึ่งยังไม่ได้เปิดอยู่อีกหนึ่งใบ เกือบถูกลืมไปแล้ว หลินเยวียนเพิ่งนึกเรื่องนี้ออกเมื่อมานานมานี้เอง

เอาเถอะ

ที่สำคัญก็คือไม่มีตัวนำโชคอยู่

เมื่อไม่มั่นใจในดวงของตน หลินเยวียนจึงไม่อยากเปิดกล่องสักเท่าไหร่นัก

แต่ใครๆ ก็บอกว่า สุรายิ่งเก็บนานยิ่งหอมกรุ่น กล่องสมบัติจะเป็นเหมือนกันไหมนะ

ทิ้งระยะเวลาไว้นานขนาดนี้กว่าจะมาเปิด กล่องสมบัติเงินใบนี้คงไม่ทำให้เขาผิดหวังหรอกใช่ไหม?

“ระบบ เปิดกล่องสมบัติเลย”

ในใจของหลินเยวียนรู้สึกคาดหวัง

ส่วนเขาคาดหวังว่าจะเปิดกล่องสมบัติมาได้อะไรน่ะหรือ คนธรรมดาต้องเดาไม่ออกอย่างแน่นอน

………………………………………………….