บทที่ 277 เพื่อนสนิทที่มหาวิทยาลัย

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ถึงจะบอกว่าคำว่าหาเงินนี้ดูหยาบคายไปหน่อย แต่ตอนนี้พวกเธอยังไม่ได้เดินไปถึงเส้นทางระดับสูง และก็ยังไม่เริ่มไปถึงระดับไฮโซพอตัวเลย ถ้าไม่หาเงินแล้วจะทำไงล่ะ?

ถ้าไม่หาเงินให้เยอะขึ้น จะมีทุนไปซื้อผ้าที่ดีขึ้น การตัดเย็บเสื้อผ้าที่ดีขึ้นได้อย่างไรกัน

วารุณีก็ไม่คิดว่าปาจรีย์พูดผิดตรงไหน จึงพยักหน้าออกไป“งั้นก็ส่งต่อให้เธอจัดการละกัน มะรืนฉันต้องไปต่างประเทศ ถึงวันเกิดของอาจารย์แล้ว”

“ใช่ ลองนับเวลาดูแล้ว วันเกิดของอาจารย์เมอร์เซเดอก็สองวันนี้แล้วนี่”ปาจรีย์ปล่อยมือลง“โอเค งั้นเธอไปเถอะ ช่วยเอาของขวัญฉันไปฝากด้วย”

“ได้”วารุณีพยักหน้า

จากนั้น ปาจรีย์ก็พูดแผนการเปิดร้านค้าออนไลน์กับเธอเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นออกไป

พอเธอไป วารุณีก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ก้มหน้าลงแล้วเริ่มทำงาน

ตอนบ่าย วารุณีเดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์ อยากจะปรึกษาเรื่องการถ่ายรายการวาไรตี้สัปดาห์หน้ากับทางกองรายการ พวกเสื้อผ้าที่เหล้าไอดอลพวกนั้นต้องใส่

สัปดาห์หน้าไอดอลพวกนั้นต้องไปทะเล ดังนั้นกองรายการจึงให้ธีมหลักมาก็คือมหาสมุทร

ธีมนี้สำหรับดีไซเนอร์เสื้อผ้าแล้ว ถือว่าเป็นหัวข้อที่ธรรมดามาก ดังนั้นเมื่อไม่ยาก วารุณีก็คิดว่าแค่ตัวเองหลับตาคิด ก็สามารถคิดออกแบบออกมาได้เยอะแล้ว

“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะวาดภาพออกแบบออกมาในช่วงเวลาสั้นๆนี้”วารุณียืนขึ้นมา แล้วยื่นมือออกไปให้โปรดิวเซอร์ของกองรายการ

ฝ่ายตรงข้ามก็ยื่นมือออกไป จับมือกับเธอ“งั้นก็รบกวนคุณวารุณีแล้ว”

“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ”วารุณียิ้ม จากนั้นจึงบอกลา

โปรดิวเซอร์ก็ยังส่งเธอไปยังด้านนอกออฟฟิศด้วย แล้วหันกลับไป

วารุณีออกไปจากลิฟต์ มาที่อาคารชั้นหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ แล้วจู่ๆก็คิดอะไรได้ จากนั้นสายตาก็เป็นประกาย เดินไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ

“สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะ ปวิชยังทำงานที่สถานีโทรทัศน์ไหมคะ?”วารุณีถามพนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ด้วยรอยยิ้ม

ตรงเคาน์เตอร์ต้อนรับก็มองสำรวจเธอ“คุณถามทำไมเหรอคะ?”

วารุณีเสยผมขึ้น โกหกอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้าใดๆ“เขาเป็นอาฉันค่ะ ไม่ได้กลับบ้านเกิดมานานแล้ว พ่อฉันเป็นห่วงฉันมาก ก็เลยให้ฉันมาถามดู”

“ที่แท้ก็แบบนี้เอง เดี๋ยวฉันช่วยหาให้คุณนะคะ”พนักงานต้อนรับพยักหน้า แล้วเริ่มหาในคอม

วารุณีพูดขอบคุณเสร็จ ก็ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับ รออย่างอดทน

รอได้ประมาณสองสามนาที พนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ต้อนรับก็หาเสร็จ มองเธอแล้วตอบไปว่า:“ขอโทษจริงๆค่ะ ปวิชถูกไล่ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว!”

“ไล่ออก?”วารุณีตกใจ

พนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ต้อนรับตอบอือ“ใช่ค่ะ เพราะว่าเขาเรียกพวกยามที่สถานีโทรทัศน์โดยไม่มีเหตุผล ทำให้สถานีโทรทัศน์วุ่นวาย ดังนั้นผู้อำนวยการสถานีจึงออกคำสั่ง ไล่เขาออก ขอโทษด้วยนะคะ”

“ไม่ๆๆ นี่ไม่เกี่ยวกับพวกคุณค่ะ”วารุณีโบกมือ สื่อว่าไม่ต้องขอโทษ จากนั้นดวงตาก็กลอกไปมา แล้วถามอีกว่า“งั้นคุณรู้ไหมคะ พอเขาถูกไล่ออกแล้ว เขาไปไหน?”

“พวกเราไม่ทราบหรอกค่ะ แต่ตอนที่เขาไป ผู้หญิงคนหนึ่งมารับเขา”

“ผู้หญิง?”

“ใช่ค่ะ ผู้หญิงคนนั้นสนิทกับเขามาก มาหาเขาบ่อยๆ”พนักงานสาวเคาน์เตอร์ต้อนรับพูด

วารุณีละสายตาลงไป

เธอพอจะรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร น่าจะเป็นขยานีอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

แค่ไม่รู้ว่า ขยานีจัดการให้ปวิชไปอยู่ไหน

“โอเคค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะคะ”วารุณียิ้มขอบคุณพนักงานสาวเคาน์เตอร์ต้อนรับ หันกลับออกไปจากประตูของอาคาร

เพิ่งออกมาจากประตู เธอก็ถูกคนเรียกไว้

“วารุณี?ใช่วารุณีไหม?”

ได้ยินความแปลกใจในน้ำเสียง พร้อมกับเสียงผู้หญิงที่ดูไม่แน่ใจ วารุณีจึงหันหน้าไปด้วยความสงสัย

ก็เห็นรถบัสคันหนึ่งจอดอยู่ไม่ไกล ด้านหน้ารถมีผู้หญิงที่ร่างสูงขายาว สวมชุดที่ทันสมัยอย่างมากคนหนึ่งยืนอยู่

แค่มองวารุณีก็รู้แล้วว่าผู้หญิงพวกนี้เป็นนางแบบ น่าจะมาถ่ายรายการอะไรที่สถานีโทรทัศน์

และหนึ่งในนางแบบพวกนี้ คนที่อยู่ตรงกลางสุด กำลังมองมาที่เธออย่างตื่นเต้น น่าจะเป็นคนที่เรียกชื่อเธอ

วารุณีเอียงศีรษะ หลังจากสำรวจฝ่ายตรงข้ามสักพักแล้ว แน่ใจว่าตัวเองไม่รู้จัก จึงถามไปอย่างมีมารยาทว่า“ขอโทษนะคะคุณคือ?”

“ฉัน ฉันเอง!”มือทั้งสองข้างของหญิงสาวตบไปที่หน้าอกของตัวเองแล้วพูดเตือนไปว่า“เชอรีน!”

ได้ยินชื่อนี้ ตาของวารุณีก็เบิกโต ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง“เชอรีน?เธอคือเชอรีน?”

เชอรีนก็เป็นรูมเมทที่มหาวิทยาลัยจันทร์ของเธอ เรียนคณะศิลปศาสตร์ เหมือนกับสุชาดา

ท่ามกลางผู้หญิงสี่คนในห้อง เธอกับเชอรีนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันที่สุด ปีนั้น แทบจะตัวติดกัน แต่พอเธอไปต่างประเทศ ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย คิดไม่ถึงว่าจู่ๆวันนี้จะมาเจอได้

“ใช่!”เชอรีนพยักหน้า

วารุณีเดินเข้าไปอย่างดีใจ แล้วจูงมือของเธอไว้“เธอจริงๆด้วย เธอเปลี่ยนไปมาก และยังสูงมากด้วย ฉันจำเธอไม่ได้เลย”

“ใช่ไหมล่ะ”เชอรีนหัวเราะอย่างร้ายกาจ และก็จับวารุณีหมุนไปรอบหนึ่ง“ไม่ต้องพูดแล้ว เธอก็ไม่เปลี่ยนไปมาก แต่สวยขึ้นนะ”

วารุณีถูกเธอชมก็เขินอายหน่อยๆ จึงหัวเราะกลบเกลื่อน“ตอนนี้เธอเป็นนางแบบเหรอ?”

“ใช่”เชอรีนพยักหน้า“เป็นนางแบบเป็นความฝันของฉันเลย”

“ดีจัง ยินดีกับเธอด้วยนะ”วารุณีดีใจแทนเธอ

เชอรีนปล่อยมือของวารุณีออก“แล้วเธอล่ะวารุณี?เธอเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้ายัง?”

“แน่สิ!”วารุณีพยักหน้า

“ดีมากเลย!”เชอรีนกอดเธอด้วยความดีใจ“วารุณี ต่อไปฉันต้องสวมชุดที่เธอออกแบบไปเดินแบบแล้ว”

วารุณีหัวเราะ กำลังจะพูด ก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาอีก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ก็แค่ผลงานของดีไซเนอร์เสื้อผ้าที่ไม่ดังคนหนึ่ง จะไปขึ้นรันเวย์ได้ มันตลกไปหน่อยไหม?”

ได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนี้ คิ้วของวารุณีกับเชอรีนก็ขมวดเข้าหากัน

เชอรีนผลักวารุณีออกเบาๆ หันไปมองที่รถบัส แล้วพูดด้วยเสียงคมกริบอย่างเกลียดชัง ไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่บันไดประตูรถ:“สุชาดา เธอไม่พูด ไม่มีใครหาว่าเธอเป็นใบ้หรอกนะ!”

สุชาดาลงมาจากรถทีละก้าว“ทำไม ไม่พอใจ?ฉันพูดผิดไปเหรอไง วารุณีก็แค่ดีไซเนอร์โสเภณีที่ไม่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง นี่เพื่อนของเธอสอนฉันเชียวนะ ไม่มีชื่อเสียง ก็เป็นได้แค่โสเภณี!”

“เธอ……”เชอรีนโกรธจนจะเข้าไปสั่งสอนเธอ

วารุณีดึงมือของเชอรีน ห้ามเธอไว้ แล้วส่ายหน้าให้เธอ“อย่าเลยเชอรีน เธออยากโม้ก็ให้เธอโม้ไปเถอะ พวกเราไม่ให้เธอโม้ได้เหรอ?”

“ฮึ!”เชอรีนหัวเราะขึ้นมา“วารุณีเธอพูดถูก ปล่อยเธอโม้ไปเถอะ”

“ถูกต้อง”วารุณีเหลือบมองสุชาดา แล้วพยักหน้า

ตอนแรกสุชาดาไม่เข้าใจความหมายของเธอ แต่หลังจากได้ยินเสียงหัวเราะของเชอรีนกับพวกนางแบบคนอื่นๆที่อยู่รอบๆก็เข้าใจทันที

“เธอกล้าด่าฉันว่าหมา?”สุชาดากัดฟันแน่นแล้วจ้องไปที่วารุณี

วารุณีผายมือออก“เปล่านี่ ฉันด่าเธอว่าเป็นหมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“ใช่ วารุณีของพวกเราไม่ได้พูดเลย เธอพูดเองต่างหากว่าตัวเองเป็นหมา”เชอรีนขวางอยู่ตรงหน้าวารุณี และช่วยพูดไป

สุชาดาอ้าปาก พูดออกไปแค่สองคำ โกรธจนหน้าแดง หน้าอกก็ยิ่งกระเพื่อมขึ้นมา“พวกเธอ……พวกเธอ……”

“โอเค เหล่านางแบบมารวมตัวเร็ว!”ตอนนี้เอง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ถือนกหวีดไว้และยืนอยู่ไม่ไกล ตะโกนไปที่เหล่านางแบบ

หลังจากนางแบบพวกนี้ได้ยิน ก็ค่อยๆเดินไป

สุชาดากำหมัด จ้องวารุณีกับเชอรีนอย่างเขม็ง“พวกเธอรอฉันเถอะ ฉันไม่ปล่อยพวกเธอไว้แน่”

เชอรีนส่งเสียงฮึดฮัดออกไป ไม่สนใจเธอ จูงมือวารุณีแล้วพูด

สุชาดารู้สึกว่าตัวเองโจมตีพวกเธอแต่ไม่มีประโยชน์ ทำให้ตัวเองลำบากใจเอง หลังจากกระทืบเท้าด้วยความโกรธแล้ว จึงหันกลับออกไป

“วารุณีเธอรู้ไหม?หลังจากฉันกับเธอเซ็นสัญญาบริษัทนางแบบที่เดียวกัน เธอก็เอาแต่มายั่วยุฉันตลอดเวลา เหมือนกับช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัยเลย รำคาญจะตายอยู่แล้ว”เชอรีนมองแผ่นหลังของสุชาดา พูดด้วยความเกลียดชัง