ตอนที่ 246

Great Doctor Ling Ran

ในสายตาของหลิงโจวมีแต่หลิงรันกำลังเย็บแผลของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว

ในขณะที่ตาของหมอแม้วนั้นมองหลิงรันแบบไม่กระพริบตา เพราะหลิงรันได้แสดงการเย็บแบบเสริมแรงและรอยประสานใต้ผิวหนังที่อย่างยอดเยี่ยมและดูเหมือนทักษะของหลิงรันนั้นจะเหนือกว่าแพทย์ฝึกงานคนอื่นๆที่เขาเคยได้เห็นหรืออาจจะดีกว่าแพทย์ทั่วไปด้วยซ้ำ

“หมอหลิง คุณเรียนรู้ทักษะเหล่านี้จากโรงพยาบาลหยุนหัวจริงหรอเนี่ย?” หมอแม้วอุ้มเก้าอี้มานั่งข้างๆหลิงรัน เขาเฝ้ามองดูหลิงรันในขณะที่ชายหนุ่มกำลังร้อยเข็มไปที่แผล

หลิงรันยิ้มโดยไม่ได้ตอบคำถามใด

หากเขาต้องตอบคำถามของทุกคนเขาคงจะไม่มีเวลาทำการทำงานพอดี

หลิงโจวเองก็ดูมีความสุขมาก ๆ เขาพูดกับหมอแม้วว่า“ ลูกชายของฉันถึงจะปรากฏตัวในข่าวไม่กี่ครั้งแต่ชื่อของเขาก็โด่งดังในอินเทอร์เน็ตและวีแชทมาก เช่นคุณลองไปค้นหาตามหัวนี้สิ ‘หมอที่หล่อที่สุดในประเทศจีน‘, ‘ แพทย์ที่หล่อที่สุดในโลก ‘และ‘ แพทย์ที่มีทักษะยอดเยี่ยมที่สุด ”

“ผมไม่เคยเห็นหัวข้อพวกนั้นเลย”หมอแม้วหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ผมคงจะไม่ดูฟีดข่าวของหรืออ่านอะไรผ่านอินเทอร์เน็ตมานานแล้ว”

“ทำไมล่ะนั่น คุณคงไม่ใช่หมนุษย์ถ้ำหรอกนะ” หลิงโจวเริ่มแปลกใจว่าทำไมหมอแม้วถึงไม่ค่อยติดตามข่าวผ่านอินเทอร์เน็ตเลย

หมอแม้วก็พูดเสริมไปว่า “ผมไม่มีเวลาพอที่จะติดตามข่าวพวกนั้นหรอก ก็เพราะผมมีงานที่ยุ่งมากจะเอาเวลาไหนมาอ่านข่าวพวกนั้นกัน!“

ในขณะที่เขาพูดหมอแม้วตั้งใจมองไปที่หลิงรันโดยจงใจ

ภายในตัวจองทุกคนนั้นมีครูที่ดีอยู่ในตัวและครูทุกคนก็รักนักเรียนที่หิวกระหายความรู้เช่นกันก็เปรียบเสมือนหลิงรันที่จงใจให้หมอแม้วมองดูเทคนิคของเขา

หมอแม้วเชื่อว่าหลิงรันจะจำเขาได้ถ้าเขาทำตัวเหมือนคนที่เทพลังงานทั้งหมดของเขาลงในความรู้ด้านการแพทย์ของหลิงรันในตอนนี้

“ฉันเห็นคุณเล่นกับโทรศัพท์ของคุณทุกวันทุกครั้งที่ไม่มีอะไรทำ” หลิงโจวกล่าวขึ้นมา จากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณอาจจะดู ติ๊กต๊อก ของคุณ [1] ไม่ก็อัพเดทนิวฟีคตลอดเวลาเพราะสำหรับชายวัยกลางคนคงจะชอบตี๊กต๊อกมากที่สุด ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันเห็นชายวัยกลางคนจำนวนมากชอบดูฟีดข่าวติ๊กต๊อก พวกเขายังคงเพลิดเพลินกับติ๊กต๊อกตอนวัยสี่สิบหรือห้าสิบจริงไหมหมอแม้ว?

มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อยู่ในคลินิกไม่มากนักและเมื่อใดก็ตามที่หลิงโจวเล่นโทรศัพท์มือถือของเขา เขาก็จะเห็นหมอแม้วใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นโทรศัพท์ของเขาอยู่เช่นกัน และท้ายที่สุดก็มีการจำกัดจำนวนผู้ป่วยที่ส่งมาจากบริบัทกวางทองที่สามารถส่งไปที่คลินิกทุกวัน แม้ว่าผู้ป่วยจำนวนมากจะมาที่คลินิคด้วยตนเอง แต่มีไม่กี่คนที่ต้องการให้ทำการเย็บแผลจึงทำให้หมอแม้วนั้นมีเวลาว่างค่อนข้างมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่มีเวลาเช๊คฟีคข่าวนอกเสียจากเขาใช้เวลาไปกับการเล่นติ๊กต๊อก

หมอแม้วเองก็เขินอย่างแรงเมื่อเขาได้ยินอย่างนั้นและส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ผมมักจะอ่านรายงานการวิจัยบนโทรศัพท์เพลงที่คุณได้ยินนั้นเป็นเพียงเพลงที่มีอยู่ในโทรศัพท์อยู่แล้วตั้งหากไม่ใช่เพลงจากติ๊กต๊อกสักหน่อย”

“นั่นไม่นับว่าเป็นการเล่นกับโทรศัพท์ของคุณด้วยหรือ”

“เฮ้การอ่านงานวิจัยฟังมันก็ถือเป็นการพักผ่อนระ”

“ตราบใดที่คุณใช้มือถือนั้นก็หมายความว่าคุณกำลังเล่นกับโทรศัพท์ แล้วความแตกต่างระหว่างการอ่านบทความในบล็อกกับการอ่านรายงานการวิจัยคืออะไรกันล่ะ? ” หลิงโจวมักเย้ยยันผู้คนเช่นนี้อยู่เสมอหมอแม้วที่เล่นโทรศัพท์ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับคนอื่นๆที่เล่นโทรศัพท์ไม่ว่าเขาจะอ่านงานวิจัยจริงหรือไม่ ยังไงก็ตามก็ถือว่าเขาเล่นโทรศัพท์อยู่ดี

หมอแม้วตะโกนสองสามครั้งและมองไปที่การเย็บหลิงรันเขาไม่ต้องการที่จะโต้เถียงเรื่องนี้กับหลิงโจวอีกต่อไป

เพราะมันยังคงมีทักษะขั้นพื้นฐานบางอย่างที่เขาต้องเรียนรู้จากทักษะของหลิงรันอย่างลับๆอยู่ เห็นได้ชัดว่ามันไม่เป็นประโยชน์สำหรับเขาที่จะโต้เถียงกับคนอย่างหลิงโจวที่ทำตัวเป็นพ่อหรือเหมือนครูที่ไม่ชอบรับฟังศิษย์

หลิงรันยังคงดำเนินการเย็บแผลใต้ผิวหนังต่อไป เขาไม่ได้ฟังการสนทนาระหว่างหลิงโจวและหมอแม้วแม้แต่น้อย

หลังจากที่มีการเย็บแผลเสริมแรงบนแผลแล้ว ความน่าจะเป็นของการฉีกของแผลเนื่องจากแรงดันก็ลดลงมาก จากนั้นหลิงรันก็ทำการเย็บเบา ๆ โดยใช้ไหมผ่าตัดบาง ๆ ด้วยวิธีนี้การเกิดแผลเป็นที่จะลดลงได้โดยไม่กระทบต่อความแข็งแรงของการเย็บ

ในเวลาเดียวกันหลิงรันก็มุ่งเน้นไปที่การจัดแนวผิวหนังทั้งสองด้านของแผล

แม้ว่าความน่าจะเป็นของการฉีกของบาดแผลนั้นลดลงไปแล้วแต่หากผิวหนังบนปลายทั้งสองของบาดแผลไม่ได้เรียงตัวกันรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นอาจะออกมาไม่สวยงามและทำให้แผลเป็นดูหน้ารังเกียจมาก

ด้วยความสวยงามที่เป็นเป้าหมาของการเย็บครั้งนี้การสูญเสียส่วนหนึ่งของเส้นขอบแนวตัดของการเย็บจะเป็นสาเหตุของปัญหาที่ใหญ่กว่ามาก

หลิงรันกำลังรักษามีแผลที่หางตาของหญิงสาวและผิวหนังที่ฉีกออกบริเวณนั้น แม้ว่าการขาดดุลของขนาดของแผลนั้นจะไม่มากนักก็ตาม แต่ผู้ป่วยเองก็คงจะรู้สึกไม่ดีเมื่อพวกเขาพบว่าแผลเป็นของเธอนั้นมันเด่นชัดมากจนทำให้ความสวยงามบนใบหน้าเหมือนมีรอยตำหนิ และจะทำให้การสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนนั้นลดลงเพราะความเขินอายที่เกิดจากรอยแผลเป็นที่น่ารังเกียจนี้

ดั้งนั้นการเย็บเสริมแรงแบบใต้ผิวหนังก็มีประโยชน์สำหรับสถานการณ์เช่นนี้นั้นเอง

ในขั้นตอนแรกของการเย็บหลิงรันเย็บผิวหนังจากสองฝากที่ฉีกเปิดขึ้นเพื่อดึงเข้าหากัน แนวของแผลนั้นมันถูกจัดแนวมาก่อนหน้านี้แล้ว เขาจัดการกับส่วนที่มีการขาดดุลผิวจากนั้นเขารอยเข็มและยืนขึ้น ในขณะที่เขาเหยียดร่างกาย หลิงรันกล่าวว่า “ผิวหนังของคุณหายไปหลังจากนี้ผมจะดึงผิวของคุณก่อนที่ผมจะทำการเย็บแผลใต้ผิวหนังและเย็บแบบเสริมแรงเพื่อให้รอยแผลทั้งสองของคุณติดกัน ไม่มีช่องว่างด้วยวิธีนี้แผลเป็นที่เกิดขึ้นจะเล็กลง แต่คุณจะต้องระวังให้มากสำหรับการดูแลแผลนี้ ”

“โอเค” หญิงสาวทุกคนดูดีใจเมื่อได้ยินว่ารอยแผลเป็นจะเล็กลง

ในขณะนั้นที่คุณหมอแม้วก็แนะนำนหญิงสาวและพูดเสริมหลิงรันในเวลาเดียวกันเขากล่าวว่า “สิ่งที่คุณหมอหลิงทำให้คุณเห็นนั้นเป็นเทคนิคการเย็บแผลระดับสูงมากอย่าคิดว่าคุณจะได้รับการเย็บเช่นนี้ในคลินิคหรือโรงพยาบาลอื่นๆ จากสิ่งที่ผมรู้ไม่มีหมอคนไหนที่สามารถเย็บแผลของคุณแบบนี้ได้ในเมืองหยุนหัวเลย “

“นี้ซีเรียสใช่ไหม?” หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่หมอแม้วพูดออกมา

หมอแม้วหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “คุณคิดว่าหมอจะเรียกเก็บเงินเท่าไหร่ในการเย็บเช่นนี้ถ้าคุณไปใช้บริการของการทำศัลยกรรมพลาสติก? โชคดีมากที่คุณที่ได้พบกับหมอหลิงในครั้งนี้”

“อ๋อ” หญิงสาวตอบรับอย่างเข้าใจ จากนั้นเธอก็ถามต่อทันที “เราตกลงราคาก่อนหน้านี้แล้วใช่ไหม”

“เราจะไม่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มใดๆ” หมอแม้วขยับริมฝีปากของเขาและเพราะหมอแม้วรู้ว่าหญิงสาวในสมัยนี้ค่อนข้างจริงจังกับการใช้จ่ายเงิน

หลิงรันดำเนินการเย็บเสริมแรงที่ใต้ผิวหนังของหญิงสาวอีกครั้งโดยใช้ไหมผ่าตัดบาง ๆ จุดมุ่งหมายในครั้งนี้คือเพื่อส่งเสริมการยืดตัวของผิวหนัง ผลของการวิจัยแสดงให้เห็นว่าเมื่อความตึงเครียดของผิดวเกิดขึ้นขอบของบาดแผลและพื้นผิวของเนื้อเยื่อผิวหนังจะเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการยืดตัวของผิวหนัง เส้นใยคอลลาเจนของผิวหนังจะปรับแนวขนานกันและขยายออกไปด้านนอก ดังนั้นในทางทฤษฎีอาจเพิ่มขึ้นถึง 31% ของพื้นที่ผิวที่ขยายตัวขึ้นมาหลังทำการเย็บจนเสร็จ

นี้เป็นผลให้การขาดดุลผิวสามารถชดเชย ผลของมันยังดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับการปลูกถ่ายอวัยวะผิว

แน่นอนว่าถ้าบริเวณที่ผิวหนังที่ฉีกมีขนาดใหญ่เกินไปการปลูกถ่ายผิวหนังจะเป็นทางเลือกเดียว

ในขณะที่หมอแม้วได้เฝ้าดูการทำงานของหลิงรันอย่างตั้งใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็กำลังไตร่ตรองเรื่องนี้

ทั้งเทคนิคการเสริมแรงและเทคนิคการเย็บแบบใต้ผิวหนังจัดอยู่ในประเภท “ทักษะอัจฉริยะ”

ทักษะที่ชาญฉลาดต้องการแพทย์ที่มีความสามารถหลากหลายและปรับตัวได้ มันเป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเทคนิคการเย็บที่เสริมแรงซึ่งแพทย์ต้องคิดเกี่ยวกับตำแหน่งที่ต้องลดความตึงเครียดได้ แพทย์ต้องตัดสินใจด้วยว่าควรจะสอดเข็มไว้เท่าไรจากขอบแผล

แน่นอนว่าตองผ่านการฝึกที่สมบูรณ์แบบมา

การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นวิธีเดียวที่แพทย์จะได้รับประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง หากสมองของมนุษย์ถูกบรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ประสบการณ์เหล่านี้ก็คือข้อมูลดีๆนั้นเอง

สมองของมนุษย์ไม่สามารถประมวลผลข้อมูลได้ทันที มันต้องการเคสเคยผ่านมาเป็นข้อมูลอ้างอิง

หมอแม้วคิดว่าเพื่อให้สามารถเย็บแผลที่เสริมแรงและรอยประสานใต้ผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยมหลิงรันนั้นต้องเคยรักษาอย่างน้อยหลายพันเคสแล้ว และในหมู่ผู้ป่วยของเขาก็ต้องเคยการรักษาที่ล้มเหลวอย่างแน่นอน

หมอแม้วมองไปรอบ ๆ และมันก็เหมือนกับว่าเขาสามารถเห็นน้ำตาของผู้ป่วยที่กำลังถูกเย็บแผลไหลออกมา

“เอาล่ะอย่าปล่อยให้แผลเปียกน้ำห้ามสัมผัสแผลและอย่าลืมเอา ทำความสะอาดให้ตรงเวลานอกจากนี้คุณยังสามารถเอาผ้าปิดแผลออกก่อนกำหนดก็ได้เพื่อทำความสะอาด … ” หลังจากที่หลิงรันเย็บเสร็จ บาดแผลเขาก็แนะนำข้อควรระวังมาตรฐานสำหรับผู้ป่วยในขณะที่นางพยาบาลฮวนซีนำปิดแผลให้ผู้ป่วย

นั่นคือสิ่งที่เขาทำซ้ำทุกครั้งที่เขาจะทิ้งขยะที่เป็นวัสดุทำแผลและเย็บแผลของผู้ป่วย เขามักจะทำให้แน่ใจว่าจะการแนะนำทางการแพทย์ของเขาจะไม่ล้มเหลว

“หมอค่ะ ทำไมคุณหมอไม่เพิ่มเพื่อนฉันลงไปในวีแชท มันจะง่ายกว่าถ้าฉันมีคำถามเกี่ยวกับแผลเหล่านี้” เมื่อผู้ป่วยรู้วแล้วว่าถึงเวลาที่เธอต้องออกจากคลินิคทันใดนั้น เธอก็ลังเลขึ้นมาทันทีที่จะขอหลิงรันเพิ่มเพื่อนในวีแชท

“ผมขอปฏิเสธเนื่องจากคุณมีได้รับบาดเจ็บทั่วไปเท่านั้น ไม่จำเป็นจะต้องเพิ่มเพื่อกันในวีแชทหรอก” หลิงรันปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

หญิงสาวเองก็หัวเราะเยาะ “ทำไมคุณต้องเลือกปฏิบัติกับผู้ป่วยธรรมดาอย่างฉันด้วยกันนะ”

“เพราะมันไม่ได้มีหลายละเอียดการรักษาที่พิเศษขนาดนั้นถึงขั้นต้องให้ความดูแลเป็นพิเศษ ครับ” หลิงรันหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หากผู้ป่วยที่มีสามนิ้วถูกตัดขาดหรือมากกว่านั้น ผมอาจจะเพิ่มเพื่อนกับผู้ป่วยเหล่านั้นก็ได้”

เมื่อหญิงสาวมองที่นิ้วที่นุ่มนวลและสวยงามของเธอเธอก็ไม่รู้สึกอยากเพิ่มหลิงรันบนวีแชท อีกต่อไป

“หมอหลิงฉันจะโทรมาคุณที่บริษัทกวางทองและขอให้พวกเขาส่งผู้ป่วยมากกว่า” หมอแม้วไม่เต็มใจที่จะเลิกเรียนรู้ทักษะของ หลิงรัน อย่างลับๆและเขาตัดสินใจทที่จะใช้ทักษะเล็กๆน้อยที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้เพื่อที่เขาจะได้เรียนรู้

หลิงรันก็เห็นด้วยกับสิ่งนั้น การเย็บแผลผู้ป่วยนั้นน่าสนใจยิ่งกว่าเล่นกับโทรศัพท์ของหมอแม้วเสียอีกสำหรับตอนนี้