ตอนที่ 577 สังหารศิษย์ร่วมสำนัก (5) / ตอนที่ 578 เตรียมพร้อมตบหน้า (1)
ตอนที่ 577 สังหารศิษย์ร่วมสำนัก (5)
ฟ่านจิ่นรู้สึกว่าในใจของเขากำลังหมุนวน เขาอยากจะบอกเหล่าศิษย์โง่เขลาพวกนี้จริงๆ ว่าพวกเขาเข้าใจผิดตั้งแต่ต้น ผิดตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดเลย จวินอู๋เสียต่างหากที่เป็นเหยื่อที่แท้จริงตลอดมา!
ถ้าไม่ใช่เพราะจวินอู๋เสีย ก็คงไม่มีใครในสำนักศึกษาเฟิงหัวให้ความสนใจหลี่จื่อมู่!
ความจริงแล้วหลี่จื่อมู่เป็นคนที่ช่วงชิงตำแหน่งของจวินอู๋เสียไป และเขายังโอ้อวดไปทั่ว ใช้ชื่อของจวินอู๋เสียยกระดับจุดยืนของตัวเองอย่างหน้าด้านๆ ปราศจากความสำนึกผิดแม้แต่น้อย แต่ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวก็ยังเลือกที่จะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ทำให้ฟ่านจิ่นโมโหมาก
“ไป! ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” ฟ่านจิ่นตะคอกด้วยความโกรธ ใบหน้าเขาขึ้นสีแดง และในตอนนั้นเอง กระทั่งฟ่านจิ่นที่ปกติเป็นคนอดทนก็ยังคันไม้คันมืออยากจะฆ่าคน
เหล่าศิษย์ที่มาเรียกร้องความเป็นธรรม ต่างโกรธเคืองและจ้องมองฟ่านจิ่นด้วยความไม่พอใจมาก พวกเขาอยากจะโต้เถียงต่อ แต่เมื่อพวกเขาเห็นฟ่านจิ่นตัวสั่นด้วยความโกรธ ก็พากันตกใจและลอบกลืนน้ำลายก่อนจะล่าถอยไปอย่างเร่งรีบ
หลังจากเหล่าศิษย์พวกนั้นจากไปแล้ว ร่างอีกร่างหนึ่งก็ปรากฏออกมาจากด้านข้าง เขาก้าวออกมาจากหลังต้นไผ่สูง ไหล่ของเขาลู่ลง สีหน้าหดหู่
“คุณชายใหญ่…” อาจิ้งพูดตะกุกตะกักอย่างขลาดกลัว ขณะมองไปที่ฟ่านจิ่นที่ตัวสั่นด้วยความโกรธ
“อาจิ้ง” ฟ่านจิ่นพูด ใบหน้าของเขาบูดบึ้ง ตั้งแต่ที่ฟ่านจัวไล่อาจิ้งออกไปจากที่นี่เขาก็ไม่ได้พบอาจิ้งอีกเลย
อาจิ้งค่อนข้างซูบผอม ดวงตาที่มองมายังฟ่านจิ่นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
“คุณชายใหญ่…ทำไมท่านถึงทำตัวเองเช่นนี้”
“อาจิ้ง เจ้าพยายามจะพูดอะไร” ฟ่านจิ่นรู้สึกปวดหัวขึ้นมาไรๆ
อาจิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกและเงยหน้าขึ้นมองฟ่านจิ่น
“คุณชายใหญ่ ทุกคนต่างก็เห็นว่าจวินเสียมีเจตนาชั่วร้าย ทำไมท่านถึงยังปกป้องมันอยู่อีก มันฆ่าหลี่จื่อมู่ไปแล้ว! เจ้าคนต่ำช้าสารเลวเช่นนั้นต้องถูกประหาร! ท่านจะปล่อยให้มันอยู่ที่ลานป่าไผ่ต่อไปไม่ได้ ถ้ามันทำร้ายคุณชายรอง แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกัน…”
“พอแล้ว!” ฟ่านจิ่นตะโกนเสียงดัง ขัดจังหวะอาจิ้งก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค
“อาจิ้ง ครั้งนี้ข้าจะถือว่าเจ้าแค่จงรักภักดีต่อเสี่ยวจัวและจะไม่เอาเรื่องเจ้ามากไปกว่านี้ แต่ถ้าข้าได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้อีก ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆ แน่!” ครั้งนี้ฟ่านจิ่นโกรธมากจริงๆ ทุกคนในสำนักศึกษาเฟิงหัวเป็นอะไรกันไปหมด ทำไมพวกเขาถึงได้พิพากษาประหารชีวิตจวินอู๋เสียจากข่าวลือที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ
ในคนทั้งหมดนี้ มีคนกี่มากน้อยกันที่เคยได้พูดคุยติดต่อกับจวินอู๋เสียจริงๆ
น่าจะน้อยกว่านิ้วในมือข้างหนึ่งอีกกระมังที่เคยพูดคุยกับจวินอู๋เสียเป็นการส่วนตัว แต่พวกเขาก็พากันตราหน้าว่านางเป็นคนสารเลวชั่วร้ายและแทบไม่สามารถอดใจรอที่กำจัดนางทิ้งได้เลย!
“คุณชายใหญ่ ได้โปรดอย่าดื้อดึงนักเลย…” อาจิ้งยืนกราน
ฟ่านจิ่นหมดความอดทนที่จะฟังคำพูดเหลวไหลของอาจิ้งต่อไป เขาคว้าคอเสื้อของอาจิ้งแล้วโยนเขาออกไปจากลานป่าไผ่
อาจิ้งกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง เขามองไปที่คนตรงหน้าอย่างว่างเปล่าขณะที่นั่งอยู่ตรงนั้น สายตาของศิษย์จากทุกสารทิศพากันมองมาที่อาจิ้งอย่างอยากรู้อยากเห็น
ขณะที่เขามองตามหลังฟ่านจิ่นที่เดินเข้าไปในป่าไผ่ เสียงร่ำไห้ของอาจิ้งก็ดังขึ้น
“คุณชายใหญ่! คุณชายรองนับถือท่านเป็นพี่ชายของเขาจริงๆ! ทำไมท่านถึงพยายามทำร้ายเขา! ทำไมท่านถึงนำจวินเสีย เจ้าคนไร้คุณธรรม เข้ามาใกล้คุณชายรอง! คุณชายใหญ่! นี่คือวิธีที่ท่านตอบแทนความไว้ใจที่คุณชายรองมีต่อท่านอย่างนั้นรึ! นี่หรือคือการตอบแทนที่ท่านอาจารย์ใหญ่เลี้ยงดูท่านมาจนถึงตอนนี้!”
อาจิ้งเสียสติไปแล้ว เขานั่งร้องไห้คร่ำครวญอยู่บนพื้นแข็งๆ คำพูดที่โลพ่งออกมาจากปากของเขา ทำให้บรรดาศิษย์ที่เดินผ่านไปมาทั้งหมดตาโตด้วยความตกใจ
นั่นคืออาจิ้ง! ผู้ช่วยที่ได้รับความไว้วางใจให้คอยรับใช้ฟ่านจัวอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก!
และคำพูดที่ออกมาจากปากของอาจิ้งในวันนี้ ได้เปิดเผยความจริงที่น่าตกตะลึงซึ่งราวกับเป็นสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่หน้าทุกคนในสำนักศึกษาเฟิงหัวอย่างแรง
ตอนที่ 578 เตรียมพร้อมตบหน้า (1)
คำพูดตัดพ้อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ทำให้ความคิดในใจของผู้คนหมุนวนปั่นป่วนไม่หยุด
ทุกคนรู้ว่าฟ่านจัวเท่านั้นที่เป็นบุตรชายในสายเลือดของฟ่านฉี ขณะที่ฟ่านจิ่น ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสามารถสูงส่งและเป็นผู้มีคุณธรรม อย่างไรเสียก็เป็นแค่บุตรบุญธรรม ไม่ใช่คนในสายเลือดเดียวกัน!
ความแตกต่างในความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นทำให้ความคิดร้ายๆ คืบคลานเข้าไปในจิตใจของศิษย์คนอื่นๆ
ชื่อ ‘จวินเสีย’ ถูกรังเกียจเหยียดหยามไม่หยุด แต่ฟ่านจิ่นก็ยังยืนกรานปกป้องเขา และกระทั่งนำเขาไปพักอาศัยอยู่ในลานป่าไผ่ซึ่งถูกสงวนไว้สำหรับฟื้นฟูอาการเจ็บป่วยของฟ่านจัว หรือนี่จะเป็น…ความจริงที่ไม่อาจพูดได้เบื้องหลังเหตุผลในการกระทำของฟ่านจิ่น
ตอนนั้นเอง ความคิดพวกนั้นก็ผุดขึ้นในใจของศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัว และชื่อเสียงของฟ่านจิ่นก็เสียหายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ทั้งหมดนี้ฟ่านจิ่นไม่รู้เรื่องเลย เขาก้าวยาวๆ เข้าไปในลานป่าไผ่ด้วยความโกรธและหยุดลงที่หน้าเรือนหลังเล็ก เขากังวลว่าสีหน้าโกรธจัดของเขาจะไปทำให้จวินอู๋เสียกับฟ่านจัวตื่นตกใจ จึงยืนอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปข้างใน
เขาพบฟ่านจัวอยู่ในห้องเพียงคนเดียว
“พี่ใหญ่ ท่านมาแล้ว” ฟ่านจัวทักทายพี่ชายของเขาอย่างร่าเริง
ฟ่านจิ่นพยักหน้า หลังจากแน่ใจแล้วว่าอารมณ์ของเขาสงบลงแล้ว เขาจึงถามขึ้นว่า “น้องเสียอยู่ไหนหรือ”
“ข้างนอก” ฟ่านจัวอุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะไว้ในอ้อมแขนและยิ้มอย่างอิ่มอกอิ่มใจขณะตอบ นิ้วของเขาลูบท้องน้อยๆ ของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอย่างนุ่มนวล
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะถอนหายใจเบาๆ ราวกับมันฝืนใจยอมให้ฟ่านจัวลูบไล้
ฟ่านจิ่นชะงัก
“ข้างนอก นางออกไปเมื่อไหร่” ในเวลาเช่นนี้ ถ้านางไปพบศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวเข้าอาจจะแย่เอาก็ได้
“สักพักแล้วล่ะ พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วงหรอก นั่งพักดื่มชาก่อนเถอะ” ฟ่านจัวพูดพร้อมกับดันถ้วยชาไปตรงหน้าฟ่านจิ่น
ฟ่านจิ่นกัดฟัน แต่ในเมื่อเขาไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียไปที่ไหน เขาจึงทำได้เพียงนั่งรอแค่นั้น
ขณะที่ฟ่านจิ่นนั่งกระสับกระส่ายอยู่ที่ลานป่าไผ่ จวินอู๋เสียก็มานั่งอยู่ในห้องทำงานของกู้หลีเซิงเรียบร้อยแล้ว
จวินอู๋เสียอุ้มเจ้าแมวดำตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน สีหน้าของนางสงบนิ่งขณะมองกู้หลีเซิงที่กำลังยิ้ม
“จวินเสีย เจ้ามาเยี่ยมข้าในวันนี้มีธุระอะไรหรือ” กู้หลีเซิงยิ้มกว้างขณะที่มองจวินอู๋เสีย ตั้งแต่จวินอู๋เสียแสดงความรู้อันลึกซึ้งในทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณ กู้หลีเซิงก็พบว่าเขาไม่สามารถวางท่าเป็นอาจารย์ต่อหน้าเด็กหนุ่มตัวเล็กคนนี้ได้อีกต่อไป
จวินอู๋เสียตอบด้วยน้ำเสียงไม่เร่งรีบว่า “การพัฒนาทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณสำเร็จแล้ว”
ดวงตาของกู้หลีเซิงเบิกกว้าง เขาจ้องมองจวินอู๋เสียอย่างไม่อยากจะเชื่อ
นี่เพิ่งผ่านไปนานแค่ไหนกัน แต่จวินเสียก็ทำสำเร็จแล้ว…
กู้หลีเซิงคิดว่ามันจะต้องใช้เวลานานและไม่เคยคิดว่าจวินอู๋เสียจะสามารถทำสำเร็จได้เร็วขนาดนี้ ในเวลาสั้นๆ เช่นนี้…จวินเสียทำมันสำเร็จแล้วรึ!
เจ้าหนูนี่ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่าเนี่ย!
“สำเร็จแล้ว…จริงหรือ” กู้หลีเซิงกลืนน้ำลายดังอึก
จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อย
กู้หลีเซิงตื่นเต้นมากจนมือสั่น
“ข้าพร้อมที่จะกลับมาที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณแล้ว” จวินอู๋เสียพูด
“ได้! ตอนนี้เลย! ทุกเมื่อที่เจ้าต้องการ!” กู้หลีเซิงตกลงโดยไม่ลังเล ในตอนแรกที่เขาปล่อยให้จวินอู๋เสียไปจากสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ ล้วนเป็นเพราะเขากังวลว่าจะมีผู้ที่เจตนาไม่ดีแอบแฝงเข้ามาขัดขวางเจ้าหนูนี่ และทำให้การพัฒนาทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณต้องหยุดชะงัก แต่ตอนนี้ทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณเสร็จสมบูรณ์แล้ว กู้หลีเซิงจึงไม่กังวลอะไรอีกต่อไป
เขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าติดป้ายหยกของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณให้แก่จวินอู๋เสียทันทีในตอนนี้! เดี๋ยวนี้เลย!
“ไม่ใช่แบบนี้” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นช้าๆ
เวลากำลังใกล้เข้ามาแล้ว เวลาที่จะเริ่มการแก้แค้นเอาคืนของนาง
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” กู้หลีเซิงระงับความยินดีในหัวใจและถามขึ้น เขาไม่เข้าใจว่าจวินอู๋เสียหมายความว่าอย่างไรกันแน่