บทที่ 320 จิ๋นซี
บทที่ 320 จิ๋นซี
เหตุผลของซูอัน ฟังดูหนักแน่นจนนางไม่สามารถหาข้อโต้แย้งได้ ในท้ายที่สุดนางก็ถอนหายใจและพูดว่า “หยุดเสียเวลา เอาสัญญามาได้แล้ว!”
ซูอันส่งสัญญาให้นาง นางจ้องมองเขาอย่างว่างเปล่า ไม่ได้เอื้อมมือมารับแต่อย่างใด
“ขยับไม่ได้เหรอ?”
“เจ้าน่าจะคิดเองได้นะ!”
ซูอันหัวเราะอย่างเขินอาย “ฮ่า ๆ! ได้ ข้าจะช่วยท่านเอง”
เขาเอื้อมไปจับมือนาง แต่ต้องตกใจกับความเย็นยะเยือกของร่างกายอีกฝ่าย มันเย็นจัดจนเหมือนซึมลึกเข้าไปในกระดูกของเขา
“นี่ท่านเป็นคนหรือผีกันแน่?” ซูอันถามอย่างอึกอัก
“เจ้าว่าไงล่ะ?” หมี่ลี่มองเขาแล้วยิ้มอย่างน่ากลัว
หลังจากปรับตัวให้เข้ากับความหนาวเย็น ซูอันลองบีบมือนางเล็กน้อยและพบว่ามันยืดหยุ่นอย่างปกติดี จากนั้น สายตาของชายหนุ่มก็ค่อย ๆ จ้องมองไปที่หน้าอกของนาง และพึมพำเบา ๆ ว่า “ข้าว่า…ข้าน่าจะลองทดสอบตรงนั้นสักหน่อย…”
อย่างไรก็ตาม เขาต้องล้มเลิกความคิดไปเมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าอันแรงกล้าจากหมี่ลี่
ซูอันบ่นพึมพำว่า “ก็ท่านปฏิเสธที่จะตอบคำถามของข้าก่อนนี่นา…”
จากนั้นเขาก็ปาดเลือดของตัวเองบนนิ้วของนางก่อนจับนิ้วของนางประทับลงบนสัญญา
หมี่ลี่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ ๆ ร่างกายของนางก็สั่นสะท้าน นางจ้องมองไปที่คราบเลือดบนร่างกายของเขาอย่างครุ่นคิด
อย่างไรก็ตาม ซูอันไม่ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาของนางเลย เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะเก็บสัญญาไว้ในเสื้อคลุมของตน จากนั้นก็หันไปหากระบี่ที่อยู่เหนือโลงศพแล้วถามว่า “ข้าต้องเอากระบี่นั่นลงมาใช่ไหม?”
“ถูกต้อง แต่ระวังอย่าปล่อยให้มันหลุดมือเด็ดขาด ข้าไม่อยากถูกกระบี่แทงตายในนาทีสุดท้าย!” หมี่ลี่ตอบ
ซูอันรู้สึกงุนงง “ถ้ากระบี่เล่มนี้สามารถฆ่าท่านได้ ทำไมอิ่งเจิ้งถึงไม่ทำในตอนนั้น? มันแปลก ๆ นะ? ”
“เจ้ามีคำถามเยอะจริง ๆ นะ ภรรยาของเจ้าตายแน่ ถ้าเจ้ายังงี่เง่าแบบนี้” หมี่ลี่พูดตอบโต้
ซูอันใจสั่นเมื่อนึกถึงฉู่ชูเหยียน ชายหนุ่มไม่กล้าเสียเวลาอีกต่อไป เขากระโดดขึ้นไปในอากาศและคว้าโซ่ด้วยมือข้างหนึ่งและกระบี่ไท่เอ๋อร์ ด้วยมืออีกข้าง
ทันทีที่ซูอันสัมผัสกับด้ามจับกระบี่ ร่างกายของเขาก็กระตุกอย่างแรง จิตใจปั่นป่วนสับสน และเมื่อดึงมันออกจากโซ่ ชายหนุ่มก็ต้องตระหนักว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสุสานใต้ดินอีกต่อไป แต่เป็นท้องพระโรงของวังต้องห้าม!
ชายหนุ่มไม่สามารถหาคำมาบรรยายถึงความยิ่งใหญ่ของสถานที่นี้ได้อย่างเหมาะสม มันทำให้เขารู้สึกไร้ค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้ ราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ฝุ่นธุลี
“ในที่สุดเจ้าก็มา” จู่ ๆ เสียงที่เคร่งขรึมและทรงอำนาจได้ดังขึ้น
ซูอันหันไปมองทันที มีชายชุดดำนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร ตัวตนของเขาทรงพลังจนดูราวกับว่าทุกสิ่งในโลกอยู่ภายใต้ฝ่ามือของเขา
โห…เขาสุดยอดจริง ๆ เพียงแค่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก็ดูเท่ขนาดนั้น ถ้าข้าได้ความสง่าจากเขามาสักครึ่งหนึ่ง ไม่สิ แค่หนึ่งส่วน ก็เพียงพอแล้ว ข้าต้องเป็นผู้ชายที่เท่ที่สุดในโลกแน่ ๆ!
“ท่านคือใคร?” ซูอันหรี่ตา
มีชั้นหมอกปกคลุมชายผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรอยู่ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของเขาได้ชัด อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้า ซูอันก็สังเกตเห็นมังกรทองห้ากรงเล็บ*[1] ปักอยู่บนชุดสีดำของชายผู้นี้ และความคิดผุดขึ้นในใจของตัวเอง “ท่านคือปฐมกษัตริย์แห่งรางวงศ์ฉิน จิ๋นซีฮ่องเต้!”
“ไม่สำคัญว่าข้าเป็นใคร” ชายที่สวมชุดมังกรตอบ “สิ่งที่สำคัญคือเจ้าอยู่ที่นี่”
ซูอันกลืนน้ำลาย
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? เขารู้หรือเปล่าว่าข้าตั้งใจจะช่วยภรรยาของเขา ข้าตายแน่คราวนี้ เอ๊ะ…เดี๋ยวก่อนนะ ก่อนนี้ข้าหยอกล้อภรรยาเขาอยู่นี่ เขาเห็นมันทั้งหมดหรือเปล่า? ให้ตายสิ ข้ามันโง่จริง ๆ!
ชายที่สวมชุดมังกรลุกขึ้นยืน ซึ่งทำให้ซูอันถอยหนีออกไปหลายก้าวด้วยความกลัว แต่ท้องพระโรงก็กว้างใหญ่มากจนมองไม่เห็นทางออก ทำให้เขาได้แต่มองไปรอบ ๆ อย่างหวาดหวั่น
“เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัว ข้าไม่ได้ตั้งใจจะปลิดชีพเจ้า” เมื่อมองซูอันที่ดูหวั่นกลัว ชายผู้สวมชุดมังกรกล่าว “ชายผู้สามารถเอาชนะผนึกมนุษย์ ปฐพี และสวรรค์ได้ คือคนที่ฉลาดและมีโชค เจ้าคู่ควรกับงานที่ข้าจะมอบหมายให้เจ้าทำ”
“เรื่องนั้น…ระดับการบ่มเพาะของข้าต่ำต้อยนัก ข้ากลัวว่าจะทำให้ท่านผิดหวังน่ะสิ ท่านหาคนอื่นทำให้แทนจะดีกว่าไหม?” ซูอันตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก
เมื่อพิจารณาถึงความจริงจังของชายที่สวมชุดมังกร เขาคิดว่าอีกฝ่ายต้องมอบหมายภารกิจที่ยากยิ่งให้เขาแน่ ๆ
เขาต้องฝ่าทุ่งนรกหรืออะไรสักอย่างแน่ ๆ ใช่ไหม ไม่มีทาง ข้าไม่ยอมรับภารกิจของเจ้าแน่!
“ได้” ชายในชุดมังกรยอมรับอย่างง่ายดาย
ซูอันรู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเจรจาง่ายขนาดนี้ เขากล่าวเสริมอย่างรวดเร็วว่า “ถ้าอย่างนั้น ข้าขอตัวลาก่อนก็แล้วกัน!”
หลังจากพูดจบ ซูอันหันหลังกลับและรีบเดินจากมาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เสียงคำรามดังก้องของมังกรก็ดังขึ้น ชายในชุดมังกรชักกระบี่ของเขา ควันพวยพุ่งออกมาจากฝัก และยิ่งไปกว่านั้น ซูอันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกจับจ้องโดยทหารทั้งกองทัพ!
ในขณะเดียวกันนี้เองที่ชายผู้ที่เคยนั่งอยู่บนบัลลังก์พูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่มีใครในโลกนี้ปฏิเสธข้าได้ ชะตากรรมเดียวของผู้ที่กล้าปฏิเสธข้าคือความตาย!”
“ข…ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง! ผู้อาวุโสโปรดใจเย็นลงก่อน! ไม่ว่าจะเป็นการไต่ภูเขาเพลิงหรือลงไปในทะเลกรด ข้าจะทำให้ท่านทุกอย่าง!” ซูอันรีบเปลี่ยนคำพูดทันที
ทันใดนั้นวัตถุสีดำก็พุ่งมาหาซูอัน เขาเอื้อมมือออกไปจับมันโดยไม่รู้ตัว มันคือกระบี่เล่มหนึ่ง จากนั้นชายหนุ่มก็ได้เงยศีรษะขึ้นอีกครั้ง และเห็นว่าชายในชุดมังกรไม่ถือกระบี่ในมืออีกต่อไป
กระบี่ที่ซูอันถืออยู่ตอนนี้เป็นกระบี่เดียวกับที่ชายในชุดมังกรชักออกจากฝักเมื่อครู่ และเมื่อตรวจดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน เขาก็ตระหนักว่าแท้จริงแล้วมันคือกระบี่ไท่เอ๋อร์นั่นเอง!
“มีไท่เอ๋อร์อยู่ในมือแล้ว จงค้นหาเนินตะวันตก แล้วเจ้าจะรู้เองว่าต้องทำอะไร” ชายในชุดคลุมมังกรกล่าว
“เนินตะวันตก?” ในฐานะเกรียนคีย์บอร์ดที่เคยท่องไปในโลกออนไลน์ ซูอันรู้สึกประทับใจกับชื่อนี้ ดูเหมือนจะเป็นดินแดนที่เป็นมงคลของราชวงศ์ฉิน
แต่ทำไมเจ้าถึงไม่บอกข้าว่าข้าต้องไปที่เนินตะวันตกเพื่ออะไร? ทำไมพวกผู้บ่มเพาะทรงพลังอย่างเจ้าชอบมีลับลมคมใน? เจ้าคิดว่าการทำเช่นนี้จะทำให้เจ้าดูฉลาดงั้นเหรอ?
“จงจำไว้ว่าเจ้าต้องพาไท่เอ๋อร์ไปที่เนินตะวันตก” ชายในชุดมังกรสั่ง
“ทำไม?” ซูอันถาม
“ไท่เอ๋อร์คือกุญแจสู่เนินตะวันตก”
“กุญแจ?”
ซูอันมองกระบี่ในมือของเขาในขณะที่เขาสงสัยว่าประตูจะมโหฬารขนาดไหนถึงต้องการกุญแจใหญ่ขนาดนี้
“แน่นอน ข้าจะไม่ให้เจ้าทำงานเปล่า ๆ ที่ด้านในไท่เอ๋อร์ มีครึ่งแรกของวิชาปฐมบทแรกเริ่ม มันสามารถทำให้ร่างกายของเจ้าอบอุ่นและมีผลในการชำระล้างและฟื้นฟูความแข็งแกร่ง มันน่าจะช่วยเจ้าได้มาก”
“วิชาปฐมบทแรกเริ่ม?” ซูอันทวนชื่อ
จากชื่อของมันเขาสามารถบอกได้ว่ามันน่าจะเป็นวิชาที่พิเศษอย่างมาก เขาไม่สนใจผลการชำระล้าง แต่ผลการฟื้นฟูเป็นสิ่งที่เขาต้องการที่สุดในตอนนี้
ความสามารถของวิชาวัฏจักรหงส์อมตะที่เสริมความแข็งแกร่งในยามได้รับบาดเจ็บนั้นยอดเยี่ยมก็จริง แต่ก็อันตรายมากเช่นกัน ถ้าชายหนุ่มไม่ระวังและปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บมากเกินไป มันอาจจะเป็นจุดจบของเขาจริง ๆ
ในส่วนของยาฟื้นฟูส่วนมากใช้เวลาค่อนข้างนานจึงจะเห็นผล ถ้าเขาอยู่ในสถานการณ์วิกฤต ยาเหล่านั้นไม่น่าจะช่วยชีวิตเขาได้ ในท้ายที่สุด ยาที่เชื่อถือได้อย่างแท้จริงคือ ‘น้ำยาศรัทธาพี่น้อง’ แต่การสุ่มรางวัลให้ได้มานั้นก็ยากยิ่ง
“ข้าจะฝึกฝนทักษะที่ท่านบอกได้ยังไง?” ซูอันถาม
“จงเพ่งจิตของเจ้าไปที่กระบี่แล้วเจ้าจะสัมผัสกับมันได้” ชายในชุดมังกรตอบ
เขาพยายามเพ่งจิตสำนึกไปที่กระบี่ไท่เอ๋อร์ และไม่นานนักตัวอักษรมากมายก็ผุดขึ้นในใจของเขา
“ในปฐมกาลที่สวรรค์และโลกยังไม่ถือกำเนิด มีแต่ความเยือกเย็น และมืดมิด ทุกสิ่งทุกอย่างมีต้นกำเนิดมาจากยุคบรรพกาล…”
ทันใดนั้นเสียงของคีย์บอร์ดก็ดังขึ้น “ตรวจพบ: คัมภีร์ลับของเนินตะวันตก – [วิชาปฐมบทแรกเริ่ม] ใช้มันเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นคีย์บอร์ดหรือไม่?”
ซูอันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง คาดไม่ถึงว่าการมาที่นี่จะทำให้ข้าค้นพบวิชาลับงั้นเหรอ?
เขากดยอมรับ หมอกสีดำพุ่งเข้าสู่ปุ่ม F3 อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดรูปภาพลึกลับบนปุ่มนั้น
“เริ่มอุ่นร่างกายกันก่อนไหม?” แป้นพิมพ์แจ้ง
อุ่นร่างกาย? หมายความว่าอะไรหว่า?
อย่างไรก็ตาม ด้วยเกรงว่าตนจะพลาดโอกาสหากปฏิเสธตัวเลือกนี้ เขาจึงเลือก “ใช่” อย่างรวดเร็ว
[1] มังกรทองห้ากรงเล็บเป็นสัญลักษณ์ที่สงวนไว้เฉพาะสำหรับจักรพรรดิเท่านั้น