นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 177 รู้จักแต่รังแกผู้หญิงเรา!
เหล่าไท่ไท่ทางนั้นพอเห็นสวีฉางหลินกลับมาก็โวยวาย “ไอ้หยา ฉางหลิน เจ้ากลับมาเสียที ถ้าไม่ใช่เพราะคนในหมู่บ้านเรามาช่วย คนพวกนี้ก็คงฉีกข้ากับกุ้ยหลานไปแล้ว!”
คำพูดนี้ของเหล่าไท่ไท่ทำให้สีหน้าคนหมู่บ้านหลิวเปลี่ยนสี แต่กลับทำให้คนคนหมู่บ้านต้าสือยิ้มหน้าชื่นตาบาน
คนบ้านตระกูลโจวรู้จักจดจำพระคุณ พวกเขายืนอยู่ตรงนี้พักเดียว พวกเขาก็ขอบคุณจากใจแล้ว
ขณะกำลังเอ่ย พวกโจวต้าไห่ก็รีบเดินมาจากข้างหลัง ครั้นได้ยินถ้อยคำของเหล่าไท่ไท่ก็พลันเปลี่ยนสีหน้า
โจวต้าไห่เบียดเสียดออกมาจากฝูงชน ครั้นเห็นเหล่าไท่ไท่ก็พลันจับมือนาง “เกิดอะไรขึ้น? มีคนมารังแกถึงบ้านหรือ?”
เขากล่าวพลางเบนสายตาไปทางอีกฝั่ง เห็นหลิวเซียงนั่งกองอยู่กับพื้น เห็นท่าทางอเนจอนาถ ของนางแล้วหัวใจก็กระตุก
ครั้นเห็นคนหมู่บ้านหลิวเหล่านั้น แววตาจึงฉายอารมณ์วาวโรจน์
เอ้อร์เฉียง ซานเฉียงกับโจวต้าซานก็เบียดคนเข้ามาด้วย ครั้นเห็นภาพนี้สีหน้าก็พลันแย่
“นี่คือเห็นพวกเราตระกูลโจวไม่มีผู้ชายจึงมารังแกหรือ?”
โจวต้าซานเอ่ยด้วยความเดือดดาล
สีหน้าหลิวฝูที่อยู่อีกทางหนึ่งพลันซีดขาว ไหนชุ่ยฮวาบอกว่าบ้านพวกเขามีโจวต้าไห่เป็นลูกชายคนเดียวอย่างไรเล่า ทำไมถึงเห็นมีผู้ชายตั้งห้าคน? ต่อไปเขาจะให้คนในหมู่บ้านมาช่วยเขาทุกครั้งก็ไม่ได้! ลูกชายเยอะอย่างนี้ ไม่ใช่จะรังแกได้ง่ายๆ
“ก็เพราะเห็นพวกเจ้าไม่อยู่บ้านก็เลยมารังแกพวกเราผู้หญิงสองคนนี่อย่างไร! พวกเจ้าดูคนพวกนี้สิ ยังคิดจะลงมือลงไม้กับข้ากับกุ้ยหลานด้วยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเราเก่ง พวกเขากลัวจะถูกฟัน ป่านนี้พวกเราคงโดนเอาเงินไปหมดแล้ว อย่างกับพวกขโมยขโจรแน่ะ!”
เหล่าไท่ไท่เห็นบุตรชายกับลูกเขยของตัวเองกลับมา จึงตีโพยตีพายเสียงดังทันที
ในหมู่บ้านผู้หญิงพูดอะไรไม่ได้ แต่เมื่อมีผู้ชายอยู่สองคน ใครยังจะกล้ารังแกพวกนางอีก? ตอนนี้คนพวกนี้จึงไม่กล้าลงมืออีก ความโมโหที่ได้รับเมื่อครู่ นางไม่อดไว้หรอก ดังนั้นจึงระบายออกมาในตอนนี้!
“รู้แต่รังแกพวกเราที่เป็นผู้หญิง! พวกเจ้าคนหมู่บ้านหลิวก็รังแกผู้หญิงอย่างนี้หรือ? ลูกสาวเกือบถูกกระทืบตายแล้ว กับเมียมิยิ่งหนักกว่าหรือ?”
โจวกุ้ยหลานกล่าวคล้อยตาม
อื่ม การมีที่พึ่งช่างรู้สึกดีจริง
แม้บอกว่าลำพังนางก็ไม่กลัวคนพวกนี้ อย่างมากก็สู้ถึงที่สุด แต่หลังจากสวีฉางหลินอยู่ข้างกายแล้ว นางไม่ต้องอดกลั้นอารมณ์แม้แต่น้อย ด่าทอพวกเขาได้เต็มที่
“พวกเจ้าอย่าพูดไปเรื่อยนะ! พวกเราทำอย่างนี้กับเมียเมื่อไรกัน?”
คนหนุ่มหมู่บ้านหลิวคนหนึ่งเอ่ยปากโต้แย้ง
หากแพร่ออกไป ต่อไปยังมีใครยินดีแต่งบุตรสาวมาให้คนหมู่บ้านหลิวอีก?
“ใครพูดไปเรื่อย?” สวีฉางหลินเอ่ย ส่วนตัวก็เดินหน้าไปแล้ว
ต่อหน้าเขายังกล้าด่ากุ้ยหลานอีกหรือ? เช่นนั้นก่อนหน้านี้จะต้องรังแกนางขนาดไหน?
โจวกุ้ยหลานเห็นเขาเดินหน้าไปจึงรีบฉุดเสื้อของเขา
ต่อหน้าคนเยอะแยะ ถ้าเขาไปแล้วเสียท่ากลับมาจะทำอย่างไร? อีกอย่าง ก็แค่ทะเลาะเบาะแว้ง คนพวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้มารดานางหรอก!
“ไอ้หยา พวกเจ้าดูสิหลิวเซียงยังนอนอยู่กับพื้น ดูสิพวกเจ้าไม่มีระเบียบเอาเสียเลย ผู้ชายตัวโตหลายคนฉุดกระชากลากถูเด็กสาวกับพื้น! กับลูกสาวตัวเองพวกเจ้ายังทำได้ลงคอ แล้วยังจะดีกับเมียได้หรือ?”
เหล่าไท่ไท่มือหนึ่งเท้าเอว อีกมือหนึ่งก็ชี้หลิวเซียงที่อยู่กับพื้น จากนั้นก็เดินขึ้นหน้าไปก้าวหนึ่ง โพล่งปากก่นด่าหลิวฝูที่อยู่ตรงกลาง “เจ้ามันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน หัวใจเป็นสีดำกระมัง? ทำร้ายลูกสาวตัวเองยังแล้วไป ยังทำจนคนหนุ่มในหมู่บ้านจะสู่ขอเมียก็ไม่ได้ด้วย! ตอนนี้พวกเราคนในหมู่บ้านต่างเห็นหมดแล้ว พวกเจ้าคนที่ยังไม่ได้แต่งงานก็รอขึ้นคานเถอะ!”
สีหน้าคนหนุ่มจำนวนหนึ่งพลันเปลี่ยน สายตาที่มองหลิวฝูมีความลังเลสงสัยเล็กน้อย
พวกเขายังไม่ได้แต่งภรรยาแล้วนะ นี่หากแต่งภรรยาไม่ได้จริงๆ จะทำอย่างไร?
“เจ้ามีลูกชายก็รอไปเถอะ ต่อไปต้องขึ้นคานกันหมด พวกเจ้าสิ้นทายาทแล้ว!” เหล่าไท่ไท่ชี้ชายวัยกลางคนแล้วเอ่ยอีกครั้ง
ชายวัยกลางคนพอนึกถึงบุตรชายสี่คนของตัวเองแล้วก็หวั่นวิตก
“พวกเจ้าหมู่บ้านหลิว หมู่บ้านเล็กๆ อย่างนี้ยังกล้ามารังแกพวกเราหมู่บ้านต้าสือ หรือว่าเอาแต่ทะเลาะวิวาทอยู่ในหมู่บ้านทุกวันจนชินเสียแล้ว? ตีลูกตีเมียจนติดใจเลยรู้สึกว่าตัวเองเก่ง ก็เลยมาตีคนหมู่บ้านต้าสือเราแบบนี้หรือ?”
เหล่าไท่ไท่ยกหนังตาขึ้น ด่าทอเสียงดัง “พวกเจ้าแบบเนี่ย มีลูกชายก็ไม่มีรู! มีรูก็ดวงขึ้นคาน! ส่วนคนที่ให้ลูกสาวกับพวกเจ้าก็คือดวงซวยแปดชาติ!”
คนหมู่บ้านหลิวถูกเหล่าไท่ไท่ด่าจนมีอารมณ์โกรธเต็มอก แต่พวกเขากลับไม่รู้จะด่ากลับไปอย่างไร อีกอย่าง นี่คือหมู่บ้านต้าสือ คนหมู่บ้านต้าสือมากมายกำลังล้อมอยู่ พวกเขาไม่กล้าทำเลยเถิด
แต่ละคนอดกลั้นราวกับลูกเต่า
ทางฝั่งคนหมู่บ้านต้าสือฟังถ้อยคำก่นด่าเหล่านั้นของเหล่าไท่ไท่แล้วก็พากันหัวเราะเอิ๊กๆ ตอนนี้กำลังรอกำนัน อย่างไรก็ไม่มีอะไรทำ ดังนั้นจึงฟังเป็นเรื่องสนุกสนาน
โจวกุ้ยหลานฟังอยู่ด้านหลังก็แอบเลื่อมใสเหล่าไท่ไท่ เห็นนางชี้นิ้วด่าคนเหล่านั้นเรียงคนแล้วก็รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย
ก่อนหน้านี้พวกสวีฉางหลินไม่อยู่บ้าน นางต้องถือมีดทำครัวมาถึงทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสตีนางกับเหล่าไท่ไท่ สงสารแต่หลิวเซียง ถูกตีหลายทีขนาดนั้น
“นังเด็กนี่ ตอนนี้ถูกบ้านข้าซื้อตัวแล้ว ยังจะนั่งจมอยู่กับพวกเขากองขี้หมาทำอะไร? ไม่กลัวรมถูกตัวเองหรือ?” เหล่าไท่ไท่หันไปมองทางหลิวเซียง ตวาดกับหลิวเซียง
ครั้นหลิวเซียงได้ยินถึงรู้สึกตัว อยากลุกขึ้นแต่เจ็บหน้าอกเกินไป ดังนั้นจึงล้มลงไปอีก จากนั้นจึงใช้มือเท้าคลานมาฝั่งตระกูลโจว
เร็ว รีบไปจากตรงนี้ นางจะได้รับอิสระแล้ว ต่อไปจะมีความสุขแล้ว!
โจวต้าไห่เห็นท่าทางนางแล้วจึงรีบเดินไปทางนั้น คิดจะพยุงนางขึ้นมา
แต่หลิวฝูที่อยู่ข้างๆ กลับตะโกนขึ้น “พ่อเจ้าอยู่นี่ เจ้าจะหนีไปไหน!” ว่าแล้วก็จะไปลากตัวหลิวเซียง
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขารีบดึงเขาไว้ กระซิบ “เจ้าคิดว่ายังทำเรื่องใหญ่ไม่พอหรือ? กำนันก็จะมาถึงแล้ว เจ้าอดทนหน่อย ได้เงินแล้วก็รีบไป!”
หลิวฝูยังอยากพูดอะไร แต่พอเห็นท่าทางหงุดหงิดของคนหมู่บ้านหลิวแล้วจึงเงียบ
หากพวกเขากลับไปเสียตอนนี้ เช่นนั้นเขาต้องถูกคนหมู่บ้านต้าสือกินแน่
โจวต้าไห่รีบมุ่งไปสองสามก้าว พยุงหลิวเซียงขึ้นมา แล้วค่อยๆ เดินไปทางโจวกุ้ยหลานทีละก้าว
เหล่าไท่ไท่ด่าหลิวฝูอีกสองสามประโยค เห็นเขาคับแค้นใจแล้วนางก็สบายใจ หึเย็นเสียงหนึ่ง แล้วเดินยุรยาตรกลับไปใกล้ๆ กับบุตรสาวตัวเอง คร้านจะสนใจคนหมู่บ้านหลิวนั่นแล้ว
“ท่านป้า ทำไมไม่ด่าแล้วล่ะ พวกเรายังฟังไม่พอเลย!”
“นั่นสิ รออย่างนี้น่าเบื่อจะตาย”
“ข้าด่าพวกเขาจนหมดแรงแล้ว พวกที่มีมโนธรรมฟังแล้วก็โมโหฮึดฮัด พวกที่ไม่มีมโนธรรมได้ยินแล้วก็ไม่เก็บมาใส่ใจ ที่แต่เหนื่อยยังเป็นตัวข้าอยู่ดี” เหล่าไท่ไท่ตอบ
บทที่ 176 พวกเขารังแกเจ้าหรือ?
บทที่ 178 คนไปเงินมาจบ