บทที่ 428 สงครามอันวุ่นวาย

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 428 สงครามอันวุ่นวาย

บทที่ 428 สงครามอันวุ่นวาย

สำหรับเรื่องที่สามนั้นเกี่ยวข้องกับนอกโลก แม้ว่าชายหนุ่มจะเข้าฌานอยู่ แต่เรื่องใหญ่ขนาดนั้นเขาก็ทราบแล้วเช่นกัน ถึงจะบอกว่านี่อาจจะไม่ใช่ทางไปเทียนไวเทียน แต่ฉู่เหินก็ต้องลองไปดูสักหน่อย ด้วยเหตุนี้นี่จึงกลายเป็นเรื่องที่สามที่เขาจะต้องจัดการ ดังนั้นชายหนุ่มจึงออกจากฌานเร็วกว่าที่คิด

เขาติดต่อกับผู้เฒ่าฉู่และบอกถึงเรื่องที่ตนจะต้องทำ ไม่ต้องเป็นห่วงและก็ไม่ต้องให้คนมาติดตาม! หลังออกจากเกาะตระกูลฉู่มาแล้ว ฉู่เหินก็ออกเดินทางไปทะเลตงไห่คนเดียว การจะใช้ระบบตกปลาได้นั้น มีแต่จะต้องกลับไปยังที่เดิมที่เขาจากมา

การขี่กระเรียนอวกาศทำให้เขามาถึงหมู่บ้านชาวประมงภายในไม่กี่วัน ด้านนอกของหมู่บ้านเป็นที่ ๆ ชาวบ้านมักมาใช้หว่านแห่ที่นี่ประจำ เป็นเพราะที่แห่งนี้นี่แหละที่เปลี่ยนชีวิตของชายหนุ่มจากหลังมือเป็นหน้ามือ

ทุกครั้งที่ฉู่เหินหว่านแห่เขาจะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง แม้ว่าพลังวรยุทธ์เขาจะสูงแค่ไหนแล้ว แต่ตอนหว่านแห่ก็มักจะรู้สึกเช่นนี้เสมอ!

พอตรวจแห่ในมือจนละเอียดไม่มีสิ่งใดตกหล่น และยิ่งเวลาที่จะหว่านแห่ใกล้เข้ามาเท่าไรในใจเขาก็ยิ่งเต้นแรงมากเท่านั้น! และในตอนที่เขาหว่านแห่ออกไป จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังที่ข้างหู

“การทดสอบกำลังจะเริ่มขึ้น ผู้ถือครองฉู่เหินยอมรับการทดสอบเอาชีวิตรอดหรือไม่ เมื่อเริ่มการทดสอบแล้วผู้ถือครองจะไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้ ”

พอฉู่เหินได้ยินดังนั้นก็ดีใจ คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะโชคดีกับภารกิจในครั้งนี้ขนาดนี้ ฉู่เหินไหนเลยจะรู้ว่า ในเวลาเดียวกันมีประเทศที่อยู่ข้างไกลออกไป มีคน ๆ หนึ่งที่ทรงพลังเสียจนสองมือของเขาสามารถทำลายล้างโลกด้วยมือเปล่าได้เลย และขณะนี้ในมือขอคน ๆ นี้ก็กำลังกำไพ่อยู่ใบหนึ่ง

รูปในไพ่ใบนี้ไม่ใช่ใครอื่น มันคือภาพฉู่เหินนั่นเอง ว่าแล้วคนผู้นี้ก็ทำท่าจะโยนไพ่ใบนั้นโยนลงไปในเตาเผา ทว่าจู่ ๆ เขาก็หยุดชะงัก ก่อนที่จะมองไพ่ในมืออย่างสนใจ “ยังจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่งั้นเหรอ? งั้นฉันจะจับตาดูสิว่านายคุ้มค่ากับการที่ฉันจะเก็บเอาไว้ไหม!”

ว่าจบก็นำไพ่วางไว้ด้านข้าง และเล่นไพ่ต่อกับชายชราอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ระหว่างที่ทั้งสองกำลังยกยิ้มอยู่นั้นไม่มีใครสังเกตเห็น ตอนที่ทั้งสองวางไพ่ใบนั้นหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ยื่นมือมาหยิบไพ่หน้าฉู่เหินมาไว้ในมือตัวเอง

หลังจากที่หญิงสาวขอตัวลา เธอก็โยนไพ่ที่มีหน้าของฉู่เหินออกไปไกลลิบ!

ทวีปลึกลับนั้นเป็นทวีปที่พิเศษมาก ๆ อยู่อย่าง ที่ทวีปแห่งนี้นั้นมีการเดินทางที่สะดวกสบาย ทั้งยังมีพื้นที่กว้างขวางเกินกว่าจะนับได้ ทวีปลึกลับนั้นมีอยู่สองแห่ง และทั้งสองนี้ก็เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตในอวกาศอาศัยอยู่ทั่วไปหมด!

อย่างไรก็ตาม ดาวส่วนมากนั้นไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้ แม้กระทั่งมีดาวไม่น้อยที่ปิดการเข้าออกไปเลย ซึ่งดาวเหล่านี้ถูกเรียกว่าดินแดนคนเถื่อน ดังนั้นทวีปลึกลับจึงเป็นดาวที่พิเศษและยังสามารถไป ๆ มา ๆ ได้ระหว่างดวงดาวอื่น ๆ ได้

เมื่อเป็นแบบนี้จึงทำให้ทวีปลึกลับเจริญอย่างมาก แต่คนเก่งที่นี่มีไม่เยอะมากนัก เป็นเพราะบริเวณรอบข้างนั้นไม่อยากให้ทวีปลึกลับเจริญมั่งคั่ง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ทวีปลึกลับถูกโจมตีมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา และทุกศึกสงครามก็จะมียอดฝีมือล้มหายตายจากไปนับไม่ถ้วน!

ในตอนนี้ทวีปลึกลับก็กำลังตกอยู่ในสภาวะสงคราม ทำให้ทั่วทุกระแห่งไม่มีความสุขสงบเลย ทว่าเพราะศึกนี้นี่เองที่ทำให้เกิดยอดฝีมือขึ้นหลายต่อหลายคน

เนินนานที่ทวีปลึกลับอยู่ในสภาวะสงคราม มียอดฝีมือกระจายกำลังออกไปทั่ว และพวกเขาทุกคนก็รู้ดีว่าภายในทวีปลึกลับนั้นมีสงครามครั้งใหญ่เกิดขึ้นอยู่ นี่จึงทำให้การต่อสู้ภายในอยู่ในภาวะชะงักงั้น

ไม่มีใครกล้าทำอะไรเกินเลย ด้วยความกลัวว่าจะทำให้ภาพรวมมีปัญหา!

กองกำลังส่วนใหญ่ของทวีปลึกลับ พวกเขาถูกฝึกด้วยการเอาชีวิตเข้าแลก! พลทหารทุกคนจะต้องเขาสู่สนามรบ โดยไม่ได้รับแม้แต่การฝึกฝน! เพียงให้พวกเขาข้ามผ่านสนามรบหลาย ๆ ครั้ง คนที่รอดมาได้ก็จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งโดยธรรมชาติ

หลังจากผ่านการฆ่าสังหารมาหลายพันปี นี่จึงทำให้ทวีปลึกลับเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะนิกายใหญ่ ๆ ของทวีปลึกลับที่ทำให้ดาวดวงอื่นถึงกับต้องปวดหัว! เพราะนิกายเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีพลังโจมตีที่แข็งแกร่ง พลังวรยุทธ์ก็สูงส่งอีกด้วย อีกทั้งพวกเขายังร่วมมือกันโจมตี ส่งผลให้อานุภาพร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม

เดิมทีสงครามที่เกิดขึ้นนั้น ทางทวีปลึกลับไม่น่าจะรับมือไหวด้วยซ้ำ ทว่าก่อนหน้านี้ทวีปลึกลับได้พบกับของวิเศษสิ่งหนึ่ง มันมีลักษณะคล้ายกับไพ่ตกลงมาจากฟากฟ้า ตอนที่มันตกลงมาถึงกับทำให้โดยรอบพากันสว่างไสว

อีกทั้งไพ่ใบนี้ยังมีหน้าตาคนที่คนในทวีปลึกลับไม่มีใครรู้จักว่าเป็นใคร ซึ่งถ้าฉู่เหินมาเห็นเขาต้องตกใจแน่ ๆ เพราะว่าใบหน้าของคน ๆ นั้นก็คือตัวเขาเอง!

หลังจากพบไพ่ที่ฝั่งในหิน นั่นก็ทำให้ทั้งทวีปลึกลับเดือดขึ้นมา! พวกเขารู้ว่าไพ่ในหินนี้เป็นของล้ำค่ามาก ๆ อย่างแน่นอน มีความเป็นไปได้ที่จะตกมาจากโลกด้านบน! ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็อยากจะได้มันไปครอบครอง เพราะพวกเขาพบว่าเมื่อใดก็ตามที่มีไพ่ใบนี้จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น!

นี้เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้นเท่านั้น ใครจะรู้ว่านี้ยังมีความสามารถอะไรซ่อนอยู่อีกไหม ที่สำคัญไพ่ในหินนี้นั้นไม่ได้ใหญ่อะไร มันมีพื้นที่เพียง 15 ตารางเมตรเท่านั้น แต่ทว่ากลับหนักมาก แม้แต่ทหารที่แรงเยอะยังเคลื่อนไหวมันไม่ได้เลย

ในเมืองที่ห่างออกไปไม่รู้ไกลแค่ไหน หญิงสาวที่ทิ้งไพ่ใบนั้นเผยรอยยิ้มออกมา “อยากจะแย่งตำแหน่งพี่ชายฉัน นายยังไม่สมควรหรอกนะ ก็แค่ผู้ชายบ้านนอกคนหนึ่ง” พูดจบเธอยังส่งสายตาดูถูกไปที่ไพ่ที่ตัวเองโยนออกไป ก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่รีบร้อน

เธอปิดบังเรื่องทั้งหมดที่ทำอย่างลับ ๆ ทว่ามันกลับอยู่ในสายตาของคนหนึ่งที่จ้องมองอยู่ เธอเป็นสาวสวยคนหนึ่งที่มีนัยน์กระจางใสตากลมโต!

ทันทีที่หญิงสาวโยนไพ่ใบนั้น หญิงสาวอีกคนที่รีบตามไปและใช้เลือดในร่างกายตัวเองหลอมรวมกับไพ่ใบนั้น ก่อนที่นัยน์ตาจะปรากฏความพึงพอใจ “ฉู่เหิน ฉันช่วยนายได้แค่ตรงนี้ ต้องอยู่ที่นายแล้วว่าจะสามารถเอาวิญญาณที่สามกลับมาได้หรือเปล่า ทั้งหมดขึ้นกับโชคของนายแล้วล่ะ!”

เมื่อพูดจบหญิงสาวก็หมุนกายจากไป ถ้าฉู่เหินอยู่ที่นี่จะจำได้ทันทีว่าเธอคนนี้ก็คือเหมิงเอ้อนั้นเอง!

เหมิงเอ้อหายวาบไม่กี่ครั้งก็มาถึงห้องหรูหราแห่งหนึ่ง ในเวลานี้ห้องอันกว้างใหญ่นั้นมีคนอยู่แค่สองคน คนหนึ่งเป็นคนแก่อีกคนเป็นผู้หญิง ทั้งสองคนหากฉู่เหินอยู่ที่นี่เขาจะจำได้ทันทีว่าเป็นคนที่เขาเจอในเมืองโบราณ และมีความเกี่ยวข้องกับเขาอย่างมากนั้นก็คืออากงและเหวินสุ่ยเซี่ย!

เพียงแต่ในตอนนี้เหวินสุ่ยเซี่ยกลับต่างไปจากเดิมค่อนข้างมาก หากพูดว่ามีส่วนไหนแปลกไปก็คงจะเป็นท้องของเธอ ในตอนนี้ท้องของเหวินสุ่ยเซี่ยนูนออกมาเล็กน้อย ใบหน้าของเธออิ่มเอิบไปด้วยความสุข

“เด็กน้อยรีบออกมาเถอะ แม้ว่าจะไม่สามารถอยู่กับพ่อของเธอ แต่แค่ฉันเจอเธอฉันก็พอใจแล้ว!…”