บทที่ 334 กู้อิ๋นตื่นตระหนก

ก่อนหน้านี้ถังหลี่รับรู้เรื่องราวของจวนแม่ทัพ แม่ทัพกู้และฮูหยินกู้นั้นมีบุตรชายสามคนและบุตรสาวหนึ่งคน บุตรชายคนโตคือกู้หวนเนี่ยนเป็นคนที่ซื่อตรงและบ้าบิ่น เขาทำงานในศาลต้าหลี่ ทางด้านบุตรชายคนรองมีนามว่ากู้หวนอี้ เป็นคนมีไหวพริบและทำงานในกองทัพร่วมกับบิดา

ส่วนลูกชายคนที่สามคือกู้หวนจิ่นเป็นคุณชายเจ้าสำราญที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ตามเนื้อเรื่องของนวนิยายต้นฉบับแล้วครอบครัวสกุลกู้นั้นรักใคร่ตัวกู้อิ๋นที่หลงทางแล้วหายไปยามที่ยังเป็นเด็กเล็กอยู่ พวกเขาทำทุกอย่างที่กู้อิ๋นขอร้อง

สกุลกู้ต้องจ่ายหนี้ราคาแพงเพื่อให้กู้อิ๋นได้ขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาที่นางใฝ่ฝัน

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้วนี้ถังหลี่ยิ่งรู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น กู้อิ๋นไม่เพียงแต่ฆ่าเจ้าของร่างเดิมเท่านั้น ยังยึดครองครอบครัวของนาง ซ้ำยังพาคนทั้งสกุลกู้ไปตาย

นางเป็นตัวหายนะเสียจริง!

ถังหลี่ยืนอยู่ที่ประตูครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเห็นรถม้าสวยหรูเคลื่อนที่เข้ามาเรื่อยๆ จากระยะไกลก่อนที่จะจอดหน้าจวนแม่ทัพกู้ ม่านของรถม้าถูกยกขึ้นพร้อมกับหญิงสาวที่แต่งกายงดงามรูปร่างผอมเพรียว หญิงสาวผู้นั้นคือกู้อิ๋น

ครั้งสุดท้ายที่พวกนางได้เจอกันคือที่หมู่บ้านลี่เจีย ผ่านมาสามปีนางไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เมื่อกู้อิ๋นรู้สึกถึงการจ้องมอง นางจึงได้หันกลับไป เมื่อเห็นถังหลี่ สีหน้าของกู้อิ๋นเปลี่ยนไปทันที

ครั้งนี้ถังหลี่ตั้งใจจะเผชิญหน้ากับกู้อิ๋นโดยไม่ใช้มนต์พรางตา ทำให้กู้อิ๋นเห็นใบหน้าของนางได้อย่างชัดเจน ดวงตาของคนทั้งคู่สบกันทำให้กู้อิ๋นรู้สึกสับสนจนไม่สามารถอธิบายได้ นางรีบเดินเข้าจวนทันที ถังหลี่ยืนมองด้วยท่าทีครุ่นคิด

เมื่อครู่นางพยายามควบคุมจิตใจของกู้อิ๋นทว่ากลับล้มเหลว

หากถังหลี่อยากได้ตัวตนของนางกลับคืนมา ถ้าเป็นในยุคปัจจุบันนางสามารถทดสอบความเป็นพ่อลูกได้ แต่ในสมัยโบราณแบบนี้มันไม่ง่ายเลย ในตอนที่ร่างเดิมพลัดหายจากครอบครัวก็เป็นตอนที่นางยังเด็กมาก ทำให้รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไป จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจำหน้าตากันได้

ส่วนการตรวจสอบด้วยการหยดเลือดพิสูจน์ ความจริงแม้แต่คนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน เลือดก็ยังอาจหลอมรวมเป็นหยดเดียวกันได้ มันคือการใช้กลอุบายอย่างหนึ่งเท่านั้น เป็นการเดิมพันที่ไม่น่าเชื่อถือ หากผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นไปตามที่ใจคาดหวัง คนที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ย่อมเป็นกู้อิ๋นอย่างไม่ต้องสงสัย

ถังหลี่จึงคิดว่าหากนางสามารถควบคุมจิตใจของกู้อิ๋นให้บอกความจริงได้ ก็คงจะได้ตัวตนของตัวเองกลับคืนมาอย่างง่ายดาย แต่ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

กู้อิ๋นเป็นนางเอกของนวนิยายเรื่องนี้ ด้วยรัศมีของตัวเอกทำให้นางไม่ตกอยู่ใต้การควบคุมของถังหลี่ ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้ แต่ถังหลี่ไม่ได้ผิดหวังเพราะนางรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่มีทางลัด นางไม่ควรจะรีบร้อน เมื่อมองกู้อิ๋นที่กำลังตื่นตระหนกอยู่ เพราะใบหน้าของถังหลี่สะกิดใจให้กู้อิ๋นเกิดความระแวง

คนที่ขโมยของผู้อื่นไปจะรู้สึกสบายใจได้อย่างไรกัน?

ยิ่งตื่นตะหนกย่อมทำให้เกิดพิรุธไปกันใหญ่

ถังหลี่ยืนอยู่ที่ประตูครู่หนึ่งก่อนจะจากไป กู้อิ๋นเข้าไปในจวนด้วยสีหน้าไม่สูดี

“คุณหนูเกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?” สาวใช้อีกของกู้อิ๋นนามว่าจุ้ยอวิ๋นพูดขึ้น หญิงสาวส่ายศีรษะไปมา

“ไม่เป็นไร ข้าแค่เวียนหัว”

แต่แล้วกู้อวิ๋นเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ นางเดินไปที่ประตูแล้วออกไปมองรอบๆ แต่ร่างนั้นได้หายไปแล้ว นางจึงกลับไปที่ห้องนอนของตนเองอย่างเหม่อลอย

“คุณหนู ผีเสื้อที่องค์ชายสามมอบให้คุณหนูดูราวกับเป็นผีเสื้อจริงเลย ท่านมีใจให้คุณหนูมากนะเจ้าคะ”จุ้ยอวิ๋นกล่าว

กู้อิ๋นมองผีเสื้อที่อยู่ในกล่อง นางไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร หัวใจชืดชาไร้ความสุขเหมือนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

แม้ว่านางจะไม่ชอบจ้าวชู แต่กู้อิ๋นชอบความใจดีของเขาที่มีต่อนาง เมื่อก่อนนางจะอารมณ์ดีเมื่อได้รับของขวัญจากเขา แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าที่นางได้เห็นเมื่อครู่ ความสุขของนางก็หายไป

ใบหน้าของนางคล้ายคนผู้นั้นมาก แต่เป็นไปไม่ได้ สตรีผู้นั้นถูกขายให้กับซ่องโดยพวกค้ามนุษย์ไปแล้ว! กู้อิ๋นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความตื่นตระหนกในใจของนาง อาจจะแค่คนที่หน้าตาเหมือนกัน…

แววตาของหญิงสาวผู้นั้นดูไม่เหมือนเดิม นิสัยใจคอเหมือนไม่ใช่คนเดิมที่นางรู้จัก เพราะถ้าเป็นนางจริงๆ นางต้องดีใจมากที่ได้เจอกู้อิ๋นแน่นอน ไม่ใช่มีท่าทีเฉยเมยเช่นนี้

กู้อิ๋นทำทุกวิถีทางเพื่อให้มาถึงจุดนี้ วันนี้นางจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายแผนการณ์ของนางอย่างเด็ดขาด นางจะต้องระวังตัวให้มากขึ้น

“จู๋เยว่!” กู้อิ๋นเรียก

จู๋เยว่ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบข้างกู้อิ๋น นางพูดเสียงเบาว่า

“คุณหนู”

“ไปหาคนให้ข้า นางน่าจะอยู่ในหอนางโลมในมณฑลชิงเหอ นางหน้าตา..” กู้อิ๋นอธิบายลักษณะของถังหลี่

“มีคนที่หน้าตาเช่นนี้ในเมืองหลวงเช่นกัน ข้าพบนางที่หน้าจวนแม่ทัพเมื่อครู่ เจ้าตรวจสอบให้ข้าด้วย”

“เจ้าค่ะคุณหนู”

….

หลังจากที่ถังหลี่ออกจากจวนแม่ทัพแล้ว นางก็ไปที่จวนสกุลไป๋ ครั้งสุดท้ายที่นางได้เจอกับไป๋มู่หยางก็คือตอนงานแต่งงานของนาง และไม่ได้พบกันอีกเลยนับตั้งแต่นั้นมา อย่างไรก็ตามเมื่อนางได้รับจดหมายจึงได้รู้ว่าไป๋มู่หยางกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว

ตั้งแต่ที่ถังหลี่มาเมืองหลวง นางก็ต้องการจะเจอพี่ใหญ่ของตัวเองทันที หญิงสาวนั่งรถม้ามายังประตูจวนสกุลไป๋ ในเวลาประมาณครึ่งชั่วยาม ถังหลี่พูดกับบ่าวรับใช้หน้าประตู เขารีบเข้าไปรายงานเรื่องนี้ข้างในจวนทันที

ขณะนั้นไป๋มู่หยางกำลังพูดคุยธุรกิจการค้าที่สำคัญกับผู้จัดการประจำร้านค้าของเขา บ่าวรับใช้จึงได้แต่บอกลุงฝูที่ยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู

“แซ่ถัง? เป็นหญิงสาวใช่หรือไม่?” แววตาของลุงฝูเป็นประกาย ปีที่แล้วนายน้อยของเขากลับมายังเมืองหลวงและเริ่มแก้ไขปัญหาของสกุลไป๋ นายน้อยพบว่า สกุลไป๋ล้วนเน่าเสีย ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของสกุลเหลือเพียงเปลือกที่ว่างเปล่า บางส่วนก็ตกอยู่ในมือของไป๋ซวี่หยางและมารดา เป็นเรื่องยากที่นายน้อยจะกอบกู้สกุลไป๋ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้

ลุงฝูพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายน้อยทิ้งสกุลไป๋เสีย แต่เขากลับต้องการต่อสู้แย่งชิงกลับมา เขาจะไม่ให้ไป๋ซวี่หยางและมารดาได้มีความเป็นอยู่ดีเหมือนที่เคยเป็นมาหรอก ปีนี้เขาได้ต่อกรกับสองแม่ลูกทั้งแบบเปิดเผยและลับหลัง ทำให้นายน้อยของเขามีช่วงเวลาที่ยากลำบาก อารมณ์ของนายน้อยโหดเหี้ยมแปรปรวนมากขึ้น

ลุงฝูเป็นคนที่รู้ใจเขาดีที่สุด เขาสัมผัสได้ว่านายน้อยเต็มไปด้วยความทุกข์และไม่มีความสุขเอาเสียเลย

ลุงฝูกลุ้มใจเขาไม่รู้จะช่วยเหลือนายน้อยได้อย่างไร แต่ตอนนี้มีคุณหนูอยู่ที่นี่แล้ว

นายน้อยดูเปลี่ยนไปยามที่อยู่กับคุณหนูถัง เขาจะอารมณ์ดีและมีความสุขเป็นแน่หากได้เจอคุณหนูอีกครั้ง

“คุณหนูอยู่ที่หน้าประตูหรือ? เร็วเขา เจ้ารีบไปเชิญนางเข้ามาเร็ว”

ลุงฝูและบ่าวรับใช้รีบเดินไปที่ประตู เขาเห็นถังหลี่ยืนอยู่จริงๆ

“คุณหนู!” ลุงฝูร้องเรียกอย่างมีความสุข

ถังหลี่ไม่ได้เจอคุณหนูมานานถึงสามปีแล้ว เขายังดูแข็งแรงและกระฉับกระเฉงอยู่เช่นเดิม

“ลุงฝู”

“เข้ามาก่อนขอรับ นายน้อยกำลังปรึกษาหารือเรื่องกิจการกับเถ้าแก่สองสามท่าน คุณหนูดื่มน้ำชารอสักครู่นะขอรับ”

เขาพาถังหลี่ไปห้องนั่งเล่น สั่งให้บ่าวไปยกน้ำชาและอาหารว่างมาให้อย่างใส่ใจ ทั้งคู่ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่ครู่ใหญ่ ลุงฝูจึงได้พูดขึ้นว่า

“นายน้อยน่าจะทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณหนูรอสักครู่ ข้าจะไปเรียนนายน้อย” ถังหลี่พยักหน้ารับ

ลุงฝูรีบเดินออกไป แต่ไม่วายกำชับสาวใช้สองคนที่หน้าประตูให้คอยดูแลรับใช้ถังหลี่ให้ดี เมื่อลุงฝูเดินมาถึงห้องโถงพลันได้ยินเสียงตวาดดังลั่นมาจากข้างใน

เฮ้อ… นายน้อยโมโหอีกแล้ว