ตอนที่ 372 เตรียมสินสอดไว้แล้ว

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 372 เตรียมสินสอดไว้แล้ว

ปลายเดือนธันวาคม ดูเหมือนร่างกายของเหมียวอวี้จะไม่มีความเปลี่ยนแปลง แต่กลับนอนมากกว่าตื่น สภาพร่างกายถอยหลังสู่ช่วงวัยทารก

ความเศร้าเสียใจของสองย่าหลานครอบครัวลู่และสองผู้อาวุโสครอบครัวเหมียวได้แผ่ซ่านถึงทุกคน โดยเฉพาะเป่ยซีกับตาเป่ยยายเป่ย

ตี้อู๋เปียนดึงมู่เถาเยาไปด้านข้าง กระซิบบอก “ซาลาเปาน้อย พรุ่งนี้พาฉันเข้าเขตป่าชั้นในเถอะ”

มู่เถาเยามองตี้อู๋เปียนไม่พูดอะไร

ทำไมเขาถึงทำให้เธอรู้สึกว่า ขอแค่พาเขาเข้าเขตป่าชั้นในก็จะเจอหญ้าร้อยรส

“ใครๆ ก็รู้ว่าฉันดวงดี ลองไปดูก็คงไม่แย่ไปกว่าตอนนี้หรอก”

มู่เถาเยายกแขนตี้อู๋เปียนขึ้นมาจับชีพจร

“สภาพร่างกายคุณก็พอไหวแล้ว ไว้กลับมาอาทิตย์หน้าฉันจะพาคุณเข้าเขตป่าชั้นใน ตอนนั้นก็ขึ้นปีใหม่พอดี ได้หยุดสามวัน”

“ได้ หลังปีใหม่เธอก็ต้องสอบแล้วหรือเปล่า”

“อืม ฉันมีสอบค่อนข้างเยอะ สอบเสร็จหมดทุกตัวก็ปิดเทอม พอถึงตอนนั้นฉันกับพี่รองจะพาคณะเข้าเขตป่าชั้นในตามหาดอกไม้สองชีวิตกับหญ้าพิษชีวิตที่คุณจำเป็นต้องใช้ และจะออกมาก่อนตรุษจีน”

“ซาลาเปาน้อย…เรื่องนี้ไม่รีบ” ขนาดเขากับดอกฉยงฮวายังหาไม่เจอ คนอื่นขนกันเข้าไปเยอะแค่ไหนก็คงไม่ต่างกันมาก

ตอนนี้เขาชักสงสัยแล้วว่าบนโลกนี้ไม่มีดอกไม้สองชีวิตกับหญ้าพิษชีวิตอยู่จริงๆ

ถึงแม้จะยังไม่ได้หาครบทุกซอกทุกมุมของเขตป่าชั้นใน แต่ก็พอประมาณแล้ว

ถ้าขนาดป่าเซียนโหยวยังไม่มี ที่อื่นก็ไม่น่ามี

“รีบไม่รีบก็ต้องเข้าไปทดสอบผลลัพธ์ของกลุ่มฝึกพิเศษหน่อย”

“อืม ซาลาเปาน้อย ฉันอยากให้มู่ซือจิ่น ซย่าโหวจิ่งเหยา ถังเซิ่นอวี๋ ไปเข้ากองทัพ พวกเขาเป็นคนฝีมือดีของความร่วมมือทางกองทัพ”

“คุณลองคุยกับผู้ปกครองของพวกเขา ถ้าอนุญาตก็ตามนั้น”

“ได้ ฉันมาบอกเธอก่อน รอพวกเธอออกจากเขตป่าชั้นในฉันค่อยไปคุยกับผู้ปกครองของพวกเขา”

มู่เถาเยาพยักหน้า “ตี้อู๋เปียน พ้นปีนี้ไปคุณก็ฝังเข็มสองสัปดาห์ครั้งได้ พ้นไปอีกปีก็ฝังเข็มแค่เดือนละครั้ง มีเวลาเยอะขึ้นคุณอยากไปที่ไหนหน่อยไหม หมกตัวอยู่แต่ในหมู่บ้านเถาหยวนเสียดายความเก่งแย่”

“ต่อให้อยู่หมู่บ้านเถาหยวนฉันก็ทำอะไรได้เยอะแยะ”

“ฉันรู้ แต่เมื่อเทียบกับร่างกายได้เป็นอิสระ คุณทำอะไรได้มากกว่านั้น”

“ปีหน้าฉันจะอยู่สองที่ระหว่างหมู่บ้านเถาหยวนกับเย่ว์ตู คงมีกลับเมืองหลวงบ้าง หรือไม่ก็ไปเจียงตู รอเธอไปเรียนที่เมืองหลวงฉันคงจะอยู่ที่นั่นบ่อยขึ้น”

“อืม ตอนนี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องรักษากับหมอไป๋แล้ว ไม่งั้นยกเขาให้ฉันได้ไหม”

“เธออยากให้ไป๋เฮ่าอวี๋ไปอยู่ห้องทดลองเหรอ”

มู่เถาเยายิ้มมุมปากพลางพยักหน้า “ใช่”

“ก็ดี จะเริ่มวิจัยหลังตรุษจีนเหรอ”

“อืม ตอนนี้ขนพวกเครื่องมือมาแล้ว หลังตรุษจีนพวกนักวิจัยมากันครบก็เริ่มคิดค้นพวกยาได้”

ตี้อู๋เปียนพูดด้วยความปวดใจเล็กน้อย “ซาลาเปาน้อย เธอหักโหมมากเกินไปแล้ว นับตั้งแต่ฉันรู้จักเธอก็ไม่เคยเห็นเธอว่างเลยนะ”

มู่เถาเยายิ้มพูด “ฉันอยากใช้เวลาตอนอายุยังน้อยที่สมองดีสภาพจิตดีทำสิ่งต่างๆ ให้มากๆ ไม่อย่างนั้นเกิดวันหน้าไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว อยากทำก็ทำไม่ได้”

“อย่างน้อยเธอก็มีชีวิตอยู่ได้ถึงสองร้อยปี ยังมีเวลาอีกเยอะ พักผ่อนบ้าง ไปตากอากาศอะไรแบบนั้น”

“นี่เป็นเพราะทุกเรื่องมันประจวบเหมาะกองรวมกันพอดี รอฉันเรียนจบก็มีเวลาเหลือเฟือแล้ว”

“ต่อให้เธอเรียนจบต่อไปก็ต้องรับช่วงต่อที่เผ่า คงไม่ได้มีเวลาเยอะเท่าไรหรอก…”

มู่เถาเยาครุ่นคิดแล้วพยักหน้า “ดูเหมือนจะใช่ เดิมทีฉันวางแผนในอนาคตสิบปีข้างหน้าไว้แล้ว แต่พอได้ครอบครัวกลับมา มีคนในครอบครัวช่วย แผนของฉันก็เร่งความเร็วยิ่งขึ้น”

“แผนสิบปี…ซาลาเปาน้อย เธอเหนื่อยไหม”

“ไม่เหนื่อย ไว้วันหน้าทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอยหมดฉันคงว่างอย่างแท้จริง พ่อฉันบอกไว้ เป็นหัวหน้าเผ่าไม่ใช่เป็นวัวเป็นม้าเสียหน่อย”

ถ้าเป็นวัวเป็นม้า อย่าว่าแต่อาของเธอจะทนดูไม่ได้เลย แม้แต่ทุกคนในตระกูลเย่ว์ก็คงทนเห็นไม่ได้

ตี้อู๋เปียนหัวเราะ เห็นด้วยกับเธอ “ลุงเย่ว์พูดถูก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น เผ่าหมาป่าพระจันทร์ของพวกเธอสมบูรณ์แบบมากแล้ว เธอมีพ่อกับพี่ชายช่วย ต่อไปก็คงเบาขึ้นเยอะ”

“อืม” พอถึงตอนนั้นเธอก็ตั้งใจศึกษางานบ้านงานเมืองและค้นคว้าวิจัยได้ พาน้องชายกับอาจารย์ไปพักตากอากาศ แค่คิดก็มีความสุขแล้ว

ตี้อู๋เปียนเห็นมู่เถาเยายิ้มตาโค้ง เขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย

“ซาลาเปาน้อย ห้องสมุดในหมู่บ้านใกล้เสร็จแล้ว ฉันจะช่วยหาหนังสือมาใส่ให้เต็มนะ”

“ได้ ขอบคุณนะ”

“พูดขอบคุณกับฉันมันจะเกรงใจเกินไปแล้ว”

“ได้ งั้นไม่พูดแล้ว”

“อืม ซาลาเปาน้อย หมู่บ้านเถาหยวนในตอนนี้มีทั้งทิวทัศน์ที่งดงาม เศรษฐกิจก็ดี เทคโนโลยีพร้อม ไม่เหมือนหมู่บ้านหลังเขาที่ล้าหลังอีกต่อไป คนเยอะขึ้น…”

“ฉันรู้ ฉันจะให้คุณลุงผู้ใหญ่บ้านคุมเข้มหน่อย และจะให้คนดูแลแต่ละฝ่ายเลือกคนคอยเฝ้าจับตาดู อย่าปล่อยให้ทำลายสิ่งดีๆ ในหมู่บ้าน” อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นดินแดนแห่งการใช้ชีวิตเกษียณที่พวกอาจารย์ของเธอวาดฝันไว้

ตี้อู๋เปียนครุ่นคิดแล้วพูด “ซาลาเปาน้อย ฉันอยากหาพวกหมู่บ้านชนบทที่ล้าหลังแล้วเลียนแบบโมเดลหมู่บ้านเถาหยวน ค่อยๆ พัฒนาไปตามสภาพภูมิศาสตร์ ประเทศเหยียนหวงใหญ่มาก ถ้าจะรอทางการช่วยอย่างเดียวคงช้า ต้องพึ่งตัวเอง”

“ได้สิ คุณมีเวลากับมีแรงก็ไปทำ”

“อืม งั้นก็เริ่มขยับขยายจากเมืองกังตูแล้วกัน”

“ได้ ขาดเหลืออะไรก็มายืมคนจากฉันได้”

“ไม่ต้องหรอก ลืมแล้วเหรอว่าฉันมีลูกน้องอยู่ที่นี่เยอะ พวกเขาก็เรียนรู้มานานแล้ว ถ้าใช้ไม่ได้ฉันคงต้องสงสัยแล้วว่าพวกเขาไม่ใช่ลูกน้องฉัน”

เขาให้เยี่ยอิ่งส่งคนของสำนักสารพัดสารพันกระจายไปอยู่ทั่วหมู่บ้านเถาหยวนเพื่อฝึกพิเศษและศึกษา

“อืม”

ตี้อู๋เปียนลังเลแล้วพูดขึ้น “ซาลาเปาน้อย เธอ…”

รออยู่สักพักไม่มีเสียงพูดต่อมู่เถาเยาจึงถามขึ้น “อยากพูดอะไรเหรอ”

“…อาของเธอกับน้าเล็กของฉัน…”

อันที่จริงเขาอยากพูดเรื่องของเขากับเธอ แต่พอเห็นใบหน้าที่ยังเหมือนเด็กมัธยมต้น เขาก็พูดอะไรไม่ออก

พอได้ยินตี้อู๋เปียนพูดถึงพวกอา มู่เถาเยาก็ยิ้มหน้าบาน “อาของฉันกับน้าเล็กของคุณกำลังไปได้สวย ปีหน้าน่าจะมีข่าวดี”

อย่างช้าสุดปีหน้าหน้าเยี่ยนหังน้องชายของเธอก็จะมาแล้วหรือเปล่า

ตี้อู๋เปียนตอบอืม “คุณตาคุณยายของฉันเตรียมสินสอดไว้พร้อมแล้ว” แน่นอนว่าถ้าเจอของดีอีกก็ยังจะเติมเข้าไปเรื่อยๆ

มู่เถาเยายิ้มบาง “ดูท่าช่วงสองสามปีนี้น้าเล็กอวิ๋นคงได้อยู่เผ่าหมาป่าพระจันทร์บ่อยๆ”

“เดิมทีน้าเล็กอวิ๋นก็ไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่แล้ว”

“อืม ปู่อวิ๋นย่าอวิ๋นจะไปอยู่ที่เผ่าบ้างก็ได้นะ พอถึงตอนนั้นฉันก็จะให้พวกอาจารย์ไปอยู่ด้วย พวกคนแก่จะได้มีเพื่อน”

“พูดถึงอาจารย์ของเธอ ซาลาเปาน้อย เธอเคยคิดจะหาอะไรให้พวกเขาทำหน่อยไหม ฉันเห็นเวลาพวกเขามีอะไรทำดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่าดี ถึงแม้การที่คนในหมู่บ้านไม่ให้พวกเขาทำงานเพราะมีเจตนาดี แต่เดิมทีสุขภาพของพวกเขาก็เด็กกว่าอายุ ถ้าให้อยู่เฉยๆ คงเบื่อ สภาพจิตใจก็จะ…”

“ฉันรู้ รอสร้างห้องสมุดเสร็จฉันว่าจะให้พวกเขาไปคุมห้องสมุด แบบนี้ก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก แถมยังได้ทำเรื่องที่มีความหมาย สอนคนได้ด้วย”

เดิมทีเคยคิดจะให้พวกคนสูงวัยไปสอนหนังสือที่โรงเรียน แต่แบบนั้นเหนื่อยเกินไป เธอทนเห็นไม่ได้

“เธอวางแผนไว้ก็ดีแล้ว เมื่อก่อนปู่ย่ามักพูดกับพวกเราว่า ต้องดูแลปู่หยวนไปถึงวาระสุดท้าย…”

มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “ต่อให้ไม่มีฉันก็ยังมีพวกลูกๆ ของศิษย์พี่ที่จะดูแลอาจารย์ได้ จำเป็นต้องถึงมือตระกูลตี้ด้วยเหรอ”

ตี้อู๋เปียนพยักหน้า

มันก็จริงนะ

นอกจากเจียงจี๋แล้ว ลูกศิษย์ของปู่หยวนดีๆ กันทุกคน โดยเฉพาะคนเล็กสุด!