ตอนที่ 334 ที่แท้ก็เป็นเพราะรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้
ช่วงนี้พยายามฝึกเขียนตัวอักษรอย่างหนัก ดูเหมือนจะมีการพัฒนานะครับ?
มีแค่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะเชื่อคำอธิบายน่าเบื่อพรรค์นี้ของฉู่ขวง!
เช่นเดียวกับที่จินมู่คาดการณ์ไว้
ถ้ามีสติปัญญาเพียงเล็กน้อยย่อมรู้ว่า การเขียนตัวอักษรของคนทั่วไปไม่สามารถกระโดดจากระดับเด็กประถมไปเป็นระดับปรมาจารย์ได้ในระยะเวลาอันสั้น!
นี่เพิ่งจะปล่อยเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ไปนานเท่าไหร่เอง?
คุณฝึกเขียนตัวอักษรจนฝีมือรุดหน้ามาถึงระดับนี้ภายในระยะเวลาแค่นี้เนี่ยนะ
เป็นไปไม่ได้!
และการทำเรื่องพรรค์นี้ได้ มีเหตุผลเพียงสองประการ
เหตุผลประการแรก: ฉู่ขวงหาคนมาเซ็นชื่อให้
เหตุผลประการที่สอง: ลายมือเด็กประถมก่อนหน้าของฉู่ขวงล้วนเป็นการแกล้งหยอกเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่า
ทุกคนเชื่อในเหตุผลประการที่สองมากกว่า
เพราะเรื่องอย่างการเซ็นชื่อ ไม่มีความจำเป็นต้องหาคนมาทำแทน ต่อให้ลายเซ็นของฉู่ขวงจะเละตุ้มเป๊ะ ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อชื่อเสียงและอิทธิพลของเขาเลย
ถึงขั้นที่ ทุกคนกลับรู้สึกว่าน่ารักด้วยซ้ำไป!
ถึงอย่างไรฉู่ขวงก็เขียนหนังสือได้ยอดเยี่ยมมาก จุดด้อยอย่าง ‘ลายมือไม่สวย’ ทุกคนกลับคิดว่าทำให้ทุกคนรู้สึกว่าสนุกดี
ต้องจิตใจเปราะบางมากแค่ไหนถึงต้องหาคนมาเซ็นลายเซ็นแทน เพียงเพราะชาวเน็ตแดกดันไม่กี่ประโยค
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่ฉู่ขวงยังโพสต์วิดีโอตัวเองกำลังเซ็นลายเซ็น
ถึงแม้วิดีโอนี้จะไม่ได้เห็นหน้า แต่ยิ่งทำให้ผู้อ่านเต็มใจที่จะเชื่อว่านี่คือลายเซ็นที่ฉู่ขวงเซ็นด้วยตัวเอง ครั้งก่อนเขาเพียงแค่หยอกทุกคนเล่นเท่านั้นเอง
‘เจ้าแก่ฉู่ขวงครั้งนี้หมดมุกหรือยัง!’
‘งั้นก่อนหน้านี้ก็แค่แกล้งเขียนลายมือง่อยๆ?’
‘เจ้าแก่ฉู่ขวงระวังตัวไว้เถอะ ฉันจะไปแอบทุบกระจกบ้านคุณ คนอื่นเขาปลอมเป็นหมูเพื่อกินเสือ แต่คุณกลับปลอมเป็นหมูเพื่อกินแฟนคลับ’
‘อยากให้พวกเราชมใช่ไหมล่ะว่า ที่แท้เจ้าแก่ฉู่ขวงก็ลายมือสวยขนาดนี้? แบร่! ฝันไปเถอะ!’
‘ที่แท้ก็เป็นการโปรโมตนิยาย ไม่เสียแรงที่เป็นหนังสือที่เจ้าแก่ฉู่ขวงเขียน’
‘ครั้งที่หักมุมได้เจ๋งมาก ข้ากระจ่างแล้ว’
‘ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่ลายเซ็นของเจ้าแก่ฉู่ขวงสวยจริงๆ มีผู้รู้ท่านไหนบอกผมได้บ้างว่านี่เป็นลายมือระดับไหน’
‘ดูจากการจับปากกาก็รู้แล้วว่ามืออาชีพ’
‘ถ้าดูจากตัวอักษรละก็ ดีกว่าพวกสมุดคัดลายมืออีกนะ’
‘…’
ในตอนนี้ มีชาวเน็ตบางคนที่เรียนการเขียนตัวอักษรลุกขึ้นมา
‘ฉันเรียนการเขียนตัวอักษรมาสิบกว่าปี ขอประเมินอย่างยุติธรรมหน่อยนะคะ ฝีมือการคัดลายมือของฉู่ขวงสามารถใช้เขียนสมุดคัดลายมือให้คนอื่นลอกเลียนแบบได้เลย”’
‘ใช่ค่ะ ดูจากลายเซ็นที่มีคนโพสต์อวด ฝีมือการเขียนตัวอักษรของฉู่ขวงไม่ธรรมดาเลย’
‘เพราะตัวอักษรที่ควรค่าแก่การนำไปอ้างอิงก็คือลายเซ็นของฉู่ขวงเนี่ยแหละ เพราะงั้นการวิเคราะห์อาจไม่ดี แต่ดูจากน้ำหนักเส้นกับท่าในการจับปากกา ก็ดูออกว่าฉู่ขวงมีทักษะด้านการเขียนตัวอักษรจริงๆ’
‘อย่างน้อยลายเซ็นแบบนี้ มีแค่ปรมาจารย์ด้านการเขียนตัวอักษรเท่านั้นถึงเขียนได้’
‘…’
ตอนนั้นชาวเน็ตถึงตระหนักได้ว่า ที่แท้ฝีมือการเขียนตัวอักษรของฉู่ขวงก็สูงมากจริงๆ
ยอดฝีมือด้านการเขียนตัวอักษร?
ฉู่ขวงเป็นยอดอัจฉริยะตัวจริง เป็นถึงนักเขียนฝีมือระดับปีศาจ แม้แต่การเขียนตัวอักษรก็ยังช่ำชอง
เก่งเกินไปแล้ว!
เพียงแต่ยิ่งฝีมือการเขียนตัวอักษรของฉู่ขวงสูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งแสดงให้เห็นความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจของฉู่ขวงมากขึ้นเท่านั้น
‘งั้นคนอ่านก็ถูกฉู่ขวงเล่นแล้วสินะ?’
‘จงใจเซ็นเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ด้วยตัวอักษรขยุกขยุย ฉู่ขวงนี่ร้ายมาก’
‘ที่แท้นี่ก็เป็นแผนของฉู่ขวง พวกคุณลืมรูปแบบของเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ไปแล้วเหรอ’
‘ถ้าคุณไม่พูด ผมเกือบลืมจริงๆ นะเนี่ย เดิมทีฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ ก็เป็นนิยายสืบสวนสอบสวนที่ใช้ตัวอักษรแกงคนอ่านอยู่แล้ว กับดักที่เรียกว่ารูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้เริ่มต้นจากเรื่องนี้ นักเขียนเองก็ขุดหลุมพรางตอนเซ็นชื่อ ก็เป็นเรื่องที่ธรรมดามากไม่ใช่หรือ?’
‘ที่แท้ลายมือเด็กประถมก็แฝงไว้ซึ่งจุดประสงค์หรือนี่?’
‘ฉู่ขวง: ถึงยังไงก็เป็นต้นกำเนิดของรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้อย่างเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ เซ็นชื่อแบบจริงจังก็อาจดูแปลกไปหน่อย ไม่สู้ปั่นคนอ่านให้ถึงที่สุด’
‘ฮ่าๆๆๆๆ ฉู่ขวงซนจริงๆ!’
‘จงใจเซ็นชื่อให้น่าเกลียดขนาดนี้ ที่แท้ก็เพื่อทำให้สอดคล้องกับสไตล์ของรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้นี่เอง ปรากฏว่าทุกคนถึงกับเชื่อว่านี่เป็นลายมือจริงๆ ของฉู่ขวง ฮ่าๆๆๆๆๆ สัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของเจ้าแก่ฉู่ขวงแล้ว’
‘…’
ต้องขอบคุณสถานะคนดังของฉู่ขวงอีกครั้ง ตราบใดที่มีสถานะคนดังเช่นนี้ คำพูดและการกระทำของเขาก็มักจะถูกโลกภายนอกตีความออกมาอย่างสมเหตุสมผล และไร้จุดด่างพร้อย
ถึงขั้นที่แม้แต่จินมู่เองก็ยังเชื่อ เมื่อได้อ่านการตีความของชาวเน็ต
ลายเซ็นแบบนักเรียนประถมนั้นเข้ากับสไตล์การหลอกลวงผู้อ่านในเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์!
เพียงแต่หลายคนนึกไม่ถึงว่าฉู่ขวงจะหลอกลวงผู้อ่านได้อย่างแยบยลถึงขนาดนี้ แม้แต่ลายเซ็นก็ยังแฝงไว้ซึ่งความคึกคะนองของนักเขียน!
ตอนนี้เมื่อมาคิดดู
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์เป็นผลงานบุกเบิกรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ เหตุใดฉู่ขวงต้องแสร้งเซ็นลายเซ็นให้พิลึกพรรค์นั้นด้วย
ลายเซ็นแลดูพิลึกนี้เข้ากับรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ได้อย่างลงตัว!
ทั้งหมดก็ล้วนทำขึ้นมาเพื่อปั่นหัวผู้อ่าน!
บรรดาชาวเน็ตทำได้เพียงหัวเราะเยาะและถากถางเจ้าแก่ฉู่ขวงว่ามีฝีมือในการหลอกลวงมากขึ้นทุกวัน
แต่ขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะถากถางเจ้าแก่ฉู่ขวงอยู่นั้นเอง ก็มีบางคนสังเกตเห็นรายละเอียดเล็กน้อยซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่สังเกตเห็น จากวิดีโอการเขียนตัวอักษรที่ฉู่ขวงเป็นคนโพสต์
มือของฉู่ขวง!
ในวิดีโอนี้ แม้จะไม่เห็นใบหน้าของฉู่ขวง ทว่ามือของเขากลับอยู่ในกล้อง และถูกชาวเน็ตนำไปศึกษากันเฟรมต่อเฟรม
‘ฉู่ขวงมือสวยมาก!’
‘รู้สึกว่านี่เป็นมือของคนอายุน้อย’
‘มือขวาถือปากกา แสดงว่าต้องไม่ได้ถนัดซ้าย ผิวขาวเนียน นิ้วสวยมาก ดูแล้วเหมือนเป็นมือของคนที่เล่นเปียโน ไม่รู้ว่าฉู่ขวงเล่นเปียโนเป็นหรือเปล่า ถึงยังไงน่าจะเป็นคนอายุน้อยจริงๆ นั่นแหละ นักเขียนแนวแฟนตาซีโดยพื้นฐานแล้วไม่ใช่คนแก่หรอก’
‘แค่เห็นมือก็อยากเลียแล้ว (ผมเป็นผู้ชายนะ)’
‘มือสวยมากแก ฉันชอบๆ ฉู่ขวงต้องหน้าตาไม่ธรรมดาแน่ๆ!’
‘เดี๋ยวนะ แค่มองมือก็บอกหน้าตาได้เลย?’
‘ก็แค่จินตนาการเชื่อมโยง ผู้หญิงเสียงเพราะก็ทำให้จินตนาการไปว่าสวยปานเทพธิดา ผู้ชายมือสวยเลยจินตนาการไปว่าหล่อปานเทพบุตร โดยที่ไม่รู้ว่าหน้าตาตรงกันข้ามหรือเปล่า’
‘ฉู่ขวงอายุเท่าไหร่เหรอคะ ฉันเห็นมือแล้วปลื้มปริ่ม!’
‘ฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋เป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อกัน รู้แล้วว่าเซี่ยนอวี๋ปีนี้ยังเรียนไม่จบ เดาได้ว่าอายุของฉู่ขวงคงไม่ต่างกับเซี่ยนอวี๋มาก บวกกับมือนี้อีก ฉู่ขวงน่าจะอายุประมาณสามสิบ!’
‘เห็นบอกกันว่าเซี่ยนอวี๋หล่อมาก ฉู่ขวงอายุน้อยขนาดนี้ แถมสนิทกับเซี่ยนอวี๋อีก จะหล่อพอๆ กันไหมนะ’
‘คนหล่อกับคนหล่อ?’
‘ประทานโทษนะคะ แต่ภาพในสมองฉันชักจะไปไกลแล้ว’
‘…’
วงจรสมองของชาวเน็ตวนกลับไปกลับมา และกลับไปยังจุดเริ่มต้นเดิม ในขณะที่สาววาย ดูเหมือนจะมีดวงตาเป็นประกายประหนึ่งค้นพบดินแดนใหม่!
นี่เป็นสิ่งที่หลินเยวียนนึกไม่ถึง
เขาไม่ได้คิดมากอะไร ยามที่จินมู่เสนอให้ถ่ายวิดีโอดังกล่าว
ปรากฏว่า ชาวเน็ตดันนำมือขวาซึ่งใช้จับปากกาของเขา มาคาดเดาความจริงซึ่งใกล้เคียงกับความเป็นจริงมาก!
แน่นอน
การบอกว่าที่ก่อนหน้านี้ตนเขียนลายมือดูไม่ได้ก็เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้นั้นออกจะไร้สาระไปหน่อย ถ้าหากไม่ได้รู้จักตนเองดี หลินเยวียนเองก็คงสงสัยเหมือนกันว่าชาวเน็ตกำลังพูดความจริง
เหมือนว่า ลายมือที่ดูไม่ได้นี้จะสอดคล้องกับสไตล์ของรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้จริงๆ
ซะที่ไหนกันล่ะ!
ลายมือฉัน สวยจะตายไป
………………………………………………….