บทที่ 331 นายอย่าเข้ามานะ
เวลาเลิกงานตอนดึก
“ไปไงบ้างแล้ว?” เฟิงจิงเป่ยเดินมาถามข้างๆเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม “อืม ใกล้เสร็จแล้ว รอฉันทำชิ้นส่วนอะไหล่อันนี้ให้เสร็จก่อน”
เฟิงจิงเป่ยพยักหน้า
ที่นี่คนเยอะ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
ถวนจื่อตอนนี้นอนหลับอยู่บนขาของเจียงหยุนเอ๋อ อย่างไรเสียอายุก็ยังน้อยอยู่ เวลานอนไม่เพียงพอก็จะเหนื่อยได้ง่าย
พอเจียงหยุนเอ๋อทำชิ้นส่วนอะไหล่ชิ้นสุดท้ายเสร็จก็ปลุกถวนจื่อให้ตื่นอย่างอ่อนโยน “ถวนจื่อ หม่ามี้เลิกงานแล้ว ตื่นก่อนนะคะ พวกเรากลับไปค่อยนอนนะ”
ถวนจื่อลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือแล้วขยี้ตาพร้อมกับพยักหน้าไปด้วย
เจียงหยุนเอ๋อเอาแจ็คเก็ตที่เอามาเมื่อเช้าสวมให้ถวนจื่อ กลางคืนมีน้ำค้างก็จะรู้สึกหนาวเอาได้
หลังจากที่สองแม่ลูกทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เฟิงจิงเป่ยก็พาทั้งสองกลับหอพัก
ในทางกลับเฟิงจิงเป่ยสัมผัสได้ว่าอันตรายกำลังเข้ามา เห็นได้ชัดว่าสองคนนั้นกำลังเดินตามตัวเอง
แต่เฟิงจิงเป่ยต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ก่อน
จากที่พวกเขายังไม่ลงมือในตอนนี้ก็เห็นได้ว่าพวกเขากำลังคิดหาวิธีจับเจียงหยุนเอ๋ออยู่
พอถึงหอพักแล้วเฟิงจิงเป่ยก็เข้าห้องคนสุดท้าย พอเข้าห้องแล้วก็รีบล็อกห้องทันที
เจียงหยุนเอ๋อแปลกใจจึงถามขึ้นว่า “ทำไมต้องล็อกประตู?”
เฟิงจิงเป่ยรู้ว่าตอนนี้ห้ามปิดบังเจียงหยุนเอ๋อแล้ว
“คุณฟังผมนะ ผมสังเกตเห็นว่าช่วงนี้มีวัยรุ่นสองคนสะกดรอยตามคุณอยู่ตลอดเวลา ดูจากท่าทีของพวกเขาแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นคนที่กำลังตามฆ่าคุณอยู่เหมือนที่คุณบอก” เฟิงจิงเป่ยสีหน้าเคร่งเครียด
เจียงหยุนเอ๋อตกตะลึง พลันตึงเครียดขึ้นมาทันที “คุณว่าไงนะ? แล้วทำไมแต่ก่อนคุณถึงไม่บอกฉัน?”
“แต่ก่อนผมไม่อยากให้คุณต้องกังวลมากเกินไป” เฟิงจิงเป่ยบอก “พวกเขาหาคุณอยู่หลายวัน แต่ก็เหมือนว่าจะหาไม่เจอ แต่วันนี้เพราะเรื่องของจ้าวเสวียไห่คุณก็เลยเผยตัวออกมาแล้ว เพราะฉะนั้นผมสงสัยว่าวันนี้พวกเขาก็คงจะลงมือเลย จะได้สำเร็จภารกิจโดยเร็ว”
มือทั้งสองข้างของถวนจื่อในตอนนี้กำลังกอดขาของเจียงหยุนเอ๋อไว้แน่น
เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าถวนจื่อกลัว จึงตบหัวชองเขาเบาๆสองสามทีและปลอบเขา
แต่ถวนจื่อได้ยินว่ามีคนมาตามฆ่า ความคิดแรกก็คือต้องปกป้องแม่
“แล้วตอนนี้พวกเราควรทำยังไง?” เจียงหยุนเอ๋อหน้าซีดเผือดเล็กน้อย
สำหรับเจียงหยุนเอ๋อแล้ว เรื่องนี้มากะทันหันเกินไป เธอยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรเลย
เฟิงจิงเป่ยยังเรียบเรียงคำพูดอยู่ แต่เจียงหยุนเอ๋อก็พูดขึ้นว่า “คุณรีบไปเถอะ ฉันไม่อยากทำให้คุณต้องเดือดร้อน คุณดูแลพวกเราสองแม่ลูกมาก็หลายวันแล้ว พวกเราไม่รู้จะตอบแทนยังไงจริงๆ ในเมื่อพวกเขามาแล้ว คุณก็รีบไปเถอะค่ะ”
เฟิงจิงเป่ยไม่สนใจเจียงหยุนเอ๋อ ในฐานะที่เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง จะให้พอเรื่องมาถึงตัวก็หนีหัวหดได้อย่างไร?
เฟิงจิงเป่ยพูด “คุณฟังผมนะ อย่าวิ่งเพ่นพ่านไปไหน ผมจะไม่ให้คุณกับลูกเป็นอะไรไปเด็ดขาด”
เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ใช่ไม่เชื่อเฟิงจิงเป่ย แต่เขาตัวคนเดียวต้องปกป้องถึงสองคน แถมอีกฝ่ายก็มีสองคนด้วย ต้องรอดยากแน่ๆ
“แต่พวกเราคนน้อยสู้คนมากไม่ได้หรอก คุณรีบหนีไปเถอะค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อผลักเฟิงจิงเป่ย
เฟิงจิงเป่ยยืนนิ่ง “ฟังผมนะ ก่อนหน้านี้ผมก็คิดจะส่งพวกคุณสองแม่ลูกออกไปอยู่แล้ว ในนี้ผมมีคนอยู่ แต่เดี๋ยวคุณแค่ทำตามแผนของผมก็พอ ไม่ต้องกลัวนะ”
เจียงหยุนเอ๋อครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะแล้วก็พยักหน้า
ดูจากสีหน้าของเฟิงจิงเป่ยน่าจะมีความมั่นใจระดับหนึ่งอยู่เหมือนกัน เขาจัดการกับจ้าวเสวียไห่ได้ ก็หมายความว่าเขาก็มีความสามารถพอสมควร
เฟิงจิงเป่ยบอกแผนการของตัวเองกับเจียงหยุนเอ๋อเสียงเบาๆ
“คุณแอบๆพาถวนจื่อออกไป ผมติดต่อกับคนที่รับผิดชอบซื้อกับข้าวแล้ว ถึงเวลาเขาจะให้พวกคุณซ่อนตัวในรถแล้วพาพวกคุณออกไป ถึงตอนนั้นพวกคุณก็ปลอดภัยแล้ว”
เฟิงจิงเป่ยพูดแนบหูของเจียงหยุนเอ๋อ เขากลัวมีคนแอบฟัง “พอออกไปได้แล้ว ผมจะให้เขาเตรียมสถานที่ปลอดภัยให้พวกคุณ แต่หลังจากนั้นก็ช่วยอะไรพวกคุณไม่ได้แล้ว พวกคุณต้องช่วยตัวเองแล้ว”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า “โอเคค่ะ หลายวันมานี้รบกวนคุณแล้ว”
เฟิงจิงเป่ยพูดเคืองๆว่า “คุณอย่าพูดแบบนี้อีก ช่วยเหลือพวกคุณคือผมสมัครใจเอง”
ตอนที่ช่วยเหลือพวกเขา เฟิงจิงเป่ยก็ไม่เคยคิดจะขอสิ่งตอบแทนอะไรอยู่แล้ว แค่เป็นการช่วยเพราะความถูกต้องเท่านั้น
เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่พูดอะไรอีก
“คุณรีบเตรียมตัวเก็บของเถอะ” เฟิงจิงเป่ยเร่ง เวลาเหลือไม่มากแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อรีบเก็บของอย่างรวดเร็ว
แต่ที่ยังไงก็คิดไม่ถึงก็คือ สองคนข้างนอกนั่นจะข่มกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ เตะประตูบุกเข้ามาตรงๆ
ถึงแม้ประตูจะล็อกไว้อยู่ แต่ก็ให้พวกเขาสองคนชนออกได้ง่ายๆ เห็นได้ว่าแรงของสองคนนั้นมีเยอะแค่ไหน
เฟิงจิงเป่ยตอบสนองได้เร็ว รีบกันเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อไว้ข้างหลังทันที
รู้จุดประสงค์ของสองคนนั้นแล้ว เฟิงจิงเป่ยก็ไม่พูดมากพร่ำเพรื่อ ลงมือต่อต้านทันที
ความสามารถของวัยรุ่นสองคนนั้นเก่งกาจมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่อยากเสียเวลากับเฟิงจิงเป่ยการโจมตีทั้งหมดล้วนโจมตีไปทางเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อ
เฟิงจิงเป่ยก็ต่อต้านอย่างสุดความสามารถ
ถ้าเป็นหนึ่งต่อหนึ่ง เขาไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ตอนนี้คือสองคน แถมทั้งสองคนยังร่วมมือกันได้ดีอีกด้วย
คนหนึ่งรับผิดชอบโจมตีเขา ส่วนอีกคนไปทางเจียงหยุนเอ๋อ
แต่ถ้าเขาต้องดูแลเจียงหยุนเอ๋อสองแม่ลูกก็จะต้องเสียสมาธิ ไม่สามารถโฟกัสกับการต่อสู้ได้
ส่วนคนที่รับผิดชอบจะมารับ เห็นเฟิงจิงเป่ยนานแล้วก็ยังไม่มา ก็เลยมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
พอเข้ามาปุ๊บก็เห็นมีสองคนกำลังต่อสู้กับเฟิงจิงเป่ยอยู่ จึงรีบพุ่งขึ้นไปเข้าร่วมการต่อสู้ของพวกเขา
“ปกป้องพวกเขาสองคนให้ดี” เฟิงจิงเป่ยพูดขึ้น
คนนั้นก็รีบพุ่งไปข้างกายของเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อทันที
พวกลี่จุนถิงทั้งสี่คนได้ยินเสียงต่อสู้จากที่ไม่ไกลจากหอพักของเจียงหยุนเอ๋อก็เร่งฝีเท้าให้มาถึงเร็วขึ้น
พอเข้ามาถึงในห้องก็เห็นเข้ากับความสามารถอันเก่งกาจของเฟิงจิงเป่ยคนเดียวจัดการถึงสองคน ส่วนเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อหดตัวอยู่ตรงมุมกำแพง มองฉากในห้องอย่างตื่นตระหนก
ส่วนอีกคนที่ด้อยกว่าก็ถูกคนที่ส่งมาฆ่าเจียงหยุนเอ๋อต่อยจนน่วมไปแล้ว
หนึ่งในคนนั้นชักจูงเฟิงจิงเป่ยไปที่ไกลๆ ส่วนอีกคนเข้าไปหาเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อ
เจียงหยุนเอ๋อปกป้องถวนจื่อไว้ในอ้อมกอด ถวนจื่อก็กอดเจียงหยุนเอ๋อไว้ด้วย ทั้งสองคนกลัวจนตัวสั่น มองสีหน้าเหี้ยมโหดของนักฆ่า ใบหน้าก็ซีดเผือดขึ้นมา
“นาย นายอย่าเข้ามานะ” เจียงหยุนเอ๋อพูดเสียงสั่น
คนนั้นไม่สนใจคำพูดของเจียงหยุนเอ๋อ เดินเข้าไปหาเจียงหยุนเอ๋อทันที
ตอนที่ เฟิงจิงเป่ยมองมาทางคนนี้ก็รู้แล้วว่า ไม่ว่าอย่างไรตัวเองก็ไปตรงนั้นไม่ทันแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่าฝีมือของสองคนนี้เก่งกาจมาก
ตัวเขาคนเดียวรับมือกับแค่คนเดียวก็สูสีกันอยู่แล้ว