ตอนที่ 363 บ้านแห่งความสุขในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 363 บ้านแห่งความสุขในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 363 บ้านแห่งความสุขในวันสิ้นโลก

ซูเถาเคยเห็นแบบวิศวกรรมของวิลล่าหลังนี้ และรู้ว่าห้องด้านหลังประตูนี้มีลักษณะอย่างไร แต่เธอกลับไม่รู้ว่ามีไว้เพื่ออะไร

เวินม่านรอแทบไม่ไหวที่จะผลักประตูบานนั้นเข้าไป

เซียวเหวินอวี้ซึ่งตามหลังมาหนึ่งก้าวได้เปิดไฟด้วยการ ‘ปรบมือ’

คนที่เดินเข้ามาในห้องต่างก็ตกตะลึง

ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

มันมีสีสันและมีแสงแฟลชทุกชนิด มีแถบอยู่ทางด้านซ้าย ถัดจากแถบนั้นเป็นเครื่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีช่องใส่แผ่นสองแผ่นอยู่ด้านข้างและมีปุ่มควบคุมอยู่ตรงกลาง ซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไร

หลังจากดูห้องต่าง ๆ มามากมาย ในที่สุดลั่วเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะชี้ไปที่เครื่องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแล้วถามด้วยความไม่เชื่อ

“อย่าบอกนะว่านี่คือเครื่องเล่นดีเจ?”

ทั้งซูเถาและเวินม่านไม่รู้ว่า ‘เครื่องเล่นดีเจ’ คืออะไร ใบหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความงุนงง

เซียวเหวินอวี้กระโดดขึ้นข้ามไปบนโต๊ะ และเดินไปที่ด้านหน้าของเครื่องเล่นดีเจ พร้อมกับสวมหูฟัง และกดปุ่มบนเครื่องเล่นอย่างช่ำชอง จังหวะที่ทรงพลังและอึกทึกก็ดังขึ้น ไฟติดผนังก็ส่องสว่างไปทั่ว

ซูเถาเบิกตากว้าง

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเวลานั้นจึงมีการทำเครื่องหมายมากมายบนแบบวิศวกรรมว่าจำเป็นต้องใช้วัสดุกันเสียงในการก่อสร้าง…

เซียวเหวินอวี้ถอดหูฟัง “มันเป็นเครื่องเล่นแผ่นดีเจ เอฟเฟกต์เสียงไม่เลว ฉันซื้อมันมาจากกองคาราวานต่างประเทศในราคามากกว่า 20 ล้านเหลียนปัง มันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ก่อนวันสิ้นโลก แต่เป็นผลิตภัณฑ์หลังวันสิ้นโลก มันเป็นของใหม่”

หลังจากพูดจบ เธอชี้ไปที่ไมโครโฟนตั้งพื้นถัดจากเครื่องเล่นดีเจ

“สามารถร้องเพลงได้ที่นั่น มีจอแสดงผลอยู่ด้านหลัง สามารถใช้เป็นบาร์ส่วนตัวและคาราโอเกะส่วนตัว ฉันรู้จักนักร้องชายที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งในฉางจิง ทักษะการร้องเพลงนั้นยอดเยี่ยมมาก ทั้งอ่อนโยน นุ่มนวล น่าฟังมาก เมื่อถึงเวลาสามารถเชิญเขามาร้องเพลงให้เราฟังได้ และจ้างบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อมาเพื่อชงเครื่องดื่ม ไม่งั้นฉันคงดื่มไม่ราบรื่นหากต้องชงเครื่องดื่มไปด้วย ต้องเล่นแผ่นไปด้วย อีกอย่างทักษะการเป็นดีเจของฉันมันไม่ได้ดี ฉันจึงต้องหามืออาชีพมาทำ ฉันยินดีจ่าย”

“เมื่อถึงเวลา เราจะนั่งในบูธใต้ฟลอร์เต้นรำเพื่อดูพวกเขาแสดง ถ้าเรามีความสุข เราก็สามารถมอบน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พวกเขาได้ และถ้าเราไม่พอใจ เราจะเปลี่ยนคน!”

ลั่วเหยียนหันไปมองภรรยาของเขาทันที “ม่านม่าน ที่นี่ไม่เหมาะ…”

เวินม่านสาวน้อยแสนดีไม่เคยเห็นโลกแบบนี้มาก่อน ม่านตาของเธอเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย

แต่ซูเถายังคงนิ่งเฉย

มันสามารถเล่นแบบนี้ได้ด้วยเหรอ

เธอพูดอย่างจริงใจ “เหวินอวี้ คุณได้เรียนรู้มาจากพ่อคุณมากมายเลย”

ในตอนแรกเธอคิดว่าเซียวเหวินอวี้ซึ่งแต่งตัวแบบธรรมดาและเรียบง่ายนั้นน่าจะมีชีวิตที่เข้มงวดและเรียบง่ายมากกว่า

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นเธอคิดไปเอง

เซียวเหวินอวี้กล่าวว่า “ไม่หรอก คนที่สืบทอดมาจากพ่อฉันมากที่สุดก็คือพี่ใหญ่ของฉัน คุณเคยเจอเขา คนที่พราวไปด้วยเสน่ห์น่ะ ถ้าที่ดินผืนนี้ตกอยู่ในมือของเขา เขาจะสร้างสิ่งต่าง ๆ และใช้จ่ายเงินมากกว่าฉันถึงสิบเท่าแน่นอน อาจจะจัดปาร์ตี้บิกินี่สวย ๆ ทุกวัน และร้องเพลงทุกคืน”

“ฉันแค่ล้อเล่นนะ”

แต่ว่าพี่ใหญ่ไม่ได้โชคดีเหมือนเธอ มีเงิน แต่ก็ไม่มีที่ให้ใช้ ถ้าเขารู้ว่าเธอสร้างวิลล่าแบบนี้ในเถาหยาง เขาคงอิจฉาจนน้ำตาไหลบราวนี่ออนไลน์

ไหนจะพ่อของเธอด้วย แผนการออกแบบหลายอย่างในวิลล่านี้เป็นความคิดของพ่อเธอเอง โดยเขาเป็นผู้บอกเล่าว่าบ้านพักตากอากาศของเขาในสถานที่แห่งหนึ่งก่อนวันสิ้นโลกเป็นอย่างไร และเขายังคงระลึกถึงความรู้สึกที่มีความสุขในเวลานั้นอยู่

พวกเธอพี่น้องสามารถจินตนาการถึงชีวิตแห่งความสุขก่อนวันสิ้นโลกได้จากคำบอกเล่าของพ่อเธอ แต่ตอนนี้เธอได้รับรู้สิ่งนี้แล้วในเถาหยาง

ดังนั้นการเป็นมนุษย์ต้องเฉลียวฉลาดและอย่าประมาทเด็ดขาด

ลั่วเหยียนแสดงสีหน้าที่ไม่อาจคาดเดาได้ “สิ่งบันเทิงต่าง ๆ ของคุณอาจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ของเราในฐานะสามีภรรยา”

เพราะเธอต้องการเพื่อนมาเข้าร่วมความสนุกไม่หยุดหย่อน!

เซียวเหวินอวี้มองข้ามเขาไปและถามเวินม่าน

“ม่านม่าน เธอจะอยู่ที่นี่กับฉันอีกสองสามวันไหม ไม่ต้องห่วง ฉันแค่จะให้เธอได้ดูหนุ่มหล่อเท่านั้นเอง เป็นอาหารตาน่ะ ถ้าสิ่งนี้กระทบต่อความสัมพันธ์ของเธอ คนบางคนก็คงต้องไปปรับปรุงเสน่ห์ของเขา ถ้าหากรู้สึกว่านี่คือปัญหา”

ลั่วเหยียนฟังแล้วรู้สึกว่าประโยคนั้นมีนัยยะบางอย่าง แต่ภรรยาของเขาที่สูญเสียความรู้สึกผิดชอบชั่วดียังคงพยักหน้า

“เถ้าแก่ซูก็มาด้วยกันนะ ขอบคุณที่สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมานะคะ ฉันชอบมันมาก คุณต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างความครึกครื้นในบ้าน อย่างไรก็ตาม คุณยังโสด คงไม่มีคนรอคุณหากกลับบ้านดึกหรอกใช่ไหม?” เซียวเหวินอวี้

ซูเถานึกถึงผีตนหนึ่งที่ห้อง และเหมือนเธอจะรับปากไปว่าจะดูละครทีวีกับเขาสองตอนในคืนนี้

พูดตามตรง เธออยากจะมาที่บ้านของเหวินอวี้เพื่อร่วมสนุกเพราะมันมีความบันเทิงมากมายที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน และเธออยากลองดูสักหน่อย เธออยากจะให้รางวัลตัวเองสำหรับการอดหลับอดนอนและทำงานอย่างบ้าคลั่ง

เรื่องนี้น่าจะเข้าใจได้!

“ถือว่ารับปากแล้วนะ พรุ่งนี้ฉันจะไปหานักร้อง บาร์เทนเดอร์ และดีเจ ฉันจะให้คนบินไปรับพวกเขา ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม” เซียวเหวินอวี้ดีดนิ้ว

“คุณจ่ายค่าเครื่องบินส่วนตัวไปเท่าไหร่” ซูเถาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

ด้วยทรัพย์สินปัจจุบันของเธอ เธอคงไม่เคยคิดมาก?

เซียวเหวินอวี้คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ราคาพอ ๆ กับที่ดินของคุณ”

ซูเถาเอามือทาบอก เธอไม่อยากจะเชื่อเลย

“ในนี้คืออะไรเหรอ” ในเวลานี้เวินม่านเคาะประตูอีกบาน

“ลองเดาดูสิ”

“ความยากจนจำกัดจินตนาการของฉัน ฉันขอปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในเกมทายผลนี้” ซูเถา

ทั้งเซียวเหวินอวี้และเวินม่านคิดว่าเธอล้อเล่นและเก็บตัว เถ้าแก่ของเถาหยางจะรู้จักคำว่า ‘ยากจน’ ในพจนานุกรมของเธอได้ยังไง

ยิ่งคนแสดงท่าทีต่ำต้อยมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรวยมากเท่านั้น

เซียวเหวินอวี้ไม่รั้งรออีกต่อไป “ข้างในเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตหรือห้องเก็บเสบียงส่วนตัว เมื่อฉันมีผลึกนิวเคลียสเพียงพอ ฉันจะเป็นสมาชิกของธุรกิจเถาหยางของคุณ และซูเปอร์มาร์เก็ตเล็ก ๆ ของฉันจะเต็มไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ ฉันชอบตุน ฉันจะเติมเสบียงให้เต็มตู้ทุกวัน”

ซูเถาชำเลืองมองเข้าไปข้างในและเห็นชั้นว่างเรียงกันเป็นแถว หากเต็มหมด มันจะดูปลอดภัยมากพอที่จะประทังชีวิตได้ครึ่งชีวิต

วิลล่าทั้งหมดนี้ควรเรียกว่าบ้านแห่งความสุขในวันสิ้นโลก

เวินม่านอิจฉาไม่ไหวแล้ว

ลั่วเหยียนพูดทันทีว่าเขาสามารถกลับไปขุดห้องใต้ดินที่ชั้นล่าง และตกแต่งให้ดี เพื่อใช้เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กสำหรับเธอได้

เวินม่านมองไปที่เซียวเหวินอวี้ มันคงไม่สามารถเทียบชั้นกันได้หรอก ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรสักคำ

จิตใจของลั่วเหยียนเต็มไปด้วยความคิดมากมาย มันจบแล้ว หากหาซื้อแมวไม่ได้เขาคงต้องเสียภรรยาไป

เขามีลางสังหรณ์ว่าหลังจากผ่านไปสามวัน ผู้หญิงคนนี้จะต้องหาข้ออ้างเพื่อที่จะอยู่ต่ออีกวันแน่ ๆ

พรุ่งนี้ค่อยกลับ ไม่ก็มะรืนนี้ค่อยกลับ และจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

————————-