ตอนที่ 328 เข้าเฝ้าฮ่องเต้แคว้นเย่ว์เป็นครั้งแรก (4)

หวนคืนชะตาแค้น

​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​จากไป​เล่า​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ความประหลาดใจ​ หรง​จิ​่น​ไม่ได้​เดือดร้อน​อะไร​ ​ด้วย​วิทยา​ยุทธ​ของ​เขา​ขอ​แค่​คิด​จะ​ออกจาก​เมืองหลวง​แคว้น​เย​่ว​์​ย่อม​ไม่มีใคร​ทำ​อะไร​เขา​ได้​ ​จากนั้น​เขา​ก็​จะ​โบยบิน​บน​ท้องฟ้า​ได้​ดั่ง​ปักษา​และ​แหวกว่าย​ใน​มหาสมุทร​ผืน​กว้าง​ได้​ดั่ง​มัจฉา​แล้ว

​หรง​จิ​่น​ยก​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​เหตุใด​ข้า​ต้อง​ไป​ด้วย​ ​วัง​หลวง​แห่ง​นี้​ ​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​ ​ทั่วทั้ง​ใต้​หล้า​นี้​…​ต้อง​มีสัก​วันที่​เป็น​ของ​ข้า​ ​พวกเขา​ไม่​อยาก​ให้​ข้า​ได้​ ​ข้า​ก็​จะ​ไขว่คว้า​มา​ให้​พวกเขา​เห็น​!​”

​มู่​ชิง​อี​มอง​บุรุษ​ชุด​ดำ​ใบหน้า​ดุดัน​ข้าง​กาย​อยู่​เงียบๆ​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่นาง​เห็น​ใบหน้า​ของ​หรง​จิ​่น​เผย​ความทะเยอทะยาน​ออกมา​อย่างแท้จริง​…​หรือ​ก็​คือ​ปณิธาน​อัน​แกร่งกล้า​นั่นเอง

​ก่อนหน้านี้​ไม่ว่า​เวลา​ใด​ ​ยาม​ที่​หรง​จิ​่​นพูด​เรื่อง​นี้​กับ​นาง​มัก​เผย​ท่าที​ล้อเล่น​อยู่​บ้าง​ ​กระทั่ง​บางครั้ง​นาง​หลง​คิด​ว่า​เรื่อง​ช่วงชิง​ตำแหน่ง​องค์​รัชทายาท​ที่​หรง​จิ​่​นก​ล่าว​ถึง​เป็น​เพียง​เรื่อง​สนุก​ๆ​ ​ที่​เขา​อยาก​ทำ​เพียง​อารมณ์​ชั่ววูบ​เท่านั้น​ ​แต่​เวลานี้​นาง​กลับ​ไม่​อยาก​เชื่อ​ว่า​บุรุษ​ผู้​นี้​ก็​เหมือน​บุรุษ​ใน​ราชวงศ์​คนอื่นๆ​ ​สำหรับ​ชั่วชีวิต​นี้​ภายในใจ​ของ​พวกเขา​ไม่มีทาง​ละทิ้ง​ความเย่อหยิ่ง​และ​ความทะเยอทะยาน​ไป​ได้​เลย

​ความสุขุม​เยือกเย็น​เช่นนี้​ของ​หรง​จิ​่น​ได้​สลัด​อารมณ์​หลากหลาย​ต่างๆ​ ​ใน​ยาม​ปกติ​จน​สิ้น​ ​ทว่า​ขับ​ให้​ดู​หลักแหลม​ดั่ง​ปลาย​ฝี​ดาบ​ล้ำค่า​ใน​โลก​ก็​มิ​ปาน​ ​และ​ยิ่ง​ชวน​ให้​รู้สึก​หวาด​เกรง​อย่าง​ห้าม​ไม่ได้

​พอ​มู่​ชิง​อี​ได้สติ​กลับมา​ก็​เบือนหน้า​หนี​ ​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​หม่อมฉัน​รู้​เพ​คะ​ ​ฝ่า​บาท​ตกลง​ยอมให้​ท่าน​เข้าไป​ฟัง​งาน​ใน​ราชสำนัก​แล้ว​ ​นี่​เป็นการ​เริ่มต้น​ที่​ไม่เลว​ทีเดียว​ ​เดิมที​นึก​ว่า​ต้องหา​โอกาส​เสียอีก​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​สำเร็จ​ง่ายดาย​ถึง​เพียงนี้​”​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ ​ในเมื่อ​ปรารถนา​อยาก​ร่วม​ชิงตำแหน่ง​องค์​รัชทายาท​ ​เช่นนั้น​การ​เข้าไป​ร่วม​ว่าราชการ​ใน​ราชสำนัก​ก็​เป็นเรื่อง​จำเป็น​ ​ต่อให้​หรง​จิ​่​นมี​วิทยา​ยุทธ​เป็นอัน​ดับ​หนึ่ง​ใน​ใต้​หล้า​ ​แต่​หาก​ไม่ได้​รับ​การยอ​มรั​บก​็​คง​ขึ้น​เป็น​องค์​รัชทายาท​ไม่ได้

​หรง​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​เงียบๆ

​หรง​จิ​่น​ดึง​มู่​ชิง​อี​ขึ้น​มาจาก​พื้น​แล้ว​จูงมือ​นาง​เดิน​เข้าไป​ใน​หอ​เล็ก​ๆ​ ​นั้น​โดย​ไม่​คิด​ปล่อยมือ​ ​เพราะ​ก่อนหน้านี้​ไม่ได้​สังเกต​หอ​เล็ก​ ​ๆ​นี้​อย่างละเอียด​ ​เวลานี้​นาง​ถึง​เห็น​โต๊ะ​ตัว​หนึ่ง​และ​เก้าอี้​ตัว​หนึ่ง​สภาพ​งดงาม​ประณีต​ใน​หอ​เล็ก​ๆ​ ​นั้น​ ​อีกทั้ง​สิ่งของ​ทุก​ชิ้น​ยัง​จัดวาง​ได้​อย่าง​ลงตัว​ ​คนที​่​จัด​ตกแต่ง​หอ​เล็ก​ๆ​ ​แห่ง​นี้​คง​ทุ่มเท​ตั้งใจ​มาก​จริงๆ

​ทว่า​หรง​จิ​่​นก​ลับ​ไม่ได้​สนใจ​สิ่ง​เหล่านี้​เลย​ ​เขา​ลาก​มู่​ชิง​อี​เข้าไป​ใน​ห้อง​ที่​เงียบสงบ​มุม​หนึ่ง​ใน​หอ​เล็ก​แห่ง​นี้​ ​ใน​ห้อง​นั้น​มีกลิ่นหอม​ดอก​เหมย​จางๆ​ ​ลอยมา​แตะ​จมูก​ ​ภายใน​ห้อง​ว่างเปล่า​จน​น่าแปลกใจ​ ​ใน​นั้น​มี​เพียง​รูป​หญิงสาว​คน​หนึ่ง​แขวน​อยู่​เหนือ​สุด​ของ​ผนัง

​ขอ​แค่​คนที​่​เคย​เห็น​หรง​จิ​่​นก​็​คง​เดา​ออก​ว่า​สตรี​ใน​รูป​นี้​เป็น​ใคร​ ​ถึงแม้​มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​ถือว่า​เป็นสาว​งาม​ที่​หา​ได้​ยาก​แล้ว​ ​แต่กลับ​อด​ร้อง​อุทาน​ต่อ​ความงดงาม​ของ​หญิงสาว​ใน​ภาพวาด​ไม่ได้​เลย

​หญิงสาว​ใน​ภาพวาด​ดู​อายุ​เพียง​ยี่สิบ​ต้นๆ​ ​เท่านั้น​ ​นาง​สวม​ชุด​สีขาว​หิมะ​บางเบา​ปลิว​ไสว​ ​ด้านหลัง​ของ​หญิงสาว​มีด​อก​เหมย​ที่​ผลิบาน​แตก​ยอด​ออกมา​ไม่​กี่​ก้าน​ ​กลีบดอก​เหมย​เล็ก​ๆ​ ​ที่​ร่วง​โปรยปราย​บน​เส้น​ผม​และ​เสื้อผ้า​ของ​นาง​ยิ่ง​ขับ​ให้​หญิงสาว​ใน​ชุด​สีขาว​งดงาม​ดั่ง​นางฟ้า​บน​สวรรค์​เก้า​ชั้น​ก็​มิ​ปาน

​อีกทั้ง​ใบหน้า​นั้น​ยัง​ละม้ายคล้ายคลึง​หรง​จิ​่​นอย​่า​งมาก​ ​ในขณะที่​พอ​ใบหน้า​นี้​มา​อยู่​บน​ร่าง​ของ​หรง​จิ​่​นก​ลับ​ดู​คมคาย​ดุดัน​จน​ให้ความรู้​สึก​ไม่​อยาก​เข้าใกล้​ ​แต่​พอ​ถูก​วาง​ไว้​บน​ร่าง​ของ​หญิงสาว​กลับ​ทำให้​รู้สึก​เห็น​อยู่​ตรงหน้า​แต่​ยาก​จะเข้า​ใกล้​ได้​เหมือน​ดั่ง​ดวงจันทร์​ผุดผ่อง​บน​ท้องฟ้า​ ​งดงาม​อ่อนโยน​แต่​แฝง​ความรู้สึก​โดดเดี่ยว​จางๆ​ ​ยิ่ง​ชวน​ให้​คนที​่​เห็น​รู้สึก​อยาก​ทะนุถนอม​จน​แทบ​ยอม​ทุ่มเท​ทุกอย่าง​เพื่อ​ช่วย​คลาย​ความ​กลัดกลุ้ม​ตรง​หว่าง​คิ้ว​นั้น​ของ​นาง

​มู่​ชิง​อี​อด​อุทาน​ออกมา​ไม่ได้​ ​“​สม​แล้ว​ที่​เหมย​กุ้ย​เฟย​ได้รับ​ฉายา​ว่า​สาวงาม​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​แคว้น​เย​่ว​์​”​ ​หาก​กล่าวถึง​รูปโฉม​เพียง​อย่าง​เดียว​ ​มู่​ชิง​อี​มั่นใจ​ว่า​ตน​ไม่มีทาง​แพ้​ให้​เหมย​กุ้ย​เฟย​แน่นอน​ ​แต่​นาง​ไม่ได้​มีบุ​คลิก​ที่​น่า​หวงแหน​ทะนุถนอม​ขนาด​นั้น​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​มู่​ชิง​อี​ใน​ตอนนี้​หรือ​กู้​อวิ​๋น​เกอ​ใน​อดีต​ ​สตรี​ผู้​นี้​มีเสน่ห์​ที่​น่า​ปกป้อง​มา​แต่กำเนิด​ ​หาก​เกิด​มามี​ชีวิต​สามัญชน​บน​โลก​อัน​วุ่นวาย​ ​ไม่รู้​ว่า​สาวงาม​โดดเด่น​เช่นนี้​จะ​ทำให้​บุรุษ​ผู้​กล้ามา​กมาย​เท่าไร​ที่​ต้อง​หลงเสน่ห์​นาง

​หรง​จิ​่​นคุก​เข่า​ลง​บน​เบาะ​ตรงหน้า​ภาพเหมือน​นั้นแล​้​วจุด​ธูปหอม​ใน​กระถางธูป​บน​โต๊ะ​ตรงหน้า​ด้วย​ท่าที​สงบ

​“​นี่​มัน​ธูปหอม​โยว​หัน​มิใช่​หรือ​”​ ​พอก​ลิ่น​ควัน​หอม​จางๆ​ ​ลอย​ฟุ้ง​ขึ้น​มา​ ​มู่​ชิง​อีก​็​รับรู้​ได้​ในทันที

​หรง​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​กล่าว​ ​“​ว่า​กัน​ว่านี​่​เป็น​ธูปหอม​ที่​เสด็จ​แม่​โปรดปราน​มาก​ที่สุด​ขณะที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​เดิมที​ขาด​การสืบทอด​มานาน​แล้ว​ ​ตระกูล​เหมย​ทุ่ม​กำลังคน​และ​สิ่งของ​ไป​ไม่น้อย​กว่า​จะ​ทำ​ขึ้น​มา​ได้​ ​ข้า​จำ​ใบหน้า​ของ​เสด็จ​แม่​ไม่​ค่อย​ได้​ ​ดังนั้น​ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​ข้า​เลย​ทำได้​แค่นั​่ง​ตรงหน้า​ภาพวาด​และ​ธูปหอม​โยว​หัน​นี้​เท่านั้น​”

​มู่​ชิง​อี​จับจ้อง​ภาพวาด​บน​ผนัง​แน่นิ่ง​ ​ตรง​มุม​ภาพ​ไม่มี​ชื่อ​คน​วาด​แต่อย่างใด​ ​ทว่า​กลับ​วาด​ดอก​เหมย​สีแดง​ดอก​หนึ่ง​ไว้​ ​ถึงแม้​จะ​เห็น​ได้​ไม่ชัด​เจน​นัก​ ​แต่​คนที​่​มาจาก​ตระกูล​ผู้มีความรู้​อย่าง​มู่​ชิง​อี​จะ​มอง​สิ่ง​ที่​แตกต่าง​ไม่​ออก​ได้​เช่นใด​ ​เดิมที​ตรงนั้น​น่าจะ​มีชื่อ​เขียน​ลงท้าย​ไว้​ ​เพียงแต่​ถูก​คน​ลบ​ออก​แล้ว​วาด​ดอก​เหมย​สีแดง​ดอก​หนึ่ง​เติม​ใช้​ปกปิด​แทน​ใน​ภายหลัง​ต่างหาก

​หรง​จิ​่น​เอง​ก็​จับ​สังเกต​สายตา​ของ​นาง​ได้​เลย​ยิ้ม​เย้ยหยัน​ ​“​ภาพวาด​นี้​…​พี่​สาม​เป็น​คน​วาด​ ​ตอนที่​พี่​สาม​ยัง​หนุ่ม​เขา​ได้รับ​ฉายา​ว่าย​อด​จิตรกร​ ​ภาพวาด​ของ​เขา​ได้รับ​คำชม​จาก​นัก​วาดภาพ​ชื่อดัง​แห่ง​แคว้น​เย​่ว​์​ไม่ขาดปาก​ ​แต่​พี่​สาม​ไม่​วาดภาพ​สตรี​ ​แต่​ภาพวาด​เพียง​หนึ่งเดียว​ของ​เขา​…​กลับ​อยู่​ตรงนี้​”

​มู่​ชิง​อี​พูดไม่ออก​ ​นาง​มุ่น​คิ้ว​ด้วย​ท่าที​ชั่งใจ​ ​หรง​จิ​่​นบ​อก​เล่า​ความลับ​ส่วนตัว​ให้​นาง​ฟัง​อย่าง​หมดเปลือก​ย่อม​แสดงให้เห็น​ความเชื่อ​ใจ​ที่​มีต​่​อนาง​ ​แต่​เวลานี้​มู่​ชิง​อี​อด​ถาม​ออก​ไป​ไม่ได้​ ​ด้วย​สถานะ​ของ​เหมย​กุ้ย​เฟย​ ​มู่​ชิง​อี​เลย​พอ​จะ​คาดเดา​ได้​ ​แต่​สิ่ง​ที่นาง​ไม่เข้าใจ​ก็​คือ​หาก​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​โปรดปราน​เหมย​กุ้ย​เฟ​ยมาก​ขนาด​นี้​ ​ฝ่า​บาท​จะ​ทรง​อนุญาต​ให้​แขวน​ภาพ​ของ​สวิน​อ๋อง​หรง​จัง​ที่นี่​ได้​อย่างไร

​หรง​จิ​่​นก​ลับ​ไม่ใส่ใจ​สักนิด​ ​เขา​แค่น​หัวเราะ​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​เหอะ​ๆ​…​เพราะ​เสด็จ​พ่อ​วาดรูป​ไม่​เป็น​อย่างไรเล่า​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ทรง​มีพ​ระ​ปรีชา​ด้าน​การ​เป็น​กษัตริย์​มาตั​้ง​แต่กำเนิด​ ​ทว่า​กลับ​มีพรสวรรค์​ด้าน​การ​วาดภาพ​ไม่ดี​นัก​ ​ส่วน​นัก​วาดภาพ​คนอื่นๆ​…​เขา​ไม่​ให้​ใคร​เห็น​หน้า​ของ​เสด็จ​แม่​ ​แล้ว​นัก​วาดภาพ​คนอื่นๆ​ ​จะ​วาด​ออกมา​ได้​อย่างไร​ ​สุดท้าย​…​เลย​ทำได้​แค่​แย่ง​ภาพ​นั้น​ของ​พี่​สาม​มา​ ​อีกทั้ง​ลบ​ชื่อ​ผู้วาด​ลงท้าย​ออก​อย่าง​ไม่ยอมรับ​ ​ชิง​ชิง​ไม่ต้อง​รู้สึก​ผิด​หรอก​ ​ข้า​ไม่ได้​มี​ข้อห้าม​ใด​ใน​เรื่อง​นี้​”​ ​ยาม​ที่​หรง​จิ​่น​เอ่ยถึง​เสด็จ​พ่อ​อย่าง​มู่​หรง​เทียน​มักจะ​แฝง​ไป​ด้วย​ความ​เย้ยหยัน​และ​ดูถูก

​มู่​ชิง​อี​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​ ​ความผิดพลาด​ซับซ้อน​มัก​เกิดขึ้น​ใน​ครอบครัว​ได้​เสมอ​จึง​ยิ่ง​ไม่ต้อง​เอ่ยถึง​เรื่อง​ความแค้น​ที่​วนเวียน​อยู่​ใน​ตระกูล​เหล่า​เชื้อพระวงศ์​เลย

​“​ซี​เอ๋อร​์​”​ ​ฉับพลัน​ด้านนอก​ก็​มีน​้ำ​เสียงสั่น​เครือ​หนึ่ง​ดัง​แว่ว​เข้ามา​ ​มู่​ชิง​อี​ชะงัก​ไป​ ​นี่​คือ​เสียง​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​ถึงแม้นาง​จะ​เคย​เจอ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​เพียง​ครั้ง​เดียว​ ​แต่​บน​โลก​นี้​คนที​่​สร้าง​แรงกดดัน​ให้​นาง​ได้​กลับ​มี​ไม่​มาก​นัก​ ​ดังนั้น​นาง​ย่อม​จำ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ได้​อยู่​แล้ว

​เห็นได้ชัด​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​เพิ่ง​เดิน​ขึ้น​บันได​มา​ ​จากนั้น​ก็​สาวเท้า​เดิน​มุ่งหน้า​มาทาง​นี้

​หรง​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​อย่าง​ไม่​ชอบใจ​นัก​ ​แค่น​เสียง​เบา​ที​หนึ่ง​ก่อน​ลุกขึ้น​ ​จากนั้น​ก็​ประคอง​เอว​ของ​มู่​ชิง​อี​แล้ว​กระโดด​ลง​ไป​ทาง​หน้าต่าง​ด้าน​ข้าง​ที่​เปิด​เอาไว้

​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​รีบ​ผลัก​เปิด​ประตูออก​ทันที​ ​ทว่า​กลับ​เห็น​เพียง​กระถางธูป​ภายใน​ห้อง​ที่​มี​ควัน​จางๆ​ ​ลอย​อยู่​และ​เบาะ​ที่​ถูก​เคลื่อน​ตำแหน่ง​เท่านั้น

​“​ซี​เอ๋อร​์​”​ ​เขามอง​ภาพ​หญิงสาว​ที่​ใบหน้า​ประดับ​ด้วย​รอยยิ้ม​แต่​แฝง​ไป​ด้วย​ความกังวล​เล็กน้อย​ ​บน​ผนัง​ ​น้ำเสียง​ใน​วัยชรา​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​เต็มไปด้วย​ความโดดเดี่ยว​และ​สิ้นหวัง​ ​“​ซี​เอ๋อร​์​ ​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ไร้​เยื่อใย​เช่นนี้​…​เหตุใด​ต้อง​จาก​เรา​ไป​ด้วย​ ​จิ​่น​เอ๋อร​์​โต​แล้ว​ ​เจ้า​เห็น​หรือยัง​…​จิ​่น​เอ๋อร​์​กลายเป็น​อย่าง​ทุกวันนี้​ ​เจ้า​…​เกลียด​เรา​หรือไม่​ ​ไม่​สิ​ ​เจ้า​ต้อง​เกลียด​เรา​อยู่​แล้ว​…​จะ​มียาม​ใด​บ้าง​ที่​เจ้า​ไม่​เกลียด​เรา​ ​ซี​เอ๋อร​์​…​เรา​ผิด​ไป​แล้ว​…​หาก​ย้อนกลับ​ไป​ใหม่​ได้​…​”