“จำทุกอย่างที่ฉันบอกไว้ อย่าล้ำเส้นและดูแลตัวเองด้วยหล่ะ”
ผมพูดจบการประชุมหลังจากผ่านมา 1 ชั่วโมง พวกเราได้พูดคุยกันมากมาย ผมได้แนะนำพวกเพื่อนๆ ถึงเส้นทางที่พวกเขาควรเดินต่อไปและโดยรวมแล้วทุกอย่างก็เรียบร้อยดีแต่หลังจากนี้คงอาจเกิดปัญหายุ่งยากขึ้นอีก สิ่งที่ผมทำได้คือการจัดการกับมันเมื่อมันมาถึง
“ทุกคนออกไปได้แล้ว”
ในที่สุดผมก็พูด
เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนจึงลุกขึ้นพยักหน้าให้ผมก่อนจะเดินจากไป ยกเว้นมิกะกับริกะที่ยังคงอยู่ที่เดิม
เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็เข้าใจเจตนาของพวกเธอได้จึงปล่อยให้พวกเธออยู่ต่อ แม้แต่คลาร่าเองก็เริ่มเดินออกไป โดยไม่ลืมที่จะถามผมถึงรางวัลของเธออย่างสุขุมรอบคอบ
ไม่นานก็เหลือเพียงผมและ 2 แฝดเท่านั้น เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็ยืนขึ้นและเดินไปหาพวกเธอโดยมองตาพวกเธอไปด้วย ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรขณะที่ทั้ง 2 กระโดดเข้ามากอดผมแน่น
“เราคิดถึงคุณ/ค่ะ”
ทั้ง 2 คนพูดพร้อมกันทำให้ผมหัวเราะ
“แค่ 2 สัปดาห์เอง”
ผมพูดซึ่งทำให้ได้รับการดมกลิ่นและจูบที่แก้มทั้ง 2 ข้าง
“พวกเราก็ยังคงคิดถึงอยู่ดี/ค่ะ”
ทั้งมิกะและริกะพูดออกมาด้วยดวงตาแมวของพวกเธอที่หรี่ลงขณะดมกลิ่นผมอยู่เรื่อยๆ เพื่อพยายามเช็คว่ามีกลิ่นของผู้หญิงคนอื่นๆ เข้ามาอยู่ในตัวผมบ้างไหม
‘นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะ’
ขณะที่ผมกำลังคิดอยู่ ฟาร์ร่าก็พูดขึ้นมา
‘คนรักของนายท่านเหรอคะ?’
เธอถาม
‘หนึ่งในคนรัก’
ผมตอบขณะจ้องไปที่หางสีดำอันสวยงามของมิกะที่ส่ายไปมา เช่นเดียวกับหางสีขาวของริกะ
เมื่อเห็นดังนั้นผมก็เข้าใจเจตนาของพวกเธอ
“พวกเธอ 2 คนนี่ขี้อ้อนกันจังนะ”
ผมพูดก่อนจะเดินไปที่เก้าอี้แล้วนั่งลง
ทั้ง 2 สาวเองก็เดินตามมานั่งลงบนขาของผมเช่นกัน โดยที่มิกะเดินไปทางขวาและริกะเดินไปทางซ้ายก่อนที่ตัวของพวกเธอจะเอนกายมาพิงผม
ผมยกมือขึ้นและเริ่มลูบหัวของทั้ง 2 สาวอย่างเบาๆ บางครั้งก็เล่นกับหูของพวกเธอ แน่นอนว่าผมไม่ลืมที่จะเปิดใช้งานดวงตาแห่งความจริงเอาไว้ด้วย คาถาของนักบวชนิสัยไม่ดีคนนั้นมีประโยชน์มากในหลายๆ สถานการณ์
หลังจากเปิดใช้งานคาถาผมก็เริ่มมองเห็นจุดกระตุ้นที่ปรากฏขึ้นบนหูของพวกเธออย่างช้าๆ แถมมันยังแสดงให้ผมเห็นถึงกระแสการเคลื่อนไหวที่ควรทำเพื่อกระตุ้นความสบายหรือความหลงใหลในระดับสูงสุดภายในร่างกายของคนรักของผมด้วย
หูอันอ่อนนุ่มของพวกเธอทั้งสองข้างถูกบีบด้วยมือของผมก่อนจะเริ่มถูไปรอบๆ พวกมันเบาๆ โดยใช้การเคลื่อนไหวช้าๆ
“เนี๊ยะะะ~ออสติน~”
“ฉันชอบอย่างนี้จังค่ะ~หย๊าาา~”
ครั้งแรกเป็นมิกะที่ครวญครางออกมา ส่วนมิกะนั้นควบคุมตัวเองได้มากกว่าขณะปล่อยเสียงของเธอออกมา
ในที่สุดพวกเธอทั้งสองก็ต้องยอมจำนนต่อมือของผม ในเวลาเดียวกันกับที่ร่างกายของพวกเธอก็เริ่มอ่อนนุ่มพร้อมกับปล่อยลมหายใจร้อนๆ ออกมากระทบกับคอของผม
มิกะค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทางคอของผมก่อนจะเริ่มเลียและแทะมัน เช่นเดียวกับริกะที่ทำแบบเดียวกันที่คอผมอีกข้าง
พวกเธอทั้ง 2 ส่งสัญญาณของความต้องการมีเซ็กส์ที่พวกเธอมักจะทำกับผมเสมอ โดยปกติแล้วผมทำกับพวกเธอเป็นรายบุคคลและพวกเธอมักจะผลัดกันใช้เวลากับผม แต่สถานการณ์ในตอนนี้นั้นไม่ค่อยเหมาะที่จะทำแบบนั้น และพวกเธอก็รู้เรื่องนั้นดี ดังนั้นพวกเธอจึงถือว่านี่เป็นข้อยกเว้น
“อืมมม~ใช่~เอาอีกกก~หย๊าาา~”
“เร็วอีกกก~เนี๊ยะะ~”
การเคลื่อนไหวมือผมเริ่มเร็วขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อ ‘กระแส’ เริ่มเปลี่ยนไปในดวงตาของผม นิ้วของผมก็เต้นตามไปด้วยขณะเริ่มออกแรงกดมากขึ้น บ่งบอกได้จากสีสันรอบตัวผมที่เข้มขึ้น
ทั้งร่างของมิกะและริกะเองก็เริ่มบ้าคลั่งเช่นกัน ปากของพวกเธอกัดมาที่คอของผมเร็วขึ้น ในขณะที่ลิ้นของพวกเธอดูเหมือนพยายามจะลิ้มรสผมพร้อมกับลมหายใจร้อนๆ ของพวกเธอที่ปล่อยออกมาเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ไม่กี่นาทีต่อมาผมก็รู้สึกว่าร่างกายของพวกเธอสั่นและผ่อนคลายลง ปากทั้ง 2 ข้างกัดคอผมเบาๆ พร้อมกับทิ้งร่องรอยเล็กๆ ไว้ตรงนั้น
“อ๊าาา ~ ”
คราวนี้พวกเธอทั้ง 2 เปล่งเสียงออกมาพร้อมกันก่อนที่ร่างกายของพวกเธอจะทรุดตัวลงมาทับผม
“แฮ่กกก…มันสุดยอดมากเลย ฉันรักคุณ”
มิกะพูดพร้อมกับจูบแก้มผม
“ฉันก็รักคุณเหมือนกันค่ะ”
ริกะไม่ยอมแพ้และจูบแก้มอีกข้างหนึ่งของผม
ผมปล่อยให้พวกเธอได้พักบนตัวของตัวเองต่อไปจนทำให้ผมร้อนขึ้นในขณะที่พวกเธอดื่มด่ำกับกลิ่นของผมอีกครั้ง
เราอยู่อย่างนั้นอย่างสงบกันเป็นเวลา 15 นาที
…..
“เห้อออ…..อย่างน้อยพี่ก็กินอะไรหน่อยสิ”
ฉันพูดเมื่อเข้าไปในเต็นท์ที่ตกแต่งอย่างดี ดูกว้างขวาง และหรูหรา มันดูเหมือนเป็นห้องมากกว่าสิ่งอื่นใด
“ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อเป็นห่วงนายอยู่?”
นอร่าพูดขณะเดินเข้ามากอดผม
หลังจากจัดการกับ 2 แฝดเสร็จแล้วผมก็มาที่นี่ในทันทีเพื่อพบกับนอร่า
เต็นท์ทั้งหมดเป็นของเธอ มันเหมือนกับสถานที่เวทย์มนตร์ชั้นสูงที่สามารถเข้าไปได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากเธอเท่านั้นและยังมีกลไกการป้องกันด้วย กลไกที่ทรงพลังนี้นั้นได้รับความอนุเคราะห์จากน้าผู้น่ารักของพวกเรา
“มาสิ เดี๋ยวผมทำอะไรให้กินเอง”
ผมพูดขณะนำทางนอร่าไปยังสถานที่ที่กว้างขวางมากขึ้นก่อนจะเริ่มหยิบอุปกรณ์ทำอาหารออกมา
เมื่อเห็นแบบนั้นนอร่าก็เริ่มช่วยผมจัดวางพวกมัน เธอไม่ใช่พ่อครัวที่เก่งแต่ก็พอรู้รายละเอียดพื้นฐานบางอย่าง เหมือนที่เธอเคยช่วยผมในอดีตในตอนที่ผมทำอาหาร
“นึกถึงเรื่องเก่าๆ เลยว่าไหม?”
นอร่าพูดด้วยรอยยิ้มที่คิดถึงขณะจัดอุปกรณ์ทำอาหารพร้อมกับดวงตาของเธอที่ส่องแสงบางอย่างในก่อนที่เธอจะพูดต่อ
“เมื่อก่อนฉันคิดที่จะหลีกเลี่ยงนาย แต่หลังจากที่นายช่วยฉันด้วยคำพูดพวกนั้น ฉันก็กลายเป็นพี่สาวจอมจู้จี้จุกจิกที่พยายามสวมบทเป็นพี่สาว”
พูดจนถึงตรงนี้แล้วเธอก็หยิบผักขึ้นมาและเริ่มหั่นมันอย่างช้าๆ ในขณะที่ผมไปยืนที่อีกด้านหนึ่งของเธอก่อนจะเริ่มหั่นผักอื่นๆ เช่นกัน
“ฉันตกใจมากที่รู้ว่าลูกชายของครอบครัวไลออนฮาร์ทอยากเรียนทำอาหาร แต่สิ่งที่ทำให้ฉันอบอุ่นใจก็คือนายทำเพื่อครอบครัวของเรา นายเป็นแบบนั้นเสมอ”
นอร่าพูดขณะที่เธอเลื่อนผักไปข้างๆ แล้วหยิบอีกอันขึ้นมาแทนด้วยการเคลื่อนไหวที่แม่นยำและรวดเร็ว
“ย้อนกลับไปในตอนที่ครอบครัวของเราใกล้จะแตกแยก นายก็เป็นคนที่ดูแลพวกเรา นายเคยเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในครอบครัวของเราก่อนที่เอลด้าจะเกิด แต่นายก็ดูแลพวกเราอยู่เสมอโดยไม่หยุดพักหรือมีคำถามใดๆ นายเป็นเหมือนแสงสว่างที่นำทางพวกเรา”
ดวงตาของนอร่าหันมามองผมค้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนเธอจะกลับมาเพ่งความสนใจไปที่ผักตรงหน้า ในขณะที่ผมเคลื่อนตัวไปทางเนื้อเพื่อหั่นมันให้เป็นชิ้นที่สวยงาม
“แสงที่นายฉายออกมานั้นสว่างมากจนทำให้ครอบครัวไลออนฮาร์ททั้งหมดเปลี่ยนไป คฤหาสน์ที่ฉันเคยคิดว่าน่ากลัวนั้นกลายเป็นสถานที่สว่างไสวต้องขอบคุณนาย น้องชายของฉัน บางทีน่าจะเป็นตอนนั้นที่ทำให้นายเริ่มเข้ามาอยู่ในหัวใจของฉัน”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้มือของผมก็หยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขยับต่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่นอร่าไม่พลาดที่เห็นมัน
“แต่ตอนที่ความรักที่แท้จริงเบ่งบานสำหรับฉันคือตอนที่ฉันเห็นนายเสี่ยงทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตฉัน และฉันก็มั่นใจว่านั่นคงเป็นเวลาเดียวกันกับที่เอลด้าตกหลุมรักนายเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย”
ในที่สุดนอร่าก็หั่นผักออกและหั่นเป็นชิ้นสวยงามมาก ด้วยร่างกายที่ถูกเสริมพลังของเธอทำให้มันค่อนข้างง่าย เธอเดินไปที่อ่างและเริ่มล้างมันด้วยความใส่ใจในแต่ละการกระทำ
“ช่วงเวลาที่ฉันได้อยู่เคียงข้างนายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน พยายามเรียกร้องความสนใจ แกล้งนายเวลารู้สึกอยากแกล้ง ฉันยังเป็นเด็กน้อยมาตลอด มันค่อนข้างน่าขำเนอะ”
นอร่าพูดพร้อมหัวเราะเล็กน้อย
“ฉันคิดจะโยนความรู้สึกเหล่านี้ทิ้งให้มันหายไป แต่มันก็ไม่ง่ายเลย ไม่ใช่เลยเมื่อนายเอาแต่ทำในสิ่งที่มีแต่จะทำให้ฉันหลงรักนายมากขึ้น แต่ละวันฉันเอาแต่คิดถึงนายจนความรักของฉันยิ่งลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ฉันไม่สามารถอยู่กับความคิดที่ว่าจะไม่มีนายอยู่เคียงข้างฉันได้เลย”
หลังจากล้างผักเสร็จนอร่าก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ผมอีกครั้งก่อนจะวางผักไว้ข้างๆ และหันมามองหน้าผมในที่สุด
ดวงตาสีเข้มของเธอแวววาวขณะที่เธอพูดต่อ
“ฉันไม่สามารถซ่อนความรู้สึกเหล่านั้นได้อีกต่อไปแล้วและฉันไม่สามารถปล่อยให้คนที่ฉันรักหายไปจากฉันได้ ฉันมีสิ่งที่สูญเสียมามากพอแล้วน้องชาย และฉันไม่สามารถปล่อยให้นายเป็นหนึ่งในนั้นได้”
“นอร่า….”
ในที่สุดผมก็หันไปมองเธอด้วยดวงตาที่ ‘สั่นไหว’ ในขณะที่มือที่ถือมีดอยู่ถูกวางลงบนโต๊ะก่อนผมจะหันไปหาเธอจนสายตาของเราทั้ง 2 สบกัน
นอร่ายกมือขึ้นวางมันไว้บนใบหน้าของผมที่ข้างแก้มก่อนจะพูดขึ้นมา
“ฉันคิดว่านายเอาแต่ผลักฉันออกไปเพราะนายไม่ต้องการฉัน แต่ที่นายทำแบบนั้นเพราะรู้สึกแบบเดียวกันกับฉันใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ดวงตาของผมก็ “เบิกกว้าง” อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมองไปด้านข้างจนเผยให้เห็นสีหน้าที่รู้สึกผิดอย่างสมบูรณ์แบบ นั่นทำให้นอร่ายิ้ม
“ออสติน….”
เธอเรียกผม ทำให้ผมหันกลับไปมองเธอ
“เราทำแบบนั้นไม่ได้นะพี่ ถ้าเราทำแบบนั้นทั้งพี่และเอลด้าก็จะมีชีวิตที่ยากลำบากเพราะความรักนั้น”
ผมพูดขึ้นมาซึ่งทำให้นอร่าขมวดคิ้วก่อนจะตอบกลับ
“เราทั้งคู่ไม่สนใจเรื่องนี้ออสติน เรารู้ถึงความเสี่ยงและเรายินดีที่จะแบกรับมัน แต่คำถามคือแล้วนายหล่ะ?”
เธอถาม
ด้วยเหตุนี้ผมจึงมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของก่อนจะตอบกลับเธอ
“จำเป็นต้องถามด้วยเหรอ?”
“ก็นายพยายามปกป้องพวกเรามาตลอดหนิเนอะ”
นอร่าพูดพร้อมกับส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นเธอก็ขยับตัวอย่างรวดเร็วจนทำให้ดวงตาของผม ‘เบิกกว้าง’ ขณะที่เธอจูบผมที่ริมฝีปาก
ผม ‘ลังเล’ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมจูบตอบกลับเธอ ขณะที่มือของผมโอบไปที่เอวเธอ
‘ภารกิจเสร็จสมบูรณ์’
+1,000 ความชอบ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต