บทที่ 267 หน้าแตกคาที่

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 267 หน้าแตกคาที่

หยุนถิงออกจากพระราชวัง มองหลงเอ้อร์ที่อยู่ข้างๆ “ฝ่าบาทบอกจะพระราชทานจวนให้ข้าหลังหนึ่งมิใช่รึ จวนนั้นอยู่ไหนล่ะ?”

“ฮูหยิน อยู่ที่ถนนหลักทางทิศตะวันออกของเมืองหลวงขอรับ ซื่อจื่อให้คนไปทำความสะอาดแล้ว พร้อมเข้าไปอยู่ได้ทุกเมื่อเลย “หลงเอ้อร์ตอบ

“ดี งั้นตอนนี้พวกเราไปดูกันหน่อย”

หยุนถิงตามหลงเอ้อร์ไปเดินตลาด ผ่านร้านของทอด พอหยุนถิงปรากฏตัว เถ้าแก่และคนงานพากันลิงโลดนัก รีบทำออกจากเตาใหม่ๆให้หยุนถิงกับหลงเอ้อร์คนละชุดทันที

ความรู้สึกที่ได้รับการต้อนรับอย่างนอบน้อมและไม่ต้องจ่ายเงินมันไม่เลวจริงๆ หยุนถิงกับหลงเอ้อร์เดินไปกินไป มีความสุขเสียจริง

ทั้งสองคนเดินไปอีกสองถนน และได้เห็นโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง มีสตรีหลายนางล้อมรอบ หนึ่งในนั้นหยุนถิงรู้จัก เป็นน้องสาวคนละแม่ของซูชิงโยว

ตอนนี้สตรีหลายนางนั้นกำลังมองไปทางซูซินโหรวนอบน้อม พะเน้าพะนอเอาใจนางยิ่งนัก

“ซินโหรว เจ้าสนิทสนมกับคุณหนูหยุนขนาดนั้น นางยังเคยไปบ้านเจ้าเลย หน้ากากพอกหน้านั่นของหอชุนเฟิงเจ้าต้องซื้อได้มากกระมัง ถึงเวลานั้นเจ้าซื้อมากหน่อยมาแบ่งให้พวกเราด้วยสิ” สตรีนางหนึ่งพูดขึ้น

“เมื่อก่อนข้าเคยซื้อได้แค่อันเดียว ตอนนี้จำกัดปริมาณในการซื้อ ขายดีอย่างมาก อยากจะซื้อยากเสียยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก”

“หน้ากากพอกหน้านั่นดีกับผิวสตรียิ่งนัก ใช้แล้วผิวพรรณจะเรียบลื่นขาวเนียน มีแรงยืดหยุ่น”

“ซินโหรว เจ้าช่วยพวกเรานะ พวกเราคาดหวังในตัวเจ้านะ”

พอได้ยินทุกคนเยินยอปอปั้นเอาอกเอาใจพะเน้าพะนอ ซูซินโหรวรู้สึกดียิ่ง พอใจยิ่งนัก

ปกติแล้วคุณหนูเหล่านี้แต่ละคนเย่อหยิ่งหัวสูงเป็นยิ่งนัก ไม่เห็นบุตรสาวเมียรองอย่างนางอยู่ในสายตา และมักจะดูถูกนาง เย้ยหยันนาง บัดนี้ถึงวันที่พวกนางต้องมาข้อร้องตนแล้ว

ความรู้สึกนี้ช่างสะใจยิ่งนัก

ซูซินโหรวพองขนนัก แต่กลับทำหน้าอ่อนน้อมถ่อมตน “ทุกคนเป็นพี่น้องกันทั้งนั้น ไม่ต้องเกรงใจดอก ข้าต้องบอกคุณหนูหยุนเรื่องนี้แน่ แต่จะซื้อได้หรือไม่ข้าก็ไม่แน่ใจนะ”

“ซินโหรวเจ้าถ่อมตนไปแล้ว เจ้าออกหน้าให้ยังซื้อไม่ได้ งั้นพวกเราก็ยิ่งซื้อไม่ได้สิ”

“วันนี้ข้าพกเงินมาพอดี ตอนนี้ให้เจ้าเลย” สตรีนางหนึ่งยื่นตั๋วเงินให้ซูซินโหรวทันที

สตรีนางอื่นเห็นอย่างนั้น ก็พากันควักตั๋วเงินยัดให้ซูซินโหรวทั้งหมด

ถึงซูซินโหรวจะเป็นลูกสาวตระกูลซู แต่ก็เป็นลูกสาวเมียรอง ไหนเลยจะเคยเห็นตั๋วเงินมากมายขนาดนี้ ทำเอาสองตานางทอประกายเลยทีเดียว

แต่นางยังแสร้งทำที “ในเมื่อพี่สาวทุกท่านเชื่อใจข้าขนาดนี้ ข้าก็น้อมรับล่ะเจ้าค่ะ แต่ถ้าต้องจ่ายมากไป พี่สาวทุกท่านอย่าโทษข้านะ เพราะตอนนี้หน้ากากพอกหน้านั่นซื้อได้ยาก”

“ไม่โทษเจ้าหรอก ขอเพียงซื้อได้ก็พอแล้ว ข้าไม่ร้อนเงิน” สตรีนางหนึ่งพูดอย่างตรงไปตรงมา

“ใช่ ทุกคนไม่สนใจเงินนี่หรอก ใช้มากหน่อยไม่เป็นไร ขอเพียงซื้อได้ก็พอแล้ว”

“ได้ งั้นข้าก็วางใจล่ะ” มุมปากซูซินโหรวยิ้มอย่างได้ใจ และเก็บตั๋วเงินเหล่านั้นขึ้นมา

สายตาหยุนถิงมีแววเย็นวาบขึ้น เธอไม่รู้เลยว่าซูซินโหรวนี่จะกล้าหลอกใช้ตนเองหาเงิน ใครให้หน้านางกัน

หยุนถิงที่เดิมจะไปดูจวน เปลี่ยนความคิดฉับพลัน “หลงเอ้อร์ พวกเราไปดื่มชากัน”

“ตามใจฮูหยินขอรับ”

หยุนถิงกับหลงเอ้อร์เดินเข้าไป “เถ้าแก่ เอาชาชั้นดีมากาหนึ่ง!”

“มาแล้ว!” พอเถ้าแก่เห็นเป็นหยุนถิง ก็นอบน้อมยิ่งนัก รีบไปชงชามาด้วยตัวเองทันที

เหล่าคุณหนูพวกนั้นได้ยินเสียงนี้เหมือนกัน พอเห็นเป็นหยุนถิง พากันดีใจยิ่งนัก

พอเห็นใบหน้างดงาม ผิวพรรณขาวเนียน ผิวยืดหยุ่นนัก ประหนึ่งไข่ไก่ที่ปอกเปลือกออกของหยุนถิง เรียลื่นละเอียด คิ้วตางามดั่งภาพวาด นี่มันจันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง งามล่มเมือง ทำคนอื่นอิจฉายิ่งนัก

“นี่ข้ามาดื่มชาโรงเตี๊ยมเดียวกับคุณหนูหยุนรึนี่ ตื่นเต้นจริงๆเลย” สตรีนางหนึ่งตื่นเต้นยินดียิ่งนัก

“พวกเจ้าดูสิ ผิวคุณหนูหยุนดีขนาดนี้ ต้องใช้หน้ากากพอกหน้าทุกวันแน่ ถ้าไงพวกเราเข้าไปพูดกับคุณหนูหยุนดู ขอให้นางขายให้พวกเราดีไหม” สตรีนางหนึ่งเสนอ

“พูดถูกต้องเลย หน้ากากพอกหน้านั่นเป็นสิ่งที่คุณหนูหยุนคิดค้นขึ้นมาเอง และคุณหนูหยุนเป็นคนตรงไปตรงมา จริงใจเปิดเผย ไม่สนใจเงินทอง ตอนเทศกาลดอกท้อ นางให้คุณหนูฉินหนึ่งกล่องเลยเชียวนะ”

ได้ยินเสียงทุกคนกระซิบกระซาบกัน สีหน้าซูซินโหรวพลันไม่น่าดูขึ้นมาทันที คนพวกนี้เมื่อครู่ยังพะเน้าพะนอตน ตอนนี้พอเห็นหยุนถิงกลับเบนสายตาไปทางนางเสียแล้ว ช่างเป็นไผ่ลู่ลมเสียจริง

แต่ซูซินโหรวกลับกลัวพวกนางจะเข้าไปมากกว่า หากให้ทุกคนรู้ว่าตนมิได้สนิทสนมอะไรกับคุณหนูหยุนเลย คุณหนูหยุนเคยสั่งสอนตน เช่นนั้นพวกนางต้องเยาะเย้ยเสียดสีตนเองแน่

“คุณหนูหยุนยุ่งขนาดนั้น ไหนเลยจะมีเวลาสนใจพวกเราล่ะ พี่สาวทุกท่านอย่าเข้าไปรบกวนเลยดีกว่า” ซูซินโหรวกระซิบบอก

พอคำพูดนี้ออกมา คนที่คิดจะเข้าไปพากันเหงาหงอยไม่กล้าทันที

หยุนถิงได้ยินคำพูดของคนเหล่านื้ทั้งหมด ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา

เถ้าแก่ยกชามาด้วยตัวเอง พลันเห็นหยุนถิงยิ้มอย่างนี้ มือที่ถือชาอยู่ของเถ้าแก่สั่นทันที “คุณหนูหยุน เชิญขอรับ”

“ขอบคุณเถ้าแก่มาก วันนี้ข้าเห็นเถ้าแก่แล้วดีใจนัก ให้หน้ากากพอกหน้าเจ้ากล่องหนึ่งแล้วกัน นี่คือชนิดที่ขายที่ดีที่สุดในหอชุนเฟิงตอนนี้ มีมูลค่าหนึ่งร้อยตำลึง” หยุนถิงบอก พลางหยิบหน้ากากพอกหน้าอันหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าที่พกติดตัววางบนโต๊ะ

เถ้าแก่ตกตะลึงยิ่งนัก จากนั้นรีบขอบคุณอย่างดีใจทันที “ขอบคุณคุณหนูหยุนนัก ลูกสาวข้าบอกว่าจะไปซื้อหน้ากากพอกหน้านี้ แต่มันขายดีมากเลย ต่อแถวอยู่นานหลายวันก็ยังซื้อไม่ได้ คราวนี้นางต้องดีใจมากแน่ คุณหนูหยุนช่างดียิ่งนัก วันนี้ค่าน้ำชาทุกอย่างมิคิดเงิน ถือซะว่าเป็นการขอบคุณคุณหนูหยุนแล้วกัน”

“เถ้าแก่เกรงใจไปแล้ว”

“เชิญคุณหนูหยุนตามสบายเลย ข้าไม่รบกวนแล้ว” เถ้าแก่รีบหยิบหน้ากากพอกหน้าไป

หญิงสาวเหล่านั้นที่อยู่ห่างไปไม่ไกลเห็นภาพนี้เข้า พากันอึ้งเป็นไก่ตาแตก “คุณหนูหยุนผู้นี้ช่างใจกว้างเสียจริง มองแล้วชอบหน้าก็ยกหน้ากากพอกหน้าให้เถ้าแก่ไปหนึ่งกล่องเลย นั่นน่ะราคาหนึ่งร้อยตำลึงเชียวนะ”

“ข้าบอกแล้วไงว่าคุณหนูหยุนไม่แยแสเงินทอง นางงามทั้งกายและใจ ทั้งยังทำมาหากินหาเงิน รังเกียจความชั่วเสียยิ่งกว่าอะไร ชอบช่วยเหลือผู้คน ข้าตัดสินใจแล้ว ต่อไปนี้คุณหนูหยุนคือเทพธิดาของข้า” สตรีนางหนึ่งพูดอย่างเลื่อมใส

“เช่นนั้นข้าจะไปลองดูนะ หากคุณหนูหยุนมองแล้วชอบหน้าข้า ไม่ต้องให้เปล่า ขายให้ข้าก็พอแล้ว” สตรีนางนั้นพูดพลางเดินไปหาหยุนถิง

ซูซินโหรวอยากจะห้ามก็ไม่ทันการแล้ว

หลัวซางเดินเข้าไปหาหยุนถิง คารวะเธอ “คุณหนูหยุน ข้าชื่อหลัวซาง ชอบหน้ากากพอกหน้าของท่านมาก ก่อนหน้านี้ข้าเคยไปซื้อที่หอชุนเฟิงครั้งหนึ่ง ใช้แล้วดียิ่งนัก อยากจะไปซื้ออีก แต่ต่อแถวอยู่หลายวันก็ยังซื้อไม่ได้ และยังจำกัดจำนวนในการซื้อ

พวกเราล้วนเป็นสหายที่สนิทสนมกับซินโหรวที่สุด พวกเรารู้ว่าซินโหรวสนิทสนมกับคุณหนูหยุนยิ่งนัก เลยไหว้วานางให้ช่วยพูดกับท่านว่าจะซื้อมากหน่อยได้หรือไม่ พอเห็นท่านอยู่ที่นี่ ข้าเลยอยากเข้ามาไหว้วานคุณหนูหยุนด้วยตัวเอง หวังว่าคุณหนูหยุนจะไม่ว่าที่ข้ามารบกวนเช่นนี้”

หยุนถิงเลิกคิ้วมองนาง “ซูซินโหรวคือใคร ทำไมข้าไม่รู้จักเลย”