บทที่ 381 พิธีเสร็จสิ้น

หลังจากอวี๋มินและเมิ่งผิงเดินเข้ามา พวกเธอก็ต้องตกตะลึงกับความสวยของถังซวงด้วยเช่นกัน แต่ทั้งหมดทราบดีว่าหลานสาวคนนี้สวยมาก และยังไม่ลืมความตั้งใจของตัวเอง

“ซวงเอ๋อร์ เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินสักหน่อยดีกว่าจ้ะ ตอนงานเริ่มจะได้ไม่หิว”

เฮ่อหลานรีบพยักหน้าและพูดว่า “ใช่จ้ะ กินอาหารเช้าก่อน ไม่งั้นลูกจะไม่มีเวลากินแล้วนะ”

ทุกคนเดินไปที่ห้องรับประทานอาหารทันที

เวลานี้ตระกูลเฮ่อ หลี่จงอี้ และซูเหนียนอวิ๋นต่างก็อยู่ที่บ้านตระกูลจิง พวกเขามาร่วมรับประทานมื้อเช้าด้วยกัน ทุกคนหัวเราะและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ส่วนด้านของถังซวงก็ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย

ถังซวงรู้สึกหิวมาก เช้านี้เธอจึงทานเยอะเป็นพิเศษ

พอเห็นอย่างนั้นแล้ว สองพี่น้องจิงเหวินหยวนกับจิงเหวินรุ่ยอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ “ซวงเอ๋อร์ ไม่ตื่นเต้นบ้างหรือ? กินข้าวซะเยอะเชียว”

ถังซวงชำเลืองมองทั้งสองก่อนจะตอบกลับว่า “พี่ใหญ่ พี่รอง ตอนนี้ฉันกำลังจะหมั้น แต่พวกพี่สองคนยังไม่มีคนรักเลยนะคะ แล้วทำไมถึงกล้าบอกว่าฉันกินมากเกินไปล่ะ”

“ฉัน… พวกเรา…”

จิงเหวินหยวนและจิงเหวินรุ่ยที่ถูกตอกกลับถึงกับเถียงไม่ออก

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

เฮ่อเจียรุ่ยหัวเราะลั่นเมื่อเห็นว่าพี่ชายทั้งสองคนเงียบไป

ทั้งจิงเหวินรุ่ยและจิงเหวินหยวนหันหน้ามองกันก่อนจะพูดว่า “หยุดหัวเราะพวกเรานะ นายก็ยังไม่มีคนรักเหมือนกันนั่นแหละ ยังกล้ามาหัวเราะพวกเราอีก” ทั้งสามคนอายุเท่ากัน จึงไม่แปลกที่จะสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว ผู้ชายในวัยทำงานพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน และเฮ่อเจียรุ่ยเข้าขากับพวกเขาได้ดี

“ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ ฉันก็ยังไม่เจอใครที่อยากจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตนี่ ฮ่าฮ่าฮ่า…”

จิงเหวินหยวน จิงเหวินรุ่ย จับเฮ่อเจียรุ่ยพูดขึ้น คนหนึ่งอยู่ทางซ้าย คนหนึ่งอยู่ทางขวา และทั้งสามก็เริ่มโต้เถียงกันจนวุ่นวาย

ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นว่าทั้งสามเริ่มถกเถียงกันอย่างจริงจัง

เห็นสถานการณ์วุ่นวาย คุณนายจิงตะโกนทันที “เหวินหยวน เหวินรุ่ย หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวตระกูลโม่จะมาถึงแล้ว พวกหลานไม่อายคนอื่นบ้างหรือ อีกอย่างนี่เป็นวันสำคัญของซวงเอ๋อร์ ทำไมทำตัวแบบนี้ ถ้าคนอื่นหาว่าย่าไม่สั่งสอนพวกหลานจะว่ายังไง!”

ได้ยินเสียงของคุณนายจิง จิงเหวินรุ่ยและจิงเหวินหยวนหยุดมืออย่างรวดเร็ว

ส่วนเฮ่อเจียรุ่ยกลับมาสงบอีกครั้งพร้อมกับรับประทานมื้อเช้าต่อไป

เห็นท่าทางของคนหนุ่มสาว ทุกคนยกยิ้มก่อนจะพูดว่า “หนุ่มสาวนี่ดีจริง ๆ นะ…”

หลังรับประทานมื้อเช้า ถังซวงกำลังจะกลับไปที่ห้องของตัวเอง ทว่าเสียงประทัดกลับดึงขึ้นจากหน้าประตู

ปัง ปัง ปัง…

ทันทีที่ได้ยินเสียงประทัด จิงเจ้อหรงขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจ๋อหยวนรีบมาขนาดนั้นเชียวหรือ?”

ทันทีที่พูดจบ ใครบางคนวิ่งเข้ามาจากหน้าประตูพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “มาแล้วครับ ตระกูลโม่มาถึงแล้วครับ”

“เป็นเจ๋อหยวนจริง ๆ ด้วย”

จิงเจ้อหรงยกยิ้มก่อนจะส่ายศีรษะ จากนั้นจึงพาจิงเหวินหยวนและคนอื่น ๆ ออกไปด้านนอก

ส่วนถังซวงชะโงกหน้าไปดู และขณะที่กำลังคิดว่าเธอควรไปที่นั่นด้วยหรือเปล่า เกอชิงเหม่ยกลับคว้าตัวเธอไว้แล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ไปที่โถงด้านหน้าก่อนจ้ะ”

ถังซวงตกใจเล็กน้อย แต่ก็ทำตามแต่โดยดี

โม่เจ๋อหยวนเดินเข้าประตูมาด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อเห็นว่าถังซวงไม่อยู่ เขาถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ลุงจิงครับ ซวงเอ๋อร์อยู่ไหนหรือ?”

จิงเจ้อหรงชำเลืองมองโม่เจ๋อหยวนแล้วถามกลับไปว่า “ทำไมเธอถึงมาที่นี่เร็วนัก? พวกเรายังรับประทานมื้อเช้าไม่เสร็จเลย”

“งั้นผมออกไปรอข้างนอกก่อนก็ได้ครับ”

“เฮ้… เธอนี่ใจร้อนซะจริง ๆ รอพบซวงเอ๋อร์ไม่ไหวเลยหรือ ถึงมาเร็วขนาดนี้”

โม่เจ๋อหยวนไม่ปฏิเสธคำนั้นก่อนจะยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ครับ ผมคิดถึงซวงเอ๋อร์ ผมเลยรีบมาที่นี่ก่อนเวลา”

“เฮ้อ… นี่มันอาการของพวกคนคลั่งรักชัด ๆ”

เฮ่อเจียรุ่ยหัวเราะอย่างขบขัน ส่วนจิงเหวินหยวนและจิงเหวินรุ่ยต่างโห่ร้องหยอกล้อ

เฮ่อหลานยกยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า “จ้ะ ๆ เจ๋อหยวนเข้ามาข้างในก่อนสิ”

เพื่อนทั้งสองสามคนของเขา ร่วมถึงโม่ถิงซวนเดินติดตามโม่เจ๋อหยวนเข้ามาด้านใน จิงเจ้อหรงเองก็ทักทายโม่ถิงซวนด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปพร้อมกับทุกคนเช่นกัน

“ซวงเอ๋อร์…”

เมื่อมาถึงห้องโถงด้านหน้า ทันทีที่โม่เจ๋อหยวนได้พบกับคนที่เขาเฝ้ารอมาตลอดหลายวัน เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปหา

“พี่คะ…”

เห็นคนสองคนที่คิดถึงกัน คนอื่น ๆ ถึงกับหัวเราะออกมา

พอได้ยินเสียงหัวเราะ ถังซวงอดไม่ได้ที่จะเขินอายเล็กน้อย

อย่างไรเสีย โม่เจ๋อหยวนจับมือเธอเอาไว้แน่น ไม่คิดปล่อย “ซวงเอ๋อร์ หลังจากวันนี้เราเป็นคู่หมั้นกันแล้วนะ” เขาตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มาเนิ่นนาน และสิ่งที่เขาต้องการต่อไปคือการแต่งงาน

ทันทีที่เห็นว่าหลานชายออกอาการเกินงาม โม่ถิงซวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “โม่เจ๋อหยวนอยากจะมาที่นี่เช้ากว่านี้อีกนะครับ ถ้าพวกเราไม่หยุดเขาไว้ เขาน่าจะมาถึงตั้งแต่ไก่ยังไม่ตื่น”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

ทุกคนรอบข้างถึงกับหัวเราะออกมา

ทำให้โม่เจ๋อหยวนเขินอาย เขาเหลือบมองโม่ถิงซวนก่อนจะพูดว่า “ลุงถิงครับ หยุดล้อผมได้แล้ว”

“ฮ่าฮ่า… ลุงแค่อยากบอกทุกคนว่าเธอกระตือรือร้นกับงานวันนี้มากแค่ไหนไง”

โม่ถิงซวนกล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันมองคุณชายจิงและคุณนายจิง “คุณชายจิง คุณนายจิง วันนี้เจ๋อหยวนกับซวงเอ๋อร์หมั้นหมายกันแล้ว เรามาแลกเปลี่ยนสินสอดระหว่างครอบครัวดีกว่าครับ ผู้อาวุโสของเราขอให้ผมมอบจี้หยกนี้ให้กับซวงเอ๋อร์ครับ” เขาหยิบหยกทองคำออกมา

ก่อนที่ใครจะทันได้พูดอะไรต่อ โม่เจ๋อหยวนคว้าจี้หยกนั้นแล้วยัดใส่ฝ่ามือของถังซวงอย่างรวดเร็ว

“ซวงเอ๋อร์ รับมันไว้นะ”

ถังซวงหยิบจี้หยกมารับชมใกล้ ๆ และพบว่ามันคือของล้ำค่ามาก แต่เวลานี้ตระกูลโม่มอบมันให้เธอ เธอจึงยอมรับมันเอาไว้ และโชคดีที่ทางฝ่ายเธอก็เตรียมสินสอดไว้เช่นกัน

เธอเห็นว่าเฮ่อหลานหยิบสร้อยข้อมือหยกสีดำออกมาเส้นหนึ่ง

“เจ๋อหยวน รับสิ่งนี้ไว้สิ”

“ครับ ขอบคุณครับป้าหลาน” โม่เจ๋อหยวนรับมันไว้ก่อนจะสวมใส่ที่ข้อมือทันที

หลังจากแลกเปลี่ยนของหมั้นแล้ว ทั้งสองจึงกลายเป็นคู่หมั้นกันอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่คุณตาเฮ่อและคุณยายเฮ่อได้พบเจอกับโม่เจ๋อหยวน เขาหล่อเหลาเหมาะสมกับถังซวงจริง ๆ “ฉันดีใจจริง ๆ ที่ได้มาอยู่ในงานหมั้นของซวงเอ๋อร์”

หลังจากนั้นทุกคนเริ่มพูดคุยกัน แต่เกอชิงเหม่ยที่เห็นว่าสายมากแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “เราไปที่ร้านอาหารกันเลยดีไหมคะ?”

“ใช่ เราไปที่นั่นกันเถอะ”

คนทั้งหมดตรงสู่โรงแรมใหญ่ภายในเมืองหลวงทันที

ที่ร้านอาหาร ผู้เฒ่าโม่ โม่ถิงฮวา และหลินเหม่ยเจินกำลังต้อนรับแขกอยู่

เมื่อเห็นว่าตระกูลจิงมาถึงแล้ว ทั้งหมดเร่งรีบเข้ามาต้อนรับก่อนจะเชิญเข้าสู่ห้องอาหารด้านใน

“ครอบครัวหลานสะใภ้ เชิญเข้าด้านในก่อนครับ”

ผู้เฒ่าโม่ทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม ขณะเดียวกันเขาก็เปลี่ยนสรรพนามของตัวเองให้กลายเป็นฝั่งลูกเขย

คุณนายจิงตอบกลับทันที “ครอบครัวฝั่งหลานเขย เราเข้าไปข้างในด้วยกันเถอะค่ะ”

“ครับ ครับ”

ผู้เฒ่าโม่เดินเข้ามาพร้อมกับคนกลุ่มหนึ่ง ขณะที่โม่ถิงฮวาและหลินเหม่ยเจินยังคงยืนอยู่ที่ประตูเพื่อรอต้อนรับแขก เวลานี้จิงเจ้อหรงก็อยู่ที่นี่ด้วย ส่วนเฮ่อหลานเข้าไปด้านในพร้อมกับคนอื่นเพราะเธอท้องอยู่ จึงไม่สามารถให้เธอยืนรับแขกนาน ๆ ได้