บทที่ 338 ท่านจิตใจชั่งชั่วร้ายนัก!

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 338 ท่านจิตใจชั่งชั่วร้ายนัก!

เพราะที่อ๋องเย่และเทพธิดาหายตัวไป ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญผวามานาน องครักษ์ของพระราชวัง องครักษ์วังหลวง รวมถึงนักบวชในงานวัด ล้วนได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสืบหาเบาะแสของพวกเขา

ไหนเลยจะไปใส่ใจเรื่องของเหล่าคุณชายคุณหนูพวกนั้น

สำหรับว่าเรื่องเป็นมายังไง พวกเขาก็ไม่รู้

หากว่าคนที่ตายเป็นประชาชนธรรมดาก็ยังพอว่า ดันบังเอิญเป็นลูกสาวของสิงปู้ช่างชูที่กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในขณะนี้ และยังตายอยู่ในรถม้าของเทพธิดาอีก

เรื่องเช่นนี้จำเป็นต้องรีบตรวจสอบทันที ไม่เช่นนั้น พวกเขาก็จะถูกตัดหัวทั้งหมด

เวลานี้!

ฮ่องเต้มองสาวใช้สองคนแวบหนึ่งด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม แล้วพูดออกคำสั่งกับองครักษ์ :

“เรียกหมอหลวง ให้มาตรวจให้พวกนาง”

เดิมทีสาวใช้ต่ำต้อย ไม่มีสิทธิ์ที่จะให้หมอหลวงตรวจอาการ

ทำเช่นไรได้สถานการณ์พิเศษ ไม่เรียกก็ต้องเรียก

เพียงแต่ เหล่าองครักษ์ยังไม่ทันที่จะรับคำสั่ง ราชครูเทียนเวิงที่อยู่ข้างๆก็ได้ทำมือเคารพฮ่องเต้แล้วกล่าว :

“รายงานฮ่องเต้ ที่นี่อยู่ห่างไกลจากพระราชวังมาก แม้ว่าองครักษ์จะควบม้าอย่างเร็ว ไปกลับก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองชั่วยาม

ข้าน้อยได้ยินว่าวิชาการรักษาของเทพธิดาสูงล้ำ สำหรับอาการของสาวใช้สองคนนี้น่าจะเพียงตรวจก็รู้ได้ทันที ทำไมจะต้องสิ้นเปลืองเวลานานขนาดนั้นด้วยพะยะค่ะ?”

น้ำเสียงที่แหบแก่ชราดังขึ้นอย่างช้าๆ

ฮ่องเต้และบรรดาผู้คนเพิ่งจะนึกได้ เทพธิดามีวิชาการรักษา! เพียงแค่ขอให้เทพธิดาตรวจก็ได้แล้ว ไหนเลยจะต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ยุ่งยาก?

ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าราชครูเทียนเวิงพูดจามีเหตุผล

แต่หลานเยาเยากลับรู้ว่า ราชครูเทียนเวิงไม่ได้ประสงค์ดีอย่างแน่นอน

“นี่……”

ฮ่องเต้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสม

เทพธิดาที่อยู่สูงส่ง หายตัวไปนานขนาดนั้นแล้วเพิ่งจะกลับมาถึง ก็พบกับเรื่องโชคไม่ดีเช่นนี้

หากว่ายังจะให้นางตรวจอาการให้สาวใช้สองคนนี้ ลดฐานะไม่ว่า ยังมีหมายความถึงการทำให้เทพธิดาขายหน้าอีก

เช่นนี้ไม่สมควร

สำหรับเขาเทพธิดายังมีค่ามากมายที่จะใช้ประโยชน์เฉพาะกาล ไม่สามารถสบประมาทได้

ใครจะรู้……

ราชครูเห็นว่าฮ่องเต้ลังเล ก็พูดต่ออีก

“เทพธิดาขอพรความสุขเพื่อประชาชน จิตใจเป็นห่วงสรรพสิ่งในโลก หายตัวไปนานในที่สุดก็กลับมา ในรถม้ากลับปรากฏศพที่น่าตกใจอย่างกะทันหัน

คาดว่าเวลานี้เทพธิดาคงอยากจะรีบตรวจสอบให้รู้ว่าฆาตกรเป็นใครมากกว่าใครอื่น? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ตายอยู่ในรถม้าของเทพธิดา เทพธิดาก็ต้องตกเป็นผู้น่าสงสัยไม่มากก็น้อย

อีกทั้งตรวจอาการให้สาวใช้เรื่องเล็กเช่นนี้ สำหรับเทพธิดาแล้วเป็นเพียงเรื่องง่ายๆเท่านั้น จิตใจเทพธิดาเป็นห่วงสรรพสิ่งในโลก จะไม่ยินยอมได้เช่นไร?”

ในคำพูดของราชครูเทียนเวิงมีความนัยแฝง คนอื่นไม่เข้าใจ แต่หลานเยาเยากลับเข้าใจเป็นอย่างมาก

เขาให้การเยินยอนางเช่นนี้ หากนางไม่ตรวจให้สาวใช้ที่อยู่ข้างหน้าสองคนนี้ ก็จะกลายเป็นว่านางทำไม่ถูก

ไม่เป็นไร!

ราชครูเทียนเวิงชอบเสแสร้ง เช่นนั้นนางเสแสร้งสักหน่อยก็ได้แล้ว ใครกลัวใครกันล่ะ!

หลังจากที่ฟังคำพูดของราชครูเทียนเวิงแล้ว ฮ่องเต้ก็หันมามองนาง พูดกับนางด้วยสีหน้ายังค่อนข้างลำบากใจ

“เทพธิดา ท่านดูนี่……”

“ไม่เป็นไร งานง่ายๆเท่านั้น” พูดไป หลานเยาเยาก็มองไปทางราชครูเทียนเวิง ริมฝีปากยกขึ้นยิ้มบางๆแล้วกล่าว :

“รบกวนราชครูช่วยแกะเชือกที่มัดสาวใช้ทั้งสอง เอาเศษผ้าในปากออกไป ยังไงซะก็แค่งานง่ายๆเท่านั้น ราชครูน่าจะไม่ยืมมือของผู้อื่นหรือไม่ยินยอมทำหรอกนะ?”

นางพูดออกมาอย่างไม่เหลือทางเลือกก่อน ราชครูเทียนเวิงอยากจะหาเหตุผลมาปฏิเสธก็ไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น!

ตอนนี้โฉมหน้าที่แท้จริงของราชครูเทียนเวิง ยังไม่ได้ปรากฏออกมาต่อหน้าของฮ่องเต้และคนอื่นๆ เขาก็ยังเป็นเพียงขุนนางผู้หนึ่งเท่านั้น

นางที่เป็นเทพธิดาสูงศักดิ์ผู้นี้ ยอมลดฐานะมาตรวจให้สาวใช้ทั้งสองแล้ว เขาที่เป็นราชครูผู้หนึ่งจะไม่ยอมลงมือแก้มัดให้สาวใช้เชียวหรือ?

เป็นดังคาด!

หลังจากที่ได้ยินนางพูดเช่นนี้

ฮ่องเต้ก็ส่งสายตาให้เขาเป็นนัย พร้อมกับคำสั่ง : “ราชครู ไปแกมัดเถอะ!”

“……พะยะค่ะ ฮ่องเต้”

คนผู้หนึ่งที่คิดวางแผนจะควบคุมแผ่นดินใหญ่ อดทนอดกลั้นยอมลดมาอยู่ในตำแหน่งราชครู เดิมทีก็ไม่พอใจกับฮ่องเต้ที่มีท่าทางเป็นฮ่องเต้กากเดนเช่นนี้

แต่โอกาสยังไม่เหมาะสม เขาทำได้เพียงเป็นขุนนางที่เชื่อฟังฮ่องเต้เท่านั้น

ด้วยเหตุนั้น!

ราชครูเทียนเวิงแก้มัดให้สาวใช้ทั้งสองด้วยสีหน้าเย็นชา เอาเศษผ้าที่อุดปากออก จากนั้นจึงได้ทำท่าทางเหมือนเชิญนาง

ใครจะรู้……

หลานเยาเยายังไม่ได้ขึ้นไปข้างหน้า แต่พูดอย่างแผ่วเบา

“พวกนางไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่ได้รับความตกใจกลัว และบวกกับทั้งความกระหายน้ำและหิวเท่านั้น ให้พวกนางกินสักหน่อย ดีที่สุดให้ดื่มน้ำหวาน ในไม่ช้าก็จะกลับสู่สภาพเดิมแล้ว”

ฆาตกรไม่ได้ฆ่าสาวใช้สองคนนี้ เพียงจับพวกนางมัดไว้เท่านั้น

และรอยบาดแผลบนตัวของฉินหลิงเจียว ลึกๆตื้นๆ ใหม่ๆเก่าๆ แต่รอยแผลแรกก็น่าจะอยู่ในเวลาประมาณสามวันเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้!

สาวใช้ทั้งสองถูกขังอยู่ในห้องโถงไม่ได้กินไม่ได้ดื่มก็เป็นเวลาประมาณสามวัน เป็นคนก็ล้วนทนไม่ได้ บวกกับความตกใจ สติไม่ลอยก็น่าแปลกแล้ว

หลังจากที่เห็นราชครูกำหมัดแน่นเล็กน้อยได้สำเร็จ หลานเยาเยาก็มองเขาด้วยความพอใจแวบหนึ่ง ในตาเต็มไปด้วยการเย้ยยั่น

“ให้คนมา ไปยกน้ำหวานเข้ามา” ฮ่องเต้ออกคำสั่งแล้ว

“พะยะค่ะ!”

องครักษ์ก็รับคำสั่งแล้วไปอย่างรีบร้อน แล้วยกน้ำหวานเข้ามาอย่างรีบๆ หลังจากบังคับกรอกให้สาวใช้ทั้งสองแล้ว

ไม่นานนัก สาวใช้หนึ่งในนั้นก็มีสติดีขึ้นมามาก

เมื่อเห็นคนมากมายล้อมรอบอยู่ ทั้งเห็นฮ่องเต้ อ๋องเย่และคนต่างๆ ก็รีบคุกเข่าหมอบลงที่พื้นอย่างตื่นตระหนก

“ข้าน้อยคารวะฮ่องเต้ ฮ่องเต้หมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี อ๋องเย่พันปีพันปีพันพันปี องค์ชายรัชทายาทพันปี……”

“ไม่ต้องคารวะแล้ว พูดมาเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

น้ำเสียงที่อ่อนแอไม่มีแรงยังไม่ทันจะคารวะเสร็จ ก็ถูกฮ่องเต้ตัดบททันที

“พะยะค่ะ!”

ทันทีที่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นสองสามวันก่อน สาวใช้ยังไม่ทันจะเล่าเรื่องราวออกมา ก็แงแงแงร้องไห้ขึ้นมาก่อน

ร้องเช่นนี้ก็ไม่การร้องไห้แบบจริงจังอะไร นางร้องไห้ไปพลางก็ยังทำท่าเช็ดน้ำตาอย่างน่าสงสารไปพลาง แต่สายตากลับแอบทอดมองไปที่ร่างองค์ชายรัชทายาท

ทำให้คนเหล่านั้นล้วนอยากจะเข้าไปถีบนางโดยตรง

ทั้งที่คุณหนูของนางได้ตายไปแล้ว นางยังจะมีกระจิตกระใจเสแสร้งอีก?

โชคดี!

สายตาของสาวใช้เห็นหลานเยาเยาเข้า ก็สั่นไปครู่หนึ่ง จากสีหน้าเดิมที่ซีดเผือดอยู่แล้ว สีเลือดทั้งหมดก็จางหายไปในพริบตา

“เทพ เทพธิดา……”

เหมือนกับว่านางจะกลัวมาก ถอยหลังไปไม่หยุด

ทันใดนั้นสายตาของผู้คนก็มองไปที่ร่างของหลานเยาเยา ในใจก็ล้วนคิดเหมือนกันโดนไม่ได้นัดหมายเกิดความสงสัยขึ้น

หรือว่าการตายของฉินหลิงเจียวเกี่ยวข้องกับเทพธิดา?

หลานเยาเยากวาดตามองบรรดาผู้คนแวบหนึ่ง มองเอาสีหน้าของพวกเขาไว้ในสายตา

จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปที่ร่างของสาวใช้ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก :

“ข้าไม่ได้กินคนสักหน่อย เจ้าจะสั่นเป็นตระแกรงทำไมกัน?”

“เป็นท่าน เป็นท่านแน่ๆที่จับตัวคุณหนูไป เป็นท่านแน่ๆ คุณหนูเพียงแค่ชอบพอใจห้องโถงที่ท่านอยู่ พูดจาดูหมิ่นท่านไม่กี่คำ

ดังนั้นท่านมีความโกรธแค้นในใจ ไม่กล้าที่จะว่ากล่าวออกมาอย่างเปิดเผย ดังนั้นจึงแอบลักพาตัวคุณหนู เทพธิดา ท่านจิตใจชั่งชั่วร้ายนัก!”

สาวใช้หดตัวแล้วชี้ไปทางหลานเยาเยา ในดวงตาก็ชั่วร้ายฉับพลัน

วันที่มีงานวัด พวกนางแย่งชิงห้องโถงแต่แย่งไม่ได้ ยังโดนเทพธิดาทุบตีอีก

นางที่คุ้นเคยกับการรังแกผู้อื่น กลับโดนรังแก ในใจเกิดความแค้นมาก

ตอนนี้คุณหนูหายตัวไป

พวกนางก็โดนมัดไว้หลายวันหลายคืน ไม่ว่าจะเป็นเทพธิดาทำหรือไม่ นางก็จะพูดว่าเป็นนาง

เช่นนี้ถึงจะสามารถทำลายชื่อเสียงของเทพธิดาได้ แก้แค้นที่โดนทุบตี

“เหอะ!”

“ชั่วร้าย? ใครชั่วร้ายกันแน่ก็ยังไม่แน่นอน? ดีที่สุดเจ้าคิดให้ดีก่อนค่อยพูด คุณหนูบ้านเจ้าได้ตายอย่างน่าสังเวชอยู่ในรถม้าของข้านั่น!”