บทที่ 336 ยื้อยุดกระบี่

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 336 ยื้อยุดกระบี่
บทที่ 336 ยื้อยุดกระบี่

เมื่อถูกกุมคอเอาไว้แบบนี้ ซูอันก็ยังสงสัยว่าเส้นใยสุขสันต์จะสามารถปกป้องเขาต่อไปได้หรือไม่ แม้ว่าหัวของชายหนุ่มจะหลุดออกไป ถ้าหากยังมีชีวิตอยู่ในตอนท้ายมันจะทำงานอย่างไร?

หัวที่ขาดร่วงหล่นของเขาจะต่อติดกลับไปได้หรือไม่?

แต่ถ้านางทำกับหัวข้าเหมือนปิดตาตีแตงโม แล้วสมองข้าเละเป็นข้าวต้มไปแล้วล่ะ? ข้าจะสามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้ไหม?

ชายหนุ่มได้แต่ขนลุกด้วยความหวาดกลัว

เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของซูอัน หมี่ลี่ก็ยิ้มเยาะและนางเตรียมที่จะบิดศีรษะของเขา แต่ทันใดนั้น ร่างกายของนางก็แข็งค้าง

“อาซู ฆ่าข้าซะ!”

แววตาที่มุ่งร้ายในดวงตาของหมี่ลี่หายไปอย่างไร้ร่องรอย แทนที่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและน้ำตาก็พลั่งพรูออกมาของฉู่ชูเหยียน

ซูอันยินดีที่ได้พบนาง “ที่รัก เจ้าเอาชนะนางได้แล้วเหรอ?”

“ข้าสามารถควบคุมร่างกายของข้าได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่ข้าอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว เร็วเข้า ฆ่าข้าซะ!” ฉู่ชูเหยียนตะโกนร้อง

แค่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะใช้ร่างกายของนางทำเรื่องแบบนั้นกับผู้ชายคนอื่นในอนาคตอย่างไร นางก็ตัวสั่นด้วยความขยะแขยง นางยอมตายดีกว่าปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นมาทำลายความภาคภูมิใจของตัวเอง!

คำพูดของนางทำให้ซูอันลังเล ฉู่ชูเหยียนได้สลายการป้องกันตัวลงอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ซูอันที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็สามารถฆ่านางได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามเขาจะทำอย่างนั้นได้ยังไง?

ถ้าเขายอมรับการตายของนางได้จริง ๆ เขาคงไม่สู้มาจนถึงขนาดนี้

“เร็วเข้า!” ฉู่ชูเหยียนเร่งเร้า

ในเชิงตรรกะ ซูอันรู้ว่าตัวเองควรทำอะไร แต่ในบางเรื่องเราจะทำตามแค่มันเป็นสิ่งที่ ‘สมควร’ หรือไม่?

ช่วงเวลาสั้น ๆ ของความลังเลใจนี้ทำให้ร่างของฉู่ชูเหยียนถูกหมี่ลี่ ครอบงำอีกครั้ง “นังหญิงชั้นต่ำ เจ้ากล้าดียังไงถึงขัดขืนข้า?”

“เจ้าต่างหากที่เป็นหญิงชั้นต่ำ!” แววตาของฉู่ชูเหยียนกลับมาอีกครั้ง

แววตาของ ‘ฉู่ชูเหยียน’ ยังคงสลับไปมาระหว่างฉู่ชูเหยียนและหมี่ลี่ ทั้งสองด่าทอกันด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มันเป็นภาพที่น่าขนลุก

ซูอันรู้ว่าเขาไม่สามารถลังเลได้อีกต่อไป ดังนั้นชายหนุ่มจึงเรียกกระบี่ไท่เอ๋อร์ให้เข้ามาอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง และเล็งปลายกระบี่ไปที่หัวใจของฉู่ชูเหยียน หากออกแรงผลักมันเล็กน้อย ชีวิตของนางก็จะถึงจุดจบ

ฉู่ชูเหยียนตัวจริงเดาได้ว่าซูอันคงไม่ใจแข็งพอจะทำได้ ดังนั้นนางจึงกัดฟันคว้าใบกระบี่ด้วยมือซ้ายแล้วดึงกระบี่เข้าใส่หน้าอกของตัวเอง

“ชูเหยียน!” ซูอันอุทานด้วยความตกใจ

แม้ว่าผลของวิชาวัฏจักรหงส์อมตะจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขา แต่อาการบาดเจ็บหนักที่เกิดขึ้นทำให้ชายหนุ่มไม่มีแรงพอจะดึงกระบี่กลับได้

กระบี่แทงเข้าที่หน้าอกของนาง และเลือดเริ่มไหลออกมา

ซูอันหมดหวัง แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามือขวาของฉู่ชูเหยียนกลับเอื้อมมาจับกระบี่ด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะยึดมันไว้ไม่ให้ขยับและพยายามถอนออกไป หรือพูดให้ถูกก็คือหมี่ลี่พยายามที่จะหยุดการฆ่าตัวตายของฉู่ชูเหยียน!

ภาพที่มือข้างหนึ่งพยายามถอนกระบี่ออกไปขณะที่อีกมือพยายามดันกระบี่เข้าร่าง จนตอนนี้กระบี่กลายเป็นหยุดนิ่งมันเป็นภาพที่น่าขนลุกอย่างเหลือเชื่อ

ซูอันรู้ว่าการหยุดนิ่งนี้คงอยู่ได้ไม่นาน เขาจะต้องฆ่านางตอนนี้ มิฉะนั้น นางจะถูกหมี่ลี่ครอบงำในไม่ช้า

แต่เขาทำไม่ได้จริง ๆ!

“ข้าสามารถทำอะไรเพื่อช่วยนางได้บ้างไหม?” ซูอันพยายามระดมความคิดหาทางช่วยฉู่ชูเหยียน แต่ชายหนุ่มเป็นเพียงผู้มาใหม่ในโลกใบนี้ ความรู้ของเขาจึงมีจำกัด ดังนั้นซูอันจึงได้แต่ใช้ทุกสิ่งที่เขามีเพื่อจัดการกับหมี่ลี่

เดี๋ยวนะ ข้ายังไม่ได้ใช้ ‘สายตา เจ็บ-จน-ทรุด’! ข้าเกือบลืมไปว่ายังมีทักษะนี้อยู่

อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนคิดดูอีกทีทักษะนี้ไม่สามารถช่วยฉู่ชูเหยียน ได้แน่นอน เพราะทั้งหมดที่มันทำได้คือการสร้างความเจ็บปวดให้หมี่ลี่ อย่างรุนแรง ซึ่งบางทีอาจเป็นการเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มฆ่านางได้ แต่ถ้าเขาต้องการฆ่าฉู่ชูเหยียน จริง ๆ ก็สามารถทำได้เลยทันทีตอนนี้

ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงคำพูดที่ชายชุดมังกรบอกเขาในผนึก ดูเหมือนว่าวิชาปฐมบทแรกเริ่มจะมี ‘ความสามารถในการชำระล้าง’ แต่ปัญหาคือซูอันไม่รู้ว่ามันทำงานอย่างไร!

จนถึงตอนนี้ ชายหนุ่มเพิ่งเรียนรู้วิธีโคจรพลังปฐมบทเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ แต่เขายังไม่สามารถใช้มันเพื่อการชำระล้างได้

จากนั้นเขาก็คิดว่าก่อนหน้านี้ว่าตัวเองสามารถเชื่อมต่อเส้นลมปราณ ของฉู่ชูเหยียนได้อย่างไร?

จำเป็นต้องเชื่อมต่อร่างกายของเราเข้าด้วยกันเพื่อทำการชำระล้างหรือไม่?

ในไม่ช้าชายหนุ่มก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพราะชายในชุดมังกรน่าจะเป็นอิ่งเจิ้ง และไม่ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าหมี่ลี่เป็นภรรยาของเขาได้ จะต้องเลอะเทอะแค่ไหนถึงแนะนำให้คนอื่น ‘แทง’ ภรรยาของตัวเอง?

อย่างน้อยที่สุด ดูเหมือนว่าอิ่งเจิ้งจะไม่ใช่คนโรคจิตที่ชอบเห็นภรรยาของตัวเองนอกใจ

แต่ข้าจะชำระล้างนางได้ยังไง?

ตอนนั้นเองที่ซูอันรู้สึกว่าแรงผลักกระบี่ออกจากหมี่ลี่นั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เขาต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว มิฉะนั้นมันจะสายเกินไป…

อย่างน้อย ข้าควรจะลองดูสิ!

“พี่หญิงใหญ่ ก่อนหน้านี้ข้าเบามือให้ท่านมาตั้งนานแล้ว แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ข้าคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” ซูอันเอ่ยขึ้น

“จนถึงตอนนี้เจ้าเบามือกับข้างั้นเหรอ?” หมี่ลี่ระเบิดเสียงหัวเราะ

แม้แต่ฉู่ชูเหยียนและเฉียวเสวี่ยอิงก็เบิกตากว้าง พวกนางไม่เข้าใจว่า ทำไมซูอันถึงพูดแบบนี้ขึ้นมาในช่วงเวลาเช่นนี้

ซูอันถอนหายใจยาวและพูดว่า “ท่านรู้แค่ว่าข้าได้เรียนรู้วิชาปฐมบทแรกเริ่ม แต่ท่านเดาไม่ออกเหรอว่าข้าได้เรียนรู้มาจากใคร?”

“อิ่งเจิ้ง!” หมี่ลี่อุทาน

“ถูกต้อง เขาไม่เพียงแต่ถ่ายทอดวิชาปฐมบทแรกเริ่มให้เท่านั้น แต่เขายังบอกวิธีชำระล้างให้กับข้าอีกด้วย!” ซูอันกล่าว

หมี่ลี่หน้าซีดลงทันที นางสั่นเทิ้มไปทั้งร่างจนฉู่ชูเหยียนสามารถควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น นางจึงสามารถดันกระบี่ให้ลึกเข้ามาในหน้าอกของนางเองได้เพิ่ม

ด้วยความตื่นตระหนก ซูอันจึงพยายามดึงกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็วด้วยกำลังทั้งหมดของเขา

ฉู่ชูเหยียนนิ่งงัน

ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 250!

โธ่เอ๊ย! กว่าข้าจะขยับได้แต่ละครั้งมันยากยิ่งกว่ายากซะอีก แต่ตอนนี้เจ้ากลับทำให้มันเสียเปล่าทั้งหมด!

“เฮอะ! ถ้าเจ้าชำระล้างข้าได้เจ้าคงจะทำไปก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าคงไม่ยืนให้ข้าทุบตีเจ้าจนปางตายแบบนี้ตั้งแต่แรก!” ในไม่ช้าหมี่ลี่ก็พบช่องว่างในคำพูดของซูอัน

ชายหนุ่มรีบตอบกลับทันที “ข้าจะพูดอะไรได้? ก็ข้ามันเป็นคนโรคจิตนี่นา พี่หญิงใหญ่ คนโรคจิตอย่างข้าจะเต็มใจฆ่าคนสวยอย่างท่านได้ยังไง?”

หญิงสาวสองคนในร่างเดียวกันถึงกับนิ่งอึ้งกับคำตอบของซูอัน

ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 333!

ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 333!

ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 256!

ซูอันค่อนข้างสงสัยว่า ทำไมคะแนนความโกรธแค้นที่เขาได้รับจากฉู่ชูเหยียนและหมี่ลี่จึงเท่ากัน?

อาจเป็นเพราะพวกนางอยู่ในร่างกายเดียวกันหรือไม่? น่าเสียดายที่ฉู่ชูเหยียนกำลังจะตายในไม่ช้าเพราะถูกหมี่ลี่ยึดครองร่าง ถ้าทั้งสองคนสามารถมีสติสัมปชัญญะในร่างกายเดียวกันได้ ข้าจะไม่มีความสุขเป็นสองเท่าหรอกเหรอ?

แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทำไมเฉียวเสวี่ยอิงถึงมาโกรธข้าไปด้วยอีกคนล่ะ?

หมี่ลี่ดีดนิ้วเข้าใส่กระบี่ และนั่นส่งผลให้กระบี่ไท่เอ๋อร์กระเด็นออกจากมือของซูอันพุ่งไปปักที่พื้นทันที

ต่อจากนั้น นางก็ใช้มือกุมคอของซูอันแน่นและจิกเล็บยาวเข้าไปในผิวหนังของเขา ทำให้เลือดไหลพุ่งย้อมนิ้วของนางเป็นสีแดงอันน่าสยดสยอง

“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าถึงรอดมาได้จนถึงตอนนี้ มันอาจเป็นเพราะวิชาลับบางอย่างที่เจ้ามี หรืออาจเป็นเพราะเจ้ามีสายเลือดพิเศษ แต่ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไรก็ตาม เจ้าไม่มีทางรอดแน่นอนหากหัวของเจ้าหลุดออกจากบ่า!”

“ข้าไม่เคยเล็งที่หัวเจ้า เพราะข้ากับเจ้าก็คุ้นเคยกันมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเจ้าไม่รู้ว่าสิ่งใดดีสำหรับตัวเอง ข้าก็ไม่จำเป็นต้องละเว้นเจ้าอีกต่อไป ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถอยู่รอดได้หากข้าเด็ดหัวของเจ้าออก!”