ตอนที่ 611 เจ้ามัน ‘ร้าย’ และ ‘งดงาม’ เกินไป (3) / ตอนที่ 612 เจ้ามัน ‘ร้าย’ และ ‘งดงาม’ เกินไป (4)
ตอนที่ 611 เจ้ามัน ‘ร้าย’ และ ‘งดงาม’ เกินไป (3)
พอจวินอู๋เสียลงจากหลังม้า นางก็ตรงเข้าไปในกระโจมที่พักทันทีเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อนางเดินออกมาจากกระโจม เฉียวฉู่ ฮวาเหยา เฟยเยียน และหรงรั่วก็กำลังยืนรออยู่ด้านนอกอย่างอดทน
เหมียว เจ้าแมวดำนอนเหยียดกายอยู่บนแขนของจวินอู๋เสียพร้อมกับแกว่งหางไปมาช้าๆ มันมองเฉียวฉู่และพรรคพวกที่กำลังมองจวินอู๋เสียด้วยสายตาแปลกๆ
จวินอู๋เสียเอียงคอมองสหายทั้งสี่ของนางอย่างงุนงง ท่าทางของพวกเขาก็ดูปกติดี แต่สายตาที่พวกเขามองนางนี่สิ มันแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก
“น้องเสีย” เฉียวฉู่มองจวินอู๋เสียอย่างลังเลและพูดอย่างระมัดระวัง
“หือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น
ทันใดนั้นเฉียวฉู่ก็รู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆ ที่จมูกของเขา เขารีบยกมือบีบจมูกไว้แน่นและเงยหน้ามองท้องฟ้าพร้อมกับวิ่งหนีไปด้านข้าง
จวินอู๋เสียสับสนหนัก สายตาของนางเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ
“เขาเป็นอะไรไปน่ะ”
เฟยเยียนก็รู้สึกประหม่ามากเช่นกัน แต่เมื่อเห็นการกระทำที่น่าขันของเฉียวฉู่ เขาก็ระเบิดหัวเราะออกมา
“พรืดดด…เจ้าโง่เฉียวก็แค่ทำตัวงี่เง่าเหมือนเคยนั่นแหละ ไม่ต้องไปสนใจหรอก”
หรงรั่วส่ายหัวอย่างจนปัญญาก่อนจะมองมาที่จวินอู๋เสีย “ข้าไม่คิดเลยว่าน้องเสียจะมีเรื่องประหลาดใจครั้งใหญ่ให้พวกเรา”
“ประหลาดใจหรือ” จวินอู๋เสียขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกเจ้ามาช้าเกินไป”
“ช้าเกินไปรึ” หรงรั่วงุนงง
“หนิงซินตายแล้ว” จวินอู๋เสียพูดอย่างเคร่งขรึม
นางตั้งใจจะให้เฉียวฉู่กับคนอื่นๆ ได้ดูการแสดงดีๆ แต่น่าเสียดายพวกเขามาไม่ทันเวลา
“ไม่…ไม่ใช่หนิงซิน…” หรงรั่วอยากจะหัวเราะขณะที่มองจวินอู๋เสีย เด็กสาวตัวเล็กคนนี้มักจะหัวไวเฉลียวฉลาดอยู่เสมอ แต่บางมุมนางก็หัวทึบเสียจนไม่น่าเชื่อ
“ไม่ใช่นาง” จวินอู๋เสียไม่เข้าใจ นางคิดว่าเรื่องประหลาดใจที่หรงรั่วพูดถึงคือการที่นางลงโทษหนิงซิน หรงรั่วไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี นางจึงชี้มาที่ใบหน้าของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียยกมือขึ้นแตะใบหน้า แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
เมื่อเห็นเจ้าปีศาจน้อยของพวกเขาแสดงความหัวช้าออกมาแบบหาดูได้ยากเช่นนี้ หรงรั่วก็หัวเราะหนักยิ่งขึ้น
“คุณหนูใหญ่ที่รักของข้า! เจ้าเข้าใจผิดแล้ว!” หรงรั่วยังคงหัวเราะขณะที่เอื้อมมือออกไปเชยคางของจวินอู๋เสียขึ้น พวกนางเป็นสตรีทั้งคู่ นางจึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องห้ามมือของตัวเอง
“ด้วยใบหน้าที่งดงามล่มเมืองเช่นนี้ ทำไมเจ้าต้องทำให้ตัวเองดูน่าเกลียดด้วย” หรงรั่วหัวเราะขณะที่พูด ความจริงแล้วหลังจากปลอมแปลงหน้าตา จวินอู๋เสียก็ไม่ได้น่าเกลียดเลย และยังคงถือได้ว่ามีรูปโฉมที่ละเอียดอ่อนบอบบางและมีเสน่ห์ดึงดูด แต่หลังจากได้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของนางเบื้องหลังหน้ากาก ใบหน้าปลอมของนางก็ไม่อาจเทียบได้เลย ไม่ได้แม้แต่น้อย
จวินอู๋เสียประหลาดใจ ด้วยความเฉลียวฉลาดที่นางมี นางไม่ต้องคิดให้เสียเวลาก็รู้ว่าสิ่งที่หรงรั่วกำลังพูดถึงนั้นคือหน้าตาของนาง
งามล่มเมือง…
คำพูดที่นางเคยได้ยินจากคนอื่นทั้งในชาติก่อนและชาติปัจจุบัน นางไม่เคยคิดสักครั้งว่าคำพูดพวกนั้นจะหมายถึงนาง
ในความคิดของนาง ไม่ว่าคนนั้นจะสวยหรือน่าเกลียดก็ไม่ใช่สิ่งที่นางจะเอามาใช้ตัดสินผู้คน
ในฐานะหมอ ไม่ว่านางจะมองใคร นางก็มองพวกเขาด้วยสายตาที่วิเคราะห์ว่าพวกเขาเป็นคนดีหรือไม่ดีอย่างไร ส่วนภายนอกพวกเขาจะดูเป็นเช่นไร นางไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
นางเห็นใบหน้าของตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วน และไม่เห็นว่ามันจะแตกต่างจากคนอื่นที่ตรงไหน
“เห็นหรือไม่ พอเจ้าเปิดเผยหน้าตาของเจ้าให้พวกเราเห็นอย่างกะทันหัน ก็ทำให้เจ้าโง่เฉียวกลัวจนเอ๋อไปเลย!” หรงรั่วพูดพร้อมหัวเราะ นางพบว่าจวินอู๋เสียน่ารักอย่างถึงที่สุดในเวลานั้น ด้วยท่าทางเหมือนเด็กน้อยซื่อๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร สีหน้าของนางสับสนเป็นอย่างมาก
เปรียบเทียบกับนิสัยเย็นชาและมีเหตุผลอยู่เสมอของจวินอู๋เสียแล้ว หรงรั่วพบว่าความตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงนี้มันน่ารักจนเกินทน
“ข้าไม่ได้กลัวสักหน่อย!” เฉียวฉู่ร้องโวยวายขณะที่นั่งยองๆ จับจมูกอยู่ด้านข้าง
ด้วยการร้องเสียงดังนั่นเอง เลือดกำเดาที่เขาพยายามจะหยุดมันก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง และไหลกลับลงไปในลำคอของเขา รสชาติของโลหิตที่เข้ามาในปากกะทันหัน ทำให้เขารู้สึกคลื่นไส้จนเกือบจะพ่นเอาโลหิตสีแดงออกมา!
ตอนที่ 612 เจ้ามัน ‘ร้าย’ และ ‘งดงาม’ เกินไป (4)
หรงรั่วหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
จวินอู๋เสียที่ใบหน้ายังอยู่ในมือของหรงรั่วขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าของนางยังคงสับสน
นางยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
อัจฉริยะและคนโง่แตกต่างกันตรงที่สิ่งที่พวกเขารู้ ส่วนใหญ่แล้วจวินอู๋เสียเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบเท่า แต่ในบางมุมนางก็เป็นแค่คนโง่เขลาคนหนึ่งเท่านั้น
“นี่ถ้าพวกสวะที่สำนักศึกษาเฟิงหัวได้เห็นน้องเสียยอมให้หรงรั่วหยิกแก้มบีบหน้าเล่นเช่นนี้ ข้าสงสัยนักว่าปฏิกิริยาของพวกเขาจะเป็นอย่างไร” เฟยเยียนยิ้มอย่างซุกซนขณะที่มองใบหน้าสับสนของจวินอู๋เสีย ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขามีเพศที่แตกต่างกัน เขาก็อยากจะเข้าไปหยิกแก้มของจวินอู๋เสียด้วยเหมือนกัน
สาวน้อยคนนี้ช่างน่ารักเกินบรรยายจริงๆ!
“พวกเขาจะต้องคลั่งแน่” หรงรั่วพูดยิ้มๆ
เรื่องที่จวินอู๋เสียที่ทรมานและฆ่าหนิงซินอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าต่อตาคนทั้งสำนักศึกษาเป็นคนคนเดียวกับที่ยอมให้หรงรั่วหยิกแก้มเล่นโดยไม่ระวังตัวเลยนั้น ช่างแตกต่างกันอย่างรุนแรงจนเกินกว่าที่ศิษย์พวกนั้นจะยอมรับได้
หรงรั่วยกนิ้วปัดแก้มนุ่มๆ ของจวินอู๋เสีย นางไม่เต็มใจจะปล่อยมือออกเลย ถ้านางเป็นบุรุษ ปฏิกิริยาของนางอาจจะแย่กว่าเจ้าโง่เฉียวมาก
ทหารของกองทัพรุ่ยหลินกำลังยืนเฝ้ายามอยู่รอบค่ายพัก จากระยะนั้นพวกเขาเห็นคุณหนูใหญ่ของพวกเขาทำตัว ‘สนิทสนม’ กับกลุ่มผู้เยาว์พวกนั้น และดวงตาของพวกเขาก็แทบถลนออกมานอกเบ้า
บางคนที่หุนหันกว่าถึงกับชักดาบออกมา ตั้งใจจะบั่นมือของหรงรั่วอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องล่าถอยกลับไปอย่างว่าง่ายเมื่อเห็นสายตาเย็นยะเยือกของหลงฉีที่มองมา
พวกทหารที่ถูกจ้องล่าถอยเข้ามุมและนั่งลงเอานิ้วจิ้มกับพื้นพลางบ่นว่า “คุณหนูใหญ่ถูกเจ้าเด็กนั่นทำให้แปดเปื้อน ท่านแม่ทัพเอกยังเฉยอยู่ได้อย่างไร…พวกเราจะปล่อยให้คุณหนูใหญ่ถูกหมอนั่นรังแกแบบนี้อย่างนั้นหรือ”
พวกเขาพากันใจสลาย เมื่อเทพธิดาของพวกเขาถูกทำให้เสื่อมเสีย แถมพวกเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้ไปฟันเจ้าคนร้ายนั่นให้ขาดเป็นท่อนๆ อีกด้วย…สวรรค์ยินยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร!
หลงฉีไม่สนใจเจ้าพวกอกเดาะที่นั่งจ๋องอยู่บนพื้น เขายืนอยู่ที่เดิมและหันไปมองจวินอู๋เสียกับหรงรั่วและคนอื่นๆ อย่างเคร่งขรึม มีเพียงสายตาของเขาเท่านั้นที่ส่องประกายหัวเราะอย่างหาได้ยาก
ถ้าท่านอ๋องกับท่านอ๋องน้อยมาเห็นฉากนี้เข้า มันอาจจะทำให้พวกเขาสบายใจขึ้นมาได้บ้างกระมัง
หลังจากหรงรั่วและคนอื่นๆ ชื่นชมใบหน้าของจวินอู๋เสียเสร็จ นางจึงสามารถหลบออกมาได้ ไม่ใช่ว่านางไม่ชอบให้หรงรั่วแตะ แต่นางแค่ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไรดี
นางถูแก้มที่ยังคงเป็นสีชมพูอยู่เล็กน้อย ขณะที่หรงรั่วกับเฟยเยียนยังคงหัวเราะไม่เลิก นางก็เดินไปนั่งลงบนก้อนหิน
ตอนนั้นเองที่หลงฉีเดินเข้ามา ใบหน้าเคร่งขรึมของเขาดูไม่คุ้นเคยกับเรื่องตลก
“คุณหนูใหญ่”
“หือ” จวินอู๋เสียยังคงยกมือจับแก้มขณะที่เงยหน้าขึ้นมอง สีแดงบนผิวจางลงเล็กน้อย ผิวสีขาวราวหิมะของนางเจือด้วยสีชมพูจางๆ ดวงตาใสกระจ่างคู่นั้นเหมือนจะลดความเย็นชาและเหินห่างตามปกติลงเล็กน้อย ในตอนนั้นนางดูเหมือนเด็กสาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและขี้อาย
คำพูดพลันติดอยู่ในลำคอของหลงฉี เขายืนแข็งทื่ออยู่พักใหญ่ก่อนจะรีบสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับการเต้นของหัวใจ
ในที่สุดเขาก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมปฏิกิริยาของกลุ่มคนหนุ่มสาวพวกนั้นถึงได้รุนแรงมาก
ใบหน้าของคุณหนูใหญ่สามารถสร้างพลังทำลายล้างได้อย่างมหาศาลจริงๆ!
“อะแฮ่ม ข้าน้อยขอเรียนถามคุณหนูใหญ่ เราจะทำอย่างไรกับศิษย์ที่พามาจากสำนักศึกษาเฟิงหัวดีขอรับ” หลงฉีตั้งสติและทำหน้าที่ของเขาต่อ
“เอาตัวกลับไป ส่งเขาให้กับท่านอาเล็ก” จวินอู๋เสียพูดอย่างเฉยเมย
อิ่นเหยียนอาจจะโง่ไปสักหน่อย แต่ความรู้ในทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณของเขาก็พอใช้ได้ นางได้รับคำรับรองจากกู้หลีเซิงในเรื่องนี้แล้ว
ศิษย์ทุกคนในสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ แม้ว่าจะไม่โดดเด่น แต่ก็ถือได้ว่าอิ่นเหยียนมีพรสวรรค์สูงที่สุด
ทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณจะมีประโยชน์กับกองทัพรุ่ยหลินเป็นอย่างมาก แต่ในเมื่อจวินอู๋เสียยังไม่สามารถกลับไปที่รัฐชีได้ นางจึงตัดสินใจใช้ประโยชน์จากอิ่นเหยียน
ใครควรเก็บไว้ ใครควรกำจัด จวินอู๋เสียรู้อยู่แก่ใจอย่างชัดเจน