ตอนที่ 348 กลิ่นของผลงานจากเทพเจ้า

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 348 กลิ่นของผลงานจากเทพเจ้า

“มาแล้ว มาแล้ววว!”

ไม่เพียงผู้อ่านที่เฝ้ารอ อันที่จริงบรรณาธิการในกองบรรณาธิการของปู้ลั่วการ์ตูนก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยไม่แพ้กัน

เมื่อผลงานชิ้นใหม่ของชิวเตาอวี๋และอิ่งจือเผยแพร่อย่างเป็นทางการ บรรณาธิการแต่ละกลุ่มก็เริ่มกระซิบกระซาบพูดคุยกัน และกดเข้าไปยังผลงานที่ตนสนใจในทันที

ณ ที่แห่งนี้เกิดปรากฏการณ์น่าสนใจอย่างหนึ่ง

บรรณาธิการกลุ่มแรกของปู้ลั่วการ์ตูน โดยทั่วไปแล้วจะคลิกเข้าไปยังการ์ตูนของชิวเตาอวี๋

บรรณาธิการกลุ่มที่สองของปู้ลั่วการ์ตูน คลิกเข้าไปยังผลงานชิ้นใหม่ของเซวี่ยไห่

ส่วนบรรณาธิการกลุ่มที่สาม คลิกเข้าไปยังเรื่องสมุดมรณะของอิ่งจือ

บรรณาธิการกลุ่มอื่นๆ นั้นเลือกแตกต่างกันไป

ทำไมจึงเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นน่ะหรือ?

เหตุผลนั้นง่ายมาก

นั่นเพราะชิวเตาอวี๋เป็นนักวาดการ์ตูนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบรรณาธิการกลุ่มแรก เซวี่ยไห่เป็นนักวาดการ์ตูนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบรรณาธิการกลุ่มที่สอง และอิ่งจือเป็นนักวาดการ์ตูนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบรรณาธิการกลุ่มที่สาม

บรรณาธิการทั้งสามกลุ่ม ย่อมสนใจนักวาดการ์ตูนในความรับผิดชอบของตนมากกว่า

ฉีหลินเป็นบรรณาธิการในกลุ่มที่สาม ดังนั้นเขาจึงเลือกเรื่องสมุดมรณะ เช่นเดียวกับบรรณาธิการคนอื่นๆ ในกลุ่ม

ในตอนนี้ กองบรรณาธิการยังนับว่าเงียบสงบ

ทุกคนเพียงแค่ขยับเมาส์ คลิกเข้าไปยังการ์ตูนเรื่องที่ตนสนใจ

ก็กำลังอ่านการ์ตูนไม่ใช่หรือ แน่นอนว่าต้องใช้ความเงียบ

ยิ่งไปกว่านั้น ในสถานการณ์ปกติ หากจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพของการ์ตูน คุณต้องอ่านอย่างน้อยหนึ่งตอนก่อนจึงจะสามารถตัดสินเบื้องต้นได้

แต่ว่า วันนี้ออกจะแปลกไปอยู่สักหน่อย

ความเงียบของกองบรรณาธิการนั้นอยู่ได้เพียงสิบกว่าวินาที ก่อนจะถูกทำลายด้วยเสียงอุทาน!

“เชี่ย!”

ในเวลาแบบนี้ ไปอ่านเจออะไรเข้า ถึงร้องด้วยความตกใจแบบนี้

บรรณาธิการหลายคนขมวดคิ้ว แต่กลับไม่ได้พูดอะไรมาก

ทว่าหลังจากนั้น ก็มีเสียงอุทานด้วยความตกใจตามมาอีกหลายครั้ง ดังติดต่อกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทั้งกองบรรรณาธิการหัวเสียขึ้นมา!

ทุกคนขมวดคิ้วมุ่น มีบางคนถึงกับลุกขึ้นยืน

สายตาทุกคู่ล้วนจับจ้องไปยังต้นเสียงอย่างรวดเร็ว

บรรณาธิการกลุ่มสาม!

เมื่อถูกมองด้วยสายตามากมาย ฉีหลินจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา

เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเพื่อนร่วมงานในกลุ่มถึงได้ส่งเสียงเอะอะไม่หยุด จนเสียงดังไปถึงกลุ่มอื่น ทว่าในตอนนั้นเองหน้าเว็บของเขาก็ดาวน์โหลดสำเร็จ

เมื่อสามวินาทีก่อน เขาคลิกเข้าไปยังหน้าแรกของเรื่องสมุดมรณะ

จากนั้น ภาพแรกของเรื่องสมุดมรณะตอนที่หนึ่งก็ปรากฏเบื้องหน้าฉีหลิน

นี่เป็นภาพของนรกแบบฟูลคัลเลอร์!

ม่านหมอกสีเทาอมฟ้าปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ว่าง

ภูตผีผู้หิวโหยรูปร่างต่างๆ อ้าปากกว้างเปื้อนเลือดอย่างไร้ปรานี หรือไม่ก็ส่งสายตาแปลกพิกลไปยังทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

และเหนือเปลวไฟ กลุ่มของสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ถูกดึงลิ้นออกมา ตอกตะปูยึด และแขวนย่างบนเปลวไฟ…

มืดมน!

น่าสะพรึงกลัว!

แปลกประหลาด!

ผู้คนอาจมีจินตนาการร้อยแปดเกี่ยวกับนรก แต่ภาพแรกของเรื่องสมุดมรณะสามารถตอบสนองจินตนาการเกี่ยวกับนรกของผู้คนได้ถึงร้อยละเก้าสิบเก้า!

ทรงพลังเพียงรับรู้ผ่านการมองเห็น ฝีมือด้านจิตรกรรมอันวิจิตร และเทคนิคอันยอดเยี่ยมจนถึงขีดสุด!

หลังจากนั้น ฉีหลินก็ส่งเสียงร้องออกมาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในกลุ่ม

“โอ้โฮ!”

ทุกคนแสดงความประหลาดใจในรูปแบบที่แตกต่างกัน ทว่าเหตุผลซึ่งอยู่เบื้องหลังความประหลาดใจของบรรณาธิการกลุ่มสามนั้นเหมือนกัน

ภาพวาดนี้ชวนตกตะลึงเหลือเกิน!

ต้องเข้าใจว่าบรรณาธิการทุกคนล้วนเป็นบุคลากรระดับมืออาชีพในวงการการ์ตูน

หลายคนคลุกคลีกับนักเขียนการ์ตูนหลากหลายประเภทมาทั้งชีวิต

อายุงานของพวกเขายิ่งมากเท่าไหร่ ความรู้ความเข้าใจที่พวกเขามีต่อการ์ตูนก็ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย และเนื่องจากมีความรู้มาก พวกเขาจึงรู้สึกเฉยชากับการ์ตูนซึ่งวาดออกมาได้ดี

ทว่าในตอนนี้ เรื่องสมุดมรณะเพิ่งเผยให้เห็นส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง สมองของพวกเขาก็เริ่มตึงเครียด สัมผัสได้ถึงความประหวั่นพรั่นพรึง!

“กลุ่มสามเป็นอะไรน่ะ”

ในที่สุดก็มีบรรณาธิการที่เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ คนคนนี้เป็นบรรณาธิการกลุ่มห้า และเขาสนิทสนมกับเพื่อนร่วมงานหลายคนในกลุ่มที่สาม

“พวกคุณเข้าไปอ่านสมุดมรณะก็รู้แล้ว”

สายตาของฉีหลินจับจ้องไปยังภาพของเรื่องสมุดมรณะ สายตาไล่จากภาพแรก ไปยังช่องต่อๆ มา แววตาเปี่ยมไปด้วยความเคลิบเคลิ้มและบ้าคลั่ง!

อ่านสมุดมรณะ?

เมื่อได้ยินคำพูดของฉีหลิน บรรณาธิการจากกลุ่มอื่นๆ ก็อึ้งไป ทันใดนั้นก็คลิกเข้าไปยังเรื่องสมุดมรณะพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ผลงานที่ทำให้กลุ่มสามมีปฏิกิริยาเช่นนี้ ย่อมทำให้คนอื่นๆ สงสัยเป็นธรรมดา

และยามที่มีบรรณาธิการกดเปิดเรื่องสมุดมรณะมากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นห้องทำงานของบรรณาธิการปู้ลั่วการ์ตูนก็พลันเงียบกริบราวกับทุกคนอันตรธานไป

ทุกคนมองหน้ากัน

ชั่วขณะนั้น ทุกคนวางการ์ตูนในมือลงทันที และเริ่มอ่านสมุดมรณะ โดยไม่จำเป็นต้องพูดมากมาย

หลัวเวยอัปโหลดเนื้อหามาห้าตอน

เนื้อหาห้าตอน จะว่ามากก็ไม่มาก จะว่าน้อยก็ไม่น้อย ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็อ่านจบ

นี่เป็นกรณีที่ทุกคนอ่านช้ามาก

จะอ่านเร็วก็คงไม่ได้ ภายใต้สไตล์การวาดภาพอันสวยงามละเอียดลออของเรื่องสมุดมรณะ ภาพทุกภาพล้วนมีมนตร์เสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนชื่นชมซ้ำอยู่หลายครั้ง!

การรีบอ่านอย่างหิวกระหาย อันที่จริงเป็นการไม่ให้เกียรติฝีมือการวาดภาพที่ดีเช่นนี้!

และเมื่อทุกคนอ่านเนื้อหาซึ่งเผยแพร่ออกมาแล้วของเรื่องสมุดมรณะจบ กองบรรณาธิการก็แทบระเบิด!

กลุ่มสาม

มีคนกระซิบกระซาบกัน “ได้กลิ่นไหม”

ฉีหลินเอ่ยถามตามสัญชาตญาณ “กลิ่นอะไร”

อีกฝ่ายเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน “กลิ่นของผลงานจากเทพเจ้า”

ฉีหลินชะงักไป ก่อนจะพยักหน้าอย่างแรง

อันที่จริง

ปฏิกิริยาของกองบรรณาธิการเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง

ในขณะเดียวกัน ผู้อ่านอีกหลายคนก็อ่านสมุดมรณะช่วงต้นจบแล้ว

จากนั้น บนพื้นที่แสดงความคิดเห็นของการ์ตูน ก็แตกตื่นกันยกใหญ่ดังเช่นที่คาดการณ์ไว้!

‘แม่ถามว่าทำไมต้องคุกเข่าอ่านการ์ตูน…’

‘อิ่งจือวาดเหรอเนี่ย!?’

‘ภาพนี้สวยเกินไปแล้ว ขอคำนับอาจารย์อิ่งจือ!’

‘ยังไม่ต้องดูพล็อตเรื่อง แค่ฝีมือการวาดก็น่าอ่านสุดๆ!’

‘ไม่ จำเป็นต้องดูพล็อตเรื่องด้วย แต่พอมีพล็อตเรื่องด้วย ดันทำฉันติดเรื่องนี้งอมแงมกว่าเดิมอีก!’

‘การ์ตูนสายดาร์กแบบนี้ แถมลายเส้นสวยขนาดนี้ ขอโทษเถอะ ฉันขอไหว้ย่อเลย’

‘ต่อไปใครบอกว่าอิ่งจือเป็นเงาจืดจางอีกละก็ โดนหนักแน่ อิ่งจือเป็นพระอาทิตย์ ส่องแสงสว่างให้แก่วงการการ์ตูน!’

‘ลายเส้นเบียดเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ตกขอบเลย!’

‘ตอนแรกผมว่าในวงการการ์ตูน ลายเส้นเรื่องจิตวิญญาณสือจี่นับว่าดีมากแล้วนะ ถึงยังไงอิ่งจือก็เปิดตัวมาในฐานะนักวาดบริสุทธิ์ แต่นึกไม่ถึงว่าอิ่งจือจะยังวาดได้ดีกว่านั้นอีก!’

‘บ้าไปแล้ว พอเทียบกับเรื่องนี้ ลายเส้นของปรินซ์ออฟเทนนิสเป็นแค่เด็กน้อยไปเลย!’

‘คุณจะยกปรินซ์ออฟเทนนิสมาเทียบทำไมล่ะครับ ถึงยังไงนั่นก็เป็นผลงานของอิ่งจือเหมือนกัน ควรจะบอกว่าถ้าเทียบกับเรื่องนี้แล้ว การ์ตูนเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ในตลาด ลายเส้นก็เป็นเด็กน้อยเหมือนกันหมด!’

‘อย่าพูดถึงลายเส้นอย่างเดียวสิ พล็อตเรื่องนี้ก็โหดเหมือนกัน เยี่ยเสินเยวี่ยโคตรจะหล่อ!’

‘ขอสอบถามหน่อยครับ นี่คือเงาจืดจางที่ชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่พูดถึงเหรอ? ฉู่เป็นอันดับหนึ่งด้านการ์ตูนจริงๆ แหละเนอะ’

‘ที่แท้ฝีมือของอิ่งจือก็ระดับขายวิญญาณให้ซาตาน ก่อนหน้านี้เขาไปทำอะไรอยู่ ผลงานก่อนๆ ของเขาจ้างคนมาวาดแทนหรือเปล่า?’

‘ตอนนี้ฉันสงสัย ว่าผลงานก่อนหน้านี้เขาให้ผู้ช่วยวาดหรือเปล่า’

‘…’

ขณะที่ผู้อ่านกำลังถกเถียงกันอย่างตื่นเต้น จู่ๆ บนหน้าเว็บไซต์ก็ปรากฏข้อความขนาดใหญ่ [คำเชยชมนั้นไม่เพียงพอ หากปราศจากของกำนัล บัญชีผู้ใช้หว่อจุ้ยไป๋ส่งของขวัญ 10,000,000 เหรียญปู้ลั่วให้กับสมุดมรณะ กลายเป็นพันธมิตรระดับทองของผลงานเรื่องนี้!]

อิ่งจือติดปีกบินแล้ว

…………………………………………..