ตอนที่ 379 นั่งอยู่บ้านเฉย ๆ ยาก็ลอยลงมาจากฟ้า
ตอนที่ 379 นั่งอยู่บ้านเฉย ๆ ยาก็ลอยลงมาจากฟ้า
ซูเถาสั่งซื้อตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติทันที 6 เครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยาสามัญประจำบ้าน จำพวกยาบรรเทาหวัดและลดไข้ ก้านสำลี ผ้าก๊อซ ทิงเจอร์ไอโอดีน และอื่น ๆ ที่จำเป็น
หลังจากชำระเงิน ของก็จะตกลงมาที่หน้าต่างรับสินค้าโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกับเครื่องดื่ม
ยาเหล่านี้เป็นยาที่ไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ และผู้เช่าทุกคนสามารถซื้อได้ด้วยตนเอง ดังนั้นยาเหล่านี้จะถูกวางไว้ที่ร้านขายยาบนชั้นสองของคลินิก
หลังทำการจัดวางเรียบร้อย ซูเถาก็ทดลองด้วยตัวเองและเลือกซื้อยาบรรเทาหวัดและลดไข้มาอย่างละหนึ่ง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ทว่าเวลาซื้อยาคนหนึ่งคนสามารถซื้อยาได้ครั้งละหนึ่งชุดเท่านั้น หากต้องการซื้อมากกว่านี้ต้องไปหาหมอจงเพื่อรับใบอนุญาตเท่านั้น
จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนกักตุนสินค้าและนำออกไปขายข้างนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้ว ซูเถาก็โทรหาจงเกาอี้
ที่คลินิกมีเสียงดังอึกกะทึกครึกโครม และเต็มไปด้วยเสียงไอและจาม พยาบาลชั่วคราวที่รับเข้ามาก็ยุ่งมาก ยาก็มีอย่างจำกัดและไม่มีเพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นเธอทำได้เพียงแต่ต้มน้ำขิงให้คนไข้ดื่มเท่านั้น
ผู้เช่าบางคนที่มีไข้สูงก็ต้องทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงก่อน
จงเกาอี้ไม่รู้ว่าซูเถากำลังเรียกให้เขาไปดูร้านขายยา ซึ่งเมื่อเขาออกมาจากห้องตรวจและมองดูสถานการณ์ระหว่างทาง เขาก็ไม่สามารถควบคุมน้ำเสียงกังวลได้
“เถ้าแก่ เรามีผู้เช่ามากกว่าหนึ่งพันคน ซึ่งในช่วงสองวันที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยโรคหวัดมีมากกว่า 200 ราย หากมียารักษาไม่เพียงพอ จำนวนผู้ป่วยอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในสองสามวันนี้ คุณลองถามหัวหน้าสวี่ดูได้ไหมว่าเขาสามารถช่วยเราหายาได้หรือเปล่า”
นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จงเกาอี้คิดได้
ตอนนี้ยาขาดตลาด บอสกู้เจ้านายเก่าของเขาถึงกับส่งขบวนรถสองขบวนไปทางเหนือและใต้เพื่อหายา แต่พวกเขาก็แทบจะหาไม่ได้เช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นเขาคงจะอ้อนวอนขอยาจากเจ้านายเก่า
ซูเถาตบไหล่เขา “คุณอย่าเพิ่งใจร้อน มากับฉันก่อน”
จงเกาอี้ตกอยู่ภายใต้ความกดดันมากมาย เมื่อเขาได้ยินแบบนี้ เขาไม่เพียงไม่สบายใจ แต่ยังวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น เขาจึงเดินตามซูเถาไปอย่างรวดเร็วและพูดว่า
“เถ้าแก่ เถ้าแก่ซู คุณต้องใส่ใจกับเรื่องนี้ให้มากกว่านี้นะ คุณอย่ามัวแต่คิดเรื่องการสร้างอาคารไปวัน ๆ!”
ซูเถาผลักประตูห้องยาใส่หน้าเขา
เมื่อจงเกาอี้เห็นตู้ขายยาอัตโนมัติเรียงเป็นแถว เป็นตู้กระจกโปร่งใสที่ด้านในเต็มไปด้วยบรรจุภัณฑ์ยาที่เขาคุ้นเคย จากนั้นครึ่งหลังของประโยคที่เขากำลังจะเอ่ยออกมาจากลำคอ ก็ดูเหมือนจะถูกดึงกลับเข้าไปอย่างอัตโนมัติ
ซูเถาค่อย ๆ อธิบาย “ในส่วนนี้เป็นยาที่ไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งจากแพทย์ หลังจากที่คุณทำการตรวจเสร็จก็ให้พวกเขามาซื้อที่นี่ได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ฉันจะวางตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติสองเครื่องในห้องให้คำปรึกษาของคุณในภายหลัง ผู้เช่าที่ต้องการซื้อ ต้องมีใบสั่งยาจากคุณ”
จงเกาอี้หันไปมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างตื่นเต้น “ผมขอลองก่อนได้ไหม”
ซูเถาพยักหน้า
จงเกาอี้เดินเข้าไปและเริ่มดำเนินการเพื่อซื้อยาบนเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ เมื่อกล่องยาลดไข้ตกลงมาที่หน้าต่างรับสินค้า เขาก็ได้ยินเสียงของยาชนกันอยู่ภายใน ทำให้เขาแน่ใจว่าไม่ใช่กล่องเปล่า และมือของเขาก็สั่นด้วยความตื่นเต้น
จงเกาอี้แกะกล่องออก ซึ่งด้านในเป็นยาสองแผง เขาจ้องมองยาที่อยู่ข้างใน และหันไปมองซูเถา
ซูเถายักไหล่ “ไม่ต้องถามนะคะ ฉันนั่งอยู่บ้านเฉย ๆ แล้วยาก็ลอยลงมาจากท้องฟ้า”
จงเกาอี้จึงหันหน้าไปมองทางอื่นทันที เขายืดหลังตรงพร้อมจะกลับไปเป็นหมอจงที่เป็นผู้ใหญ่ ที่มั่นคง และเต็มไปด้วยความน่าไว้วางใจอีกครั้ง
เขากระแอมสองครั้ง “ขอโทษนะ ผมใจร้อนเกินไป จากนี้ไปคุณจะผูกใจอยู่กับการก่อสร้างก็ไม่เป็นไร”บราวนี่ออนไลน์
“นั่นเป็นเพราะคุณเป็นห่วงคนไข้ทุกคน อย่างไรก็ตาม คุณลองถามเจ้านายเก่าของคุณก็ได้ว่าเขาต้องการยาหรือเปล่า ถ้าเขาต้องการก็ให้เขาขับรถมาเอาได้” ซูเถาโบกมือ
ถือได้ว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณครั้งก่อน ๆ
จงเกาอี้ขอบคุณแทนเจ้านายเก่าทันที “เขาน่าจะต้องการอยู่แล้ว เดี๋ยวผมจะบอกเขาทันที”
จากนั้นเขาก็หันหลังกลับ และเดินออกไปหลังจากพูดจบ ทว่าซูเถาก็ส่งเสียงเรียกเขาอีกครั้ง
“หมอจง หากคุณต้องการออกไปที่เขตตะวันออก คุณไม่จำเป็นต้องย่องออกไปเงียบ ๆ ตอนกลางคืนหรอกค่ะ หากทางนั้นต้องการความช่วยเหลือ คุณสามารถบอกฉันได้ ฉันไม่ห้ามคุณแน่นอน”
จงเกาอี้นึกว่าเขาย่องเบาออกไปอย่างแนบเนียนมาโดยตลอด เมื่อเขาถูกจับได้เขาก็พูดติดอ่างจนทำอะไรไม่ถูก
เขาไปตงหยางบ่อย ๆ นั่นก็เพื่อช่วยชีวิตพี่น้องของเขาด้วย เขาทนดูเด็ก ๆ พวกนั้นพิการหรือตายไม่ได้จริง ๆ
เมื่อเห็นว่าเขาตัวแข็งทื่อ ซูเถาก็ลดเสียงลงและพูดต่อ “แม้ว่าตอนนี้คุณจะเป็นคนของเถาหยาง แต่คุณไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของฉัน คุณปฏิบัติต่อเขตตะวันออกเหมือนเดิมเถอะค่ะ สามารถช่วยเหลือเพื่อน ๆ ของคุณได้ตามสบาย ไม่ต้องกังวลอะไรเลย”
จงเกาอี้รู้สึกละอายใจเล็กน้อย และถึงกับกล่าวขอโทษถึงสามครั้ง จากนั้นเขาไม่กล้าที่จะฟังซูเถาต่อไป และรีบลงไปชั้นล่างเพื่อทำงาน
หลังจากร้านขายยาเปิด จำนวนผู้ป่วยในคลินิกก็ลดลงถึงสองในสาม
ยาเหล่านี้ถูกนำไปให้ผู้เช่าเสมือนเป็นยาปลอบใจ ซึ่งทำให้คนที่วิตกกังวลและหวาดกลัวสงบลงภายใต้การเกลี้ยกล่อมของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ทำให้พวกเขายอมกลับไปกินยาและนอนพักผ่อน
เมื่อผู้เช่าที่ป่วยเล็กน้อยหลายคนกินยา อาการหวัดและน้ำมูกของพวกเขาหายในวันนั้น ซึ่งทำให้สถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ
เฉพาะผู้ที่มีไข้สูงเท่านั้น ที่ยังต้องอยู่ภายใต้การสังเกตอาการในคลินิก อย่างหลิงเทียนจี้เป็นต้น
ผู้ชายคนนี้กินยาลดไข้แล้วอุณหภูมิร่างกายของเขาก็ยังไม่ลดลง เขาหลับตลอดวัน แต่ก็ยังมีอาการขาดน้ำ สถานการณ์ดูวิกฤตมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนนี้แม้แต่จั๋วเอ่อร์เฉิงก็เป็นกังวลอย่างมาก เขากลัวว่าก่อนที่ผู้คนจากซินตูจะมาถึง หลิงเทียนจี้จะหนาวตายบนเตียงในคลินิกของเถาหยางไปเสียก่อน และมันก็เป็นการยากที่จะอธิบายว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด
จงเกาอี้กล่าวว่า “เขาจำเป็นต้องให้ยาทางสายน้ำเกลือ ยังมียาอีกมากที่จำเป็นต้องให้เขา ผมถามไปทางตงหยางแล้ว ทางนั้นมีเพียงอุปกรณ์เท่านั้น ส่วนยานั้นหมดแล้ว”
หลังจากพูดแบบนี้เขาก็มองไปที่ซูเถาโดยตรง
ยาสามารถหล่นลงมาจากท้องฟ้าได้ และยาสำหรับการให้น้ำเกลือก็น่าจะหล่นมาได้เช่นเดียวกัน
ท่าทีของเขาดึงดูดให้จั๋วเอ่อร์เฉิงจ้องมองไปที่ซูเถาเช่นเดียวกัน
“…มองอะไรกันเหรอ” ซูเถา
“เถ้าแก่ซู หมอจงมาหาคุณเพราะว่าเขามีความคิดบางอย่าง คุณสามารถจัดการเรื่องยาได้ และยาที่ต้องให้ทางสายน้ำเกลือก็ไม่น่าจะมีปัญหาใช่ไหม?” จั๋วเอ่อร์เฉิงพูดว่า
เขายังคงตกใจกับร้านขายยาที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้
นอกจากนี้ อาจเป็นเพราะเขาพอจะคาดเดาสถานการณ์ได้แล้ว เขาไม่แปลกใจที่ซูเถาจะทำอะไรได้อย่างน่าเหลือเชื่อโดยไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเพ้อฝัน
การให้น้ำเกลือคืออะไร หรือเธอควรนำยาสมุนไพรจีนทุกชนิดก่อนวันสิ้นโลกออกมา และก่อตั้งโรงพยาบาลทั่วไปที่ผสมผสานการแพทย์แผนจีนและตะวันตกเข้าด้วยกัน
แต่เมื่อมองไปที่เถาหยางซูเถาก็ต้องหรี่ตาลง
ทว่าซูเถาไม่ได้พูดอะไร
หลังจากที่ร้านขายยาได้รับการปรับปรุงแล้ว ก็มียาและน้ำเกลืออยู่ทุกประเภท
แต่เธอไม่ค่อยจะเต็มใจที่จะทำให้หลิงเทียนจี้
เพราะความจริงที่ว่าเขาไม่ใช่ญาติของเธอ หรืออีกเหตุผลคือหลิงเทียนจี้ไม่ได้มีทัศนคติที่เป็นมิตรต่อเถาหยาง และบุคคลนี้ต้องการใช้ประโยชน์จากเถาหยางอย่างเดียวเท่านั้น
จั๋วเอ่อร์เฉิงรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงเกลี้ยกล่อมเธอให้ลองมองอีกมุม “เถ้าแก่ซู ถ้าคุณรักษาเขา เรื่องของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเถาหยางเป็นคนเรียกเก็บ”
พูดสั้น ๆ ว่าเธอสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อรีดไถเงินจากซินตู
จงเกาอี้ตกตะลึง สรุปว่าเขาอยู่ฝ่ายไหนกันแน่
จั๋วเอ่อร์เฉิงกล่าวต่อ “แม้ว่าเถาหยางจะไม่ได้ขาดแคลนเงิน แต่สามารถใช้เรื่องนี้เพื่อสร้างชื่อเสียงได้ หลังจากที่เขาหายขาดแล้ว ก็ให้กระจายข่าวออกไปว่าเถาหยางเป็นผู้ช่วยชีวิตหัวหน้าฐานซินตู เมื่อเรื่องราวเป็นแบบนี้แล้ว ซินตูไม่เพียงเลิกหวังผลประโยชน์ต่อเถาหยางเท่านั้น แต่ยังจะกัดฟันเพื่อช่วยเหลือเถาหยางอย่างถึงที่สุด และพร้อมที่จะยืนอยู่เคียงข้างเถาหยางเป็นแน่”
“เพราะไม่อย่างนั้น หลิงเทียนจี้คงจะเสียผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก และคงถูกสังคมรุมประณามหากเขาคิดร้ายต่อเถาหยาง”