ตอนที่ 390 รักษาโรคให้หญิงวิปลาส (1)
ทว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เขาจำต้องเคร่งเครียด
ครั้งนี้ บุรุษที่แก้วตาดวงใจของเขาล่วงเกินคือหัวหน้าตระกูลหนิง และว่าที่ฮูหยินอันดับหนึ่งของตระกูลขุนนาง…คุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงที่ถูกขนานนามว่าเป็นดาวสังหาร
ครั้งนี้ เขาตกลงที่จะหารือเรื่องที่ดิน
ขอเพียงรักษาชีวิตแก้วตาดวงใจของเขาเอาไว้ได้ก็พอแล้ว…
……
ณ จวนตระกูลหนิง
ด้านนอกเรือนฉือหย่าง หนิงเซ่าชิงคุกเข่าตรงหน้าบิดาด้วยสีหน้าเจ็บปวด
หนิงเซ่าชิงเป็นบุรุษทระนงตน ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้เขาไม่เคยยอมใครมาก่อน ทั้งยังไม่เคยคุกเข่าให้ผู้ใดเช่นนี้มาก่อน
แต่วันนี้ เขาเสียใจมากจริงๆ ความรู้สึกนี้ไม่เพียงสะท้อนในความรู้สึกเท่านั้น ในร่างกาย ในหัวใจของเขา เวลานี้ถูกกดทับจนหายใจไม่ออกแล้ว!
เขาไม่เคยคิดมาก่อน ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ บิดาของเขาจะมีชีวิตเช่นนี้!
สิ่งที่เขาเห็นคือด้านที่เจิดจรัสของบิดา ด้านที่แข็งแกร่งของบิดา…
บิดาของเขาเป็นผู้สูงศักดิ์มาโดยตลอด แม้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ก็ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว อกผายไหล่ผึ่งยืนหลังตรง สีหน้าเป็นธรรมชาติ แม้บรรพตถล่มลงมาสีหน้าของบิดายังคงไม่แปรเปลี่ยน!
ท่านพ่อเหน็ดเหนื่อยแล้วจริงๆ! ท่านพ่อลำบากจริงๆ!
หน้าที่อันหนักอึ้งของตระกูลหนิงกดทับบนตัวท่าน
เบื้องบน ต้องคอยกตัญญูมารดา ไม่เคยอกตัญญูต่อท่านย่าแม้แต่น้อย! แม้ท่านย่าจะปกป้อง เข้าข้างตระกูลอวี่เหวินก็ตาม!
เบื้องล่าง ต้องคอยอบรบสั่งสอนลูกๆ! ท่านพ่อเป็นคนเลี้ยงดูเขาตั้งแต่เล็กจนโต!
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ นอกจากหลายปีที่เขาออกไปร่ำเรียนที่วัดเซียงกั๋วแล้ว ที่เหลือท่านพ่ออยู่เคียงข้างเขามาโดยตลอด สอนหลักเหตุผลในการจัดการเรื่องต่างๆ ให้เขา สอนหลักปรัชญามนุษย์ให้กับเขา
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า หนิงเซ่าชิงเคารพรักบิดาของเขา
ทว่า ในฐานะบุตรชาย ย่อมไม่ใส่ใจเท่าบุตรสาว แม้เขาจะเคารพรักบิดาของตนเอง แต่เขาไม่เคยเข้าใจความทุกข์ ความเศร้าที่อยู่ในใจของบิดามาก่อน!
ท่านพ่อซ่อนเร้นได้ดี หรือว่าตนไม่กตัญญู ความเศร้าปะทุขึ้นในใจหนิงเซ่าชิง
วันนี้ หากไม่ใช่เพราะมั่วเชียนเสวี่ยยืนกรานจะกลับเมืองหลวง เกรงว่ากระทั่งเวลานี้ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเที่ยวเล่นอยู่ในหุบเขาใด ไม่มีทางทราบเรื่องเหล่านี้
โดยเฉพาะ…
การตายของท่านแม่!
วินาทีที่หนิงเซ่าชิงปรากฏตัว นายท่านหนิงตกตะลึง!
เขาไม่อยากพูดเรื่องในอดีตเหล่านี้ต่อหน้าลูก! เพื่อเลี่ยงไม่ให้บุตรชายรับรู้ บางความเจ็บปวด เขาแบกรับคนเดียวก็พอแล้ว เหตุใดต้องให้บุตรชายมาแบกรับความทุกข์นี้ด้วย
แต่ว่า สุดท้ายก็ไม่อาจปิดบังได้!
เวลานี้ นายท่านหนิงอดไม่ได้ที่จะตำหนิตนเอง เมื่อครู่เอาแต่โมโห ทำให้ไม่รู้ตัวเลยว่าหนิงเซ่าชิงยืนอยู่ด้านนอกประตู!
มองดูหนิงเซ่าชิงที่คุกเข่าตรงหน้าตน เขาอดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจ บุตรชายของเขาโตแล้วจริงๆ!
“เซ่าชิง ลุกขึ้นเถอะ!”
คำพูดบางคำ ไม่จำเป็นต้องพูดอีกแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว อดีตไม่อาจแก้ไขได้ ตอนนี้พูดขึ้นมา ก็รังแต่จะทำให้คับแค้นใจเท่านั้น!
อดีตหัวหน้าตระกูลหนิงปรับลมหายใจของตนเอง สีหน้าอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย เดินมาด้านหน้าหนึ่งก้าว พยุงหนิงเซ่าชิงขึ้นด้วยตนเอง
สองพ่อลูกยืนอยู่ในเรือนฉือหนิง ชั่วขณะหนึ่งทั้งสองต่างนิ่งเงียบ
“เซ่า…เซ่าชิง เซ่าชิงกลับมาแล้วหรือ รีบเข้ามาเร็ว มาให้ย่าดูหน้าเจ้าหน่อย! เร็วเข้า…”
ภายในห้องโถง ฮูหยินผู้เฒ่าหนิงหวาดกลัวอย่างมาก! หนิงเซ่าชิงไม่เหมือนบิดาของเขา! ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นบุตรชายของตน คิดอยากจะทำอย่างไรก็ได้!
ทว่า แม้จะเป็นหลานชายของตน แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่บุตรชาย คิดจะควบคุมอีกฝ่าย ต้องดูว่าอีกฝ่ายยอมหรือไม่!
สิ่งที่นางกลัวที่สุดในตอนนี้คือ หนิงเซ่าชิงได้ยินคำพูดเมื่อครู่ หลังจากนั้นท่ามกลางความโกรธเคือง เขาอาจจะคิดบัญชีกับตระกูลอวี่เหวิน!
หากเป็นเช่นนั้น นางทำผิดต่อคนตระกูลอวี่เหวินแล้ว!
หนิงเซ่าชิงได้ยินเสียงร้องเรียกที่ดังมาจากในห้องโถง น้ำเสียงนั้นร้องเรียกด้วยความกระตือรือร้น ทั้งยังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
เปลวไฟแห่งความโมโหในใจ ไม่มีที่ระบาย หากเป็นไปได้ เขาอยากจะทำลายเรือนฉือหนิงนี้จริงๆ!
แต่หลักความเป็นมนุษย์และความกตัญญู เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ทว่าเขาไม่! อยาก! ทน! อยู่! ที่! นี่!
จิตใจของหนิงเซ่าชิงว้าวุ่น ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้าท่านย่าอย่างไร ตบมืออดีตหัวหน้าตระกูลหนิงเบาๆ พูดด้วยความเจ็บปวด “ท่านพ่อ โปรดอภัยให้กับความอกตัญญูของลูกคนนี้ด้วย ข้าไม่อาจทนอยู่ที่นี่อีกต่อไป ข้า…ออกไปรอท่านด้านนอก!”
เดิมทีอยากจะร้องเรียกนายท่านหนิงไปด้วยกัน! แต่เขาก็รู้ดีว่า บิดาของเขาเป็นคนกตัญญู เวลานี้ย่อมไม่มีวันออกไปแน่นอน
นายท่านหนิงพยักหน้า โบกมือให้หนิงเซ่าชิงออกไปก่อน
เมื่อครู่ หากเขาโมโหแล้วเดินออกไป ก็คงช่างประไรแล้ว แต่ตอนนี้เห็นชัดว่าเซ่าชิงอยู่ด้านนอก หากเวลานี้ตามหนิงเซ่าชิงออกไป เกรงว่า ข่าวลือในวันข้างหน้าคงจะไม่ชวนฟังเท่าใดนัก
“เฮ้อ…บาปกรรม!” นายท่านหนิงส่ายหน้า ไม่อยากเผชิญหน้ากับมารดาที่เอาแต่คิดถึงต้นตระกูลของตนเองแล้วจริงๆ แต่ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นมารดาของเขา เขาไม่อาจทำสิ่งใดได้!
หมุนตัวหันหลัง ในที่สุดท่านผู้เฒ่าหนิงก็เดินกลับเข้าไปในห้องโถง
เวลานี้สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าหนิงเปี่ยมไปด้วยความกังวล! นางอยากจะออกไปดู แต่ว่าด้วยเกียรติของผู้อาวุโสทำให้นางไม่อาจลดตัวออกไปดูได้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงรอคอยด้วยความร้อนใจ
“เซ่าชิง…” ได้ยินเสียงฝีเท้า คิดว่าหนิงเซ่าชิงเดินเข้ามา นางรีบร้องเรียก แต่คนที่เดินเข้ามากลับเป็นบุตรชายของตน!
ฮูหยินผู้เฒ่าหนิงไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที! ชักสีหน้า ความขุ่นเคืองใจปะทุขึ้นมา มารดาของเขาใจแคบ ตรอมใจตาย แล้วเกี่ยวอะไรกับนาง
นายท่านหนิงขมวดคิ้วเป็นปมมองมารดาของตนเอง เวลานี้ หลังจากทราบเรื่องราวต่างๆ มารดาของเขายังคิดอยากจะให้เซ่าชิงเดินเข้ามาทักทายเช่นนั้นหรือ
มารดาของเขามีหัวใจหรือไม่
หรือว่า มารดาของเขามีหัวใจ แต่หัวใจดวงนั้นหันเหไปทางตระกูลอวี่เหวิน!
“เซ่าชิงล่ะ เหตุใดมาที่เรือนย่าแล้วไม่เข้ามาในห้อง ย่าคิดถึงเจ้า หรือว่าเซ่าชิงไม่คิดถึงย่าคนนี้”
นางคิดว่า หนิงเซ่าชิงยืนอยู่ด้านนอกมาโดยตลอด ถ้อยคำนี้ นางพูดให้หนิงเซ่าชิงฟัง
ด้วยวรยุทธ์ของหนิงเซ่าชิง แม้จะยืนอยู่นอกเรือน ก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้อย่างชัดเจน
หนิงเซ่าชิงยกมุมปากขึ้น คนที่รังแกตระกูลหนิงของเขา เอาเปรียบตระกูลหนิง จะให้ปล่อยผ่านไปเช่นนี้หรือ
ในอดีตเขาไม่ใช่หัวหน้าตระกูล แม้จะทราบเรื่องเหล่านี้ ก็ไม่อาจทำอะไรได้ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เขาเป็นหัวหน้าตระกูลหนิง! ตระกูลหนิงกับเขามีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่ไม่อาจแยกจากกันได้!
นับตั้งแต่นี้ตระกูลอวี่เหวินอย่าคิดที่จะได้ประโยชน์ใดๆ จากตระกูลหนิงอีก
“ท่านแม่ เซ่าชิงเหนื่อยแล้ว ไปพักผ่อนแล้วขอรับ”
“พักผ่อน?” ฮูหยินผู้เฒ่าหนิงพูดเสียงสูงทันที เสียงแหลมอย่างมาก! “เขาออกไปกับสตรีคนนั้นตลอดทั้งวัน เมื่อกลับมากลับเหนื่อยเนี่ยนะ แม้กระทั่งท่านย่าของเขาก็ไม่มาเจอแล้วเช่นนั้นหรือ”