ตอนที่ 356 ถั่วชมพูสร้างรอยประทับพลังจิต

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 356 ถั่วชมพูสร้างรอยประทับพลังจิต

ตอนที่ 356 ถั่วชมพูสร้างรอยประทับพลังจิต

สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้สนใจเรื่องตลกร้ายดังกล่าว…

สวี่รุ่ยอวิ๋นถูกขังอยู่ในห้องขนาดเล็กที่ไม่มีใครปรนนิบัติเขา เพียงแต่เตรียมอาหารมาให้เพื่อไม่ให้เขาอดตายเท่านั้น

นากาเข้าไปในห้องหลังจากหดขนาดตัวลง พื้นที่ถูกปูด้วยเบาะนุ่มทำให้มันรู้สึกราวกับเหยียบอยู่บนปุยเมฆ

มันถอนหายใจออกด้วยความสบายใจ!

“ฟ่อ! มนุษย์เนี่ยเสพสุขได้ตลอดจริงเชียว!” นากาเคลื่อนตัวเข้าไปด้านในอีกครั้ง ก่อนที่จะไปหยุดอยู่ตรงห้องน้ำ

หุ่นยนต์พี่เลี้ยงเดินเข้ามาพร้อมกับผ้าขนหนูในมือ และพูดกับนากาว่า “นายท่านนากา ท่านอยากจะอาบน้ำหรือเปล่าครับ?”

อาบน้ำ? มันไม่ชอบอาบน้ำ!

มันรีบสะบัดหาง และเคลื่อนตัวไปที่ห้องนั่งเล่นทันที

หุ่นยนต์พี่เลี้ยงเดินตามหลังมันต้อย ๆ

นากามองดูผนังสีขาวในห้องนั่งเล่นด้วยความสงสัย และทันใดนั้นภาพบางอย่างก็ปรากฏขึ้น มันตกใจเป็นอย่างมาก

“ฟ่อ! เจ้าสิ่งนี้คืออะไร?” นากามองดูรูปร่างที่ปรากฏขึ้นมาบนผนังด้วยความงุนงง

มนุษย์ทั้งหลายกำลังวิ่งเล่นบนชายหาดด้วยเสื้อสุดเท่

“นายท่านนากา นี่คือโทรทัศน์” หุ่นยนต์พูดขึ้น “เป็นรูปภาพสามมิติ ท่านชอบดูแบบไหนครับ?”

“ฟ่อ! แบบนี้ล่ะ” นากาพยักหน้าอย่างพอใจ อันที่จริงมันสับสนและไม่รู้ว่านี่คืออะไร พวกเขาเอาคนมาใส่ในนี้ได้อย่างไร?

“ครับ นายท่านนากา”

หลังจากหุ่นยนต์พี่เลี้ยงถอยออกไป นากาก็เดินวนรอบผนังด้วยความสงสัย มันใช้หางตะปบเข้ากับผนังและพยายามที่จะพาคนข้างในออกมา

เป็นผลให้ไม่มีคนบนภาพฉายอีกต่อไป อีกทั้งกำแพงยังถูกทำลาย!

นาการีบตะเกียกตะกายไปด้านข้าง แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หุ่นยนต์พี่เลี้ยงเข้ามาตรวจสอบสถานการณ์ “ผนังโทรทัศน์พัง ผนังโทรทัศน์พัง”

“หมายเลข 001 รีบเข้ามาซ่อมทันที!”

ดวงตาของหุ่นยนต์พี่เลี้ยงเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง และจากสีแดงเป็นสีเขียว ทันใดนั้นกล่องเครื่องมือก็โผล่ออกมาจากมือของหุ่นยนต์ และเริ่มซ่อมแซมผนังทันที

“ฟ่อ! หุ่นยนต์ตัวนั้นกำลังทำอะไรน่ะ? พวกเขาเปลี่ยนก้อนเหล็กให้กลายเป็นหุ่นยนต์แบบนี้ได้อย่างไร?” นากาเดินวนรอบหุ่นยนต์ด้วยความสงสัย

แม้มันจะต่อสู้กับพวกมนุษย์มาหลายปี โจมตียานอวกาศและยานรบมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมก้อนเหล็กพวกนี้ถึงบินกลางอากาศได้

“กำแพงซ่อมเสร็จสมบูรณ์ นายท่านนากาดูต่อได้ครับ” หุ่นยนต์พี่เลี้ยงใช้เวลาซ่อนกำแพงเพียงห้านาทีเท่านั้น ก่อนที่นากาจะใช้กรงเล็บของมันลูบบนกำแพง

หื้ม เป็นเหมือนเดิมเลย!

“นายท่านนากา ถ้าท่านไม่ชอบดูเรื่องนี้ กระผมจะขอเปิดการ์ตูนให้ท่านแทน”

หลังจากนั้น หุ่นยนต์พี่เลี้ยงก็เปิดการ์ตูนให้มันดู

ตอนแรกนากาแค่รู้สึกสงสัยเท่านั้น ทว่าตอนนี้มันกลับรู้สึกสนใจในเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก หัวกะโหลกของตัวการ์ตูนมีขนาดใหญ่เกินไป และนั่นทำให้สามัญสำนึกของนากาพังทลายลงจากความเป็นจริง

“ฟ่อ! เจ้าคนนั้นทะลุกำแพงได้ด้วย พวกมันทำได้อย่างไร?”

นากาเปรียบเสมือนกับเด็กน้อยขี้สงสัย มันศึกษาทักษะต่าง ๆ ของมนุษย์ในเนื้อเรื่องดังกล่าว

หลังจากนั้นไม่นานมันก็ถูกเนื้อเรื่องดึงดูดเข้าอีกครั้ง

“ฟ่อ! เจ้ากาตาร์นี้โง่นัก มันเชื่อคำโกหกหลอกลวงของผู้หญิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างไร?” นาการู้สึกขุ่นเคืองจนจิกกรงเล็บแหลมคมลงบนพื้นเพื่อระบายความโกรธ และในไม่ช้ารอยข่วนขนาดลึกก็ปรากฏขึ้น

หุ่นยนต์พี่เลี้ยงรีบแปลงร่างเป็นช่างฝีมือและเริ่มซ่อมแซมอีกครั้ง

นากาหลงใหลกับเนื้อเรื่องจนลืมเวลากินอาหารไปเสียสนิท!

การกระทำของมันทำให้เสี่ยวอ้ายสงสัย!

มันเดินไปที่ประตูห้องของนากา เปิดดูด้วยความสงสัย อ๊ะ นากากำลังดูอะไรอยู่?!

กลุ่มตุ๊กตาเส้นเรียบ ๆ ที่กำลังมีความรักอย่างนั้นเหรอ?! มันมีอะไรดี?!

เสี่ยวอ้ายไม่รู้สึกสนใจ แต่เมื่อเห็นว่านากากำลังเสพติดงอมแงม มันก็นั่งดูด้วยสักพักหนึ่ง

โอ้ สนุกดีจังเลย!

เสี่ยวอ้ายถึงกับล้มตัวนอนบนพื้นเพื่อดูด้วยกัน!

นากาสังเกตเห็นเสี่ยวอ้าย แต่เนื่องจากเนื้อเรื่องกำลังสนุกมาก มันทั้งสองจึงเพิกเฉยกันและกัน และกังวลอยู่กับพระเอกจอมเจ้าชู้

หุ่นยนต์พี่เลี้ยงตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซ่อมตรงนี้ยังไม่ทันเสร็จ ตรงนั้นก็มีปัญหาอีก งานยุ่งยากเกินไปจนหุ่นยนต์เริ่มรับมือไม่ไหว!

เมื่อเจ้าถั่วชมพูเห็นว่าสองเพื่อนซี้ยังไม่มากินอาหาร มันจึงมีความสุขมากที่จะได้กินคนเดียวทั้งหมด!

โอคาซียืนอยู่ด้านข้างสวี่หลิงอวิ๋น และในไม่ช้าเขาก็ได้รับขั้นตอนการฝึกฝนพลังจิตจากเธอ

“นี่คืออะไรครับ?” โอคาซีมองดูแผ่นกระดาษขนาดเล็กที่สวี่หลิงอวิ๋นยื่นมาให้ มองดูเนื้อหาและเอ่ยถาม

“นี่เป็นวิธีการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์พลังจิตค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นพูดตอบ เสี่ยวอ้ายบอกกับเธอว่า โอคาซีคืออัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ และสามารถบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์พลังจิตได้ด้วยตัวเอง

สวี่หลิงอวิ๋นไม่ลังเลที่จะสอนวิธีการนี้ให้แก่เขา เพราะถ้าโอคาซีแข็งแกร่งขึ้น นั่นก็หมายความว่าความแข็งแกร่งของจักรวรรดิชิงเหย้าจะแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน!

หากคิดจะทรยศ? เธอก็ไม่กังวล!

ห้วงอวกาศมีทะเลหมู่ดาวมากมาย หากโอคาซีสมัครใจ เขาก็สามารถเข้ายึดครองและเป็นจักรพรรดิได้!

โอคาซีพยักหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ยินเรื่องเมล็ดพันธุ์พลังจิตมาก่อน แต่ในเมื่อสวี่หลิงอวิ๋นมอบให้เขา เขาก็เต็มใจจะลอง

สวี่หลิงอวิ๋นตบไหล่เขา “สู้ ๆ นะคะ ฉันรู้ว่าท่านทำได้!”

โอคาซีมองดูแผ่นกระดาษและเริ่มฝึกฝนตามขั้นตอนและวิธีการ

เขาจดจ่ออยู่กับพลังจิตทั้งหมดของตัวเอง แล้วหลังจากนั้นจึงรวบรวม! รวบรวม! รวบรวม!

หากจะให้อธิบาย มันคงเหมือนกับการกลั่นยาอายุวัฒนะหรือเปล่า?

การกลั่นยาอายุวัฒนะจินตานเปรียบเสมือนกับเมล็ดพันธุ์ดังกล่าว เมื่อใดก็ตามที่เมล็ดพันธุ์แตกออกจากเปลือก มันก็เป็นเหมือนจินตานที่กลายเป็นพลังปราณขั้นกำเนิด

พลังปราณขั้นกำเนิดคือการแตกหน่อของต้นไม้แห่งชีวิต

พวกมันมีสติปัญญาเป็นของตัวเอง แต่กลับใกล้ชิดผู้เป็นนาย

โอคาซีถูกสวี่หลิงอวิ๋นขังไว้ในห้องเพื่อให้เขาได้ฝึกฝนพลังจิต สวี่หลิงอวิ๋นเดินออกมาจากห้องและพบว่าสัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวของเธอหายไป เหลือเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น

เจ้าถั่วชมพูกินอาหารอย่างมูมมาม ราวกับเติมเต็มอาหารที่มันไม่ได้กินตลอดช่วงวันที่ผ่านมา!

มันแอบเก็บเค้กและข้าวของอย่างอื่นไว้ในปุ่มมิติกักเก็บของมันเงียบ ๆ!

สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับหมดคำพูดเมื่อมองดูมัน “ถั่วชมพู แกทำอะไร?!”

“เมี้ยว! ตกใจหมดเลย เมี้ยว!” ถั่วชมพูเอามือลูบท้องที่ปูดออกมาเกินจริง และพูดว่า “เมี้ยว กินอยู่ไง เมี้ยว!”

“พวกเสี่ยวอ้ายล่ะ?” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูถั่วชมพู “แกอย่ากินเยอะนักสิ เพิ่งลดน้ำหนักไปเอง ทำไมถึงเอาแต่กินอยู่อีก?!”

เธอมองดูถั่วชมพูอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอให้ถั่วชมพูประทับรอยพลังจิต?!

ถั่วชมพูเกิดมาพร้อมกับระดับ 8 ดาว ถ้าในแง่ของระดับดาวถือว่ามันมีความสามารถค่อนข้างสูง ไม่รู้ว่าถ้าเธอประทับรอยให้มันแล้ว ถั่วชมพูจะเลื่อนขั้นเป็นระดับ 10 ดาวได้หรือไม่?!

ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจหลอกล่อถั่วชมพู

“ถั่วชมพู แกอยากแข็งแกร่งเหมือนนากาบ้างไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นพูดหลอกล่อมัน “แกอยากเลื่อนขั้นเป็นระดับ 10 ดาวให้เร็วขึ้นบ้างหรือเปล่า?!”

“ระดับ 10 ดาว?!” ถั่วชมพูกะพริบตา แน่นอนว่ามันอยากเลื่อนขั้น! มันใฝ่ฝันมาตลอด

หากมันเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 10 ดาวได้ มันจะเตะนากาด้วยขาข้างซ้าย และต่อยเสี่ยวอ้ายด้วยอุ้งเท้าข้างขวา!