ตอนที่ 382 ติดต่อหากู้หมิงฉือ

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 382 ติดต่อหากู้หมิงฉือ

ตอนที่ 382 ติดต่อหากู้หมิงฉือ

แท้จริงแล้วจวงหว่านคอยเป็นห่วงเขาอยู่เสมอ เธอจับมือของซูเถาแล้วร้องไห้ แต่เมื่อเธอร้องไห้เสร็จก็ไม่ได้ตรงกลับบ้านในทันที แต่เธอกลับไปที่สำนักงานเพื่อทำงานล่วงเวลาเป็นเวลาสองชั่วโมง

จวงหว่านรู้สึกผิดมาก เพราะช่วงนี้เธอเอาแต่เป็นห่วงลูกชายตัวดี จนการทำงานของเธอแย่ลง

วันนี้เธอต้องทำงานชดเชย

เสี่ยวอวี๋เห็นว่าผู้บังคับบัญชาของเขาไปทำงานล่วงเวลา เขาก็เลยไม่กล้ากลับห้องเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงรีบตามไป

เมื่อเห็นแบบนี้ผู้ใต้บังคับบังชาของเธอหลายคนก็รีบวิ่งไปที่สำนักงานเพื่อทำงานล่วงเวลาเช่นเดียวกัน

เห็นได้ชัดว่างานบางส่วนได้ทำหมดแล้ว แต่ทุกคนก็ยังเลือกที่จะทำงานล่วงเวลาและไม่กล้ากลับก่อน

ซูเถาจงใจไปที่อาคารเถาหลี่ เพื่อตรวจดูรอบ ๆ และเห็นว่าที่นั่งกว่า 80% เต็มไปด้วยคนที่มาทำงาน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที

“ถ้าไม่มีงานแล้วก็กลับไปพักผ่อนกันเถอะค่ะ! ฉันจะนับถอยหลัง ถ้าภายในสิบนาทีแล้วยังมีคนหลงเหลืออยู่ ฉันก็จะให้อยู่ทำงานที่นี่ต่อหนึ่งอาทิตย์โดยห้ามกลับบ้าน!”

ทุกคนเงียบเสียงลง และลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ หายไปจากสายตาของเธอทีละคน

ซูเถาเข้าไปที่ห้องทำงานเล็ก ๆ ด้านใน เพื่อต้องการหาพนักงานที่อาจหลงเหลืออยู่ที่สำนักงาน แต่บังเอิญพบกับผู้อาวุโสเหม่ย

เธอเห็นแบบนี้ก็ตกใจอย่างมาก “ผู้อาวุโสเหม่ยคะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ”

เขาอายุเจ็ดสิบปีเศษแล้ว เธอเป็นกังวลมากหากเขาทำงานหนักแบบนี้

ผู้อาวุโสเหม่ยและลูกศิษย์ของเขาเงยหน้าขึ้นจากกองพิมพ์เขียวที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเพื่อมองเธอพร้อมกัน

เจิ้งซิงยังแอบกลัวซูเถาอยู่เล็ก ๆ ดังนั้นเขาจึงอึกอักไม่กล้าที่จะพูด

ผู้อาวุโสเหม่ยถอดแว่นออก และโบกมือให้เจิ้งซิงนั่งลง จากนั้นก็พูดกับซูเถา

“ฉันเองก็อยากจะพักผ่อน แต่เมื่อฉันหลับตาลงฉันก็จะเห็นเสี่ยวพ่าน”

ชายชราตัวสั่นเมื่อเขาพูดสองพยางค์สุดท้ายออกมา

ซูเถาเงียบเสียงลง

ผู้อาวุโสเหม่ยพยายามเก็บซ่อนความเจ็บปวดของเขาเอาไว้ และเขาพยายามผ่อนคลายก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า “หนูเถา ไว้หนูพาฉันไปหาคนที่ทำร้ายเสี่ยวพ่านหน่อยได้ไหม”

ซูเถาเงยหน้าขึ้นทันที “คุณ…” จะไม่เป็นอะไรเหรอ?

ไปเจอฆาตกร จะยิ่งไม่สบายหนักกว่าเดิมหรือเปล่า?

จนถึงตอนนี้เธอยังไม่มีความคิดที่จะไปดูโบนวิงส์เลย จริง ๆ ถ้าเป็นไปได้ เธอก็อยากจะให้มันหายไปเสียด้วยซ้ำ และเป็นการดีที่สุดที่จะไม่เห็นมันตลอดไป

ผู้อาวุโสเหม่ยไอออกมาสองสามครั้ง ก่อนที่จะพูดด้วยความยากลำบาก

“เสี่ยวพ่านมาหาฉันในฝัน บอกให้ฉันช่วยไปดู หลังจากนั้นฉันจะไปที่หลุมฝังศพของเธอและเล่าให้เธอฟัง”

ซูเถาตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เธอไม่รู้ว่าเป็นหลิวพ่านพ่านที่ต้องการดูว่าลูกชายของเธอเป็นอย่างไร หรือผู้อาวุโสเหม่ยที่คิดถึงเรื่องนี้ทุกวันและเก็บเอาไปฝัน…

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า “อีกสองสามวันฉันจะพาคุณไปดูนะคะ”

ผู้อาวุโสเหม่ยพยักหน้าด้วยความเหนื่อยล้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ชายชราลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปนอกอาคารอย่างเชื่องช้า และบอกซูเถาว่าอย่าตามเขาไป

……

เขตตะวันออก

กู้หมิงฉือขมวดคิ้วขณะที่เขาดูข้อมูลล่าสุดจากทีม แม้ว่าพอจะหายาได้แต่ก็มีราคาสูงมากบราวนี่ออนไลน์

ยาแก้หวัดและยาลดไข้ทั่วไป มีราคาสามถึง 4,000 เหลียนปัง และมีคนขี้โกงซื้อมาขายต่อในราคา 20,000 เหลียนปังต่อกล่อง

หุยซู่ที่นั่งจามอยู่ข้างเขาพูดขึ้นว่า “นี่คือราคาที่ต่ำที่สุดที่พวกเขาหาได้แล้ว…ทำกันได้ลง”

กู้หมิงฉือโยนข้อมูลเหล่านั้นออกไปและพูดด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย “ให้เจ้าของร้านยาโทรหาฉันเป็นการส่วนตัว”

คิดไม่ถึงว่าเจ้าของร้านขายยาจะมีคำพูดที่ค่อนข้างเย่อหยิ่ง “บอสกู้ คุณไม่ได้ดูเลยเหรอว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง ดีแค่ไหนแล้วที่ยังมียาให้ซื้อ ยังมัวแต่คิดว่าราคาสูงอยู่อีก มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีอะไรผมวางสายแล้วนะ เพราะยังมีคนจำนวนมากมารอซื้อยา”

หุยซู่ที่นั่งอยู่ด้านข้างอยากที่จะออกหมัด

ก่อนหน้านี้ไอ้คนสารเลวคนนี้เคยเคารพและนับถือบอสกู้ เมื่อใดก็ตามที่มียาตัวใหม่ เขาจะเอามาแนะนำเสมอ

แต่ตอนนี้เขากลับเป็นคนที่น่าไม่อาย

กู้หมิงฉือหรี่ตาลง “หวังว่าคราวหน้าถ้าเจอหน้าฉัน ยังจะปากกล้าแบบนี้อยู่นะ”

เจ้าของร้านขายยาพูดเสียงแข็ง “ไม่มีปัญญาซื้อแล้วพาลเหรอ? ครั้งต่อไปที่คุณเจอผม อย่ามาขอให้ผมหาซื้อยาแล้วกัน! เสียเวลา!”

เมื่อเขาพูดจบเขาก็รีบวางสายอย่างรวดเร็ว

หุยซู่เดือดดาลเป็นอย่างมาก “เหล่าต้า ให้ผมจัดการเขาไหม ใครบอกว่าเราไม่มีปัญญาจ่าย เป็นเพราะพวกเขาจัดหายาที่ด้อยคุณภาพและไม่ยอมลดราคาต่างหาก คงคิดว่าพวกเราโง่ยอมจ่ายค่ายาที่ไร้คุณภาพล่ะสิ”

เนื่องจากความปั่นป่วนทางอารมณ์ของเขา หลังจากพูดจบเขาก็จามสามสี่ครั้ง น้ำตาและน้ำมูกไหลไม่หยุด ทำให้เขาอึดอัดอย่างมาก

แม้แต่ผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติก็ไม่สามารถรอดพ้นจากไข้หวัดนี้ได้

หากยังไม่สามารถหาซื้อยาได้ ว่ากันว่าจะติดเชื้อข้ามสายพันธุ์และทำให้เป็นไข้หวัดที่รุนแรงขึ้น

กู้หมิงฉือวางมือของเขาบนโต๊ะ “ให้ขบวนค้นหาต่อไป จากนั้นส่งคนไปที่ฉางจิง ตราบใดที่คุณภาพของยาผ่านการทดสอบ ไม่สำคัญว่าราคาเท่าไหร่ จำไว้ว่าให้ซื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมันไม่ใช่เฉพาะสำหรับความต้องการของเราเท่านั้น”

หุ่ยซู่ปิดปากและจมูกของเขาพร้อมกับพยักหน้า และเสริมในใจว่าเถาหยางก็ต้องการเช่นกันสินะ

จากนั้นเหล่าต้าของเขาก็ถามต่อว่า “ช่วงนี้เถาหยางเป็นยังไงบ้าง?”

เมื่อนึกถึงข่าวที่สอบถามเมื่อวันก่อน เขาก็ขมวดคิ้วและพูดว่า

“ในเถาหยางก็มีผู้ป่วยจำนวนมาก หมอจงก็กังวลมากเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าเถ้าแก่ซูจะไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก เธอเอาแต่ทำการก่อสร้าง…”

กู้หมิงฉือยืดตัวขึ้นและนั่งตัวตรงด้วยความไม่เข้าใจ “ซูเถาไม่ใช่คนประเภทที่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้”

หุยซู่ตอบกลับอย่างกระวนกระวายใจ “คุณไม่เชื่อผม แต่คุณน่าจะเชื่อหมอจงใช่ไหม หรือจะโทรหาหมอจงตอนนี้เลยก็ได้”

ทันทีที่พูดจบ เครื่องสื่อสารของกู้หมิงฉือก็ดังขึ้น

เป็นจงเกาอี้โทรมาพอดี

หุยซู่ถอนหายใจ “คาดว่าหมอจงคงโทรมาสอบถามว่าคุณหาผู้จำหน่ายยาได้แล้วหรือยัง…”

ในเวลาเดียวกัน เสียงของจงเกาอี้ก็ออกมาจากโทรศัพท์

“บอสกู้ คุณหาผู้จัดจำหน่ายยาได้แล้วหรือยัง”

กู้หมิงฉือเอนกายไปด้านหลังเพื่อพิงพนักเก้าอี้ “ยัง แต่ไม่ต้องกังวล ฉันส่งคนไปตามหาแล้ว”

จงเกาอี้รีบตอบ “คุณส่งคนไปตามหาอีกแล้วเหรอ ไม่ต้องไปแล้ว ไม่ต้องไป เรียกคนกลับมา ทางเถาหยางไม่ได้ขาดแคลนเรื่องนี้ เถ้าแก่ซูขอให้ผมมาบอกคุณโดยเฉพาะ ว่าในสองวันนี้ให้คุณส่งรถมารับยา”

หุยซู่หูผึ่งเมื่อได้ยินดังนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้าไปใกล้เครื่องสื่อสาร “หมอจง คุณพูดอีกครั้งได้ไหม”

จงเกาอี้ “ผมบอกว่าเถาหยางมียา! มีปริมาณมาก คุณภาพดี และราคาก็ดีมาก! หูของคุณพังไปแล้วเหรอ? วันหลังผมจะช่วยตรวจให้ บอสกู้? บอสกู้? ทำไมคุณไม่พูดล่ะ? หุยซู่ เหล่าต้าล่ะ?”

————————-