บทที่ 319 ขอโทษด้วย ข้ามีภรรยาแล้ว

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 319 ขอโทษด้วย ข้ามีภรรยาแล้ว
บทที่ 319 ขอโทษด้วย ข้ามีภรรยาแล้ว

แดนเซียนตะวันออก ท้องฟ้าเงียบสงบทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ยอดเรือนเซียนสวรรค์สงัดคือโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในแดนเซียนตะวันออก

วันที่ 1 มีนาคม กองกำลังที่แข็งแกร่งและทรงกำลังทั้งหมดในแดนเซียนทั้งห้าทิศได้เดินทางมา ณ ที่แห่งนี้อย่างพร้อมเพรียง

เพราะวันนี้ จักรพรรดิเซียนองค์แรกที่หวนคืนกลับสู่แดนเซียนจะเข้าพบจักรพรรดิเซียนองค์ปัจจุบันของแดนเซียนทุกทิศ

ในแดนเซียน ตราบใดที่ผู้อาวุโสเซียนยังมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ความวุ่นวายเมื่อเจ็ดหมื่นปีก่อน พวกเขาทั้งหมดย่อมทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ในปัจจุบัน

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่มีจักรพรรดิเซียนหลายสิบองค์ในแดนเซียน ปัจจุบัน จักรพรรดิเซียนทั้งสี่เป็นจักรพรรดิเซียนองค์สุดท้ายในขณะนั้น

มันเป็นเพราะการรุกรานของเหล่าอสูร เซียนเหล่านั้นเฝ้าดูอัจฉริยะไปต่อสู้กับศัตรูที่พวกเขาไม่คุ้นเคย ทั้งหมดตายตกไปทีละคนในห้วงกระแสความว่างเปล่า ในที่สุดแม้แต่จักรพรรดิเซียนองค์แรกยังประสบภัยพิบัติ และหลังจากนั้นกว่าเจ็ดหมื่นปีที่เขาจะสามารถหวนคืนสู่แดนเซียนได้

เป็นเพราะเสาหลักของแดนเซียนตายตก และจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ทิศใช้โอกาสนี้ยึดอำนาจของจักรพรรดิเซียนองค์แรก

ขณะที่อาวุโสเซียนเฒ่าทั้งสี่กำลังใช้ประโยชน์จากการหายตัวไปของจักรพรรดิเซียนองค์แรก พวกเขาขโมยหลายสิ่งหลายอย่างออกไป แม้แต่จักรพรรดิเซียนตะวันออกในปัจจุบันยังประกาศตนเองว่าคือจักรพรรดิตัวจริง เพราะถือว่าตนเองคือราชวงศ์เซียน จากนั้นจึงรวบรวมกำลังในแดนเซียนตะวันออกทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และเข้าต่อสู้กับจักรพรรดิชิงคนปัจจุบันในตอนนั้น… เมื่ออีกฝ่ายตายตก เขาจึงขึ้นเป็นจักรพรรดิชิงคนใหม่!

ตลอดเจ็ดหมื่นปีที่ผ่านมา เหล่าเซียนที่อาศัยอยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของจักรพรรดิเซียนทั้งสี่นั้นไร้ซึ่งชีวิต อย่างไรก็ตาม หากจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ชื่นชอบสิ่งใด หรือพรรคพวกของตนชื่นชอบสิ่งใด พวกเขาจำเป็นต้องสละสิ่งนั้นให้ด้วยชีวิต

และผู้ใดก็ตามที่คาดหวังว่าจะแข็งแกร่งกว่า คนเหล่านั้นจะถูกกำจัดทิ้งด้วยเหตุผลแปลกประหลาด เมื่อเติบโตขึ้นจะถูกใส่ร้าย และถูกส่งตัวเข้าสู่คุกสวรรค์ ถูกกำจัดจุดจื่อฝู่ อีกทั้งยังมีกองกำลังเฉพาะคอยสังหารพวกเขาอยู่ด้านใน

พวกเขายังปล่อยให้เหล่าผู้อาวุโสเซียนที่อยู่ภายใต้ปลอกคอของตนเองสังหารคนเหล่านั้นได้ตามใจชอบ

กล่าวได้ว่าเซียนของทิศทั้งสี่ในแดนเซียนได้รับความทุกข์ทรมานจากจักรพรรดิเซียนทั้งสี่มาอย่างยาวนาน พวกเขาอธิษฐานในใจเสมอมาว่าจักรพรรดิเซียนองค์แรกจะกลับมาจัดการกับตาเฒ่าทั้งสี่คน และคราวนี้มีการเผยแพร่ภาพจักรพรรดิเซียนองค์แรกไป๋ลี่ขึ้น ซึ่งทั้งหมดทำให้พวกเขากลับมามีความหวังอีกครั้ง

แม้น้ำเสียงของเขาจะสงบราวกับเชื้อเชิญแขกเหรื่อมารับประทานอาหารเย็น แต่ใครก็ตามที่พอจะมีสมองคงทราบได้ว่าทั้งภูเขาและพายุที่อยู่ในน้ำเสียงนั้นรุนแรงเพียงใด!

ดังนั้นในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ด้านนอกของโรงเตี๊ยมจึงกลายเป็นเขตหวงห้าม มีฝูงชนที่เป็นเซียนเฝ้าอยู่อย่างหนาแน่น ทุกคนมารับชมว่าไป๋ลี่จะจัดการกับจักรพรรดิเซียนทั้งสี่อย่างไร

ในฐานะที่เป็นผู้นำการประชุมครั้งนี้ ไป๋ลี่นำกองกำลังมาที่นี่ตั้งแต่เนิ่น ๆ เหล่าเซียนของกองกำลังแดนเซียนกลางได้นำผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณโรงเตี๊ยมนี้ออกไปทั้งหมดแล้ว นี่ไม่ใช่การโอ้อวดกำลัง แต่เป็นการปกป้อง

หลังจากนั้นไม่นาน พลังของจักรพรรดิเซียนย่อมปะทุขึ้น และไม่ว่าจะพยายามปกป้องมากเพียงใด ท้ายที่สุดสถานที่แห่งนี้จะหลงเหลือเพียงฝุ่นควัน…

และไป๋ชิวหรานเปลี่ยนใส่ชุดจักรพรรดิภูตผีแล้ว เขาเดินทางมาที่นี่พร้อมกับไป๋ลี่

การประชุมเริ่มต้นขึ้นด้วยการสนทนา โรงเตี๊ยมขนาดใหญ่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งห้องประชุมขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับคนได้มหาศาลเช่นเดียวกับเมืองจักรพรรดิ

ไป๋ลี่และคนอื่น ๆ รออยู่ที่นี่ ไป๋ลี่คือผู้ปกครองสูงสุดของแดนเซียนกลางนั่งในตำแหน่งหัวโต๊ะ ขณะที่จักรพรรดิเซียนกลางนั่งในลำดับถัดไปในฝั่งซ้าย ส่วนไป๋ชิวหรานซึ่งถูกรับเชิญให้เป็นผู้ช่วยจากต่างแดนนั่งอยู่ฝั่งขวา

จักรพรรดิเซียนกลางกำลังแนะนำไป๋ลี่ถึงขั้นพลังของจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ รวมไปถึงไพ่ตายที่เขาพอคาดเดาได้ ขณะที่กำลังอธิบาย เสี่ยวเอ้อที่อยู่ด้านนอกเคาะประตูเสียงดัง

“ฝ่าบาท จักรพรรดิเซียนทั้งสี่ทิศมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ทราบแล้ว”

ไป๋ลี่ตอบกลับ ก่อนจะหันมากล่าวกับจักรพรรดิเซียนกลาง

“ไปกันเถิด หากเกิดความขัดแย้งในภายหลัง เจิ้นเทียนอย่าได้ลงมือก่อนอาจารย์ ให้ข้าลองดูก่อน”

“รับทราบแล้ว”

ไม่นานหลังจากนั้น ภายใต้การนำทางของเสี่ยวเอ้อ จักรพรรดิเซียนแห่งแดนเซียนทั้งสี่ทิศเดินตรงเข้ามาด้านในทีละคน

คนแรกที่เดินเข้าประตูมาคือจักรพรรดิชี่แห่งแดนเซียนใต้ รูปลักษณ์ของเขาเป็นชายร่างใหญ่กำยำ หนวดเคราและเรือนผมสีแดง รูปลักษณ์คล้ายคลึงกับเทพอัคคีไม่น้อย

หลังจากผ่านพ้นธรณีเข้ามา เขาเหลือบมองจักรพรรดิเซียนองค์แรก จากนั้นดวงตาจับจ้องไป๋ชิวหรานซึ่งอยู่ในชุดของจักรพรรดิภูตผี

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

จากนั้นเขาระเบิดเสียงหัวเราะบ้าคลั่ง ก่อนจะคำนับต่อคนตรงหน้าทั้งหมด

“จักรพรรดิชี่แห่งแดนเซียนใต้ เคารพจักรพรรดิเซียนสือและจักรพรรดิภูตผี ยินดีที่ได้พบ”

อย่างไรเสีย เขาไม่รอให้ไป๋ลี่ตอบรับ เขาดึงเก้าอี้ที่อยู่เยื้องกับไป๋ชิวหรานออกมาแล้วนั่งลง

หลังจากนั้นไม่นาน แดนเซียนเหนือ จักรพรรดิเฮยที่คล้ายกับเด็กชายหน้าขาวเดินทางมาถึง ด้านหลังมีกระบี่นับสิบเล่ม และจักรพรรดิแดนเซียนเหนือก็นำพาชั่วหงมาด้วยเช่นกัน

จักรพรรดิทั้งสองทักทายจักรพรรดิชี่ด้วยอำนาจที่เท่าเทียมกัน ก่อนจะเดินตรงไปยังเก้าอี้ของตนเอง

คนสุดท้ายที่ตรงเข้ามาคือจักรพรรดิชิง เนี่ยชิงยวิน แห่งแดนเซียนตะวันออก เขาไม่แม้แต่จะทักทายผู้ใด ทว่าทำเพียงพยักหน้าให้กับจักรพรรดิเซียนองค์แรกและคนอื่น ๆ ก่อนจะนั่งลงในที่ว่างตรงกลางของสี่จักรพรรดิ ท่วงท่าของเขาหยิ่งผยองราวกับตนเองคือผู้มีสถานะสูงสุดในสถานที่แห่งนี้

หลังจากเห็นจักรพรรดิเซียนทั้งสี่มาถึงแล้ว ไป๋ลี่ส่งสัญญาณให้เสี่ยวเอ้อที่อยู่ด้านนอกปิดประตูลง จากนั้นกระแอ้มไอแห้งสองสามครั้งก่อนจะเอ่ยคำ

“ตอนที่ข้ายังอยู่ในคุก ข้าได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของพวกท่านทั้งสี่แล้ว วันนี้ได้เห็นด้วยตาของตนเองว่าจักรพรรดิทั้งสี่นั้นไม่ธรรมดา โดยเฉพาะจักรพรรดิชิงที่มีทั้งพยัคฆ์และมังกรเคียงข้าง ยิ่งเวลาที่ก้าวเดินยังมีท่วงท่าสง่างาม ศีรษะเชิ่ดสูงราวกับคนไม่รู้จัก”

“คิก คิก”

ได้ยินเช่นนั้น จักรพรรดิเซียนทั้งสามไม่ตอบโต้ แต่จักรพรรดิเฮยแห่งแดนเซียนเหนือเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ขณะเดียวกันเสน่ห์อันน่าทึ่งเปล่งประกายออกจากร่างกายของนาง ซึ่งผลของมนต์เสน่ห์นี้มีผลต่อจิตวิญญาณ และมันแข็งแกร่งกว่าซูเซียงเสวี่ยหลายเท่านัก!

“อย่ากล่าวโทษจักรพรรดิเซียนองค์แรกเลย ชิงยวินเป็นจักรพรรดิเซียนที่อายุน้อย อีกทั้งยังทรงพลังจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้หากจะกระทำการหยาบคายไปบ้าง อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีเจตนาร้ายใด”

จักรพรรดิเฮยมองไป๋ลี่พร้อมขยิบตาและเอ่ยคำว่า

“แท้จริงแล้ว จักรพรรดิเซียนองค์แรกของท่านคือผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานอย่างแท้จริง”

ไป๋ลี่ถูกทักทายด้วยถ้อยคำพิเศษ ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็สั่นไหว ดูเหมือนว่าจะจดจำความทรงจำที่เลวร้ายขึ้นมาได้ ใบหน้ากลายเป็นน่าเกลียดเล็กน้อย ก่อนจะเอามือข้างหนึ่งจับเอวไว้

“ฮ่า ข้าค่อนข้างแปลกใจที่ฝ่าบาทเฮยเป็นสตรีที่งดงามยิ่งนัก”

ไป๋ลี่ยิ้มและกล่าวว่า

“ดูเหมือนสตรีมากกว่าจะเป็นบุรุษเสียอีก”

“เป็นคำชมที่ข้าชื่นชอบยิ่ง”

จักรพรรดิเฮยลูบหน้าอกของตนเองก่อนจะมองไป๋ลี่ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ แต่ทั้งสามที่กำลังถูกมนต์เสน่ห์นั้นกลับไร้การตอบสนองใด ๆ ไป๋ลี่เป็นคนแรกที่แบกรับความรุนแรงเอาไว้ เขาย่อคอเล็กน้อยราวกับเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย เล่อเจิ้นเทียนละสายตาออกมาพร้อมกับหยุดจ้องมองนาง แต่ดวงตาของไป๋ชิวหรานยังคงจับจ้องนางอยู่ ทว่าชายหนุ่มไม่มีการตอบสนองใด

จักรพรรดิเฮยกัดริมฝีปากอย่างลับ ๆ เมื่อเห็นแววตาเหยียดหยามและเย้ยหยันที่ซุกซ่อนอยู่ในแววตาของ ‘สหาย’ ชั่วคราวทั้งสาม นางรู้สึกไม่ค่อยเต็มใจนัก ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ไป๋ชิวหรานในร่างจักรพรรดิภูตผีที่กำลังจ้องมองอยู่ นางใช้น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ตะโกนว่า

“องค์เหนือหัวจักรพรรดิภูตผี…”

“หืม?”

ชายหนุ่มกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขาแสร้งทำเป็นตกใจพร้อมเหลือบมองจักรพรรดิเฮย

“ฝ่าบาทจักรพรรดิเซียนองค์แรก แดนเซียนของท่านนี้มีหญิงชราที่ชื่นชอบการให้บริการถึงที่ด้วยหรือ?”

เรียกว่าหญิงชราบริการ?!

จักรพรรดิเฮยรู้สึกรำคาญใจ แม้ว่าจะเงยหน้ามองผู้คนหลายแสนคนในเมืองจักรพรรดิของตน แต่ไม่เคยคิดว่าตนเองคือหญิงชรา

แต่ก็ไม่ได้เผยความโกรธ เพราะเมื่อนางโกรธแล้ว ไม่ว่าจะมนต์เสน่ห์ใด พลังของมันจะลดลงกว่าครึ่ง!

นางเอ่ยถามอย่างโศกเศร้า

“องค์เหนือหัวจักรพรรดิภูตผีช่างไร้เหตุผลนัก เหตุใดท่านถึงดุด่าทาสรับใช้เช่นนี้?”

“ขออภัยแล้วที่จักรพรรดิองค์นี้ชอบกล่าวตามตรง”

ไป๋ชิวหรานกล่าวขอโทษ ก่อนจะเริ่มดุด่าอีกครั้ง

“สตรีราคาถูก จักรพรรดิองค์นี้มีภรรยาแล้ว อย่าได้ปลดปล่อยเสน่ห์ต่อหน้าข้าได้หรือไม่? หากรู้สึกร้อนก็ให้เสี่ยวเอ้อพัดวีสักหน่อย หรือหากเหงื่อออกจนอึดอัด ก็สามารถไปอาบน้ำชำระล้างได้ มีอ่างอาบน้ำอยู่ในโรงเตี๊ยมมากมายให้เลือก ที่นี่คือสถานที่สาธารณะแล้วเรายังอยู่ในสถานการณ์ที่จริงจัง ดังนั้นอย่าคิดถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกอย่างตั้งใจ นี่เจ้ายังมีศักดิ์ศรีของจักรพรรดิเซียนแดนเหนืออยู่หรือไม่?”

จักรพรรดิเฮยรีบถอนมนต์เสน่ห์ออกโดยไม่รู้ตัว นางตกตะลึงยิ่งกับสิ่งที่เขากล่าวออกมา

“ส่วนเจ้า…”

ไป๋ชิวหรานหันกลับมาพร้อมกับจ้องมองจักรพรรดิชิง

“เป็นศิษย์น้อยก็ควรจะทราบสถานะของตนเอง ไม่เป็นไรหากไม่คิดทักทายผู้บังคับบัญชาตน แต่อย่างน้อยจักรพรรดิซือเซียนก็ยังเป็นศิษย์พี่ของเจ้า หมายความว่าอย่างไรที่เจ้าเดินเข้ามาพร้อมพยักหน้าให้พวกเรา? คิดว่าตนคือบิดาหรือผู้มีอำนาจเหนือกว่าอย่างนั้นหรือ? อ่า หากคิดให้ถี่ถ้วน เจ้าคือน้องเล็กในสถานที่แห่งนี้ แล้วครอบครัวสั่งสอนให้ทักทายผู้อาวุโสด้วยวิธีเหล่านั้นหรือ?”