ตอนที่ 348 เทียบเชิญ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

งานเลี้ยง​ชมด​อก​เหมย​ถูก​กำหนด​เป็น​วันที่​สิบ​แปด​เดือน​หนึ่ง​ ​ซึ่ง​เป็นช่วง​เวลา​ที่​ดอก​เหมย​จะ​บานสะพรั่ง​ที่สุด

เสียน​เฟย​ครุ่นคิด​อยู่นาน​ ​เมื่อ​ร่าง​รายชื่อ​เสร็จ​แล้ว​ ​จึง​ให้​นางใน​นำ​ส่ง​ไป​ยัง​กรมวัง

งานเลี้ยง​ชมด​อก​เหมย​นี้​จัด​ขึ้น​ร่วมกัน​โดย​เสียน​เฟ​ยกับ​จวง​เฟย​ ​ซึ่ง​โดยปกติ​สอง​คน​นี้​ไม่​เล่นงาน​กันและกัน​ ​แน่นอน​ว่า​ก็​ไม่มี​การปรึกษาหารือ​กัน​แน่นอน​ ​เมื่อ​ต่าง​คน​ต่าง​ร่าง​รายชื่อ​เสร็จ​แล้ว​ ​ต่าง​คน​ต่าง​ก็​ส่ง​รายชื่อ​ให้​กง​กง​ผู้ควบคุม​งาน​โดยเฉพาะ​เพื่อ​จะ​ได้​นำ​ไป​ดำเนินการ​ต่อ

หลังจากที่​ส่ง​รายชื่อ​ไป​แล้ว​ ​เสียน​เฟย​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ ​ปลอก​เล็บ​ประดับ​มุก​อัน​เรียว​ยาว​ยื่น​มาถึง​โถ​หมากล้อม​ ​นาง​หยิบ​หมาก​สีดำ​หนึ่ง​เม็ด​ขึ้น​มากำ​เล่น​ใน​ฝ่ามือ​พร้อมกับ​กล่าว​งึมงำ​ ​“​ไม่รู้​ว่า​จวง​เฟย​เชิญ​ใคร​มาบ​้าง​”

รายชื่อ​สตรี​ชั้นสูง​ที่นาง​ร่าง​ไว้​ ​ล้วนแต่​เป็น​หญิงสาว​ตระกูล​ระดับปานกลาง​ ​ไม่น่า​สะดุดตา​ ​ไม่มี​ความ​โดดเด่น​ ​หรือว่า​มีครอบครัว​ที่​เข้มงวด​เกินไป​ ​หรือว่า​เป็น​หญิงสาว​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​ด้าน​ความอ่อนน้อม​เชื่อฟัง​ ​แต่​เพื่อ​รักษาหน้า​เอาไว้​ ​นาง​ได้​เชิญ​หญิง​ที่​มี​ชาติตระกูล​ดี​หลาย​คน​มาร​่ว​มงาน​ด้วย​ ​แต่​พวก​นาง​ไม่ได้​อยู่​ใน​ขอบเขต​การพิจารณา​ของ​นาง

รายชื่อ​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่า​คง​ไป​ซ้ำ​กับ​จวง​เฟย​ไม่​มาก

เสียน​เฟย​เป็น​คนที​่​รัก​ใน​หน้าตา​มาก​ ​ด้วย​เหตุผล​ประการ​ที่หนึ่ง​ ​นาง​ไม่ได้​ต้องการ​ให้​บุตร​คนเล​็ก​ที่​ไม่สนิท​สนม​มาก​ ​ได้​หญิง​ชั้นสูง​มา​เป็น​ภรรยา​ ​และ​อีก​ประการหนึ่ง​ ​นาง​ไม่​อยาก​ให้​จวง​เฟ​ยม​อง​ออก​ถึง​ความคิด​นี้​ของ​นาง

ห​มัว​มัว​คน​รู้ใจ​เข้าใจ​ถึง​เหตุผล​ของ​ความคิด​ของเสียน​เฟย​เป็น​อย่างดี​ ​จึง​เอ่ย​ปลอบ​ ​“​คนที​่​เหนียง​เหนียง​เลือก​ ​ต้อง​เป็น​คนที​่​เหมาะสม​ที่สุด​อยู่​แล้ว​เพ​คะ​”

เสียน​เฟย​โยน​หมาก​ลง​ใน​โถ​แล้ว​ลุกขึ้น​เดิน​ไป​ยัง​หน้าต่าง​ ​นาง​ถอนหายใจ​และ​กล่าว​ ​“​ช่างเถอะ​ ​ตาม​นี้​แล้วกัน​”

อากาศ​ภายใน​ห้อง​ร้อนระอุ​ ​จึง​มี​การ​เปิด​หน้าต่าง​ออก​ครึ่งหนึ่ง​เพื่อ​ระบายอากาศ​ ​ด้านนอก​หน้าต่าง​สามารถ​เห็น​ท้องฟ้า​เพียง​ฝ่ามือ​กับ​ก้อน​เมฆ​ที่​เปลี่ยนรูป​ร่าง​ตลอดเวลา​เท่านั้น

ก้อน​เมฆ​ที่​ยาก​จะ​ควบคุม​ก็​เหมือนกับ​บุตรชาย​คนเล​็ก​ของ​นาง​ที่​มีนิ​สัย​ไม่แน่​นอน

ช่วง​ระยะนี้​ ​เสียน​เฟ​ยอยาก​เรียก​อวี​้​จิ​่น​เข้ามา​คุย​ ​เพื่อ​ดู​ว่า​เขา​มี​ความคิดเห็น​อย่างไร​อยู่​หลายครั้ง​ ​แต่​ก็​ถูก​ฝ่ายตรงข้าม​ใช้​ข้ออ้าง​สารพัด​ปฏิเสธ​กลับมา​ทุกครั้ง

เสียน​เฟย​เพียงแค่​นึกถึง​ ​ก็​รู้สึก​หงุดหงิด

ไม่ว่า​สอง​แม่​ลูก​เคย​ใช้เวลา​ร่วมกัน​หรือไม่​ ​อย่างน้อย​เขา​ก็​เป็น​ลูกชาย​ที่​ตน​ตั้งครรภ์​มาร​่ว​มสิบ​เดือน​ ​แต่​นี่​กลับ​ไม่เคย​ถามไถ่​แม่​แท้ๆ​ ​ของ​ตน​เลย​!

บางครั้ง​ ​เสียน​เฟ​ยก​็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​เจ้า​เจ็ด​เย็นชา​กับ​ข้า​ถึง​เพียงนี้​ ​แล้ว​เขา​ยินดี​ที่จะ​ช่วยเหลือ​เจ้า​สี่​ใน​ภายหลัง​จริงๆ​ ​หรือ

ความคิด​นี้​จึง​มีส่วน​ที่นาง​ให้ความสำคัญ​กับ​งานเลี้ยง​ชมด​อก​เหมย​เป็นอย่างมาก​ ​ในขณะเดียวกัน​ ​นาง​ก็​รู้สึก​สับสน​งงงวย​ไร้จุดหมาย​ปลายทาง​ ​กลัว​ว่า​จะ​เกิด​ความผิดพลาด​ ​แล้ว​สุดท้าย​คนที​่​ต้อง​รับ​ผล​นั้น​คือ​ตัวเอง

มีเสียง​ของ​ฝีเท้า​ที่​เร่งรีบ​ดัง​ขึ้น​ ​แม้​เสียง​นั้น​จะ​แผ่วเบา​ ​แต่​เมื่อ​ดัง​เข้าไป​ใน​หู​ของเสียน​เฟย​แล้ว​ ​ก็​เพียงพอ​ที่จะ​ทำให้​นาง​รู้สึก​ตื่นตัว​ได้​เช่นกัน

นางกำนัล​ที่​อยาก​มีชีวิต​ที่​ดี​เมื่อ​เข้ามา​อยู่​ภายใน​พระราชวัง​นั้น​ ​การ​เก็บ​อารมณ์​เป็น​สิ่ง​ที่​จำเป็นต้อง​เรียนรู้​ ​แต่​การ​ที่​เดิน​มา​อย่างเร่งรีบ​ขนาด​นี้​นั้น​…​หรือว่า​เกิดเรื่อง​ใหญ่​?

ไม่นาน​นัก​ ​นางกำนัล​นาง​หนึ่ง​ก็​เดิน​เข้ามา​ ​“​เหนียง​เหนียง​เพ​คะ​ ​เยี​่​ยน​อ๋อง​มา​พบ​เพ​คะ​”

เสียน​เฟย​หัน​ตัว​กลับมา​อย่างรวดเร็ว​ ​“​เยี​่​ยน​อ๋อง​มารึ​”

เมื่อ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่ายั​้​งกิ​ริยา​ไม่อยู่​ ​เสียน​เฟย​จึง​ยกมือ​ขึ้น​จัด​เกศา​ ​และ​สวมใส่​ปลอก​เล็บ​ประดับ​มุก​อัน​แวววาว​ชวน​ให้​แสบ​ตา​ทันใด

“​เพ​คะ​ ​ท่าน​อ๋อง​รอ​อยู่​ด้านนอก​ ​เหนียง​เหนียง​จะ​พบ​หรือไม่​พบ​…​”

“​เชิญ​เยี​่​ยน​อ๋อง​เข้ามา​”​ ​เสียน​เฟ​ยพูด​ขัด​นางกำนัล​พร้อมกับ​ก้าว​เท้า​ไป​ยัง​พระที่นั่ง​กุ้ย​เฟย​และ​นั่ง​รอ

ตอนที่​อวี​้​จิ​่น​เดิน​เข้ามา​ ​เขา​เห็น​สตรี​ใน​วัง​นาง​หนึ่ง​นั่ง​ตัวตรง​อยู่​บน​พระที่นั่ง​กุ้ย​เฟย​ ​บุคลิก​นั้น​งามสง่า​ ​ช่าง​แตกต่าง​จาก​พวก​เหม่ย​เห​ริน​ที่​เอื่อย​เฉื่อย​รัก​สบาย

พระมารดา​ของ​เขา​ท่าน​นี้​ ​ช่าง​มี​ความน่าสนใจ​ยิ่ง

อวี​้​จิ​่น​หรี่​ตาลง​ ​เมื่อมั​่น​ใจ​แล้ว​ว่า​ไม่ผิด​คน​แน่​ ​จึง​ถวายบังคม​ ​“​ถวายบังคม​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​เสด็จ​แม่​”

เสียน​เฟ​ยม​อง​บุตรชาย​คนเล​็​กคำ​นับ​ให้​นาง​ ​ก็​เกิด​ความรู้สึก​ยิ่ง​มอง​ยิ่ง​ไม่​ชอบใจ

ดู​ความขี้เกียจ​ของ​เขา​นั่นสิ​ ​ช่าง​ไร้มารยาท​เสีย​จริง​ ​สู้​เจ้า​สี่​ไม่ได้​เลย​สักนิด

เสียน​เฟย​ไม่พอใจ​อยู่​ภายในใจ​ ​แต่​ภายนอก​ยังคง​รักษา​ความสง่า​เอาไว้​ ​“​เข้ามา​ใกล้​ๆ​ ​ให้​แม่​ดู​หน่อย​”

อวี​้​จิ​่น​เดิน​เข้าไป​ใกล้​จน​เห็น​ถึง​ริ้วรอย​จางๆ​ ​ตรง​หาง​ตาของ​เสียน​เฟย

วัน​เวลา​นั้น​ยุติธรรม​ ​ไม่ว่า​สตรี​จะ​งดงาม​เพียงใด​ ​สุดท้าย​ก็​ย่อม​ทิ้งร่องรอย​เอาไว้​อยู่ดี

อวี​้​จิ​่​นก​ระ​ดก​มุม​ปาก​ขึ้น​มาช​้า​ๆ

หาก​ให้​พูด​ ​เขา​มีชีวิต​มา​แล้ว​สิบ​เก้า​ปี​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ได้​ใกล้ชิด​กับ​มารดา​มาก​ที่สุด​นับตั้งแต่​จำความได้

ช่าง​รู้สึก​ไม่​เป็นตัวของตัวเอง​เลย​สักนิด

เสียน​เฟย​รู้สึก​ประหลาดใจ​กับ​การ​มาหา​ของ​อวี​้​จิ​่น

ตั้งแต่​บุตรชาย​คน​นี้​กลับมา​ถึง​เมืองหลวง​ ​นาง​เรียก​ให้​มาหา​ถึง​หลายครั้ง​ ​แต่​ไม่เคย​เรียก​มา​ได้​สำเร็จ​สักครั้ง​ ​การ​ที่​เจ้า​เจ็ด​มาหา​ตน​ใน​วันนี้​ ​คง​ไม่ได้​มา​แค่น​้​อม​ทักทาย​หรอก​กระมัง

เสียน​เฟ​ยมิ​ได้​เอ่ย​ถาม​ใน​สิ่ง​ที่​สงสัย​ทันที​ ​แต่​นาง​มอง​บุตรชาย​คนเล​็​กอย​่าง​ถี่ถ้วน

มัน​เป็นความ​รู้สึก​เหมือน​คนแปลกหน้า​ ​แต่​บุคลิกลักษณะ​นั้น​กลับ​รู้สึก​คุ้นเคย​มาก​เป็นพิเศษ

หาก​ดู​จาก​รูปลักษณ์​แล้ว​ ​เจ้า​เจ็ด​มี​ความเหมือน​นาง​มากกว่า​เจ้า​สี่​อีก

ก็​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​นาง​เอง​นี่

เสียน​เฟ​ยพ​ลัน​รู้สึก​ทอดถอนใจ​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​แต่​เมื่อ​สีหน้า​อ่อนโยน​ลง​ ​นาง​จึง​เอ่ย​ถาม​ออก​ไป​ ​“​วันนี้​มา​พบ​แม่​ ​มีธุระ​ใช่​หรือไม่​”

“​ลูก​มาถ​วาย​บังคม​เสด็จ​แม่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

เสียน​เฟย​ไม่เชื่อ​ ​แต่​ส่ง​รอยยิ้ม​ให้​ ​“​ขอบใจ​ใน​น้ำใจ​ของ​เจ้า​ ​แล้ว​เจ้า​มีเรื่อง​อื่น​หรือไม่​”

อวี​้​จิ​่น​เริ่ม​หน้าแดง​ ​คล้าย​ว่า​ลังเล​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ถึง​กล่าวตอบ​ ​“​ลูก​ได้ยิน​ว่างาน​ชมด​อก​เหมย​กำหนด​วัน​เรียบร้อย​แล้ว​”

เสียน​เฟ​ยม​อง​อวี​้​จิ​่น​หนึ่ง​ที​แล้ว​ยิ้ม​ให้​ ​“​ใช่​ ​กำหนด​เป็น​วันที่​สิบ​แปด​ ​นี่​จิ​่น​เอ๋อร​์​กลัว​ว่า​แม่​จะ​จัดการ​ได้​ไม่​เรียบร้อย​หรือ​”

คำ​ว่า​จิ​่น​เอ๋อร​์​ ​ทำให้​อวี​้​จิ​่น​แทบจะ​ยกมือ​ขึ้น​สะบัด​ขน​ที่​ลุกขึ้น​มาทั​้ง​ตัว​ออก​ไป​ ​โชคดี​ที่​สีหน้า​ยัง​แบกรับ​ไหว​ ​เขา​จึง​กล่าว​ต่อ​อย่าง​หน้าแดง​ ​“​เรื่อง​นี้​ลูก​ไม่​กังวล​อยู่​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​เพียงแต่ว่า​ลูก​อยู่​หนาน​เจียง​เป็นเวลา​นาน​ ​ไม่มี​ความเข้าใจ​ใน​หญิง​ชั้นสูง​ของ​เมือง​เหลวง​เลย​ ​แต่​ลูก​อยาก​มีชีวิต​อย่าง​ฉัน​สามีภรรยา​แล้ว​ ​ดังนั้น​ลูก​จะ​มี​ภรรยา​ที่​ถูกอกถูกใจ​ ​และ​จะ​มีความสุข​สมหวัง​หรือไม่ก็​ขึ้นอยู่กับ​เสด็จ​แม่​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

เสียน​เฟย​ยังคง​มอง​อวี​้​จิ​่​นอยู​่​อย่างนั้น​ ​นาง​เห็น​เขา​ยิ่ง​พูด​หน้า​ยิ่ง​แดง​ ​สุดท้าย​เริ่ม​หมดหนทาง​ ​ริมฝีปาก​ที่​โค้ง​งอก​็​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา

ก่อนหน้านี้​ได้ข่าว​ว่า​เจ้า​เจ็ด​กับ​องค์​ชาย​อีก​หลาย​คน​ชกต่อย​กัน​เป็น​หมู่​ ​นาง​นึก​ว่า​ลูก​คน​นี้​มีนิ​สัย​ไม่สน​ใจ​ใยดี​ต่อ​สิ่งใด​ ​แต่​พอ​เห็น​ตอนนี้​ ​ถึง​จะ​ใช้ชีวิต​ข้างนอก​จน​ป่าเถื่อน​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​เป็น​เพียง​เด็ก​คน​หนึ่ง​ ​และ​โหยหา​ภรรยา​ในอนาคต​เป็นอย่างมาก

สำหรับ​ใน​ด้าน​นี้​ ​เจ้า​เจ็ด​ใส​ซื่อ​มากกว่า​เหล่า​องค์​ชาย​ที่​เติบโต​ใน​พระราชวัง​เสียอีก

เสียน​เฟย​ไม่​คิด​ว่า​สิ่ง​นี้​คือ​ข้อดี​ ​แต่​หาก​มอง​จาก​ความรู้สึก​ล้วน​ๆ​ ​นั่น​หมายความว่า​เพียงแค่​ได้​ภรรยา​ที่​ตรง​ใจ​ ​คน​ๆ​ ​นั้น​ก็​จะ​กลายเป็น​คน​หูเบา​ ​เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​คน​ข้าง​หมอน​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ ​นาง​เพียงแค่​จับ​ลูกสะใภ้​ให้​อยู่หมัด​ ​ก็​เท่ากับ​ได้​จับ​ลูกชาย​ให้​อยู่หมัด​แล้ว​เช่นกัน

เสียน​เฟ​ยม​อง​ดวงตา​ของ​ลูกชาย​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความคาดหวัง​ ​นาง​ยิ้ม​กลับ​ให้​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​เจ้า​วางใจ​ได้​ ​แม่​จะ​เลือก​ลูกสะใภ้​ที่​ตรง​ใจ​ให้​กับ​เจ้า​อย่างแน่นอน​”

เอาเถอะ​ ​ใน​งานเลี้ยง​ชมด​อก​เหมย​ ​หากว่า​เจ้า​เจ็ด​ถูกใจ​คน​ไหน​ ​นาง​เพียงแค่​ตอบรับ​ก็​พอแล้ว​ ​ความสัมพันธ์​ที่​จืดจาง​มาตั​้ง​แต่แรก​ ​ถือว่า​ใช้​โอกาส​นี้​สาน​สัมพันธ์​เสียหน่อย​ก็แล้วกัน​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​จริง​ ​ในอนาคต​เจ้า​เจ็ด​จะ​ได้​ช่วยเหลือ​เจ้า​สี่​ได้​อย่าง​สุดใจ

“​งั้น​ลูก​ทูล​ลา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

อวี​้​จิ​่​นก​ลับ​คืน​สู่​หน้า​เย็นชา​ทันทีที่​ออกจาก​พระตำหนัก​ของเสียน​เฟย​ ​ราวกับว่า​ชายหนุ่ม​ที่​หน้าแดง​ต่อหน้า​มารดา​เมื่อ​สักครู่​นี้​ไม่เคย​มีอยู่​จริง

เดิมที​ก็​ไม่เคย​มีตัว​ตน​อยู่​แล้ว

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​ ​เขา​เดินผ่าน​กำแพง​ที่​ก่อ​เป็นชั้นๆ​ ​แล้ว​เลี้ยว​โค้ง​ไป​ทาง​หนึ่ง

ขันที​ชุด​สีเทา​คน​หนึ่ง​เดินผ่าน​อวี​้​จิ​่น​โดย​ผ่อน​ความเร็ว​ของ​ฝีเท้า​ลง

“​จัดการ​เรียบร้อย​หรือยัง​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ทอดสายตา​มอง​ไป​ข้างหน้า​และ​เอ่ย​ถาม​ด้วย​เสียง​เบา

ขันที​ตอบกลับ​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​เรียบร้อย​ขอรับ​”

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​ไป​ยัง​ทางออก​ของ​พระราชวัง

หาน​กง​กง​ผู้​ซึ่ง​เป็น​คนใน​กรมวัง​ที่​รับผิดชอบ​เรื่อง​นี้​โดยเฉพาะ​ ​เขา​กำลัง​สั่งงาน​กับ​นางใน​หลาย​คน​ว่า​ให้​นำ​รายชื่อ​ที่​เหนียง​เหนียง​สอง​ท่าน​ส่ง​มา​ ​เขียน​ลง​ใน​เทียบ​เชิญ​ ​นางใน​หนึ่ง​ใน​นั้น​มอง​รายชื่อ​หนึ่ง​ที​ ​จากนั้น​ยก​พู่กัน​ขึ้น​แล้ว​เริ่ม​เขียน​ชื่อ​ของ​คุณหนู​สี่​แห่ง​ตง​ผิงปั​๋​วลง​ไป

ข่าว​งานเลี้ยง​ชมด​อก​เหมย​เริ่ม​แพร่ง​กระจาย​ออก​ไป​แล้ว​ ​ก่อน​วันที่​สิบ​แปด​เดือน​หนึ่ง​สอง​วัน​ ​เหล่า​หญิงสาว​ชนชั้นสูง​ต่างๆ​ ​ที่​ได้รับ​เทียบ​เชิญ​พากัน​ดีใจ​ใหญ่​ ​ส่วน​จวน​ไหน​ที่​มิได้​รับ​บัตรเชิญ​ก็​ถอนหายใจ​เสียดาย

ตำแหน่ง​พระ​ชายา​ท่าน​อ๋อง​ ​แม้แต่​โอกาส​เข้าร่วม​ก็​ยัง​ไม่มี​ ​ลอย​ลับ​ไป​เสีย​แล้ว​!

ภายใน​จวน​ตง​ผิวปั​๋ว​ เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​มองดู​เทียบ​เชิญ​แกะสลัก​ที่​พ่อบ้าน​นำมา​ให้​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ​นาง​รู้สึก​ตื่นเต้น​อย่าง​ไม่รู้​ตัว