ตอนที่ 396 เรื่องดีๆ ที่ได้รับโดยไม่ต้องเปลืองแรง (2)

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

ตอนที่ 396 เรื่องดีๆ ที่ได้รับโดยไม่ต้องเปลืองแรง (2)

ที่ดินผืนนั้น ตระกูลหนิงเอามาก็ไร้ประโยชน์ แม้ที่ดินเหล่านี้จะเป็นที่ดินผืนงาม ทว่าไม่ได้อยู่บนถนนเส้นหลัก ไม่มีอะไรพิเศษและไม่มีแร่ต่างๆ

แต่เพราะเป็นที่ดินติดทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว ถูกหลักฮวงจุ้ย วิวงดงาม ร่วมกับหัวหน้าตระกูลหนิงรุ่นก่อนๆ ต่างชื่นชอบที่ดินแปลงนี้ อยากจะสร้างเรือนตากอากาศที่นั่นให้สตรีในตระกูลมีที่ไปมากขึ้นอีกที่หนึ่ง ทั้งยังมีที่รับแขกมากขึ้นอีกที่หนึ่ง แค่เท่านั้น

โรงงานเครื่องปรุงเซียนมั่วของมั่วเชียนเสวี่ยตั้งแต่เตรียมสร้างไปจนถึงสร้างเสร็จ เขาเข้าร่วมทุกอย่าง เวลานี้เครื่องปรุงในโรงงานเครื่องปรุงเซียนมั่วเพิ่งผลิตออกมาจากโรงงาน ก็เป็นที่ต้องการสูง แน่นอนว่าเขาย่อมเคยได้ยินมั่วเชียนเสวี่ยโอ้อวดให้ฟัง

อันที่จริง มั่วเชียนเสวี่ยไม่ต้องพูดโอ้อวดให้เขาฟัง เขาเองก็รู้

มั่วเชียนเสวี่ยสร้างโรงงานเครื่องปรุง ไม่เคยเลี่ยงเขามาก่อน

เพื่อรักษาสูตรเอาไว้ไม่ให้แพร่งพรายออกไป ช่างผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นล้วนเป็นคนที่ถูกซื้อตัวมา ส่วนแรงงานที่ใช้นั้นโดยมากล้วนเป็นลูกจ้างในหมู่บ้านหวังจยา ทว่า การตลาดและผู้ดูแลต่างๆ โดยมากล้วนให้ลุงอวี๋เป็นคนจัดการ สถานการณ์ของโรงงานเครื่องปรุงเซียนมั่วเป็นอย่างไร เขาย่อมรู้

เมื่อวาน ที่ริมทะเลสาบ มั่วเชียนเสวี่ยยังพูดอย่างหนักแน่นว่า นางจะกลายเป็นคนเข้มแข็ง นางจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เขา จะทำให้พวกคนที่คิดอยากจะยัดเยียดสตรีให้เขาประเมินตนเองก่อน

นี่ คือโอกาสอย่างหนึ่ง

ขึ้นอยู่กับว่า…เชียนเสวี่ยคิดอย่างไร

สำหรับความคิดทางการค้าและความกระตือรือร้นของนาง เขานับถือย่างมาก โรงงานเครื่องปรุงในเมืองเทียนเซียง แม้เขาจะคอยช่วยเหลือ แต่ก็แค่คอยช่วยเท่านั้น ทว่าทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความคิดและการกระทำของมั่วเชียนเสวี่ยเป็นหลัก

สตรีคนหนึ่ง สามารถคิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ได้อย่างรอบคอบไม่บกพร่อง ทำทุกอย่างได้พอดีและเหมาะสม ถือว่าเป็นสตรีที่มีความสามารถ

อีกทั้ง ตอนออกมา ยังรู้จักให้ปันผลกับผู้อื่น ดูแลทุกด้านอย่างดี ใจกว้างยิ่งนัก แค่ความใจกว้างนี้สตรีทั่วไปก็ยากจะเทียบได้แล้ว

นึกถึงเรื่องราวต่างๆ ของทั้งสองในอดีตที่หมู่บ้านหวังจยา หนิงเซ่าชิงยิ้มบางๆ แล้วเรียกเตาหนูเข้ามา เขาเอาแผนที่และหนังสือโอนย้ายให้เตาหนู

ให้เตาหนูเอาไปให้กุ่ยซา แล้วค่อยให้กุ่ยซาเอาไปให้มั่วเชียนเสวี่ย พร้อมกับฝากเตาหนูไปบอกกุ่ยซาว่าอำนาจทั้งหมดในการตัดสินใจเรื่องนี้อยู่ที่มั่วเชียนเสวี่ย

ฝ่ามือของหญิงวิปลาสตระกูลสวี่ เกือบโดนเชียนเสวี่ยแล้ว คนที่นางล่วงเกิน ย่อมคือเชียนเสวี่ยของเขา ในเมื่อฝ่ายนั้นรู้จักคิด ก้มหน้ายอมรับผิด เช่นนั้นก็ให้มั่วเชียนเสวี่ยจัดการก็แล้วกัน

จะระบายความขุ่นเคือง หรือว่าจะเอาที่ดิน ล้วนขึ้นอยู่กับนาง

……

ทางด้านนี้ มั่วเชียนเสวี่ยเพิ่งจัดการสองหญิงตระกูลมั่วเสร็จ ขณะที่นางกำลังเตรียมจะกลับไปนอนบนตั่งหญิงงาม นางก็หลงใหลกับแผ่นที่ที่กุ่ยซาส่งมา

เมื่อหันไปมองหนังสือโอนย้าย มั่วเชียนเสวี่ยยิ่งเบิกบานใจ

นี่มันเรื่องดีๆ ที่ได้รับโดยไม่ต้องเปลืองแรงจริงๆ!

เรื่องที่เกิดขึ้นบนริมทะเลสาบเมื่อวาน นางไม่ได้เป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่อย่างใด

ไม่เพียงไม่ได้เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั้งยังได้ดูเรื่องตลกโดยไม่ต้องจ่ายเงินอีกด้วย

หญิงวิปลาสคนนั้นยังไม่ทันเข้าใกล้นาง ก็ถูกหนิงเซ่าชิงขวางเอาไว้ พูดเพียงไม่กี่คำ ก็ถูกกุ่ยซาเตะลงไปในทะเลสาบ แม้นางจะขุ่นเคืองแต่ก็หายไปนานแล้ว

หากจะบอกว่ามีเรื่องที่เสียใจ ก็คือนางยังไม่ทันดูอย่างออกรส ละครนั้นก็จบลงแล้ว

พูดตามความจริง หลังจากจบเรื่องนั้นนางก็ลืมไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะเวลานี้หนิงเซ่าชิงให้กุ่ยซาส่งแผนที่นี้มา เกรงว่านางคงนึกไม่ออกว่าเมื่อวานตอนออกไปเที่ยวเล่นมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วย

ความเป็นจริง นางคิดอยากจะให้โรงงานย่อยของโรงงานเครื่องปรุงเซียนมั่วเปิดในเมืองหลวงมานานแล้ว ทว่าช่วงนี้มีเรื่องมากมาย ชั่วขณะหนึ่งนางไม่มีเวลาสนใจเรื่องนี้

เวลานี้ มีที่ดินสำหรับสร้างโรงงาน เหตุใดจึงไม่รับไว้

สำหรับหญิงวิปลาสคนนั้น นางอยากไปที่ใด ก็ปล่อยนางไป! หรือว่าแค่เพราะนางสติวิปลาสร้องเรียกหนิงเซ่าชิงว่าสามี หนิงเซ่าชิงก็ตกต้องเป็นของนางเช่นนั้นหรือ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ มั่วเชียนเสวี่ยย่อมพิจารณาแผนที่ในมืออยู่นาน

หลังจากมองแผนที่อย่างละเอียด มั่วเชียนเสวี่ยพอจะมีแผนการในใจแล้ว กล่าวถึงทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว น้ำดี แสงแดดเพียงพอ ทั้งยังไม่ไกลจากเมืองอวิ๋นฉี่อีกด้วย พื้นที่กว้างขวาง เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสร้างโรงงานที่สุด

วันข้างหน้า หลังจากตรวจดูโรงงานเสร็จ ยังสามารถชื่นชมทิวทัศน์ของทะเลสาบได้ ช่างผ่อนคลายยิ่งนัก หรือว่าเลียนแบบคนโบราณ สร้างเรือนหลังเล็กบนที่ดินผืนนั้น สร้างแท่นสูง เพื่อมองทิวทัศน์ระยะไกล…

เพียงแค่คิด ก็หลงใหลอย่างไม่สิ้นสุดแล้ว

ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง มั่วเชียนเสวี่ยรีบลุกขึ้นจากตั่งหญิงงามทันที

นางลุกขึ้นแล้วออกคำสั่ง นางจะออกไป…ไปดูที่ดินผืนนั้นด้วยตนเอง ตัดสินใจเรื่องนี้ให้เรียบร้อย เลี่ยงไม่ให้ยิ่งยืดเวลาออกไป รังแต่จะมีอุปสรรคมากขึ้น

มั่วเหนียงดูแลรับใช้มั่วเชียนเสวี่ยมานาน ความสุขที่ฉายในแววตาของคุณหนู มองเพียงปราดหนึ่งนางก็รับรู้แล้ว แผนที่และหนังสือโอนย้ายนั้น นางเพียงปรายตามองก็เห็นแล้ว

กูเหยียช่างดีกับคุณหนูยิ่งนัก ยกที่ดินผืนงามเช่นนี้ให้คุณหนู

ขณะที่นางอุทานในใจ ก็ไม่ได้มือไม้อ่อนจนทำอะไรไม่ถูก ในทางตรงกันข้ามนางเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มั่วเชียนเสวี่ยอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

มั่วเชียนเสวี่ยมีฐานันดรศักดิ์แล้ว ไม่ว่าจะไปพบเจอผู้ใด ล้วนไม่อาจสูญเสียความน่าเกรงขามของจวนกั๋วกง ไม่อาจขายหน้าตระกูลหนิง ด้วยเหตุนี้จึงต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย

ชูอีก็สายตาเฉียบแหลมยิ่งนัก ไม่ต้องให้มั่วเชียนเสวี่ยสั่ง นางทำความเคารพพร้อมกับบอกกล่าว หลังจากนั้นก็พาสืออู่ออกไปให้อาอู่เตรียมรถม้า

อย่างรวดเร็ว นายบ่าวทั้งหกคน ก็ออกจากจวนไป

ชูอีและสืออู่นั่งอยู่ในรถม้ากับมั่วเชียนเสวี่ย อาอู่เป็นคนขี่ม้า อวี่เสวียนและกุ่ยซาขี่ม้าตามหลังคอยดูแลความปลอดภัย

ตั้งแต่มีอวี่เสวียน มั่วเหนียงไม่ค่อยติดตามออกนอกจวนแล้ว เรื่องทุกอย่างในจวน มั่วเหนียงต้องคอยช่วยดูแล

เมื่อคืนหลังจากท่านผู้เฒ่าสวี่ให้คนส่งหนังสือโอนย้ายมาให้ เขาก็รออยู่ที่ศาลาริมทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวที่ตระกูลสวี่สร้างขึ้น

ตั้งแต่เมื่อคืนกระทั่งเวลานี้ยังไม่ตอบรับ ท่านผู้เฒ่าสวี่เดินวนไปมาในศาลา จิตใจของเขาว้าวุ่นยิ่งนัก

เห็นบ่าวรับใช้มารายงาน บอกว่าจวนกั๋วกงส่งคนมาแล้ว ท่านผู้เฒ่าสวี่โล่งอก ขอเพียงพวกเขายังสนใจที่ดินผืนนี้ ไม่แน่อาจจะไม่ถือสาแก้วตาดวงใจของตนแล้ว

เขาลงทุนลงแรงอย่างมาก แบ่งที่ดินทั้งหมดในรัศมีสิบกว่าลี้ที่เขาครอบครองเป็นห้าหกแปลง ทำสัญลักษณ์ไว้บนแผนที่ วาดวงกลมเอาไว้ ให้ตระกูลหนิงเลือกที่ดินผืนที่ชอบที่สุด

การค้าของครอบครัวขนาดใหญ่เช่นนี้ ที่ดินผืนใหญ่เช่นนี้ หากขายทั้งหมด เช่นนั้นจะเป็นการไม่เห็นแก่บรรพบุรุษ แม้จะสังหารบุตรีวิปลาส เขาก็ไม่มีหน้าไปเจอบรรพบุรุษ

สามารถเอาที่หนึ่งแปลงออกมาได้ ถือว่าเป็นการยอมครั้งใหญ่ของเขาแล้ว

ใต้ฝ่าเท้าของจักรพรรดิ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน ร้านค้าในเมืองหลวง หรือว่าบ้านไร่นอกเมือง ที่ดิน ล้วนมีราคา ราคาสูงลิ่วจนไม่มีคนซื้อ

ร้านค้ายังดีหน่อย ย่อมมีการบริหารไม่ดีแล้วเปลี่ยนเจ้าของ หรือว่าคนเสเพลในเมืองหลวง ตระกูลใหญ่เปลี่ยนมือชั่วขณะ ทว่า บ้านไร่และที่ดินนอกเมือง หากไม่ใช่เพราะพบเจอความลำบาก ไม่มีผู้ใดไปแตะต้อง

นี่คือรากฐานชีวิตของทั้งตระกูล เป็นพื้นฐานของตระกูล

ขณะเดียวกันที่ท่านผู้เฒ่าสวี่โล่งอก เขาก็ตึงเครียดยิ่งนัก

เพราะบ่าวรับใช้บอกว่าคนที่มาไม่ใช่คนของตระกูลหนิง แต่เป็นคนของจวนกั๋วกง ได้ยินว่าคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงเหี้ยมโหดยิ่งนัก กลัวเหลือเกินว่าคนที่มา ไม่ต้องการที่ดิน แต่ต้องการที่จะระบายความโกรธเคืองกับลูกสาวของเขา

และคนของจวนกั๋วกงที่มานั้น กลับเป็นคุณหนูของจวนกั๋วกง คนที่แก้วตาดวงใจของเขาล่วงเกิน

—————————–