บทที่ 369 เครื่องมือของตระกูล

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 369 เครื่องมือของตระกูล?

“ฟางฟาง แกสร้างปัญหาพอหรือยัง? แกคิดว่าสภาพในตอนนี้ ยังขายหน้าไม่พอเหรอ?”

เสียงเย็นชาของหยางฉางจวินดังขึ้นมา หยางฟางฟางคนนี้ ไม่นึกเลยว่าจะกล้าพูดถึงมู่เซิ่ง หรือว่าพวกเขาต้องการให้ตระกูลหยางขายหน้าต่อหน้าทุกคนเขาถึงพอใจเหรอ?

หยางเหม่ยหลินพี่รองที่อยู่ข้างๆก็พูดว่า: “นั่นนะสิฟางฟาง ต่อให้แกจะหาสมาชิกในทีมที่ตรงตามข้อกำหนดไม่ได้ พวกเราก็ไม่โทษแกหรอกนะ พี่รู้ว่าแกพยายามแล้ว แกอย่าได้ทำการต่อสู้ที่ไม่แยแสแบบนี้อีก”

หยางเหม่ยหลินรู้สึกว่าเรื่องนี้ขายหน้าเป็นอย่างมาก หลังจากที่พูดจบ พูดกับทุกคนต่อว่า: “ทุกคนขอโทษด้วย น้องสาวของฉันหน้าแตกต่อหน้าพวกคุณ ฉันได้เตรียมอาหารเย็นสำหรับพวกคุณทุกคนแล้ว เชิญพวกคุณตามฉันมา”

ทันทีที่น้ำเสียงลดลง พ่อบ้านของตระกูลหยางก็ปรากฏตัวขึ้นในโกดัง และนำทุกคนเดินไปอีกด้านหนึ่ง

แม้ว่าคนเหล่านั้นอยากจะเห็นว่าต่อไปมู่เซิ่งจะขายหน้ายังไง แต่ยังไงซะก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวของคนอื่นเขา พวกเขาก็แทรกแซงไม่ได้ ทำได้แค่ตามพ่อบ้านออกไป

“คุณมู่ เชิญคุณออกไปด้วย”พ่อบ้านก็มาเร่งรัดมู่เซิ่ง

มู่เซิ่งถอนหายใจ สำหรับเรื่องนี้ เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ตามพ่อบ้านออกไป

ลูกศิษย์ที่ได้รับการแข่งขันคัดเลือกสำเร็จเหล่านั้น บนใบหน้าของแต่ละคนล้วนมีความภาคภูมิใจ ระหว่างทางก็พูดคุยกันถึงเรื่องราวในตระกูลหยาง ยังเยาะเย้ยว่าหยางฟางฟางกับหยางเหม่ยหลินเกิดจากพ่อคนเดียวกัน ทำไมถึงมีช่องว่างใหญ่ขนาดนั้น

ยังมีคนมากมายที่เฉลิมฉลองให้กับเซียวจ้าน กำลังจะเข้าร่วมสมาชิกในทีมชั้นหนึ่ง และยังเป็นคนที่ได้รับข้อยกเว้นจากครูฝึกฝานหรงด้วย แตกต่างจากสมาชิกในทีมชั้นหนึ่งเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง คำพูดประจบประแจงทุกชนิดจากทุกคน ดังขึ้นในงานเลี้ยงมาโดยตลอด

สำหรับมู่เซิ่ง ก็เป็นการเยาะเย้ยถากถางอยู่แล้ว

มู่เซิ่งก็ไม่ได้สนใจ ถึงยังไงเขาแค่ทานข้าวเสร็จก็จะกลับไป การเยาะเย้ยถากถางเหล่านี้ ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา

อย่างไรก็ตามทุกคนยังคิดว่ามู่เซิ่งหวาดกลัว ไม่กล้าโต้กลับ ดังนั้นจึงได้จึงยอมให้พวกเขาเยาะเย้ย และแต่ละคนก็หยิ่งยโสมากยิ่งขึ้น

…….

อีกด้านหนึ่ง

หลังจากที่มู่เซิ่งออกไป หยางฟางฟางก็ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆคนเดียว

หยางฉางจวินและหยางเหม่ยหลินยืนอยู่ทั้งสองด้านของเธอ ภายใต้แสง เงาของพวกเขาทอดยาวมาก มองดูเงาบนพื้น ในใจของหยางฟางฟางไม่ค่อยสบอารมณ์

คนคนหนึ่งที่ไม่เคยประสบกับพ่อแม่ที่ลำเอียงและไม่มีเหตุผลมาก่อน ยังไงเขาก็ไม่มีทางเข้าใจประสบการณ์ของหยางฟางฟางหรอก

ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าหยางฟางฟางจะทำเรื่องอะไร ก็ผิดไปหมด คนที่ถูกมาโดยตลอดก็คือพี่สาว แม้ว่าเธอจะทำสิ่งที่โดดเด่นเป็นอย่างมากจริงๆ ก็จะได้รับการตอบโต้จากพ่อด้วยพอเป็นพิธีไป ต่อจากนั้นความสนใจก็จะอยู่ที่ตัวของพี่สาวทั้งหมด

ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนกับที่เจียงหว่านอยู่ในตระกูลเจียง เหมือนกันทุกประการจริงๆ เพราะว่าคุณปู่ให้ความสำคัญผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ดังนั้นไม่ว่าเจียงหว่านจะทำอะไร ก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ และแม้ว่าเจียงมู่หลงจะทำผิด ก็จะได้รับคำสรรเสริญของทุกคนในตระกูลเจียง

ก็เป็นเพราะว่าเรื่องนี้ หยางฟางฟางและเจียงหว่านทั้งสองคน จึงกลายเป็นเพื่อนสนิทที่สุด

พวกเธอสองคนเคยคุยกันเป็นการส่วนตัวว่าหนีออกจากบ้านหรือไม่ ยังไงซะในบ้านนี้ พวกเธอก็ไม่เคยรู้สึกถึงความอบอุ่นเลยสักนิด

“หนูจะทำผิดจริงๆงั้นเหรอ? พวกคุณทุกคน ก็ไม่ยอมช่วยหนูเหรอ?”สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในหัวของหยางฟางฟางคือเงาของมู่เซิ่ง เธอยืนอยู่ในระยะไกลด้วยความสิ้นหวัง มีคำพูดมากมาย กลับพูดไม่ออก

“เอาล่ะ ฟางฟาง เรื่องราวของวันนี้ แกก็สร้างปัญหาพอแล้วนะ?”ในเวลานี้ หยางฉางจวินที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดออกมาสักที

หยางฟางฟางไม่ได้ตอบ เพราะว่าเธอรู้ดี ไม่ว่าตัวเองพูดอะไร ก็จะโดนพ่อเถียงกลับ ด้วยเช่นนี้ สู้ไม่พูดอะไรจะง่ายกว่า

หยางเหม่ยหลินได้ออกไปต้อนรับครูฝึกฝานหรงและคนอื่นๆแล้ว ข้างเวทีประลองในตอนนี้ ก็เหลือแค่หยางฉางจวินสองพ่อลูก

หยางฉางจวินมองดูหยางฟางฟาง น้ำเสียงก็อ่อนโยนอย่างกะทันหัน“ฟางฟาง อันที่จริงพ่อมองว่าลูกเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อมาโดยตลอด ในสายตาของพ่อ ลูกกับพี่สาวสองคน ไม่ได้แตกต่างอะไรกัน”

หยางฟางฟางอดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้ง พ่อคิดแบบนี้จริงๆเหรอ?

ถ้าหากเป็นเช่นนี้ งั้นทำไมสิบกว่าปีก่อน ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของเธอเลย?

ประโยคนี้ของพ่อ ทำให้หยางฟางฟางรู้สึกอย่างเลือนรางว่าขามีจุดประสงค์บางอย่างอยู่ในนั้น

แน่นอนว่า หลังจากที่หยางฉางจวินถอนหายใจ พูดต่อไปว่า: “ปีนี้ลูกก็อายุยี่สิบสองแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้ว พ่อก็ต้องคำนึงถึงเรื่องสำคัญในชีวิตต่อไปของลูกด้วย เซียวจ้านมาหาพ่อช่วงก่อน เขาบอกว่ารู้สึกดีต่อลูก พ่อคิดว่า ลูกลองคบหากับเซียวจ้านได้”

“เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง อยู่กับเขา ให้ความสุขกับลูกได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็เพียงพอที่จะคู่ควรกับลูก”

ได้ยินคำพูดของพ่อ หยางฟางฟางก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาไปทั่วทั้งตัวโดยไม่รู้ตัว สีหน้าก็เหลือเชื่อ มองไปทางพ่อของตัวเอง

สัมผัสที่หกของผู้หญิง ทำให้เธอฟังความหมายแอบแฝงในคำพูดของพ่อออกอย่างคลุมเครือ แต่ว่า ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า ความตั้งใจของพ่อ ไม่นึกเลยว่าจะให้เธอแต่งงานกับเซียวจ้าน?

เซียวจ้านเป็นคนที่ตามจีบพี่รองของเธอมาก่อน และจนถึงตอนนี้ ความสัมพันธ์กับพี่สาวคนรองของเธอก็ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน

“พ่อค่ะ พ่อจะให้หนูแต่งงานกับเซียวจ้านเหรอ?”หยางฟางฟางถาม

พ่อไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเธอมาก่อนเลย พูดขึ้นมาในตอนนี้ มันกะทันหันเกินไปจริงๆ ทำให้เธอไม่ได้เตรียมตัวเลย

ยิ่งไปกว่านั้น เธอมีแฟนแล้วด้วย อย่างน้อยมู่เซิ่งเป็นตัวปลอม แต่ยังไงก็แฟนออกหน้าออกตา ผลปรากฏว่าตอนนี้พ่อให้เธอคบหากับเซียวจ้าน ความคิดแบบนี้ หยางฟางฟางไม่สามารถรับได้ด้วยซ้ำ

“เรื่องนี้ก็เอาตามนี้ ส่วนมู่เซิ่งคนนั้น พ่อจะให้เขาไปจากลูก”หยางฉางจวินพูดอย่างราบเรียบ ในคำพูด เปิดเผยไปด้วยน้ำเสียงจริงแท้แน่นอน

“หนูไม่ยอม! หนูจะแต่งกับใคร คบหากับใคร นั่นเป็นอิสระของหนู พ่อมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจ?”หยางฟางฟางก็ทนไม่ได้อีกต่อไป และตะโกนในทันที

หยางฉางจวินอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

ในฐานะผู้นำแห่งตระกูลหยาง อยู่ในตระกูล เขาก็ตัดสินใจคนเดียว แม้แต่ลูกของเขาก็ไม่สามารถเถียงเขาได้ อย่างไรก็ตามหยางฟางฟางคนนี้ กลับตะคอกใส่เขาในวันนี้ สิ่งนี้ทำให้หยางฉางจวินประหลาดใจ ในใจก็มีความรู้สึกหงุดหงิด

“มีสิทธิ์อะไรที่ฉันจะตัดสินใจเหรอ? ฉันก็จะบอกแกว่ามีสิทธิ์อะไรเดี๋ยวนี้ สิทธิ์ที่ฉันเป็นพ่อของแก ตระกูลหยางของฉันเลี้ยงดูแกให้เสื้อผ้าแกมาเป็นเวลายี่สิบปี แกต้องเชื่อฟังฉัน!”หยางฉางจวินพูด

“ยิ่งไปกว่านั้นฉันคุยเรื่องนี้กับเหม่ยหลินแล้ว หล่อนก็ยอมรับเรื่องนี้โดยปริยายเช่นกัน ฐานะของเซียวจ้าน คุ้มค่าที่ตระกูลหยางของพวกเราจะเสียสละมากมายเช่นนี้ ถ้าเกิดดองกับเซียวจ้านได้ ตระกูลหยางของพวกเราก็จะเป็นตำแหน่งเลื่อนพรวดพราด ทำไมแกต้องไม่พอใจเพราะเรื่องนี้ด้วย?”

“ตระกูลเลี้ยงดูแกมานานขนาดนี้ แกก็ควรที่จะมีส่วนร่วมช่วยเหลือตระกูล”

“พ่อ พ่อ…….พ่อให้พี่รองแต่งงานกับเซียวจ้านสิ หนูไม่ชอบเขา หนูไม่ชอบเขาเลยสักนิด”

เมื่อฟังเสียงที่จริงจังของพ่อของเธอ ในดวงตาของหยางฟางฟาง ก็เต็มไปด้วยหยดน้ำตาใสแล้ว

ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกกับพ่อแล้ว เรื่องที่เซียวจ้านตามจีบพี่รองในขณะที่ตามจีบเธอไปด้วย ตอนนั้นพ่อบอกว่าเธอพูดมั่วๆ ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า เรื่องนี้ พ่อของเธอจะยอมรับโดยปริยาย เธอไม่ชอบเซียวจ้านด้วยซ้ำ คนเป็นพ่อ ทำไมถึงได้ผลักลูกสาวไปที่ถ้ำหมาป่าด้วยมือตัวเอง?

เธออยู่ในสายตาพ่อ เป็นเพียงเบี้ยต่อรองต่อรองที่ใช้แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของตระกูลสินะ

หยางฟางฟางหลั่งน้ำตาออกมาราวกับสายฝน