ตอนที่ 365 เมื่อทั้งรังคว่ำ มีหรือที่ไข่ทุกใบจะปลอดภัย

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 365 เมื่อทั้งรังคว่ำ มีหรือที่ไข่ทุกใบจะปลอดภัย

แม้ว่าจะแฝงเจตนาขำขันและเยาะเย้ยตนเองอยู่บ้าง แต่ประโยคว่า ‘ระดับที่ทำให้นักเขียนเนื้อเพลงหลายคนนอนไม่หลับทั้งคืนน่ะครับ’ ของทู่เอ้อร์นั้น ในแง่หนึ่งกลับเป็นความจริง และนักแต่งเพลงหลายคนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ไหนบอกว่าเซี่ยนอวี๋เป็นนักประพันธ์เพลงไง?

มาแย่งงานพวกเขาทำไมล่ะเนี่ย?

ทำไมไม่ทำสิ่งที่ควรทำล่ะ ถ้านักประพันธ์เพลงเป็นแบบคุณกันหมด นักเขียนเนื้อเพลงอย่างพวกเราไม่ต้องปลดเกษียณตัวเองกันหมดหรือ?

หรือว่านักเขียนเนื้อเพลงอย่างเราควรไปเรียนประพันธ์เพลง?

ดูเซี่ยนอวี๋เป็นตัวอย่าง เดินเส้นทางทั้งบุ๋นทั้งบู๊?

ไม่ใช่ทุกคนจะมีฝีมือระดับปีศาจแบบเซี่ยนอวี๋ได้ ต้องเข้าใจว่าต่อให้เป็นพ่อเพลงอีกหลายคน ถ้าหากทำนองที่พวกเขาเขียนต้องใช้เนื้อร้อง พวกเขาก็จำเป็นต้องร่วมงานกับนักเขียนเนื้อเพลงในระยะยาวเช่นกัน

แต่ไม่จำเป็นสำหรับเซี่ยนอวี๋!

นอกจากนั้นแล้ว เซี่ยนอวี๋ยังไม่ใช่นักประพันธ์เพลงประเภทที่รู้ทั้งรู้ว่าฝีมือการเขียนเนื้อเพลงของตนไม่ได้เรื่อง แต่กลับดังทุรังเขียนเนื้อเพลงต่อไป

การเขียนเนื้อเพลงของเขานั้นดีถึงขั้นทำให้นักเขียนเนื้อเพลงมืออาชีพหลายคนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ!

ที่บอกว่า ‘ชั่วชีวิตของฉันเมื่อเราพานพบเจอ โชคดีของฉันก็คือเธอ’ ปกติเขาเขียนกันแบบนี้หรือ?

ประเด็นอยู่ตรงที่ เซี่ยนอวี๋ก็ทำแบบนี้ทุกครั้ง

เนื้อเพลงของเขาในทุกครั้ง เข้ากันได้อย่างลงตัว

แม้แต่ในผลงานชิ้นแรกของเขาอย่างเพลงชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์ เขาก็เบิกทางของตนเองด้วยประโยคอย่าง ‘ให้ชีวิตตระการตาดั่งมวลผกายามคิมหันต์ ครั้นวายชีวันงามดั่งหมู่ใบไม้ในสารทฤดู’

แน่นอนว่าเนื้อเพลง เพลงชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์ไม่มีประโยคหลังพ่วงต่อท้าย

เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความหมายได้ดียิ่งขึ้น ตอนที่เซี่ยนอวี๋เขียนคำโปรโมตก็อุตส่าห์เขียนหมายเหตุกำกับไว้แล้ว

และเมื่อถึงช่วงเพลงกุหลาบแดง

เซี่ยนอวี๋ถึงขั้นเขียนเนื้อเพลงคลาสสิกอย่าง ‘ไม่ได้มาครอบครองก็ต้องมืดมัว ได้รับความรักไปก็ไม่ต้องกลัว’

จนกระทั่งวันนี้ เนื้อเพลงประโยคนี้ยังถูกวัยรุ่นในปัจจุบันทั้งที่ชื่นชอบและไม่ชื่นชอบเพลงนี้โควตไปใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกับกลายเป็นชื่อบัญชีผู้ใช้ รวมไปถึงคติประจำใจติดปากของบรรดามือที่สามซึ่งเข้าไปทำให้คนอื่นเลิกรากันด้วย

นี่ยังไม่นับรวมถึงเนื้อเพลงที่มีอิทธิพลรองลงมา แต่กลับน่าสนใจมากทีเดียว!

เพราะฉะนั้นนักเขียนเนื้อเพลงหลายคนถึงรู้สึกหดหู่ใจ

มีคำกล่าวไว้ไม่ใช่หรือ อย่าใช้ความสนใจของคุณ มาท้าทายวิชาเอกของฉัน

วิชาเอกของเซี่ยนอวี๋คือการประพันธ์เพลงแท้ๆ แต่ความสามารถในการประพันธ์เพลงที่เปิดเผยออกมาแทบทำให้นักเขียนเนื้อเพลงหลายคนตกงาน

ในขณะนั้น

สำหรับบรรดานักเขียนเนื้อเพลงแล้ว สิ่งที่ปลอบประโลมจิตใจได้ดีที่สุดเห็นจะอยู่ที่ ในบรรดานักประพันธ์เพลง คนที่เขียนเนื้อเพลงได้อย่างเซี่ยนอวี๋นั้นมีน้อยเหลือเกิน

และบนปู้ลั่ว บล็อก และแพล็ตฟอร์มใหญ่อื่นๆ

ด้วยความสนใจที่ทุกคนมีต่อเพลงวันนี้ปีหน้า เรื่องราวต่างๆ ค่อยๆ พัฒนาไปสู่การที่โลกภายนอกถกเถียงเกี่ยวกับเนื้อเพลงอื่นๆ ของเซี่ยนอวี๋

‘มาลองคิดดีๆ แล้ว เพลงพวกนี้ที่เซี่ยนอวี๋ปล่อยออกมา เนื้อเพลงดีทุกเพลงเลย อย่างเนื้อเพลงของติดไฟง่ายระเบิดง่าย ฉันชอบธีมเพลงมาก’

‘เจ๋งสุดๆ ที่ใช้เพลงเดียวแต่สองเนื้อเพลงแล้วเขียนออกมาเป็นบทสนทนา’

‘ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้แบบนี้ ไม่อย่างนั้นแค่ทำนองเดียวทุกคนก็คงเขียนเนื้อเพลงออกมาสักสามสี่แบบ แต่เซี่ยนอวี๋สามารถเปลี่ยนเนื้อเพลงและทำให้ทุกคนดาวน์โหลดเพลงสิบปีเวอร์ชันภาษาฉีอีกครั้งได้’

‘แต่เซี่ยนอวี๋คงไม่กล้าทำแบบนี้บ่อยหรอกล่ะมั้ง หนึ่งเพลงสองเนื้อ แถมดังทั้งสองเพลง แบบนี้หายากนะ’

‘คำประเมินของอาจารย์ทู่เอ้อร์ก็พิสูจน์แล้วว่าอาจารย์เซี่ยนอวี๋เป็นมืออาชีพขนาดไหน’

‘…’

โลกภายนอกพูดถึงฝีมือในการเขียนเนื้อเพลงของเซี่ยนอวี๋มานานแล้ว แต่ครั้งนี้คล้ายว่าจะปะทุขึ้นหลังจากที่บ่มมานาน

แต่หากถามว่าใครเศร้าสร้อยที่สุด อันที่จริงไม่ใช่บรรดานักเขียนเนื้อเพลง เพราะถึงอย่างไรเซี่ยนอวี๋มีแค่คนเดียว นักประพันธ์เพลงส่วนมากยังคงต้องการนักเขียนเนื้อเพลง

แต่คนที่เศร้าที่สุดเห็นจะเป็นเหล่าคนดนตรีที่เข้าร่วมประชันในฤดูกาลเดือนกันยายน ต้องมาเผชิญหน้ากับเพลงของเซี่ยนอวี๋ถึงสองเพลง!

ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ยอดดาวน์โหลดเพลงวันนี้ปีหน้าก็พุ่งทะลุหนึ่งล้าน แซงโค้งขึ้นไปติดสิบอันดับแรกเป็นที่เรียบร้อย!

และเมื่อเวลาล่วงเลยเข้าสู่วันที่สอง

นักประพันธ์เพลงนิรนามซึ่งอยู่ในอันดับห้าตื่นนอนด้วยความสดใส รู้สึกว่าเมื่อคืนหลับสนิท นับว่าพักผ่อนเต็มอิ่มมากทีเดียว

ถึงแม้ผลงานของเขาจะอยู่ในอันดับที่ห้า แต่จากที่บริษัทคาดการณ์ อันที่จริงก็เพียงติดสิบอันดับแรก

อันดับที่ห้าก็ดีมากแล้ว

แต่เมื่อเขาดูชาร์ตเพลงอีกครั้ง สีหน้าก็พลันนิ่งค้างไป

ทำไมฉันลงไปอยู่อันดับหกแล้วล่ะ

เขาอึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะพยายามหาสาเหตุด้วยความลนลาน ผ่านไปหลายวินาทีความจริงก็เปิดเผย

เป็นเพราะเพลงสิบปีเวอร์ชันภาษาฉีของเซี่ยนอวี๋ปล่อยออกมานั่นเอง

เพลงนี้เปลี่ยนเนื้อเพลง และเปลี่ยนชื่อเป็นวันนี้ปีหน้า ถึงกับทะยานขึ้นไปติดอันดับที่สี่ ดันให้เพลงของตนและเพลงอันดับสี่เดิมหล่นลงมา!

“เขาคนเดียวติดสองในห้าอันดับแรกเชียวเหรอ? คนฟังสมองน้อยแต่เงินเยอะหรือไงนะ!”

นักประพันธ์เพลงไม่ทราบนามคนนี้รู้สึกราวกับว่าเซี่ยนอวี๋กำลังขับรถบดถนนและทับคนกลุ่มหนึ่งตาย เซี่ยนอวี๋รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงถอยรถบดถนนกลับไปทางเดิม…

เขาแทบพ่นคำผรุสวาทยกใหญ่ ทว่ามือกลับยังไม่หยุด รีบกดเปิดฟังเพลงในทันที

เมื่อฟังจบ เขาก็หลับตาลง

เพลงนี้…ช่างเถอะ คนที่บ้าคงจะเป็นตนมากกว่า

จากนั้นก็มองไปยังทุกเพลงซึ่งอยู่ด้านล่างเพลงสิบปีด้วยสายตามุ่งร้าย นักประพันธ์เพลงไม่ทราบนามท่านนี้ก็เผยรอยยิ้มได้ใจ

เมื่อทั้งรังคว่ำ มีหรือที่ไข่ทุกใบจะปลอดภัย

ไป่ตู้อธิบายว่า ประโยคนี้มักใช้เปรียบเปรยสถานการณ์ยามที่ประสบเหตุพร้อมกัน ย่อมไม่สามารถเก็บรักษาสิ่งที่มีทั้งหมดหรือบางส่วนไว้ได้

คำอธิบายภาษาชาวบ้านคือ ก็ตายกันหมดนี่แหละ

และคนที่เกิดความรู้สึกคล้ายคลึงกัน ยังมีคนดนตรีซึ่งปล่อยผลงานในช่วงเดียวกันอีกหลายคน

ส่วนหลิงเฟิงซึ่งอยู่ในอันดับสองนั้น เป็นเพราะเมื่อคืนหลังจากฟังเพลงจบก็เตรียมใจไว้แล้ว วันต่อมาเมื่อเปิดดูผล จึงไม่ได้รู้สึกเศร้าหรือหดหู่มากนัก เพียงแต่เมื่อคืนเจออากาศเย็นมากไปสักหน่อย วันนี้จึงไม่สบายขึ้นมา

ควรเข้าใจแต่แรกแล้ว ว่านี่คือเซี่ยนอวี๋

ปล่อยผลงานกลางคันแล้วอย่างไร?

เพลงเดียวมีสองเนื้อเพลงแล้วอย่างไร?

ก็ยังฆ่าไม่เลี้ยงเหมือนเดิม

จนกระทั่งวันที่ 14 กันยายน เพลงวันนี้ปีหน้าก็ขึ้นไปรั้งอันดับที่สองบนการจัดอันดับด้วยยอดดาวน์โหลดหกล้านครั้ง ขณะเดียวกันเพลงทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกันก็หล่นลงมาหนึ่งอันดับ ในที่สุดการนองเลือดก็เป็นอันสิ้นสุดลง

หลังจากการนองเลือดในครั้งนี้ อาการของโรคกลัวปลาในอุตสาหกรรมดนตรีก็ทวีความรุนแรงขึ้น

แน่นอน

ในสตาร์ไลท์ ก็ย่อมมีเสียงแสดงความประหลาดใจจากนักประพันธ์เพลงชั้นอื่นๆ

“แบบนี้ก็ได้เหรอ?”

“ใช้เพลงเพลงเดียวแต่สองเนื้อ แถมยังได้สองอันดับแรก?”

“ใครยังกล้าพูดอีกว่าซุนเย่าหั่วเข็นไม่ขึ้น”

“ซุนเย่าหั่วยังฝีมือไม่ธรรมดา แต่ต่อให้เขาเป็นหมู เซี่ยนอวี๋ก็พาเขาติดปีกบินได้!”

“จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้ ซุนเย่าหั่วร้องภาษาฉีได้ก็เกินคาดฉันอยู่เหมือนกันนะ คนที่ร้องภาษาฉีได้ในบริษัทมีอยู่ไม่มาก”

“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าซุนเย่าหั่วมีแววจะได้เป็นนักร้องแถวหน้า”

“ฤดูกาลเดียว ควบทั้งอันดับหนึ่งกับสอง แค่นี้ก็มากพอให้ซุนเย่าหั่วคุยโม้ไปไม่รู้กี่ปีแล้วแก!”

“ก่อนหน้านี้ยังเป็นห่วงอยู่ว่าชั้นเก้าจะทำภารกิจไม่สำเร็จ ตอนนี้เป็นห่วงตัวเองดีกว่า น้ำตาแห่งความอิจฉามันไหลมาจากจุดไหน”

“…”

คงจะมีเพียงผู้จัดการอย่างจินมู่ซึ่งเข้าใจหลินเยวียนดีที่สุดที่ไม่รู้สึกประหลาดใจกับเรื่องนี้ เขาผุดยิ้มเมื่อเห็นเพลงในอันดับหนึ่งและอันดับสอง

ไม่มีการคืนสังเวียนแบบใดที่จะดีไปกว่านี้แล้ว

สิ่งที่เรียกว่าจักรพรรดิคืนสังเวียน ถ้าหากไม่กล้าปีนขึ้นบนกองซากศพ จะครองโลกได้อย่างไร

…………………………………………………..