เฉินฮวนฮวนรีบลุกขึ้น จับข้อมือของหลิวหลี่ถงไว้ แล้วดึงเธอลุกขึ้น
“เธอวางใจได้ ฉันไม่มีทางไปฟ้องหรอก เหตุการณ์ตอนนั้นเธอเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม?” อันที่จริงเฉินฮวนฮวนค่อนข้างประหลาดใจอยู่
ตามที่หลิวหลี่ถงพูดเมื่อกี้ เฟิงหานชวนน่าจะไม่ชอบหลานสาวของหลินเจิน ไม่อย่างงั้นคงไม่ใช้ให้คนไปไล่พวกเธอ
ถึงแม้เธอรู้สึกว่าเฟิงหานชวนทำแบบนี้ ไม่ค่อยไว้หน้าคุณนายรอง แต่ก็รู้สึกอีกว่าเฟิงหานชวนที่เป็นแบบนี้ ยิ่งมีเสน่ห์มากกว่าเดิม
ในเมื่อเธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ ไม่ได้ดีกับผู้หญิงทุกคนขนาดนั้น
คิดได้ถึงตรงนี้ เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกดีใจ
“อันที่จริงตอนนั้นก็ไม่มีอะไร คุณชายสามเป็นคนเย็นชามาแต่ไหนแต่ไร ถึงแม้จะเป็นนายท่าน ในตอนที่ไม่ควรไว้หน้า ก็ไม่มีทางไว้หน้าสักนิด” หลิวหลี่ถงได้ยินมาจากคนใช้คนอื่น
เธอมาที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงได้ไม่นาน แค่ประมาณหนึ่งปี นิสัยของเฟิงหานชวนก็เป็นคนใช้ที่อยู่มานานของตระกูลเฟิงบอกกับเธอ
“ดูออกอยู่” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าเห็นด้วย เพราะเธอเห็นกับตาตัวเองว่าเฟิงหานชวนโมโหใส่นายท่านเฟิงยังไง
เขาไม่ไว้หน้าสักนิดเลยจริง ๆ สถานะของทั้งสองเหมือนกับสลับกันยังไงยังงั้น
“คุณนายสามก็คิดแบบนี้เหรอคะ?” หลิวหลี่ถงลองเชิงปฏิกิริยาของเฉินฮวนฮวน
“ใช่ ฉันรู้สึกว่าเขาเย็นชากับคนอื่นจริง ๆ เข้ากับคนอื่นได้ยาก” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าอีกครั้ง
ได้ยินเฉินฮวนฮวนพูดแบบนี้ หลิวหลี่ถงสายตาเคร่งขรึม เป็นไปอย่างที่คิด อันที่จริงคุณชายสามก็ไม่ได้ดีกับเฉินฮวนฮวนเป็นพิเศษสินะ?
ก็แค่ภรรยาที่คลุมถุงชน ลองดูใจกันแค่นั้นแหละ ไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน
แต่ทว่า หลิวหลี่ถงได้ใจแค่ไม่กี่วินาที ก็เห็นเฉินฮวนฮวนยิ้มมุมปาก สีหน้าเผยให้เห็นความเขินอาย
“คุณนายสาม คุณยิ้มอยู่เหรอคะ? ทำไมถึงยิ้มล่ะ?” หลิวหลี่ถงถือโอกาสนี้ รีบถามขึ้น
“หือ? ฉันยิ้มเหรอ? ฉัน…” เฉินฮวนฮวนเกาหัวอย่างเขินอาย แล้วปฏิเสธ “ไม่ได้ยิ้มสักหน่อย…
“คุณนายสาม กำลังคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของคุณชายสามอยู่ใช่ไหมคะ? จู่ ๆ ก็ยิ้มเขินอายแบบนั้น หน้าแดงแล้วด้วย!” หลิวหลี่ถงเห็นเฉินฮวนฮวนหน้าแดงแล้วจริง ๆ
เฉินฮวนฮวนเห็นว่าข่มอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จึงพูดขึ้น “ไม่มีอะไรจริง ๆ ก็แค่ดีใจ ก็เลยยิ้มออกมา”
“ดีใจ? ทำไมถึงดีใจคะ?” หลิวหลี่ถงใจกระตุก แล้วถามต่อ
“อันที่จริง…เฟิงหานชวนเขาเย็นชามากกับคนอื่น แต่กับฉันเขาไม่เย็นชาเลย ดังนั้น…ก็เลยดีใจ…” เฉินฮวนฮวนพูดอย่างเขินอาย แล้วรีบถามขึ้น “ตอนนี้แต่งหน้าเสร็จแล้วยัง?”
เห็นว่าหลินอวี่หยางรอเธออยู่ที่ห้องรับแขก เธอเกรงใจที่ให้หลินอวี่หยางรอนานเกิน
“อ๊ะ ใกล้แล้วค่ะ ใกล้แล้วค่ะ ยังขาดแค่อายไลเนอร์” หลิวหลี่ถงหยิบปากกาอายไลเนอร์วาดให้เฉินฮวนฮวนไปด้วย ถามไปด้วย “งั้นคุณนายสามก็มีความสุขมากจริง ๆ ฉันยังไม่เคยเห็นคุณชายสามดีกับใครขนาดนี้เลยค่ะ”
หลิวหลี่ถงตั้งใจขยับมือช้า ๆ เพื่อที่จะได้คุยกับเฉินฮวนฮวนนานหน่อย เธออยากจะฟังเรื่องราวจากเฉินฮวนฮวน
น้ำเสียงที่เธอพูด ดูภายนอกคือกำลังยกยอเฉินฮวนฮวน แต่อันที่จริงแล้วกำลังบอกเฉินฮวนฮวนเป็นนัย ๆ ว่านิสัยของคุณชายสามไม่ค่อยดีต่อคนอื่น
แต่เฉินฮวนฮวนได้ยินคำพูดของหลิวหลี่ถงกลับทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเฟิงหานชวนมากขึ้น เฟิงหานชวนไม่โกหกเธอ ก่อนหน้าเธอ เขาไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นเลย
“อื้อ…”เฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่าควรจะตอบหลิวหลี่ถงยังไง ทำได้แค่ตอบรับไป
เห็นเฉินฮวนฮวนไม่ได้โต้แย้งอะไร แถมยังตอบรับ หลิวหลี่ถงรู้สึกไม่ค่อยดี แต่กลับพูดอะไรไม่ได้ ในเมื่อเป็นเธอเองที่ยกยอเฉินฮวนฮวน
เห็นได้ชัดว่าเฉินฮวนฮวนไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเธอ ในทางกลับกันกลับคิดว่าเธอพูดว่าคุณชายสามดีกับเฉินฮวนฮวนจริง ๆ
“ฉันหวังว่าต่อไปคุณนายสามจะมีความสุขแบบนี้ตลอด ในเมื่อคุณนายสามเข้ากับคนอื่นได้ดีขนาดนี้ ถ้าหากคุณนายสามอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงตลอด งั้นฉันก็สามารถพูดคุยกับคุณนายสามได้ ฉันคงจะดีใจมาก” หลิวหลี่ถงวางปากกาอายไลเนอร์ลง มือค้ำโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วหันหน้ามาพูดกับเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนได้ยินเพียงแค่ครึ่งแรกและครึ่งหลังของประโยค แล้วรีบพูดขึ้นอย่างเกรงใจ “หลี่ถง ขอบคุณเธอมาก ได้คุยกับเธอฉันก็ดีใจ”
แต่ว่ารอเธอพูดจบ จู่ ๆ ก็นึกถึงประโยคที่หลิวหลี่ถงพูดว่าถ้าเธออยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงตลอด
หลิวหลี่ถงกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่กลับถูกเฉินฮวนฮวนพูดดักไว้ “หลี่ถง ต่อไปฉันอาจจะไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์แล้ว”
“อะไรนะคะ? คุณนายสาม คุณจะไปไหนคะ? นี่มันเรื่องอะไรกันคะ?” หลิวหลี่ถงถามอย่างรีบร้อน “หรือว่าคุณชายสามพูดอะไรกับคุณ?”
เธอรู้สึกว่าคุณชายสามไม่มีทางให้เด็กน้อยมาเป็นคุณนายสาม หรือว่าทั้งสองเซ็นสัญญาอะไรกัน คล้ายการแต่งงานตามสัญญา เพื่อทำให้นายท่านดีใจ?
จากนั้น รอให้ถึงกำหนดสัญญา เฉินฮวนฮวนก็เสร็จงานไป?
หลิวหลี่ถงคิดแบบนี้ แต่คำตอบของเฉินฮวนฮวนกลับทำให้เธออึ้งตะลึง
“ฉันกับเฟิงหานชวนจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอก อาจจะไม่อยู่ที่คฤหาสน์เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้” เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าปิดบัง จึงพูดออกมา
“อ๊ะ? ทำไมถึงกะทันหันแบบนี้? คุณนายสาม ทำไมจู่ ๆ พวกคุณจะย้ายออกไปคะ?” หลิวหลี่ถงตอบสนอง น้ำเสียงร้อนรนเป็นอย่างมาก
เธอคิดในใจ ถ้าหากคุณชายสามกับเฉินฮวนฮวนไปใช้ชีวิตกันสองต่อสอง งั้นความสัมพันธ์ก็ต้องลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม แล้วตัวเองก็ไม่ได้เจอคุณชายสามแล้ว ควรจะทำยังไงดี?
“ก่อนที่ฉันจะไปฝึกอบรม ฉันคุยกับเฟิงหานชวนไว้แล้ว นายท่านก็เห็นด้วย” เฉินฮวนฮวนยิ้มเก้กัง แล้วพูดต่อ “อันที่จริง เหตุผลเป็นเพราะเธอเลยหลี่ถง”
“เป็นเพราะฉัน…ฉัน?” หลิวหลี่ถงถลึงตาโต ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“อันที่จริงก่อนหน้านี้เฟิงหานชวนมีแผนจะย้ายออกไปอยู่แล้ว เดิมทีฉันไม่เห็นด้วย แต่ตอนนั้นเธอพูดกับฉัน ว่าเสียงของฉัน…เอ่อ ก็คือเรื่องน่าอายเรื่องนั้น อันที่จริงเป็นเสียงของนานา ดังนั้นฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่ ก็เลย…” เฉินฮวนฮวนพูดอย่างจนปัญญา
หลิวหลี่ถงตะลึงงัน ที่แท้ก็เป็นเพราะเธอ
เดิมทีเธออยากจะใช้เรื่องนั้นสอดแนมความสัมพันธ์ของเฉินฮวนฮวนกับคุณชายสาม แต่คิดไม่ถึงว่าเป็นเพราะเรื่องนั้น ทำให้เฉินฮวนฮวนกับคุณชายสามย้ายออกจากคฤหาสน์
หลิวหลี่ถงเสียใจเป็นอย่างมาก เสียใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา
เฉินฮวนฮวนลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ ยื่นมือออกไปตบบ่าหลิวหลี่ถง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ยังไงนายท่านก็ยังอยู่ที่นี่ ฉันกับเฟิงหานชวนจะกลับมาอยู่ที่นี่บ้างเป็นครั้งคราว”
เธอคิดว่าที่หลิวหลี่ถงดูเสียใจมาก เป็นเพราะไม่ได้พูดคุยกับตัวเองแล้ว ดังนั้นถึงได้ปลอบใจแบบนี้
“ค่ะ” หลิวหลี่ถงขวัญหนีดีฝ่อตอบกลับ ไร้สีหน้าใดใดทั้งสิ้น
เมื่อคุณชายสามพาเฉินฮวนฮวนไปอยู่ด้านนอก ต้องกลับมาที่นี่ไม่บ่อยแน่ ๆ งั้นเธอจะมีจุดมุ่งหวังอะไรอีกล่ะ?
อีกอย่าง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะตัวเธอเอง?
ตอนนี้หลิวหลี่ถงเสียใจเป็นอย่างมาก เสียใจมากจริง ๆ
“ขอบคุณเธอนะ หลี่ถง การแต่งหน้านี้ฉันชอบมาก เพื่อนฉันรอฉันอยู่ งั้นฉันไปก่อนนะ” เฉินฮวนฮวนขอบคุณอย่างลึกซึ้ง แล้วเดินไปทางประตูห้อง
ในตอนที่เธอเปิดประตูนั้น จู่ ๆ หลิวหลี่ถงก็จับเธอไว้ แถมยังคุกเข่าลงข้างตัวเธอ
เฉินฮวนฮวนตกใจเป็นอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าหลิวหลี่ถงทำอะไร จึงรีบถามขึ้น “หลี่ถง รีบลุกขึ้น นี่เธอทำอะไร?”
ก่อนหน้านี้ที่หลี่ถงคุกเข่ากับเธอ เพราะขอร้องเธอไม่ให้บอกเรื่องหลานสาวของหลินเจินกับเฟิงหานชวน ไม่อยากถูกเฟิงหานชวนลงโทษ แต่ตอนนี้จู่ ๆ หลิวหลี่ถงคุกเข่าลง ในหัวของเฉินฮวนฮวนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“คุณนายสาม พวกคุณออกไปอยู่ข้างนอก จะต้องพาคนใช้ไปด้วยแน่ พาฉันไปด้วยเถอะค่ะ?” หลิวหลี่ถงยื่นมือออกไปจับแขนเฉินฮวนฮวนไว้แน่น แล้วพูดอย่างกระตือรือร้น
เฉินฮวนฮวนอึ้งอยู่พักหนึ่ง เธอยังไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้
“นี่…เธอคือคนใช้ของตระกูลเฟิง น่าจะไม่ค่อยเหมาะสมนะ” เฉินฮวนฮวนค่อนข้างลำบากใจ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถตัดสินใจเองได้”
“ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินว่าคนใช้ของคุณชายหมิงและคุณชายรอง ก็เลือกคนใช้ที่ผ่านการฝึกมาดีแล้วของตระกูลเฟิง เมื่อถึงคุณชายสามก็ต้องใช้กฎเกณฑ์เดียวกัน ดังนั้นพาฉันไปด้วยได้ไหมคะ?
“หลี่ถง ฉัน…” เฉินฮวนฮวนลำบากใจมากจริงๆ จึงพูดได้แค่ “ฉันลองเจรจากับเฟิงหานชวนดู”
“จริงเหรอคะ?” หลิวหลี่ถงตื่นเต้นจนลุกขึ้นยืน แล้วเอ่ยปากอย่างดีใจ “คุณนายสาม ฉันจะทำงานเป็นอย่างดีค่ะ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ”
เห็นหลิวหลี่ถงกระตือรือร้นแบบนี้ แถมยังเป็นมิตรอย่างมาก เวลาทำงานจะต้องคล่องแคล่วมากแน่นอน ถ้าหากเธอไปเป็นคนรับใช้ เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าไม่ลองดูก็ไม่รู้
เพียงแต่เธอเพิ่งแต่งงานเข้าตระกูลเฟิง เกรงใจที่จะขออะไรจริง ๆ ทำได้เพียงลองเจรจาเรื่องนี้กับเฟิงหานชวนดู ลองถามความคิดเห็นของเฟิงหานชวนดู
ในตอนนี้เอง เสี่ยวลี่เดินมา ห้องของเธออยู่ตรงข้ามห้องของหลิวหลี่ถงพอดี เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวน เสี่ยวลี่รีบทักทายขึ้น “คุณนายสาม”
“สวัสดี” เฉินฮวนฮวนยิ้มกับเสี่ยวลี่แล้วโบกมือทักทาย
“คุณนายสาม ในเมื่อเพื่อนของคุณรออยู่ งั้นคุณรีบไปเถอะค่ะ ฉันไม่รบกวนเวลาของคุณแล้วค่ะ” หลิวหลี่ถงรีบพูดกับเฉินฮวนฮวน แถมยื่นมือออกไปผลักแขนของเธอ
เฉินฮวนฮวนคิดได้ถึงหลินอวี่หยาง จึงยิ้มกับเสี่ยวลี่ แล้วเดินออกไปจากพื้นที่ของคนใช้
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนเดินไปแล้ว เสี่ยวลี่เหลือบมองหลิวหลี่ถงอย่างมาเลศนัย แล้วถามขึ้นด้วยภาษาจีนกลางที่ไม่ค่อยได้มาตรฐาน “เธอพาคุณนายสามมาที่ห้องของเธอทำไม? เธอพูดอะไรมั่ว ๆ กับคุณนายสามใช่ไหม? พูดเรื่องที่เมื่อคืนคุณชายสามมาที่ห้องของเธอใช่ไหม?”
“เสี่ยวลี่ เธอพูดมั่วอะไร” หลิวหลี่ถงเอามือปิดปาก จากนั้นก็รีบดึงเสี่ยวลี่เข้าห้องของตัวเอง แล้วปิดประตูห้องลง
“หลิวหลี่ถง ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้? คุณชายมีคุณนายสามอยู่แล้ว ทำไมเธอถึงทำเรื่องแบบนั้นกับคุณชายสาม? แล้วตอนนี้ก็ยังตีสนิทกับคุณนายสาม? เธอเป็นแค่คนใช้ เธอทำผิดศีลธรรมแบบนี้ไม่ได้” เสี่ยวลี่ท่าทางโมโหเนื่องจากความไม่ถูกต้อง พูดกับหลิวหลี่ถงฉอด ๆ