บทที่ 223 พาฉันไปด้วยได้ไหม

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

เฉินฮวนฮวนรีบลุกขึ้น จับข้อมือของหลิวหลี่ถงไว้ แล้วดึงเธอลุกขึ้น

“เธอวางใจได้ ฉันไม่มีทางไปฟ้องหรอก เหตุการณ์ตอนนั้นเธอเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม?” อันที่จริงเฉินฮวนฮวนค่อนข้างประหลาดใจอยู่

ตามที่หลิวหลี่ถงพูดเมื่อกี้ เฟิงหานชวนน่าจะไม่ชอบหลานสาวของหลินเจิน ไม่อย่างงั้นคงไม่ใช้ให้คนไปไล่พวกเธอ

ถึงแม้เธอรู้สึกว่าเฟิงหานชวนทำแบบนี้ ไม่ค่อยไว้หน้าคุณนายรอง แต่ก็รู้สึกอีกว่าเฟิงหานชวนที่เป็นแบบนี้ ยิ่งมีเสน่ห์มากกว่าเดิม

ในเมื่อเธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ ไม่ได้ดีกับผู้หญิงทุกคนขนาดนั้น

คิดได้ถึงตรงนี้ เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกดีใจ

“อันที่จริงตอนนั้นก็ไม่มีอะไร คุณชายสามเป็นคนเย็นชามาแต่ไหนแต่ไร ถึงแม้จะเป็นนายท่าน ในตอนที่ไม่ควรไว้หน้า ก็ไม่มีทางไว้หน้าสักนิด” หลิวหลี่ถงได้ยินมาจากคนใช้คนอื่น

เธอมาที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงได้ไม่นาน แค่ประมาณหนึ่งปี นิสัยของเฟิงหานชวนก็เป็นคนใช้ที่อยู่มานานของตระกูลเฟิงบอกกับเธอ

“ดูออกอยู่” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าเห็นด้วย เพราะเธอเห็นกับตาตัวเองว่าเฟิงหานชวนโมโหใส่นายท่านเฟิงยังไง

เขาไม่ไว้หน้าสักนิดเลยจริง ๆ สถานะของทั้งสองเหมือนกับสลับกันยังไงยังงั้น

“คุณนายสามก็คิดแบบนี้เหรอคะ?” หลิวหลี่ถงลองเชิงปฏิกิริยาของเฉินฮวนฮวน

“ใช่ ฉันรู้สึกว่าเขาเย็นชากับคนอื่นจริง ๆ เข้ากับคนอื่นได้ยาก” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าอีกครั้ง

ได้ยินเฉินฮวนฮวนพูดแบบนี้ หลิวหลี่ถงสายตาเคร่งขรึม เป็นไปอย่างที่คิด อันที่จริงคุณชายสามก็ไม่ได้ดีกับเฉินฮวนฮวนเป็นพิเศษสินะ?

ก็แค่ภรรยาที่คลุมถุงชน ลองดูใจกันแค่นั้นแหละ ไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน

แต่ทว่า หลิวหลี่ถงได้ใจแค่ไม่กี่วินาที ก็เห็นเฉินฮวนฮวนยิ้มมุมปาก สีหน้าเผยให้เห็นความเขินอาย

“คุณนายสาม คุณยิ้มอยู่เหรอคะ? ทำไมถึงยิ้มล่ะ?” หลิวหลี่ถงถือโอกาสนี้ รีบถามขึ้น

“หือ? ฉันยิ้มเหรอ? ฉัน…” เฉินฮวนฮวนเกาหัวอย่างเขินอาย แล้วปฏิเสธ “ไม่ได้ยิ้มสักหน่อย…

“คุณนายสาม กำลังคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของคุณชายสามอยู่ใช่ไหมคะ? จู่ ๆ ก็ยิ้มเขินอายแบบนั้น หน้าแดงแล้วด้วย!” หลิวหลี่ถงเห็นเฉินฮวนฮวนหน้าแดงแล้วจริง ๆ

เฉินฮวนฮวนเห็นว่าข่มอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จึงพูดขึ้น “ไม่มีอะไรจริง ๆ ก็แค่ดีใจ ก็เลยยิ้มออกมา”

“ดีใจ? ทำไมถึงดีใจคะ?” หลิวหลี่ถงใจกระตุก แล้วถามต่อ

“อันที่จริง…เฟิงหานชวนเขาเย็นชามากกับคนอื่น แต่กับฉันเขาไม่เย็นชาเลย ดังนั้น…ก็เลยดีใจ…” เฉินฮวนฮวนพูดอย่างเขินอาย แล้วรีบถามขึ้น “ตอนนี้แต่งหน้าเสร็จแล้วยัง?”

เห็นว่าหลินอวี่หยางรอเธออยู่ที่ห้องรับแขก เธอเกรงใจที่ให้หลินอวี่หยางรอนานเกิน

“อ๊ะ ใกล้แล้วค่ะ ใกล้แล้วค่ะ ยังขาดแค่อายไลเนอร์” หลิวหลี่ถงหยิบปากกาอายไลเนอร์วาดให้เฉินฮวนฮวนไปด้วย ถามไปด้วย “งั้นคุณนายสามก็มีความสุขมากจริง ๆ ฉันยังไม่เคยเห็นคุณชายสามดีกับใครขนาดนี้เลยค่ะ”

หลิวหลี่ถงตั้งใจขยับมือช้า ๆ เพื่อที่จะได้คุยกับเฉินฮวนฮวนนานหน่อย เธออยากจะฟังเรื่องราวจากเฉินฮวนฮวน

น้ำเสียงที่เธอพูด ดูภายนอกคือกำลังยกยอเฉินฮวนฮวน แต่อันที่จริงแล้วกำลังบอกเฉินฮวนฮวนเป็นนัย ๆ ว่านิสัยของคุณชายสามไม่ค่อยดีต่อคนอื่น

แต่เฉินฮวนฮวนได้ยินคำพูดของหลิวหลี่ถงกลับทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเฟิงหานชวนมากขึ้น เฟิงหานชวนไม่โกหกเธอ ก่อนหน้าเธอ เขาไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นเลย

“อื้อ…”เฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่าควรจะตอบหลิวหลี่ถงยังไง ทำได้แค่ตอบรับไป

เห็นเฉินฮวนฮวนไม่ได้โต้แย้งอะไร แถมยังตอบรับ หลิวหลี่ถงรู้สึกไม่ค่อยดี แต่กลับพูดอะไรไม่ได้ ในเมื่อเป็นเธอเองที่ยกยอเฉินฮวนฮวน

เห็นได้ชัดว่าเฉินฮวนฮวนไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเธอ ในทางกลับกันกลับคิดว่าเธอพูดว่าคุณชายสามดีกับเฉินฮวนฮวนจริง ๆ

“ฉันหวังว่าต่อไปคุณนายสามจะมีความสุขแบบนี้ตลอด ในเมื่อคุณนายสามเข้ากับคนอื่นได้ดีขนาดนี้ ถ้าหากคุณนายสามอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงตลอด งั้นฉันก็สามารถพูดคุยกับคุณนายสามได้ ฉันคงจะดีใจมาก” หลิวหลี่ถงวางปากกาอายไลเนอร์ลง มือค้ำโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วหันหน้ามาพูดกับเฉินฮวนฮวน

เฉินฮวนฮวนได้ยินเพียงแค่ครึ่งแรกและครึ่งหลังของประโยค แล้วรีบพูดขึ้นอย่างเกรงใจ “หลี่ถง ขอบคุณเธอมาก ได้คุยกับเธอฉันก็ดีใจ”

แต่ว่ารอเธอพูดจบ จู่ ๆ ก็นึกถึงประโยคที่หลิวหลี่ถงพูดว่าถ้าเธออยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงตลอด

หลิวหลี่ถงกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่กลับถูกเฉินฮวนฮวนพูดดักไว้ “หลี่ถง ต่อไปฉันอาจจะไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์แล้ว”

“อะไรนะคะ? คุณนายสาม คุณจะไปไหนคะ? นี่มันเรื่องอะไรกันคะ?” หลิวหลี่ถงถามอย่างรีบร้อน “หรือว่าคุณชายสามพูดอะไรกับคุณ?”

เธอรู้สึกว่าคุณชายสามไม่มีทางให้เด็กน้อยมาเป็นคุณนายสาม หรือว่าทั้งสองเซ็นสัญญาอะไรกัน คล้ายการแต่งงานตามสัญญา เพื่อทำให้นายท่านดีใจ?

จากนั้น รอให้ถึงกำหนดสัญญา เฉินฮวนฮวนก็เสร็จงานไป?

หลิวหลี่ถงคิดแบบนี้ แต่คำตอบของเฉินฮวนฮวนกลับทำให้เธออึ้งตะลึง

“ฉันกับเฟิงหานชวนจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอก อาจจะไม่อยู่ที่คฤหาสน์เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้” เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าปิดบัง จึงพูดออกมา

“อ๊ะ? ทำไมถึงกะทันหันแบบนี้? คุณนายสาม ทำไมจู่ ๆ พวกคุณจะย้ายออกไปคะ?” หลิวหลี่ถงตอบสนอง น้ำเสียงร้อนรนเป็นอย่างมาก

เธอคิดในใจ ถ้าหากคุณชายสามกับเฉินฮวนฮวนไปใช้ชีวิตกันสองต่อสอง งั้นความสัมพันธ์ก็ต้องลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม แล้วตัวเองก็ไม่ได้เจอคุณชายสามแล้ว ควรจะทำยังไงดี?

“ก่อนที่ฉันจะไปฝึกอบรม ฉันคุยกับเฟิงหานชวนไว้แล้ว นายท่านก็เห็นด้วย” เฉินฮวนฮวนยิ้มเก้กัง แล้วพูดต่อ “อันที่จริง เหตุผลเป็นเพราะเธอเลยหลี่ถง”

“เป็นเพราะฉัน…ฉัน?” หลิวหลี่ถงถลึงตาโต ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“อันที่จริงก่อนหน้านี้เฟิงหานชวนมีแผนจะย้ายออกไปอยู่แล้ว เดิมทีฉันไม่เห็นด้วย แต่ตอนนั้นเธอพูดกับฉัน ว่าเสียงของฉัน…เอ่อ ก็คือเรื่องน่าอายเรื่องนั้น อันที่จริงเป็นเสียงของนานา ดังนั้นฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่ ก็เลย…” เฉินฮวนฮวนพูดอย่างจนปัญญา

หลิวหลี่ถงตะลึงงัน ที่แท้ก็เป็นเพราะเธอ

เดิมทีเธออยากจะใช้เรื่องนั้นสอดแนมความสัมพันธ์ของเฉินฮวนฮวนกับคุณชายสาม แต่คิดไม่ถึงว่าเป็นเพราะเรื่องนั้น ทำให้เฉินฮวนฮวนกับคุณชายสามย้ายออกจากคฤหาสน์

หลิวหลี่ถงเสียใจเป็นอย่างมาก เสียใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา

เฉินฮวนฮวนลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ ยื่นมือออกไปตบบ่าหลิวหลี่ถง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ยังไงนายท่านก็ยังอยู่ที่นี่ ฉันกับเฟิงหานชวนจะกลับมาอยู่ที่นี่บ้างเป็นครั้งคราว”

เธอคิดว่าที่หลิวหลี่ถงดูเสียใจมาก เป็นเพราะไม่ได้พูดคุยกับตัวเองแล้ว ดังนั้นถึงได้ปลอบใจแบบนี้

“ค่ะ” หลิวหลี่ถงขวัญหนีดีฝ่อตอบกลับ ไร้สีหน้าใดใดทั้งสิ้น

เมื่อคุณชายสามพาเฉินฮวนฮวนไปอยู่ด้านนอก ต้องกลับมาที่นี่ไม่บ่อยแน่ ๆ งั้นเธอจะมีจุดมุ่งหวังอะไรอีกล่ะ?

อีกอย่าง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะตัวเธอเอง?

ตอนนี้หลิวหลี่ถงเสียใจเป็นอย่างมาก เสียใจมากจริง ๆ

“ขอบคุณเธอนะ หลี่ถง การแต่งหน้านี้ฉันชอบมาก เพื่อนฉันรอฉันอยู่ งั้นฉันไปก่อนนะ” เฉินฮวนฮวนขอบคุณอย่างลึกซึ้ง แล้วเดินไปทางประตูห้อง

ในตอนที่เธอเปิดประตูนั้น จู่ ๆ หลิวหลี่ถงก็จับเธอไว้ แถมยังคุกเข่าลงข้างตัวเธอ

เฉินฮวนฮวนตกใจเป็นอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าหลิวหลี่ถงทำอะไร จึงรีบถามขึ้น “หลี่ถง รีบลุกขึ้น นี่เธอทำอะไร?”

ก่อนหน้านี้ที่หลี่ถงคุกเข่ากับเธอ เพราะขอร้องเธอไม่ให้บอกเรื่องหลานสาวของหลินเจินกับเฟิงหานชวน ไม่อยากถูกเฟิงหานชวนลงโทษ แต่ตอนนี้จู่ ๆ หลิวหลี่ถงคุกเข่าลง ในหัวของเฉินฮวนฮวนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

“คุณนายสาม พวกคุณออกไปอยู่ข้างนอก จะต้องพาคนใช้ไปด้วยแน่ พาฉันไปด้วยเถอะค่ะ?” หลิวหลี่ถงยื่นมือออกไปจับแขนเฉินฮวนฮวนไว้แน่น แล้วพูดอย่างกระตือรือร้น

เฉินฮวนฮวนอึ้งอยู่พักหนึ่ง เธอยังไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้

“นี่…เธอคือคนใช้ของตระกูลเฟิง น่าจะไม่ค่อยเหมาะสมนะ” เฉินฮวนฮวนค่อนข้างลำบากใจ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถตัดสินใจเองได้”

“ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินว่าคนใช้ของคุณชายหมิงและคุณชายรอง ก็เลือกคนใช้ที่ผ่านการฝึกมาดีแล้วของตระกูลเฟิง เมื่อถึงคุณชายสามก็ต้องใช้กฎเกณฑ์เดียวกัน ดังนั้นพาฉันไปด้วยได้ไหมคะ?

“หลี่ถง ฉัน…” เฉินฮวนฮวนลำบากใจมากจริงๆ จึงพูดได้แค่ “ฉันลองเจรจากับเฟิงหานชวนดู”

“จริงเหรอคะ?” หลิวหลี่ถงตื่นเต้นจนลุกขึ้นยืน แล้วเอ่ยปากอย่างดีใจ “คุณนายสาม ฉันจะทำงานเป็นอย่างดีค่ะ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ”

เห็นหลิวหลี่ถงกระตือรือร้นแบบนี้ แถมยังเป็นมิตรอย่างมาก เวลาทำงานจะต้องคล่องแคล่วมากแน่นอน ถ้าหากเธอไปเป็นคนรับใช้ เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าไม่ลองดูก็ไม่รู้

เพียงแต่เธอเพิ่งแต่งงานเข้าตระกูลเฟิง เกรงใจที่จะขออะไรจริง ๆ ทำได้เพียงลองเจรจาเรื่องนี้กับเฟิงหานชวนดู ลองถามความคิดเห็นของเฟิงหานชวนดู

ในตอนนี้เอง เสี่ยวลี่เดินมา ห้องของเธออยู่ตรงข้ามห้องของหลิวหลี่ถงพอดี เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวน เสี่ยวลี่รีบทักทายขึ้น “คุณนายสาม”

“สวัสดี” เฉินฮวนฮวนยิ้มกับเสี่ยวลี่แล้วโบกมือทักทาย

“คุณนายสาม ในเมื่อเพื่อนของคุณรออยู่ งั้นคุณรีบไปเถอะค่ะ ฉันไม่รบกวนเวลาของคุณแล้วค่ะ” หลิวหลี่ถงรีบพูดกับเฉินฮวนฮวน แถมยื่นมือออกไปผลักแขนของเธอ

เฉินฮวนฮวนคิดได้ถึงหลินอวี่หยาง จึงยิ้มกับเสี่ยวลี่ แล้วเดินออกไปจากพื้นที่ของคนใช้

เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนเดินไปแล้ว เสี่ยวลี่เหลือบมองหลิวหลี่ถงอย่างมาเลศนัย แล้วถามขึ้นด้วยภาษาจีนกลางที่ไม่ค่อยได้มาตรฐาน “เธอพาคุณนายสามมาที่ห้องของเธอทำไม? เธอพูดอะไรมั่ว ๆ กับคุณนายสามใช่ไหม? พูดเรื่องที่เมื่อคืนคุณชายสามมาที่ห้องของเธอใช่ไหม?”

“เสี่ยวลี่ เธอพูดมั่วอะไร” หลิวหลี่ถงเอามือปิดปาก จากนั้นก็รีบดึงเสี่ยวลี่เข้าห้องของตัวเอง แล้วปิดประตูห้องลง

“หลิวหลี่ถง ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้? คุณชายมีคุณนายสามอยู่แล้ว ทำไมเธอถึงทำเรื่องแบบนั้นกับคุณชายสาม? แล้วตอนนี้ก็ยังตีสนิทกับคุณนายสาม? เธอเป็นแค่คนใช้ เธอทำผิดศีลธรรมแบบนี้ไม่ได้” เสี่ยวลี่ท่าทางโมโหเนื่องจากความไม่ถูกต้อง พูดกับหลิวหลี่ถงฉอด ๆ