บทที่ 361 ไม่สู้กันสักรอบแล้วค่อยไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 361 ไม่สู้กันสักรอบแล้วค่อยไป?

อีกด้านหนึ่งยายเมิ่งยิงจวนรู้ตัวว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ ก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ

พวกเขาก็ยืนอยู่เฉยๆเช่นนี้ วางท่าทางอย่างดี แค่ไม่กล้าลงมือ

หลังจากหลานเยาเยารอจนจื่อซีพันแผลให้ฮัวหยู่อันเรียบร้อยดีแล้ว จึงได้เก็บด้ายสีเงินกลับมา

“ไปเถอะ!”

ยิงจวนเป็นของหานแส และนางกับหานแสก็มีความสัมพันธ์ที่เป็นทั้งความร่วมมือกัน และเป็นทั้งความสัมพันธ์แบบหัวหน้าและลูกน้อง ดีที่สุดตอนนี้ไม่ควรจะลงมือกับคนของเขา

สถานการณ์อะไร?

ยายเมิ่งยิงจวนเกิดความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้

ก็จากไปเช่นนี้แล้ว?

ไม่สู้กันสักรอบ?

หรือฆ่าพวกนางให้ตายซะให้หมด?

ในเวลานี้!

มีนักฆ่าศพแห้งผู้หนึ่งมารายงาน : “ยายเมิ่ง ไม่ดีแล้ว กลไกในกลางภูเขาโดนทำลายหมดแล้ว”

“อะไร?”

ทั้งสองคนมองดูกลุ่มคนที่กำลังเตรียมตัวจะจากไป กล้าโกรธแต่ไม่ปริปาก ไม่ว่าอย่างไรคนหนึ่งคนในพวกเขาก็สามารถฆ่าพวกเขาทั้งกลุ่มให้ตายได้ในชั่ววินาทีแล้ว

ดังนั้น จึงทำได้เพียงมองดูพวกเขาจากไป

หลานเยาเยาได้ยินที่นักฆ่าศพแห้งรายงานเป็นธรรมดา มุมปากกระตุกเล็กน้อย

ความเชี่ยวชาญในการรื้อถอนบ้านของตาแก่นี้ ยังเก่งกาจมากจริงๆ

คิดไม่ถึงว่าจะทำลายกลไกทั้งหมดในภูเขาใหญ่ของคนอื่นทั้งภูเขาลงได้อย่ารวดเร็ว

เห้อ!

หนีแล้วหนีแล้ว

ทันใดนั้น!

มีลมเย็นยะเยือกกรรโชกมาอย่างกะทันหัน โชยพัดมาจากที่ไกลๆ เหมือนดั่งพายุทอร์นาโด ทำให้ใบไม้ที่หลงเหลืออยู่บนต้นไม้และใบไม้แห้งบนพื้นดิน หมุนขึ้นว่อนท้องฟ้า ราวกับมังกรชั่วร้ายที่กำลังหมุนวนตามอำเภอใจ

ในไม่ช้า

ใบไม้ที่รวมตัวเป็นรูปร่างมังกรหมุนวน ก็พุ่งตรงขึ้นฟ้า จากนั้นก็มีเงาร่างสีม่วงเข้ม เหยียบลงตรงหัวของมังกรใบไม้ มังกรใบไม้ก็กระจายไปทั่วทิศอย่างรวดเร็ว ดั่งเช่นดอกไม่นับร้อยที่เริงระบำ

ผู้ชายสวมชุดคลุมสีม่วงเข้มที่โดดเด่น สง่างามราวกับปีศาจ เหาะลงมาจากฟ้า เคลือบไปด้วยแรงสังหารอย่างที่สุด

ทั้งคู่ยายเมิ่งยิงจวนมองดูชายที่ชั่วร้ายเหาะลงมาอยู่ด้านหน้าของตัวเอง สีหน้าก็ซีดเผือดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ในพริบตา

พวกเขาคุกเข่าลงไปที่พื้นพร้อมกัน กล่าวด้วยความเคารพและยำเกรง

“ขอต้อนรับเจ้าสำนัก”

เจ้าสำนักยิงจวน เป็นการดำรงไว้ซึ่งความน่าเกรงขามของยิงจวน ถูกเรียกขานว่าท่านยมราช

หานแสเหล่มองไปยังกลุ่มคนที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นแวบหนึ่ง ด้วยสีหน้าท่าทางดูถูก มือเรียวยาวข้างหนึ่งจัดการกับผมที่โดนลมพัดให้ยุ่งเหยิงเบาๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ชั่วร้าย :

“เจ้าพวกไร้ประโยชน์!”

ยายเมิ่งยิงจวนพวกเขาสั่นเทาขึ้นมาในพริบตา กลิ่นอายแห่งความตายล้อมรอบไปทั่วร่างในทันที กดดันจนทำให้พวกเขาแทบจะหายใจไม่ออก

“เป็นถึงหางเสือย่อยๆของยิงจวน คิดไม่ถึงว่าจะโดนโจรป่าอันธพารไม่กี่คนทำให้ตกใจกลัว พวกเจ้าชั่งทำให้ข้าได้รับเกียรติจริงๆ?”

แค่เพียงคนบนโลกเอ่ยถึงยิงจวน มีผู้ใดบ้างที่ได้ยินข่าวคราวนิดหน่อยแล้วไม่ตกใจกลัวจนลนลาน?

ขณะนี้กลับดี

นึกไม่ถึงว่าจะโดนคนอื่นทำให้กลัวแล้ว……

“ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยสมควรตาย ขอเจ้าสำนักโปรดไว้ชีวิตด้วย” กลุ่มคนของยิงจวนเหล่านั้น รีบร้องขอชีวิต

“ไว้ชีวิต?”

ดวงตาเรียวยาวเฉียบคมของหานแสหรี่ลงเล็กน้อย ในดวงตาเต็มไปด้วยแววตาแห่งความชั่วร้าย

เมื่อเขายื่นมือออกไป ก็มีนักฆ่าศพแห้งผู้หนึ่งถูกดูดไปไว้มือ จากนั้นก็กลายเป็นโครงกระดูกเปื้อนเลือด “เช่นนั้นก็ต้องดูการแสดงออกของพวกเจ้าแล้ว”

“เจ้าค่ะ! ข้าน้อยรับทราบ”

ยายเมิ่งยิงจวนพวกเขายืนขึ้นมาด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม แต่ละคนมีสีหน้าแสดงออกถึงความโหดร้าย ไม่พูดอะไรมากก็พุ่งไปยังโม่เหลียงเฉินพวกเขา

หลานเยาเยาเห็นดังนั้น ก็ลูบใบหน้าของตัวเองที่ปิดไว้ด้วยผ้าสีดำ แววตาฉายแววที่เฉียบคมออกมา พูดกับโม่เหลียงเฉิน :

“คุ้มครองนางให้ดี”

โม่เหลียงเฉินกอดฮัวหยู่อันในอ้อมอก ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ : “วางใจได้!”

ไม่ต้องบอก เขาก็จะต้องคุ้มครองนางด้วยแรงทั้งหมดที่มี

หลานเยาเยามองไปทางหานแสที่ดูแน่วแน่ไม่หวั่นไหวใดๆแวบหนึ่ง

เขาในเวลานี้ เยือกเย็น โหดเหี้ยม เฉยชาไร้ความรู้สึก มุมปากยังคงรอยยิ้มที่ชั่วร้าย

ราวกับว่าชีวิตในสายตาของเขาไม่มีค่าพอให้เอ่ย ฆ่าคนเป็นเพียงแค่เรื่องกระดิกนิ้วเท่านั้น และยังเหมือนดั่งว่าฆ่าคนเพื่อความสนุก

ซึ่งแตกต่างจากหานแสที่นางเคยพบเห็นราวกับเป็นคนละคน

หรือจะพูดว่า

นี่ถึงจะเป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา คนที่มีแต่ความชั่วร้ายทารุณ

ทันใดนั้น!

แววตาที่เยือกเย็นกวาดมา ระหว่างที่มองกลับไป มีดยาวที่มีไอดำแผ่ออกมาพุ่งฟันมาตรงหน้า

หลานเยาเยาเอียงศีรษะ แฉลบตัว ในมือปรากฏแสงที่มีความเยือกเย็นขึ้น กำกริชที่แหลมคมไว้ในมือเล่มหนึ่ง

มือยกขึ้นมีดตกลงมา คนที่โจมตีนางได้ตายไปแล้ว

เหลือบมองคนที่อยู่บนพื้นเบาๆแวบหนึ่ง หลานเยาเยามุมปากยกขึ้น แววตาเปลี่ยนไป ยกมือขึ้นก็โยนกริชออกไปโดยตรง

ตำแหน่งที่กริชตกไป คือตรงกลางคิ้วของนักฆ่าศพแห้งผู้หนึ่งพอดี

เมื่อนักฆ่าศพแห้งผู้นั้นเพิ่งจะโดนกริชปักเข้าไปกลางคิ้ว หลานเยาเยาก็ได้มาชักกริชที่อยู่ข้างหน้าเขาออก แล้วโบกมือขึ้นอีกครั้ง

ทางนี้ศพของนักฆ่าศพแห้งผู้นี้ยังไม่ทันจะล้มลง ทางนั้นนักฆ่าศพแห้งผู้นั้นก็โดนกริชแทงเข้าไปที่หัวใจแล้ว

ความรวดเร็วเช่นนี้ทำให้คนเดือดดาลเป็นฟืนไฟ!

แม้แต่หานแสก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมอง จากนั้นก็ดวงตาก็หรี่ลงพร้อมกับปรากฏแรงสังหารอย่างรุนแรงขึ้นมา

“เหอะ ยังมีผู้ที่มีบทบาทยอดเยี่ยมอยู่จริงๆ”

ตอนแรกเริ่มหลานเยาเยาไม่รู้ว่าตัวเองถูกจับตามองแล้ว จนถึงเมื่อนางฆ่าคนต่อเนื่องไปสามสี่คน ถึงได้รู้ว่ามีสายตาแห่งแรงสังหารจ้องมองนางอย่างใกล้ชิดมาตลอด

ด้วยเหตุนี้!

นางได้หันไปมองเจ้าของของสายตาทันที

คนผู้นั้นก็คือหานแสนั้นเอง มุมปากของเขาเป็นรอยยิ้มที่เคลือบไปด้วยความชั่วร้าย

เหอะ!

หานแสไม่รู้จักนางก็ยิ่งดี

เหมือนกับว่านางกับหานแสยังไม่เคยสู้กันอย่างจริงจังเลยสักครั้ง รอสักครู่เมื่อฆ่าจนไม่ได้สติ คาดว่าจะต้องสู้กันสักตั้งหนึ่ง

เมื่อเริ่มมีความคิดนี้

ก็เห็นหานแสเปลี่ยนเป็นเงา พุ่งตรงมาทางนางนี้

หลานเยาเยาหรี่ตาลง ร่างกายเคลื่อนไหว จากนั้นก็กลับมือแทงไปทางด้านหลัง มีเสียงร้องที่น่าอนาถดังขึ้นเสียงหนึ่ง

นางไม่ได้กะพริบตาแม้สักน้อย รีบชักกริชออกมาทันที เลือดที่อุ่นพุ่งไหลออกมาจากคอโดยตรง กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงโชยแตะจมูก

แต่นางไม่กล้าที่จะผ่อนปรนแม้สักนิด

เพราะว่าหานแสได้หายตัวไปในฝูงชนแล้ว เขาสามารถที่จะปรากฏตัวแล้วโจมตีนางครั้งหนึ่งให้ถึงแก่ชีวิตได้ทุกเมื่อ

หลานเยาเยาสลัดความคิดหมกมุ่นต่างๆนานาทิ้งไปทันที ระมัดระวังความเคลื่อนไหวรอบๆอย่างสูงที่สุด มีนักฆ่าศพแห้งเข้ามาโจมตี นางก็ให้กำลังภายในทำให้พวกเขาลอยกระเด็นไปทันที

“ฮู้ว……”

ราวกับลมอ่อนๆพัดโชยโดนใบหน้าของนาง ทำให้ลูกผมที่หน้าผากของนางโดนพัดขึ้นมา ในเวลานี้ ดวงตาของนางเปิดขึ้นมาเล็กน้อย ถือโอกาสดึงกำลังภายในขึ้นมาโจมตีไปในทิศทางที่ลมพัดมา

ทิศทางที่กำลังภายในโจมตีไป ปรากฏเป็นเงาสีม่วงเข้มขึ้นมาพอดี เมื่อกำลังภายในของทั้งสองคนชนเข้าด้วยกัน หานแสลงมาบนพื้นอย่างสมบูรณ์แบบ แต่หลานเยาเยากลับถอยหลังไปหลายก้าว

ซื่อ……

แขนรู้สึกชาไปหมดแล้ว

กำลังภายในของเย่แจ๋หยิ่งนี้ไม่เลวเลยจริงๆ แม้ว่าไม่สามารถที่จะตีเสมอหานแสได้ทั้งหมด แต่หากว่าได้ผนวกเข้ากับกระบวนท่าที่โหดเหี้ยมถึงชีวิตเหล่านั้นของตัวเอง

คาดว่าหานแสก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้……

“ข้างกายอ๋องเย่มีบุคคลที่เป็นหมายเลขหนึ่งเช่นเจ้านี้เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมข้าไม่เคยเห็นมาก่อน?” หานแสแอบประหลาดใจกับตัวเอง

หลานเยาเยาไม่ได้พูดจา

แต่แอบปีติยินดีกับตัวเอง ก่อนที่จะมาในวันนี้ก็ได้เปลี่ยนทั้งเสื้อผ้าและได้ปิดบังหน้าตา ไม่เช่นนั้น หานแสคงจำนางได้ไปนานแล้ว

กลับเป็นโม่เหลียงเฉินที่คุ้มครองฮัวหยู่อันอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมา

“สำหรับท่านอ๋อง เรื่องราวที่เจ้าไม่รู้ยังมีอีกมากมายเลยล่ะ!

มีผู้ที่มีกำลังภายในแกร่งกล้าผู้หนึ่งปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหัน ก็ประหลาดใจแล้ว? วันไหนปรากฏออกมาเป็นกอง เจ้าจะไม่ตกใจตายไปเลยเชียวหรือ?”

หลานเยาเยา : “……”

เจ้านี่รู้จักพูดนี่

ไม่ใช่กะหล่ำปลีผักกาดขาวสักหน่อย พอดึงก็เป็นกอง

“หึ! เขาจะแอบซ่อนผู้ที่มีวิทยายุทธเก่งกาจผู้หนึ่งไว้อย่างดีแล้วยังไง?

วันนี้ข้าจะตัดเอ็นที่มือและเท้าของนาง ลอกหนังดึงเอ็น แขวนไว้บนกำแพงเมือง

ทำให้อ๋องเย่ได้พบเห็นสักหน่อย กับความเก่งกาจของข้า

แต่ว่า ก่อนจะถึงตอนนั้น วันนี้ข้าจะฆ่านางเป็นคนแรก”