ตอนที่ 371 ระงับอุดมคติ

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 371 ระงับอุดมคติ

ตอนที่ 371 ระงับอุดมคติ

เสี่ยวอ้ายเคยบอกเธอก่อนหน้านี้ว่าเผ่าพันธุ์เงือกแตกต่างจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขายึดถือความแข็งแกร่งเป็นหลัก

ไม่มีชนชั้นสูงตลอดกาล มีแต่ความแข็งแกร่งชั่วนิรันดร์

สวี่หลิงอวิ๋นปลาบปลื้มกับระบบการจัดลำดับเช่นนี้ ไม่แปลกใจที่เผ่าพันธุ์เงือกจะดูถูกเผ่าพันธุ์มนุษย์

ความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ค่อนข้างต่ำต้อย นอกจากนี้ยังมีความเป็น ‘มนุษยธรรม’ มากเกินไป

“โอเค! ถ้าอย่างนั้นได้โปรดนำทางพวกเราด้วย!” สวี่หลิงอวิ๋นไม่ใช่คนที่เอาเรื่องราวมาคิดมาก ทว่าองครักษ์ที่อยู่ด้านหลังเธอกลับทำหน้าบูดบึ้ง แววตาเผยให้เห็นถึงความไม่พอใจ แต่ในเมื่อองค์หญิงสามของพวกเขาไม่ได้ตอบโต้อะไร พวกเขาก็ทำได้เพียงอดทนอยู่เงียบ ๆ

จักรพรรดิเงือกนั้นเป็นผู้นำทาง ส่วนจักพรรดินีเงือกผู้นี้ดูอ่อนโยนกว่าจักรพรรดิเงือกผู้หยิ่งผยองเป็นอย่างมาก

เมื่อเห็นว่าสวี่หลิงอวิ๋นสามารถอดทนต่อความเย่อหยิ่งของสามีได้ และไม่ถือโทษโกรธกัน เธอก็จ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาสรรเสริญ

“หวังว่าแขกผู้มีเกียรติจะไม่ถือโทษโกรธกัน สามีของเราเป็นคนพูดตรงน่ะ”

“ไม่เป็นไร เราไม่ถือ!” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูนางเงือกแสนสวย หางของเธอเป็นสีฟ้าครามดั่งทะเลสาบ สะท้อนแสงเป็นประกายราวกับอัญมณีภายใต้แสงไฟ

เมื่อเห็นว่าสวี่หลิงอวิ๋นมองดูหางของเธอ เธอจึงแย้มยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

ชาวเงือกนั้นมีความแตกต่างจากมนุษย์ หากจะเชยชมความงามของพวกเธอให้มองดูที่หาง ยิ่งเกล็ดหางงดงามมากเท่าไหร่ พวกเธอก็ยิ่งสวยงามมากขึ้นเท่านั้น

รูปลักษณ์ที่งดงามของจักรพรรดินีเงือกเป็นที่ประจักษ์ในสายตาของเหล่ามนุษย์ ทว่าในเผ่าพันธุ์เงือกนั้น ความงามของเธอเป็นที่เลื่องลือที่สุด หางของเธองดงามเป็นเลิศ แม้แต่จักรพรรดิเงือกยังไล่ตามจีบเธอมาอย่างยาวนาน!

จักรพรรดินีเงือกชอบให้ผู้อื่นเชยชมหางของเธอ เพราะนั่นหมายถึงการยืนยันจากผู้อื่นว่าเธองดงาม! และสิ่งนี้ช่างซื่อตรงกว่าพวกมนุษย์เสียอีก!

“ได้ยินมาว่าหลานชายตัวน้อยของเราวิวัฒนาการเพราะกินอาหารของท่านเข้าไป เราอยากจะขอบคุณท่านเหลือเกิน!” จักรพรรดินีเงือกแสนสวยเปล่งสุรเสียงอันไพเราะออกมา น้ำเสียงของเธอเปรียบดั่งเพลงบรรเลงขับขานคอยกล่อมให้ผู้ฟังรู้สึกดี

“แต่เรายังไม่รู้เลยว่าเขากินอะไรเข้าไปถึงได้วิวัฒนาการ บางทีเขาอาจจะกินอย่างอื่นเข้าไปก็ได้” สวี่หลิงอวิ๋นนึกไม่ออกว่าสิ่งใดที่ทำให้ลูกครึ่งเงือกวิวัฒนาการได้

ถ้าเป็นเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ ก็คงไม่น่าใช่

เพราะถ้าเป็นปลาหมึกกระป๋องจริง ๆ ก็ควรจะไขข้อสงสัยไปได้ตั้งนานแล้ว มันต้องไม่ใช่แบบนี้ นอกจากนี้ยังจะต้องมีการตรวจสอบปริมาณอาหารเพื่อไม่ให้มีจำนวนเยอะเกินไป กิบสันจึงได้มีวิวัฒนาการหลังจากที่ได้กินเข้าไป

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็เจอ” จักรพรรดินีเป็นผู้ใจกว้าง “พวกเราดีใจกันมากที่เขากำลังจะวิวัฒนาการเป็นเงือกสายเลือดบริสุทธิ์”

เดิมทีชาวเงือกมีปัญหาในการคลอดบุตรยาก แม้ว่าจักรพรรดิเงือกองค์นี้จะกระตือรือร้นในการเพิ่มจำนวนประชากร แต่ก็น่าเสียดายที่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ให้กำเนิดลูกสาวเพียงสองคนเท่านั้น

ลูกสาวคนหนึ่งหันไปรักกับพวกมนุษย์ ส่วนอีกคนหนึ่งเพิ่งแต่งงานและยังไม่ตั้งครรภ์

ดังนั้นกิบสันลูกครึ่งเงือกจึงเป็นเงือกน้อยเพียงตัวเดียวในราชวงศ์ทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถวิวัฒนาการเป็นเงือกเต็มตัวได้ และนั่นทำให้ชาวเงือกล้วนมีความสุขอย่างเหลือล้น!

สิ่งที่ทำให้พวกเขาพอใจมากที่สุดนั่นก็คือวิวัฒนาการของกิบสันที่แสดงให้เห็นว่าเขาจะวิวัฒนาการไปในทิศทางเดียวกันกับบรรพบุรุษของเขา

บรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์เงือกได้รับการกล่าวขานว่ามาจากดินแดนต่างถิ่นที่ทรงพลังอย่างยิ่ง สาเหตุที่พวกเขาเดินทางมาอาศัยอยู่บนดาวสมุทรแห่งนี้ เป็นเพราะพวกเขาบังเอิญขาดการเชื่อมต่อจากดาวแม่ กว่าจะรู้ตัวก็ได้มาถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์บนสหภาพดวงดาวเสียแล้ว

เมื่อวันเวลาผ่านไป ความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์เงือกลดลงเป็นอย่างมาก แม้พวกเขาจะวิตก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ทว่าในวันนี้ กิบสันไม่เพียงวิวัฒนาการไปสู่สายเลือดบริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังวิวัฒนาการตามรอยบรรพบุรุษด้วย มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก!

หากพวกเขาสามารถหาสาเหตุที่ทำให้เงือกสามารถวิวัฒนาการได้ บางทีเงือกอย่างพวกเขาก็อาจจะหาหนทางกลับบ้านเกิด และสามารถเดินทางไปยังถิ่นเดิมของตัวเองได้!

แต่บรรพบุรุษได้กล่าวไว้ว่าเส้นทางการเดินทางอันตรายยิ่งนัก หากไม่แข็งแกร่งพอ ก็ไม่ควรเดินทางกลับไป

หมายความว่าบ้านเกิดอันตรายอย่างนั้นเหรอ!?

“นี่อาจเป็นพรจากบรรพบุรุษเงือก” สวี่หลิงอวิ๋นพูด

หลังจากมาถึงพระราชวังได้ไม่นาน องครักษ์เงือกรูปงามจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏกายขึ้น พวกเขายืนตรงขนาบข้างทั้งสองด้านพร้อมกับตรีศูลในมือ แม้พวกเขาจะดูหล่อเหลา แต่ก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อพลังงานผันผวนที่เปล่งประกายออกมาได้ เนื่องจากพวกเขาแต่ละคนอยู่ในระดับ 9 ดาวหรือมากกว่านั้น

นอกจากนี้ยังมีสาวใช้แสนสวยจำนวนนับไม่ถ้วนถือกระถางคริสตัลอันวิจิตรงดงามพร้อมผลไม้สีสันสดใสในมือ รอยยิ้มอันแสนหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเธอ จนทำให้องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังสวี่หลิงอวิ๋นถึงกับหน้าแดงก่ำ

นางเงือกเหล่านี้เพียงใช้เปลือกหอยทะเลอันแสนเรียบง่ายมาปิดบังทรวงอกของพวกเธอ อีกทั้งยังมีกระโปรงอันแสนวิจิตรตระการตาที่ปิดบังหางของพวกเธอเพียงครึ่งเดียว

เห็นได้ชัดว่าความงามของชาวเงือกนั้นแตกต่างจากพวกมนุษย์ พวกเธอคิดว่าการเปิดเผยเรือนกายท่อนบนไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่ร่างกายท่อนล่างเป็นส่วนที่บ่งบอกถึงสัญลักษณ์แห่งความงาม

จักรพรรดินีเงือกพาสวี่หลิงอวิ๋นไปนั่งพักที่ห้องรับแขก ในขณะที่จักรพรรดิเงือกกับจักรพรรดินีเงือกนั่งอยู่บนบัลลังก์

เสี่ยวอ้ายกับนากาได้รับตำแหน่งที่นั่งคนละตำแหน่ง ถ้าสวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้เป็นนายท่านของเสี่ยวอ้าย คาดว่าตำแหน่งที่นั่งของเธอก็คงจะอยู่เบื้องหลังสัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวนี้!

“ยินดีที่ได้พบเจ้า มนุษย์! เจ้าคงเป็นมนุษย์คนที่สองที่ได้เข้ามายังดาวสมุทรสินะ?!”

จักรพรรดิเงือกพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หากจะว่ากันตามตรงแล้ว เขารู้สึกไม่พอใจพวกมนุษย์เป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะมนุษย์พวกนี้ ลูกสาวคนโตของเขาจะถูกลักพาตัวไปยังดาวเคราะห์มนุษย์ และได้เจอหน้ากันแค่ปีล่ะครั้งอย่างนั้นเหรอ?!

โชคดีที่เป็นผู้หญิง และอย่างน้อยลูกสาวคนเล็กก็พบคู่ครองแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงจะกังวลใจน่าดู!

“เรารู้สึกเป็นเกียรติมาก!” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มและพูดต่อ “หวังว่าเราจะได้มาเยี่ยมจักรวรรดิท่านอีกบ่อย ๆ”

จักรพรรดิเงือกหัวเราะ “ถ้าหลานชายสุดที่รักของเราวิวัฒนาการเพราะอาหารที่เจ้ามอบให้ เราก็คิดว่าเจ้าคงจะได้มาเยี่ยมจักรวรรดิเราบ่อย ๆ”

แต่ถ้าไม่ใช่เพราะอาหารของเธอ ก็มาเยี่ยมไม่ได้ใช่ไหม?

สวี่หลิงอวิ๋นปิดปากเงียบ

ไม่เป็นไร อย่างน้อยครั้งนี้ก็ถือว่าได้มาเปิดโลกทัศน์ หากในภายภาคหน้าอีกฝ่ายไม่ยอมต้อนรับเธอ อย่างไรเสียเธอก็ยังมีเสี่ยวอ้ายอยู่!

โธ่เอ๊ย เธอเพิ่งบอกว่าจะไม่พึ่งพาเสี่ยวอ้ายไปแท้ ๆ แต่ตอนนี้ดันกลับคำพูดเสียอย่างนั้น

เธอครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย ไม่เป็นไร อีกไม่ช้าก็เร็วความแข็งแกร่งของเธอก็จะเพิ่มขึ้นอยู่ดี ตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับช่วงเวลาอันยากลำบากและพร้อมที่จะเคลื่อนไหวแล้ว

หากไม่ใช่เพราะเธอกดดันตัวเอง คาดการณ์ว่าเธอคงจะเลื่อนขั้นสำเร็จไปแล้วใช่ไหม?!

ถามว่าทำไมเธอถึงกดดันตัวเองน่ะเหรอ? โธ่ บางทีเธออาจจะอ่านนิยายในชาติที่แล้วมากเกินไป ทุกครั้งเธอจะเห็นพระเอกจอมเจ้าชู้ระงับอุดมคติของตัวเองอย่างหนัก นอกจากนี้ตอนจบของนิยายเรื่องระบบล้างแค้นเหนือชั้นยังเท่สุด ๆ ไปเลย และนั่นทำให้เธออยากจะทำตามนิยาย

เธอยังกระซิบถามเสี่ยวอ้าย การระงับอุดมคติจะทำให้เธอเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วได้หรือไม่?

เสี่ยวอ้ายรู้สึกสับสน! ในฐานะผู้สูงอายุที่รอบรู้ มันรู้เพียงวิธีการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่มันจะรู้เกี่ยวกับการระงับอุดมคติได้อย่างไร!

ดังนั้นมันจึงไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนกับสวี่หลิงอวิ๋นได้ และทำได้เพียงให้สวี่หลิงอวิ๋นเรียนรู้ด้วยตัวเอง

เพราะบางทีนายท่านอาจจะสร้างอนาคตที่แตกต่างออกไปก็ได้?!