บทที่ 331 ทะเลาะกับซินเถา

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 331 ทะเลาะกับซินเถา

บทที่ 331 ทะเลาะกับซินเถา

“ท่านแม่…” กู้ซินเถาสะกิดซุนซื่อที่ตกตะลึงด้วยท่าทางไม่พอใจ ตอนนั้นเองที่ซุนซื่อกลับมารู้สึกตัว และเมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่มีความสุขของลูกสาว หัวใจของนางก็เต้นแรงอีกครั้ง

วันนี้นางตั้งใจพากู้ซินเถาออกมาซื้อของ และได้ตกลงกันว่าจะซื้ออะไรก็ได้ที่นางชอบ แต่นางจะไปรู้ได้อย่างไรว่า กู้ซินเถาจะใช้เงินทั้งหมดที่นางนำออกมาในวันนี้เพื่อซื้อเสื้อผ้าเพียงสองผืน?

ซุนซื่อกลัวว่ากู้ซินเถาจะไม่มีความสุข จึงรีบยิ้มและกล่าว “ซื้อ ๆ ข้าจะซื้อให้”

เมื่อกล่าวจบ นางก็หยิบถุงเงินออกมาด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก หากแต่แสร้งทำเป็นมีความสุขมากและหยิบเงินออกจากถุงเงิน นับมันอย่างเชื่องช้า ก่อนจะส่งให้พี่ฝู นิ้วของนางก็สั่นราวกับตัดใจไม่ลง แต่เนื่องจากเห็นสีหน้าที่บึ้งตึ้งของกู้ซินเถา ซุนซื่อจึงมอบให้ทันที

พี่ฝูรับเงินด้วยรอยยิ้มพลางมองกู้เสี่ยวหวาน และเห็นว่านางกำลังยิ้มอยู่ ปรากฏว่านางไม่ได้สนใจการยั่วยุของกู้ซินเถา อย่างไรก็ตาม ถึงกู้ซินเถายั่วยุให้ตนเองซื้อเสื้อผ้าราคาแพง แต่กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจเลย ยังดีเสียกว่าที่สามารถทำเงินให้ร้านพี่ฝูได้

หลังจากซื้อผ้าสองชิ้น กู้ซินเถาก็ดูภูมิใจมาก นางเดินมาด้านหน้าของกู้เสี่ยวหวานด้วยสีหน้าภาคภูมิใจราวกับกำลังกล่าวว่า ข้ารวยกว่าเจ้า ก็คือข้ารวยกว่าเจ้า

กู้ซินเถาดูภาคภูมิใจยิ่งนักและเชิดหน้าขึ้นต่อหน้ากู้เสี่ยวหวาน โดยมีปิ่นปักผมสีทองอยู่บนศีรษะราวกับว่านางต้องการให้กู้เสี่ยวหวานเห็นมัน อีกทั้งยังใช้มือลูบมันอย่างแผ่วเบา เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานมองมา ก่อนจะยิ้มเยาะอย่างพึงพอใจ

เมื่อกู้เสี่ยวหวานมองเห็นปิ่นปักผมสีทอง ในหัวก็มีเพียงความคิดเดียวก็คือ ที่เด็กน้อยผู้นี้มีปิ่นปักผมสีทองอยู่บนศีรษะและรูปแบบมันก็ค่อนข้างเก่า เกรงว่ามันคงเป็นของเก่าถูกส่งต่อสืบทอดกันมา

เป็นของซุนซื่อหรอกหรือ?

คงไม่ใช่หรอก? กู้เสี่ยวหวานเต็มไปด้วยความสงสัย จากนั้นนางก็นึกถึงสิ่งที่พี่ฝูเคยกล่าวและเข้าใจได้ทันที

“เถ้าแก่เนี้ย ข้าจะมาเอาชุดนี้ภายในสามวัน โปรดทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” กู้ซินเถาชี้ไปที่ผ้า แล้วกล่าวอย่างรังเกียจว่า “เถ้าแก่เนี้ย แขนเสื้อและชายกระโปรงต้องปักด้วยลายดอกไห่ถัง อย่าปล่อยให้ลูกศิษย์โง่ ๆ ของท่านปักให้ข้าเชียวล่ะ ถ้างานปักขาด หรืองานปักไม่ดี ร้านของท่านต้องชดใช้ให้ข้า!”

พี่ฝูหลือบมองกู้เสี่ยวอี้ราวกับจะปลอบโยน จากนั้นนางจดจ้องไปที่กู้ซินเถาและกล่าวเคล้ารอยยิ้มว่า “แน่นอน ข้าจะปักให้คุณหนูกู้เอง”

กู้ซินเถาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เช่นนั้นก็ดี”

หลังจากกล่าวจบ นางก็หันไปหากู้เสี่ยวหวานและกล่าวอย่างเหยียดหยาม “หึ เด็กสาวในหมู่บ้านมาเรียนปักผ้าอย่างนั้นหรือ อย่าใช้มือที่หยาบกร้านเช่นนั้นเกี่ยวเสื้อผ้าขาดเสียล่ะ มือของเจ้าสามารถสัมผัสวัสดุคุณภาพสูงเช่นนี้ได้ด้วยหรือ?”

สีหน้าของกู้ซินเถาเต็มไปด้วยความดูถูกต่อกู้เสี่ยวอี้

กู้เสี่ยวอี้มองไปที่กู้ซินเถาอย่างหวาดกลัว ท่าทางเช่นนั้นของกู้ซินเถาทำให้กู้เสี่ยวอี้ตกใจเล็กน้อย

กู้เสี่ยวหวานกลัวว่าคำพูดของกู้ซินเถาจะทำให้น้องสาวของตนรู้สึกท้อแท้ ดังนั้นนางจึงรีบเอาแขนโอบกู้เสี่ยวอี้และลูบหลังอย่างปลอบใจ กู้เสี่ยวหวานยืดหลังตรงและปฏิเสธกู้ซินเถา “กู้ซินเถา สักวันหนึ่งวัสดุที่น้องสาวของข้าสัมผัสด้วยมือทั้งสองจะเป็นวัสดุที่เจ้านึกไม่ถึง”

กู้ซินเถาราวกับได้ยินเรื่องตลกที่ไร้สาระและหัวเราะออกมาเสียงดังโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของสตรี “ท่านแม่ ได้ยินหรือไม่?”

ซุนซื่อพยักหน้าเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว

กู้ซินเถากล่าวอย่างประชดประชัน “ไม่ส่องกระจกดูหน่อยหรือ อย่าคิดว่าซื้อที่ดินแล้วจะเป็นคุณหนูและจะหนีพ้นชีวิตชาวนาได้” และนางยังกล่าวอีกว่าพวกเขาไม่สามารถจับผ้าที่กู้ซินเถาสวมได้ “อย่างไรล่ะ ถ้าอยากสัมผัสก็ไปทำงานซักเสื้อผ้าเสียสิ? ชีวิตคนรับใช้ก็เป็นเช่นนั้นนี่!”

กู้ซินเถากล่าวสิ่งไม่น่าฟังออกมา กู้เสี่ยวหวานจึงเหลือบมองไปที่นางและซุนซื่อที่อยู่ด้านข้าง

กู้ซินเถาเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่งราวกับว่าจะมองเห็นได้เฉพาะคางที่สูงและบางของนางเท่านั้น

แต่แววตาที่มีความหมายลึกซึ้งคู่นั้นทำให้หัวใจของซุนซื่อสั่นสะท้าน

กู้เสี่ยวหวานมองซุนซื่อด้วยความหยิ่งยโสเหมือนครั้งล่าสุด ดูเหมือนว่าการถูกจองจำเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ไม่ได้ช่วยให้ซุนซื่อเรียนรู้ที่จะประพฤติตนให้ดีกว่าแต่ก่อนเลย

ครั้นเห็นกู้เสี่ยวหวานมองนางอย่างมีความหมาย ซุนซื่อรู้สึกเย็นวาบที่กระดูกสันหลัง ดวงตาของนางหรี่ลงอย่างตื่นตระหนกราวกับว่านางจดจำวันที่มืดมนที่ใช้เวลาอยู่ในคุกและความลำบากที่นางได้รับ จึงรู้สึกถึงความกลัวและความเกลียดชังในใจ

“เจ้า ทำไมเจ้ามองข้าเช่นนี้?” ซุนซื่อรู้สึกกลัวเล็กน้อย และเอ่ยถามอย่างสั่นเทา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในคุกทำให้นางหวาดกลัว เหมือนความฝันที่ไม่มีวันตื่น ถ้าไม่ตื่นขึ้นมา เช่นนั้นก็คงจะดี

ซุนซื่อสั่นเทาด้วยความกลัว เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานยิ้มให้กับตนเองอย่างมีความหมาย ในใจก็รู้สึกอึดอัด

ดูเหมือนว่าซุนซื่อผู้นี้คงต้องทนทุกข์ทรมานตอนอยู่ในคุก? กู้เสี่ยวหวานหัวเราะเบา ๆ รอยยิ้มบนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความหมาย ทำให้ซุนซื่อตกใจผงะถอยหลัง บางทีอาจถอยแรงเกินไป จึงทำให้ก้าวเดินของนางไม่มั่นคงและโซเซเล็กน้อย

ครั้นเห็นแม่ของตนขี้ขลาดเช่นนี้ กู้ซินเถาก็เหล่มองซุนซื่อด้วยความรังเกียจ

เมื่อกู้ซินเถาเห็นท่าทีไม่แยแสของกู้เสี่ยวหวาน ใบหน้าก็แดงก่ำด้วยความโกรธ และดวงตาเบิกกว้างจ้องไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างดุดันราวกับว่านางต้องการจับร่องรอยของความอิจฉาบนใบหน้าของกู้เสี่ยวหวาน

แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือท่าทีของกู้เสี่ยวหวานที่ยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่แรก เมื่อกู้ซินเถาเห็นเช่นนั้น ในใจก็คุกรุ่นไปด้วยความโกรธขึ้นมา

“กู้เสี่ยวหวาน!” กู้ซินเถาตะโกนเสียงดังเพราะความโกรธที่เห็นกู้เสี่ยวหวานเพิกเฉยต่อตนเอง

กู้ซินเถามีความคิดที่บิดเบี้ยว นางคิดว่าตนเองเป็นหญิงสาวในเมือง จะลดตัวไปคุยกับหญิงสาวในหมู่บ้านได้อย่างไร นั่นจึงเป็นการดูถูกกู้เสี่ยวหวาน แต่กู้เสี่ยวหวานกลับไม่กล่าวอะไรออกมาสักคำ

กู้ซินเถาจ้องมองกู้เสี่ยวหวานอย่างโกรธจัด

กู้เสี่ยวหวานกำลังจัดพู่ให้กู้เสี่ยวอี้อยู่โดยไม่สนใจกู้ซินเถาอย่างสิ้นเชิง ในขณะนี้กู้ซินเถาราวกับตัวตลกที่กำกับและแสดงด้วยตัวนางเอง

ซุนซื่อโกรธเคือง ใบหน้าของพี่ฝูแสดงความเย้ยหยัน ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของนางดูแล้วช่างทิ่มแทงสายตา และนางไม่สนใจพวกเขาเลย

กู้ซินเถาโกรธเป็นอย่างมาก และหมายจะเดินเข้าไปตบไหล่ของกู้เสี่ยวหวาน ซุนซื่อที่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก เพราะว่าช่วงนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับกู้เสี่ยวหวาน พวกเขาก็จะต้องพบกับความโชคร้ายแน่นอน

ซุนซื่อกลัวว่าลูกสาวของนางจะต้องทนทุกข์ทรมาน จึงรีบเดินไปดึงกู้ซินเถาเอาไว้ และยับยั้งความโกรธในใจ พลางกล่าวปลอบ “ซินเถา อย่ารีบร้อน”

กู้ซินเถาไม่ได้ฟังคำพูดของซุนซื่อเลยสักนิด นางคิดเพียงว่าซุนซื่อติดคุกมาหนึ่งเดือนจึงทำให้กลายเป็นคนขี้กลัว แม้แต่เด็กตัวเล็ก ๆ ก็ยังหวาดกลัว