บทที่ 331 การย้ายบ้านเป็นทางเลือกที่ดีนะ
บทที่ 331 การย้ายบ้านเป็นทางเลือกที่ดีนะ
ร้านอาหารตระกูลติงอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตู้ถงเหอ ถ้าเดินด้วยความรวดเร็วก็ใช้จะเวลาประมาณสี่สิบนาทีโดยประมาณ
เพื่อประหยัดเวลา เสี่ยวเถียนจึงวิ่งไปตลอดทาง
ต้องบอกว่าสมรรถภาพทางกายของเธอยอดเยี่ยมมาก ความเร็วในการวิ่งก็เร็วอย่างน่าประหลาดใจเช่นกัน
ยี่สิบนาทีต่อมา ซูเสี่ยวเถียนมาถึงที่มุมหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารตระกูลติง
เธอหยุดฝีเท้าและกวาดสายตามองรอบ ๆ หลังจากยืนยันว่าไม่มีผู้ใด ก็เริ่มแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในร้านค้า
เธอแลกออกมาได้เต็มสองตะกร้าใบใหญ่ มันมีจำนวนมากกว่าเมื่อวานสองเท่า! สินค้าทุกชนิดล้วนอุดมสมบูรณ์
มีทั้งไก่ เป็ด ปลา รวมถึงเนื้อแกะ เนื้อวัว และเนื้อกวาง นอกจากนี้ยังมีกุ้งเป็น ๆ และปูขนตัวใหญ่อีกหลายจินที่แลกมาเป็นพิเศษเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ถ้าร้านอาหารตระกูลติงรับซื้อไม่ไหวก็ลองหาร้านรอบ ๆ แทนคงไม่เสียหาย
เมื่อวานนี้เธอรู้แล้วว่ามีร้านอาหารหลายแห่งรอบร้านอาหารตระกูลติง และคาดว่าร้านอาหารเหล่านี้ต้องซื้อของที่เธอเอามาได้แน่นอน
เธอพยายามลากตะกร้าใบใหญ่สองใบเข้าไปในร้านอาหารตระกูลติง ขณะที่กำลังจะเรียกให้กวางฮุยออกมาช่วย พลันเห็นชายชรากลุ่มหนึ่งวิ่งออกมาจากห้องโถงใหญ่
เสี่ยวเถียนเกือบหัวใจวายที่พวกเขาพรวดพราดออกมา
ชายชราพวกนั้นเหมือนอายุไล่เลี่ยกับพ่อครัวติงเลย พฤติกรรมก็ค่อนข้างคล้ายกันด้วย อาจเพราะพวกเขาเป็นพ่อครัวเหมือนกัน
อย่าถามว่าเสี่ยวเถียนรู้ได้อย่างไร เพราะชายชราพวกนั้นจ้องมองตะกร้าที่ซูเสี่ยวเถียนนำมาด้วย
แต่พ่อครัวร้านอาหารตระกูลติงไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้น
เสี่ยวเถียนอดไม่ได้ที่จะลากตะกร้าถอยกลับไป
เธอกะพริบตาอย่างสิ้นหวัง และสงสัยว่าตัวเองเดินเข้าถ้ำโจรหรือเปล่า
มันไม่น่าใช่หรือเปล่า ถึงเมืองหลวงจะมีโจร แต่โจรที่ไหนแก่ขนาดนี้?
ชายชราไม่รู้ว่าเสี่ยวเถียนคิดอะไรในใจ เพราะพวกเขาสนใจของล้ำค่าในตะกร้าสองใบนั้นอยู่
“สาวน้อย เธอคือคนที่ขายวัตถุดิบให้ติงเหล่าซานใช่ไหม?”
เพื่อตามหาคนที่ขายวัตถุดิบให้กับติงเหล่าซาน พวกเขาจึงมาดักรอที่นี่หลังจากรับแขกเสร็จ
ติงเหล่าซานหาวิธีให้พวกเขาออกไป แต่พวกนั้นยืนกรานไม่มีใครคิดจะไปเลยสักคน
“พวกคุณเป็นใคร? พ่อครัวติงกับพี่กวางฮุยล่ะ?” เสี่ยวถามอย่างระแวดระวัง
ตอนนี้จิตใจของเสี่ยวเถียนหมุนเหวี่ยงอย่างรุนแรง หัวสมองคิดไปถึงเรื่องเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น
อย่างเช่นพ่อครัวติงกับพี่กวางฮุยโดนคนพวกนี้แยกร่าง…
เฮ้ เฮ้ เฮ้ คิดอะไรมั่วซั่วเนี่ย?
“สองอาจารย์กับลูกศิษย์นั้นอยู่ในห้อง” ชายชราคนหนึ่งตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
ตาแก่ติงนั่นร้ายเหลือเกิน พอได้ของดี ๆ แล้วยังเอามาอวดอีก แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่เอามาเยาะเย้ย พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามีของดีแบบนี้ด้วย
“หนูอยากเจอพวกเขาค่ะ!” เสี่ยวเถียนไม่รู้ว่าทำไมเธอเอ่ยออกมาอย่างประมาทแบบนี้
แต่เธอพูดออกไปแล้ว สายเกินไปที่จะเสียใจ
“ได้ ฉันจะปล่อยพวกเขาออกมา” ชายชราว่าแล้วตะโกนเสียงดัง “ปล่อยพวกเขาออกมาได้แล้ว!”
เด็กคนนี้ต้องเป็นคนชอบธรรมแน่ เดิมทีก็คิดว่าจะแบ่งของพวกนี้ไปตรง ๆ ไม่แบ่งให้ตาแก่ติงสักแดงเดียว
ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นไปไม่ได้
จากนั้นเสี่ยวเถียนก็เห็นพ่อครัวติงและกวางฮุยเดินออกมาจากประตูด้วยท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยง ชายชราเอาแต่สบถสาปแช่งไม่หยุด
“อาจารย์ อย่าพูดอีกนะ ถ้าพูดอีกเราสองคนคงหยุดไว้ไม่ได้แล้วนะ”
กวางฮุยเสียใจ!
ถ้าเขารู้ว่าคนพวกนี้จะไร้มนุษยธรรมขนาดนี้ เขาก็ไม่น่าฟังคำที่อาจารย์โอ้อวดเมื่อวานนี้เลย
และถ้าตัวเขาไม่ไปอวด ก็คงไม่มีเรื่องยุ่งยากมากมายเกิดขึ้นในวันนี้
แต่พ่อครัวติงตวาดอย่างหงุดหงิด “ตาแก่อย่างฉันโมโหแทบตาย ไอ้พวกนี่ นี่คือสิ่งที่คนเขาทำกันหรือ?”
“ติงเหล่าซาน ทำไมมันจะไม่ใช่สิ่งที่คนเขาทำกัน? เราก็ไม่ได้เอาอะไรของแกไปสักหน่อย?”
ชายชราที่คุยกับเสี่ยวเถียนก่อนหน้านี้พูดอย่างร่าเริง แต่เธอรู้สึกว่ามีเรื่องราวบางอย่างที่กำลังบอกผ่านรอยยิ้มนี้
“พ่อครัวร้านอาหารตระกูลติง หนูมาส่งของค่ะ” เสี่ยวเถียนพูดอย่างระมัดระวังโดยไม่ลืมที่จะสังเกตคนรอบ ๆ ด้วย
แน่นอนว่าสีหน้าของกลุ่มชายชราไม่ดีเลย
“สาวน้อย เธอไม่ปล่อยวางหน่อยหรือ ติงเหล่าซานไม่ใช่คนดีนะ ถ้าเธอแบ่งวัตถุดิบพวกนี้ให้หลี่เหล่าซื่ออย่างฉัน ฉันสัญญาว่าจะให้ราคาที่ดีแก่เธอเลย”
“หลี่เหล่าซื่อ แกมาแย่งของของคนอื่นถึงบ้านเขา มียางอายบ้างไหม?” ดวงตาของพ่อครัวติงแดงก่ำด้วยความโกรธ
เขาเคยเห็นคนไร้ยางอายมาก่อนนะ แต่ไม่เคยเห็นใครที่ไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อนเลย!
“คนที่ให้ราคาสูงรับไปแล้วกัน ไม่มีปัญหาสินะ” หลี่เหล่าซื่อไม่ได้สนใจคำด่าของติงเหล่าซานเลย แถมยังดูร่าเริงอีก
“แต่หนูนัดกับพ่อครัวร้านอาหารตระกูลติงแล้วค่ะ…” เสี่ยวเถียนพูดเสียงต่ำ
“สาวน้อยไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่ให้เธอเสียเปรียบแน่ ส่วนราคาในวันนี้ พวกเรามากำหนดใหม่กัน”
พ่อครัวร้านอาหารตระกูลติงประทับใจมาก ไม่คิดว่าสาวน้อยจะต้านทานต่อสิ่งล่อใจได้
เด็กดีแบบนี้หายากมาก ทำไมเขาจะเอาเปรียบไม่ได้ล่ะ?
เสี่ยวเถียนงง ตั้งราคาใหม่ได้หรือ?
พ่อครัวหมายถึงว่าเพิ่มราคาใช่ไหม ไม่ใช่ลดนะ?
“ฉันลองคิดมาแล้วล่ะ วัตถุดิบที่เธอส่งมาล้วนแต่เป็นของดี ฉันจะเพิ่มราคาให้เธอ เพิ่มทุกอย่าง…”
ไม่ทันจบประโยค พ่อครัวร้านอาหารตระกูลติงก็เห็นขาปูยื่นออกมาจากช่องว่างของตะกร้าเสียก่อน
“สวรรค์ มีปู ยังมีปูด้วย…”
ชายชราตื่นเต้นจนพูดแทบไม่ออก
เพราะเสี่ยวเถียนยืนกรานจะขายวัตถุดิบพวกนี้ให้ คนที่เหลือจึงคาดหวังว่าติงเหล่าซานจะแบ่งให้พวกเขาสักหน่อย
เสี่ยวเถียนใช้เวลาสิบนาทีในการชั่งน้ำหนักทั้งหมด จากนั้นจึงรับเงินหนึ่งพันหนึ่งร้อยหกสิบหยวนมาจากครัวติง
เกือบห้าเท่าของเมื่อวาน เด็กหญิงไม่คิดเลยว่าราคากุ้งเป็นกับปูขนตัวใหญ่จะสูงขนาดนี้
ถ้ารู้ไวกว่านี้คงจะเอามาให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
แม้จะใช้แต้มเป็นจำนวนมากในระบบร้านค้าทั้งสองแบบ แต่พูดตามตรงนะ ราคาและคุณภาพของมันสูงกว่าวัตถุดิบอื่น ๆ มาก
“สาวน้อย เธอก็เห็นแล้วว่าไอ้หลายตัวนี่ต้องขอแบ่งกับฉันแน่ พรุ่งนี้เอามาเพิ่มอีกได้ไหม…” พ่อครัวร้านอาหารตระกูลติงพูดอย่างเขินอาย
ซูเสี่ยวเถียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าวิ่งพรวดพราดออกมาแบบวันนี้อีกก็เสี่ยงเกินไป ถ้าออกมาทุกวันมีโอกาสที่จะถูกพบเห็นได้ง่ายมาก
“พี่กวางฮุย พรุ่งนี้ไปรับสินค้าได้ไหมคะ?”
เสี่ยวเถียนตัดสินใจแล้ว ให้กวางฮุยมารับของเองดีกว่า
ส่วนสถานที่รับสินค้าอยู่ซอยหลังบ้านตู้ถงเหอ เดินไปแค่สองนาทีก็ถึงแล้ว
กวางฮุยมองตะกร้าใบใหญ่ทั้งสอง ก่อนรู้สึกอายเมื่อคิดถึงความแข็งแกร่งของตัวเอง
แต่เด็กหญิงไม่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ เธอแค่คิดว่าอีกฝ่ายไม่เต็มใจจะไปรับสินค้า
เธอเงียบไปครู่หนึ่งและคิดว่าเจ้าตัวไม่เต็มใจ และเธอก็ไม่สามารถรับประกันว่าจะส่งของให้ได้
“ไอ้เด็กนี่ แกมีปัญหางั้นหรือ?”
พอเห็นสายตาซับซ้อนของลูกศิษย์ พ่อครัวติงก็โกรธเคือง
ผู้ชายคนหนึ่งทำตัวน่าอึดอัด มันเหมือนอะไรเนี่ย?
“อาจารย์ ผมน่าจะถือไม่ไหว…”
”พ่อครัวร้านอาหารตระกูลติงตบหลังไปหนึ่งที “แกมีประโยชน์บ้างไหม? แบกไม่ไหวก็ไปหารถมาลากไม่ได้หรือไง?”
ว่าจบเขาก็มองไปที่ชายชราคนอื่น ๆ
“ถ้าไม่ไหวก็หาคนไปช่วย หรือไม่จะช่วย?”
พวกชายชราคนอื่น ๆ ให้ความร่วมมือทันที แล้วรีบพยักหน้า “ได้ ๆ อยากได้กี่คนก็พาไปได้เลย!”
เสี่ยวเถียนได้ยินเช่นนั้นก็กังวล เรื่องนี้คนรู้น้อยเท่าไรยิ่งดีนะ
“พี่กวางฮุย พี่มาคนเดียวเถอะ ลากรถมาก็ได้ ไม่เหนื่อยหรอก” เสี่ยวเถียนรีบพูด
กวางฮุยรู้สึกว่าตัวเองคงแบกไม่ไหว แต่ถ้าให้ลากรถไปก็ไม่เป็นไร
เขาพยักหน้าทันที “ตกลง พรุ่งนี้ฉันจะไปรับของนะ”
เมื่อเห็นชายหนุ่มตอบตกลง เสี่ยวเถียนก็โล่งใจ
เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้ที่อยู่สำหรับรับของ จึงคุยกับกวางฮุยตามลำพังแล้วเลือกสถานที่ที่จะรับก่อนจากไป
ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหญิงต้องระวังขนาดนั้น
แต่เขาเป็นคนไม่คิดเยอะ คิดแค่ว่าจากนี้ไปจะไม่ขาดแคลนวัตถุดิบอีกแล้ว เราจะได้ทำอาหารดี ๆ สักที
หลังจากออกจากร้านอาหารตระกูลติง เสี่ยวเถียนก็วิ่งกลับไปอย่างบ้าระห่ำ
กว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาไปเกือบชั่วโมงแล้ว
ซูเสี่ยวเถียนลอบฟังอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าคนในบ้านยังคงคุยกันอย่างมีความสุข เธอก็รู้สึกโล่งใจ
ไม่รู้เรื่องก็ดีแล้ว!
เธอซ่อนตัวอยู่ในห้องเงียบ ๆ หยิบหนังสือจากระบบห้องสมุดออกมาอ่าน
อันที่จริงเสี่ยวเถียนไม่มีสมาธิอ่านเลย
เมื่อวานได้สองร้อย วันนี้ได้พันกว่า เงินก้อนใหญ่เลยนะ!
ในยุคนี้ถ้าตั้งใจทำงาน เดือนนึงก็ได้ห้าสิบหยวนแล้ว เสี่ยวเถียนทำงานสองวันได้เยอะกว่าคนทำงานสองปี จะไม่แปลกใจได้อย่างไร
ถ้ามีคนรู้เข้า คงจะต้องอิจฉาตาร้อนกันทั้งนั้น
ซูเสี่ยวเถียนขบคิดอย่างรอบคอบ ตัดสินใจว่าจะปรึกษาอาเขยกับอาใหญ่สักหน่อย เวลาแบบนี้ การย้ายบ้านเป็นทางเลือกที่ดีนะ