ตอนที่ 373 คำโกหกของหวังหรง

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 373 คำโกหกของหวังหรง

หวังหรงตกใจจนสั่นไปทั้งตัว จ้องมองกวนหย่งหัวด้วยความหวาดกลัว

ถ้าเขาไปตรวจสอบด้วยตัวเอง แล้วไปเจอกับฟางจั๋วหรานล่ะ ไม่ใช่ว่ากวนหย่งหัวก็จะรู้เรื่องน่าอับอายทั้งหมดของหล่อนเหรอ?

ถึงตอนนั้น กวนหย่งหัวที่รู้ธาตุแท้ของหล่อนแล้วก็จะไม่ชอบหล่อนอีกต่อไป

หล่อนยังรู้จุดนี้ของตัวเองอยู่

ถ้าอย่างนั้นเขาจะเอาเรื่องที่หล่อนวางแผนก่อกวนร้านยูนีคไปบอกฟางจั๋วหรานไหม?

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่ว่าหล่อนจะต้องตายแบบไร้ที่ฝังหรอกเหรอ

แม้จะไม่กล้าต่อต้านหลินม่ายแบบชัดเจนต่อหน้า แต่ความคิดที่อยากจะให้อีกฝ่ายตายไปก็ไม่เคยหายไปจากใจ

ถึงมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว หล่อนก็จะทำมัน

ทำเองไม่ได้ งั้นก็ยืมมีดคนอื่นฆ่าคน

กวนหย่งหัวก็คือมีดที่หล่อนเลือก

เขาเป็นนักธุรกิจจากฮ่องกง

ตอนนี้ไม่เพียงแต่เจียงเฉิงเท่านั้น ทั้งประเทศล้วนต้องการเสนอการลงทุน

ต่อให้เป็นฟางจั๋วหรานที่เหนือมนุษย์คนนั้น เขาก็ยังไม่กล้าพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับนโยบายของรัฐและกล้าลงมือกับกวนหย่งหัว

นี่เป็นเหตุผลที่หล่อนกล้าใช้ประโยชน์จากกวนหย่งหัวและยืมมีดเขาฆ่าคน

แต่หล่อนไม่ได้คาดคิดเลยว่าแผนแก้แค้นที่แสนสมบูรณ์แบบนี้จะนำหายนะมาสู่ตัวเองเพียงมองปราดหนึ่ง ถ้ารู้ก่อนคงไม่กล้าวางแผนทำลายหลินม่าย

น่ากลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ตัวเองจะตายอย่างไรยังไม่รู้เลย

หล่อนก้มหัวงุด ทำให้ตนดูเปราะบางและน่าสงสาร อธิบายเรื่องความสัมพันธ์ของหล่อนกับฟางจั๋วหรานโดยเลี่ยงพูดถึงประเด็นหนักๆ

แต่ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องขุ่นเคืองใจระหว่างหล่อนกับฟางจั๋วหรานที่มีสาเหตุจากหลินม่าย

อีกทั้งยังไม่บอกกวนหย่งหัวถึงความสัมพันธ์ของหลินม่ายกับฟางจั๋วหราน

บอกเพียงแต่ว่าย่าของหล่อนชอบฟางจั๋วหรานผู้โดดเด่น อยากให้เขาแต่งงานกับหล่อน นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แตกหักของฟางจั๋วหรานและตระกูลหวังของหล่อน

กวนหย่งหัวเป็นคนฉลาด เพียงฟังจากที่หวังหรง‘สารภาพ’ ความจริงครึ่งๆ กลางๆ ก็สามารถอนุมานถึงเรื่องราวที่เป็นจริงแบบคร่าวๆ ได้แล้ว

คนที่อยากผูกมัดฟางจั๋วหรานไว้กับตัวเองใช่ย่าของหล่อนฝ่ายเดียวเสียที่ไหนล่ะ

เก้าในสิบคือหล่อนเองนั่นแหละที่ชอบฟางจั๋วหราน อยากแต่งงานกับเขา

และคนที่บ้านหล่อน รวมถึงย่าของหล่อนก็มองสถานะและความสามารถในการหาเงินของฟางจั๋วหรานออก

ด้วยความคิดที่ว่าอย่าปล่อยน้ำดีๆ ไหลเข้านาคนอื่น* ยิ่งอยากให้หวังหรงทำสำเร็จ จึงจับคู่หล่อนกับฟางจั๋วหรานอย่างจริงจัง

แต่เพราะบีบคั้นกันมากเกินไป จึงนำไปสู่ความสัมพันธ์ของพวกเขาและฟางจั๋วหรานที่ขาดสะบั้นลง

ในใจของกวนหย่งหัวจึงนึกรังเกียจหวังหรงมาก

ตอนทั้งสองคนเจอกันครั้งแรก ผู้หญิงคนนี้แสร้งทำตัวใสซื่อบริสุทธิ์ ปากก็พูดว่าไม่ต้องการเงิน จะพาเขาไปเที่ยวรอบเจียงเฉิงฟรีๆ

หลังจากนั้นน่ะเหรอ เงินก็ขอไปแล้ว ยังมายั่วยวนและบอกใบ้ให้เขาจ่ายไปหลายร้อยหยวนอีก

เพียงแต่เงินจำนวนนั้นในสายตาเขาไม่นับเป็นอะไร เขาจึงปล่อยผ่านมันไป

มีแค่หวังหรงเท่านั้นที่โง่ คิดว่าเขามองความคิดของหล่อนที่ทั้งต้องการปฏิเสธและยอมรับผ่านใบหน้าน่าเกลียดนั่นไม่ออก

ด้วยเพราะความสัมพันธ์ของฟางจั๋วหรานและหวังหรงนั้นว่างเปล่า หล่อนจึงต้องหาผู้ชายคนอื่น

ตอนที่เขากับหวังหรงทำเรื่องนั้นครั้งแรก เขาก็รู้ได้เลยว่ามันไม่ใช่ครั้งแรกของหล่อน แต่หล่อนแสร้งทำเป็นไม่เคย ทำเอาเขาโมโหแทบตาย

หากไม่ใช่ว่าเขาต้องการใช้ประโยชน์จากหล่อนเพื่อรักษาแก้วตาดวงใจของตน เขาคงจะทิ้งหวังหรงไปแล้ว

เขาคิดมาตลอดว่า คนที่มีความสัมพันธ์ชายหญิงกับหวังหรงก่อนหน้านี้คือแฟนของหล่อน

ทว่าคนแผ่นดินใหญ่อนุรักษ์นิยมกันขนาดนี้ ความน่าจะเป็นที่หญิงสาวจะไปมีสัมพันธ์เช่นนี้ก่อนแต่งงานนั้นมีน้อยมาก

ถึงจะมี ก็ต้องมีกับแฟนของตนเอง

แต่ฟังจากคำพูดของหวังหรงที่เป็นความจริงเพียงครึ่งหนึ่ง ก็ดูเหมือนฟางจั๋วหรานจะรังเกียจหล่อนมาก ทั้งสองคนจะต้องไม่เคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดแบบนั้นแน่

ต้องเป็นความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่เกิดจากหวังหรงและผู้ชายคนอื่น

ผู้หญิงคนนี้นี่มันสำส่อนจริงๆ โสเภณีชัดๆ!

ในใจของกวนหย่งหัวดูถูกหวังหรงอย่างมาก

แม้ว่าในใจจะเกิดความไม่ชอบหล่อนขึ้นมา แต่ในฐานะนักธุรกิจ เขาสามารถทำได้ไม่เกี่ยง

เหตุผลที่เขาต้องแสร้งทำเป็นหึงก็เพื่อบีบให้หวังหรงเผยความสัมพันธ์ของหล่อนกับฟางจั๋วหรานออกมา

หนึ่งคือกลัวว่าฟางจั๋วหรานจะทำลายแผนการดีๆ ของเขา อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายรู้ว่าลูกสาวของเขาทรมานกับอาการป่วย

ฟางจั๋วหรานเป็นหมอ หากดูจากอาการป่วยของลูกเขาแล้วก็อาจจะดูออกว่าความจริงเบื้องหลังการนอกใจภรรยาไปหาหวังหรงคืออะไร ถ้าบอกหวังหรงไป แผนการของเขาก็จบเห่

สองคือถามจากปากของหวังหรงว่าฟางจั๋วหรานทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลไหน แล้วค่อยดูอีกทีว่าต้องไปพบเขาไหม

การไปถามหาโรงพยาบาลที่ฟางจั๋วหรานทำงานอยู่ด้วยตัวเองนั้นวุ่นวายเกินไป

ตอนนั้นอีกฝ่ายช่วยชีวิตลูกสาวของเขาไว้ แต่วีรบุรุษคนนั้นไม่ได้เปิดเผยตัวตนของตัวเองใดๆ รวมถึงชื่อด้วย

แม้ว่าเขาจะไปดูทุกโรงพยาบาลเล็กใหญ่ทั่วเจียงเฉิง แต่ถ้าขนาดชื่อยังไม่รู้ การตามหาคงเป็นเรื่องยากเกินไป

ตอนนี้เขาได้ถามเรื่องความสัมพันธ์ของฟางจั๋วหรานและหวังหรง รวมถึงข้อมูลส่วนตัวมาแล้ว ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอยู่ในใจ

ความสัมพันธ์ของหวังหรงและฟางจั๋วหรานย่ำแย่ขนาดนี้ ต่อให้ฟางจั๋วหรานจะดูออกว่าเขาเข้าหาหวังหรงเพราะมีจุดประสงค์ ความเป็นไปได้ที่แผนจะพังก็น้อยมาก

ด้วยเพราะแบบนี้ เขาจึงตัดสินใจไปพบฟางจั๋วหราน ดูว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองอย่างไร ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที

หลังจากที่หวังหรง ‘สารภาพ’ ออกมาแล้วก็คอยสังเกตท่าทางของกวนหย่งหัวเงียบๆ เมื่อเห็นเขาไม่แสดงท่าทีอะไร ในใจก็รู้สึกกระสับกระส่าย

เอ่ยถามทั้งน้ำตา “พี่หย่งหัวคะ คุณจะไม่ชอบฉันเพราะฉันเคยชอบคนอื่นหรือเปล่าคะ?”

กวนหย่งหัวจับไหล่หล่อน “จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ใครจะไม่เคยบ้างล่ะ ผมไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก ผมสนใจแค่คุณอยู่กับผมเท่านั้น ผมไม่คิดว่าในใจคุณจะยังมีชายอื่นหรอก”

หวังหรงถอนหายใจอย่างโล่งอก “ฉันเห็นคุณไม่พูดอะไรอยู่นาน คิดว่าคุณจะไม่ชอบฉันซะแล้วน่ะค่ะ”

กวนหย่งหัวจูบใบหน้าหล่อนครั้งหนึ่ง ตอบกลับอย่างอ่อนโยนว่า “อย่าคิดมาก”

หวังหรงตอบรับคำหนึ่ง ถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณยังอยากเจอฟางจั๋วหรานไหมคะ?”

กวนหย่งหัวหัวเราะเบาๆ “คุณก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังแล้ว ผมจะไปพบเขาอีกทำไมล่ะ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายสักหน่อย!”

หวังหรงเห็นเขายิ้มออกแล้ว หล่อนก็รู้สึกสบายใจ

หลินม่ายและฟางจั๋วหรานพาโต้วโต้วออกมาจากห้างเจียงเฉิงไปคืนขวดน้ำอัดลมก่อน

ฟางจั๋วหรานซื้อน้ำอัดลมมาจากอวี๋เจียจิ้นที่เป็นเพื่อนบ้าน

หลังจากอวี๋เจียจิ้นมาอยู่ได้ไม่นาน พวกเขาก็ขอให้หลินม่ายช่วยแนะนำช่องทางการซื้อน้ำอัดลมและเบียร์ เพราะเขาอยากเปิดร้านเครื่องดื่ม

ในช่วงนี้การเปิดร้านเครื่องดื่มในเจียงเฉิงเป็นที่นิยมมาก เพราะมีร้านเครื่องดื่มน้อย

หลินม่ายเห็นว่าเขาก็ดูไม่เลว ทั้งยังเคยช่วยเหลือตัวเองมาไม่น้อย หลังจากถามความเห็นชอบจากฟางจั๋วหรานแล้วจึงให้ความช่วยเหลือ

แถมยังสอนวิธีการทำน้ำสมุนไพรหลายแบบ ให้พวกเขาต้มน้ำสมุนไพรขายด้วย

ร้านขายเครื่องดื่มของอวี๋เจียจิ้นอยู่ใกล้ๆ ห้างเจียงเฉิง กิจการค่อนข้างดี

ครอบครัวอวี๋รู้สึกขอบคุณหลินม่ายมาก

สองสามีภรรยาแบ่งงานเป็นสองกะ พอทั้งสองคนสลับกันทำงานก็สามารถเปลี่ยนกันเฝ้าร้านได้

ตอนที่พวกหลินม่ายเอาขวดน้ำอัดลมไปคืนนั้นเป็นภรรยาของอวี๋เจียจิ้นมารับไป

หล่อนรับขวดน้ำอัดลมไว้ ส่งยิ้มให้หลินม่าย “ตอนที่แฟนของคุณมาซื้อน้ำอัดลม ฉันยังพูดกับเขาว่าพวกเราเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ไม่ต้องจ่ายเงิน เขาก็ยังให้”

หลินม่ายเองก็ส่งยิ้มให้ “ทุกคนหาเงินมาไม่ง่ายเลยนะ ต้องจ่ายเงินก็ถูกแล้วค่ะ”

ภรรยาของอวี๋เจียจิ้นหยิบไอศกรีมให้พวกเขาสามแท่ง

หลินม่ายยื่นแท่งหนึ่งให้โต้วโต้ว ใช้โอกาสนั้นฝากหล่อนไปบอกป้าติงว่าโต้วโต้วจะไม่ไปที่บ้านหล่อนสองวัน

ภรรยาของอวี๋เจียจิ้นตกลงรับปาก

ฟางจั๋วหรานพาสองแม่ลูกไปขึ้นรถบัสทางไกล หลังมองรถบัสทางไกลเคลื่อนออกไป จากนั้นจึงเดินไปที่มหาวิทยาลัยการแพทย์ผู่จี้

วันนี้ตอนบ่ายเขามีสอนวิชากายวิภาคหนึ่งคาบ

ทันทีที่คาบกายวิภาคจบลง เขาเก็บเอกสารการบรรยายแล้วรีบไปที่โรงพยาบาล ยังมีการผ่าตัดรอเขาอยู่

การผ่าตัดช่วงบ่ายนี้เป็นการผ่าตัดใหญ่ ใช้เวลาไปสองชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น

ตอนที่กลับออกมา ด้านหลังชุดผ่าตัดของฟางจั๋วหรานเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เขากำลังจะไปล้างมือในห้องน้ำ พยาบาลคนหนึ่งก็เรียกตามหลัง “ศาสตราจารย์ฟางคะ มีคนมาพบ”

ฟางจั๋วหรานหันกลับไปมอง เป็นกวนหย่งหัวนั่นเอง!

แม้จะประหลาดใจ แต่ใบหน้ากลับสงบนิ่งราวกับสายน้ำ

กวนหย่งหัวกล่าวอย่างเคารพว่า “อาจารย์หมอฟางสวัสดีครับ ผมคือกวนหย่งหัว คุณจำผมได้ไหมครับ”

“จำได้ครับ” ฟางจั๋วหรานเดินเข้าห้องน้ำไปล้างมือ เอ่ยถามกวนหย่งหัวที่มาพบตนว่า “คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับถึงมาหาผม?”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

วางแผนซะดูดีดูฉลาด แต่โดนฝ่ายผู้ชายมองออกหมดเลยนังหรงเอ๊ย

ไหหม่า(海馬)