“หมอเกฟอร์ด หมอคาลิลา นี่คือพื้นที่ปฏิบัติการของเรา” จู้ตงยี่พาเพื่อน ๆ จากต่างประเทศที่มาถึงก่อนเวลาทัวร์รอบศูนย์วิจัย
เกยฟอร์ดนั้นมาจากโรงพยาบาลโอ๊คแลนด์ซิตี้ของนิวซีแลนด์และเขาก็เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะธรรมดามาก แต่ยังก็ดีเขาถือว่ามีชื่อเสียงเพราะงานวิจัยที่เขาตีพิมพ์ออก แม้ว่าคาลิลา มาจากเมเยอร์คลินิคแต่เธอก็ไม่ใช่แพทย์ที่มีชื่อเสียงมากนัก เธอมาที่การประชุมครั้งนี้ด้วยความตั้งใจที่จะมาหาประสบการณ์เพิ่มเติม
นอกเหนือจากสองคนนี้หมอคนอื่น ๆ จากต่างประเทศที่มาถึงก่อนกำหนดก็ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนักหรือต่อให้มาจากโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงหมอเหล่านั้นก็ไม่ได้โด่งดังอะไร
มีหมอจากเกาหลีหมอจากมาเลเซียและหมอจากสหราชอาณาจักร จู้ตงยี่ชวนพวกเขาให้เพื่อให้จำนวนตัวเลขมันดูมากขึ้นเพียงเท่านั้น
แบรนดอนจากสหราชอาณาจักรเป็นเพียงชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบปี เขาเสียวเวลาในการนำโทรศัพท์ออกมาบันทึกวีดีโอและไม่ได้ทักทายใครๆที่อยู่ในระแวกนั้นเลย
นักวิชาการจู้ตงยี่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปล่อยให้เขาทำเช่นนั้นและจู้ตงยี่ก็ทักทายแขกคนอื่น ๆ ต่อไป เขากล่าวว่า “หนึ่งในกิจกรรมประจำวันของศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและศัลยกรรมกระดูกและข้อของเราคือการฝึกอบรมแพทย์จากโรงพยาบาลระดับล่างนี่คือเหตุผลที่มีแพทย์จำนวนมากที่เข้ารับการอบรมในโรงพยาบาลของเราทุกท่านจะได้พบกับพวกเขาเหล่านั้นหลังจากนี้… “
“ทำไมกลุ่มสาวๆไปรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น เอ๋ ขอไปดูหน่อยเถอะ” แบรนดอนจากสหราชอาณาจักรทันใดนั้นก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วรีบไปหากลุ่มอาสาสมัครหญิงที่ยืนอยู่ตรงมุมด้านหน้าของเขา
อาคารของศูนย์เวชศาสตร์กระดูกและเวชศาสตร์นั้นค่อนข้างกว้างขวางและทางเดินห้องผ่าตัดและห้องสาธิตนั้นกว้างเกือบสิบห้าหรือสิบหกฟุต ในขณะนี้สถานที่ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมราวกับว่ามันเป็นเคาน์เตอร์ขายตั๋วหน้าสถานที่ท่องเที่ยว
จู้ตงยี่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่อยเสียงไอดังออกมาและเพ่งสายตาไปที่เสี่ยวเหาชู
เสี่ยวเหาชู เข้าใจทันทีว่าจู้ตงยี่ หมายถึงอะไร เขาเดินไปข้างหน้าทันทีหยุดแบรนดอนในทางที่แบรนดอนกำลังจะเดินและพูดเสียงดัง “หมอแบรนดอนพวกเขาเป็นอาสาสมัครทั้งหมดไม่มีอะไรน่าถ่ายหรอก
“ ทำไม? อาสาสมัครของคุณไม่ชอบถ่ายวีดีโอหรอหรือเป็นประเพณีของจีน” แบรนดอนพูดก่อนที่จะตะโกนเสียงดังเป็นภาษาอังกฤษ “คุณช่วยผู้หญิงดูหน่อยได้ไหม ฉันหมอแบรนดอนจากสหราชอาณาจักรและฉันบันทึกรายการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั่วประเทศจีนอยู่ … “
อาสาสมัครที่เป็นหญิงสาวทุกคนหันมามองแบรนดอน พวกเขาพูดเล่นกันเองท่ามกลางเสียงเบา ๆ และไม่มีใครทำตามคำสั่งของแบรนดอน
“พวกเขาคืออะไรพวกเขาไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ” แบรนดอนรู้สึกรำคาญเล็กน้อย ทุกครั้งที่เขาบอกคนอื่นว่าเขาเป็นหมอในประเทศของตัวเองพวกเขาจะถูกยกย่องเขาเสมอ อย่างไรก็ตามตอนนี้เขารู้สึกเหมือนสัตว์ตัวเล็กที่น่าสงสาร
เสี่ยวเหาชู หัวเราะเบา ๆ สองสามครั้ง อาสาสมัครทุกคนได้รับการฝึกอบรมล่วงหน้าและแม้ว่าการฝึกอบรมจะไม่ครอบคลุมหลายหัวข้อและมันสั้นมาก แต่อาสาสมัครก็ยังสามารถปฏิบัติตามกฎพื้นฐานได้ เนื่องจาก เสี่ยวเหาชูได้แสดงการคัดค้านแล้วตอนนี้หญิงสาวเหล่านั้นจะไม่ปล่อยให้แบรนดอนถ่ายทำ
แบรนดอนส่ายหัวแสดงความเสียดาย จากนั้นเขาก็พึมพำกับตัวเองก่อนถือโทรศัพท์และเดินไปข้างหน้าแม้ว่าเสี่ยวเหาชูจะคัดค้านแล้วก็ตาม
ในโรงพยาบาลของเขาเขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้นำเทรนด์และใช้เยาวชนเป็นข้ออ้างในการทำสิ่งต่าง ๆ ที่คนอื่นไม่กล้าหรือไม่เต็มใจไม่เต็มใจหรือไม่สนใจที่จะทำ แบรนดอนไม่ได้สนใจเรื่องนั้นมากนัก เขาพบความสนุกสนานมากขึ้นในช่วงเวลาที่เขาบอกสาวสวยในไนท์คลับว่าเขาเป็นหมอ
นอกเหนือจากนี้แบรนดอนใช้เวลาส่วนใหญ่ในการถ่ายวิดีโอ
แม้ว่าวิถีชีวิตของเขาทำให้เส้นทางของเขาในการแพทย์ยากมาก แต่แบรนดอนสนุกกับมันมาก
เขาเป็นหมอที่มีความสามารถและเป็นคนที่ไม่ชอบใช้ชีวิตที่เรียบง่าย
อย่างไรก็ตามแบรนดอนสนุกกับการเข้าร่วมประชุมทางวิชาการทุกประเภท
วิดีโอที่ซึ่งเขาเข้าร่วมการประชุมวิชาการและทำสิ่งแปลก ๆ ในการประชุมวิชาการเป็นวิดีโอยอดนิยมที่สุดในวิดีโอทั้งหมดของเขาที่เคยบันทุกไวเ
ในยุคนี้ที่วัฒนธรรมฮอลลีวูดยึดครองทั่วโลกคนหนุ่มสาวในสหราชอาณาจักรไม่ชอบที่จะยึดมั่นในประเพณีการเป็นสุภาพบุรุษอังกฤษอีกต่อไป ความจริงที่ว่าแบรนดอนชอบที่จะแสดงความดื้อรั้นในการประชุมวิชาการแบบดั้งเดิมคือสิ่งที่ดึงดูดใจที่สุดสำหรับวิดีโอของเขา
แบรนดอนถือโทรศัพท์ของเขาแล้วบันทึกใบหน้าของอาสาสมัครหญิงทีละคน
“คุณชื่ออะไร?” แบรนดอนถามหญิงสาวที่สวยที่สุดในบรรดาอาสาสมัครหญิง
หญิงสาวเหลือบดูที่แบรนดอนไล่ริมฝีปากและยิ้ม “ฉันชื่อ ฮั่น เหม่ยเหม่ย” [1]
สาวๆแถวนั้นระงับเสียงหัวเราะของพวกเธอไว้จากการเอยชื่อของเธอ
เสี่ยวเหาชูสามารถหยุดตัวเองจากการหัวเราะดัง ๆ โดยการก้มหัวลง
แบรนดอนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาถามต่อไปว่า “พวกคุณมองอะไรอยู่?”
“การผ่าตัด”
“โอ้คุณเป็นนักศึกษาแพทย์เหรอ?” เมื่อแบรนดอนเห็นว่าพวกเขาดูเหมือนนักเรียนกลุ่มหนึ่งเขาจึงถามขณะถือโทรศัพท์
“ไม่ค่ะ”
“ทำไมคุณถึงดูการผ่าตัด?” แบรนดอนมองหาสิ่งต่าง ๆ ที่จะถ่ายทำ ในขณะที่เขาพูดเขาค่อยๆจับจองไปที่จุดที่ทุกคนรวมตัวกัน
จากจุดที่เขายืนอยู่เขาสามารถเห็นหน้าจอขนาดใหญ่ในห้องสาธิต
ห้องสาธิตในศูนย์นั้นเปิดให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกคน โรงพยาบาลต้องการให้พนักงานใช้เวลาว่างเพื่อรับความรู้และพัฒนาตนเอง
อย่างไรก็ตามบุคลากรที่อยู่นอกโรงพยาบาลได้รับอนุญาตภายในโรงพยาบาลขึ้นอยู่กับสถานการณ์หรือไม่
เห็นได้ชัดว่าศูนย์เวชศาสตร์กระดูกและเวชศาสตร์ไม่อนุญาตให้อาสาสมัครเข้าห้องสาธิต
อย่างไรก็ตามจู้ตงยี่ ไม่ได้ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ เขาแสดงท่าทางให้กับเสี่ยวเหาชู่เพื่อให้เขาไล่แบรนดอนออกไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับการประชุมครั้งต่อไปไม่ว่าอะไร จู้ตงยี่จะไม่ส่งบัตรเชิญให้กับผู้ชายคนนี้อีก แม้ว่าโรงพยาบาลของเขาจะแนะนำเขาพวกเขาจะต้องปฏิเสธคำแนะนำ
“มิสเตอร์แบรนดอน” เสี่ยวเหาชู เดินไปข้างหน้า
“ เดี๋ยวก่อนการผ่าตัดนี้น่าสนใจทีเดียว” โดยธรรมชาติแล้วแบรนดอนไม่ต้องการมองผ่านหน้าจอ ขณะที่เขาพูดเขาผลักเปิดประตูแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องสาธิต
ตั้งแต่แขกที่อยู่ข้างหลังเขาเข้ามาพร้อมกับเขาจู้ตงยี่และเสี่ยวเหาชูไม่มีทางเลือกนอกจากเข้าไปในห้องสาธิตด้วย
“สวัสดีค่ะ ผู้อำนวยการ”
“นักวิชาการจู้”
“ผู้อำนวยการ”
แพทย์ที่ดูรายการสดในห้องสาธิตทักทายจู้ตงยี่
จู้ตงยี่ พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ในขณะเดียวกันแบรนดอนก็ก้าวไปข้างหน้าและเริ่มถ่ายทำฉากการผ่าตัดซึ่งออกอากาศทางจอใหญ่ด้วยโทรศัพท์ของเขา
เสี่ยวเหาชู ขมวดคิ้วของเขาเล็กน้อยแล้วพูดอย่างหนักแน่นเป็นภาษาอังกฤษว่า “หมอแบรนดอนนี่คงไม่เหมาะสมเท่าไร”
“นี่คือหมอระดับเอซที่พวกคุณเชิญมาใช่มั้ย” แบรนดอนพูดอย่างช้า ๆ และชัดเจนในภาษาอังกฤษ “ทักษะของเขาเปรียบได้กับครูของฉันอืมการซ้อมนี้มันน่าสนใจมากเขาพิถีพิถันจริง ๆ แล้วใครคือหมอที่พวกคุณเชิญมา?”
จู้ตงยี่ซึ่งเป็นผู้อาวุโส เขาจำได้เพียงว่าอาจารย์ของแบรนดอนเป็นใครหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาคนนั้นคือ เบรนต์วอลเลซซึ่งเป็นนักศัลยกรรมกระดูกที่มีชื่อเสียงในสหราชอาณาจักร
นี่เป็นเหตุผลที่แบรนดอนมีคุณสมบัติในการเข้าร่วมการประชุมนี้
ครั้งหนึ่งเบรนต์วอลเลซได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักศัลยกรรมกระดูกที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร ตำแหน่งของเขาในสนามเกี่ยวกับศัลยกรรมกระดูกในสหราชอาณาจักรเทียบได้กับตำแหน่งของ จู้ตงยี่ในสนามเกี่ยวกับศัลยกรรมกระดูกในประเทศจีน
หากคุณต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างทักษะของแพทย์ในจีนและสหราชอาณาจักรคุณอาจพูดได้ว่าสถานะของเบรนต์วอลเลซในสาขาศัลยกรรมกระดูกระหว่างประเทศนั้นสูงกว่าของ จู้ตงยี่เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามแบรนดอนไม่ได้เป็นศิษย์คนสุดท้ายของเบรนท์หรือนักเรียนคนเดียวของเขา ตำแหน่งของเขาสูงกว่า เสี่ยวเหาชู เล็กน้อยที่ดีที่สุดและมันก็ไม่มีอะไรที่น่าจะโม้ได้เกี่ยวกับตัวเขา
ดังนั้นจู้ตงยี่ไม่ได้สนใจคำพูดของแบรนดอน เขามองไปรอบ ๆ
หมอคนหนึ่งพูดว่า “หลิงรันเป็นคนหนึ่งที่ทำการศัลยกรรมมันเป็นการผ่าตัดรักษาเอ็นร้อยหวาย”
“ มันเป็นการผ่าตัดรักษาเอ็นร้อยหวายที่ปลายเท้า ดำเนินการโดยแพทย์ชาวจีน” จู้ตงยี่ ไม่ได้พูดถึงชื่อของหลิงรันในการประชุมเช่นนี้สัญชาติของหมอเป็นสิ่งเดียวที่จะถูกกล่าวถึง
“หมอจีนคนหนึ่ง” ขณะที่แบรนดอนถือโทรศัพท์ของเขาและดูฉากบนหน้าจอทันใดนั้นเขาก็เงียบ
นี่เป็นความรู้สึกแบบผ่าตัดโดยหลิงรันที่ให้คนอื่น
ความสงบและเงียบสงบมันแสดงให้เห็นความทรงภูมิปัญญาและบางทีมันก็ทำให้การถ่ายถอดสดนั้นดูน่าติดตามมากขึ้น
“การรักษาเอ็นร้อยหวายสดใหม่ แต่มันทำในลักษณะนี้ … นักวิชาการจู้นี่คือแผนใหม่ที่คุณออกแบบหรือไม่” แบรนดอนเริ่มรู้สึกอยากรู้อยากเห็น
“ใช่” จู้ตงยี่ตอบ
“ต้องมีหมอน้อยมากที่สามารถดำเนินการตามแผนนี้ได้” ความคิดของแบรนดอนมีมากยิ่งขึ้น แต่เป้าหมายหลักของเขายังคงถ่ายวิดีโอการผ่าตัดและวิดีโอสามารถนำไปแก้ไขได้
จู้ตงยี่ยิ้มได้เพียงเล็กน้อยและไม่พูดอะไรราวกับว่าทุกสิ่งในโลกอยู่ในการควบคุมของเขา
แบรนดอนไม่ได้พูดมากเช่นกัน เขายกโทรศัพท์ขึ้นและถ่ายทำหน้าจอต่อไป
ส่วนที่สองของการผ่าตัดรักษาเอ็นร้อยหวายใช้เวลาประมาณสิบนาที หลังจากแบรนดอนถ่ายทำเสร็จเขาก็เริ่มเขียนอีเมลทันทีและแนบวิดีโอไปกับอีเมลด้วย