ตอนที่ 406 หน้าเด็กกว่าสามี
วันที่สิบห้ามกราคมเวลาสิบเอ็ดโมงกว่าคนจากตระกูลน่าหลานก็มาถึงหมู่บ้านเถาหยวนซาน
มู่เถาเยากับถังถังขับรถคนละคันไปรับคนที่ลานจอดเครื่องบิน
พาไปเก็บสัมภาระที่บ้านตระกูลเย่ว์ก่อน จากนั้นถึงพาไปเจอเหล่าผู้อาวุโสที่บ้านครอบครัวหยวนและกินข้าวกลางวันด้วยกัน
ลูกๆ สามคนของตระกูลน่าหลาน อวิ๋นไคกับอวิ๋นหร่านอยู่ในกลุ่มของมู่หว่าน ยกเว้นน่าหลานอวิ๋นจือที่เรียนอยู่ต่างประเทศ ต่างสนิทกับพวกมู่เถาเยาแล้ว พอมาถึงจึงไม่รู้สึกอึดอัด
เดิมอวิ๋นหร่านมีนิสัยเรียบร้อย แต่พอคุยกับทุกคนในกลุ่มก็ร่าเริงขึ้นไม่น้อย
พี่ชายทั้งสองคนของเธอต่างเป็นคนสุขุม ไม่เย็นชา ไม่อึมครึม แต่ก็ไม่ได้กระตือรือร้นจนเกินไป ให้ความรู้สึกอบอุ่น
ไม่ว่าจะคนแก่ เด็ก หรือคนวัยเดียวกัน ต่างชอบคนนิสัยแบบนี้
พวกเขาดูสมแล้วที่เป็นคนตระกูลน่าหลาน
บรรดาผู้อาวุโสต่างดีใจ
อวี้อวี๋ยิ้มพูด “พวกเรามารบกวนหลายวันหน่อย หวังว่าคุณหมอเทวดาหยวน ผู้อาวุโสซย่าโหวกับคุณนายจะไม่ถือสานะคะ”
ถังหยวนยิ้มกว้าง “ยินดีเลยจ้ะ! เมื่อก่อนตระกูลซย่าโหวของเราเก็บตัวอยู่แต่ในอาณาเขตตัวเอง เพิ่งจะถูกเสี่ยวเยาเยาพาออกมาดูโลกไม่กี่ปีมานี้เองจ้ะ”
ซย่าโหวโซ่วยิ้มเขินเล็กน้อย
เมื่อก่อนเขาเอาแต่ฝึกยุทธ์ คนในบ้านมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ มีที่ให้หลับนอน ก็ไม่ต้องการอย่างอื่นแล้ว
แต่พอได้ออกมาเปิดโลกก็พบว่าเมื่อก่อนพลาดอะไรไปมากมาย
อยู่มาทั้งชีวิต เขาไม่เคยนึกถึงความหมายของ ‘สุขสงบล้วนอยู่ที่ตน’ เลย
ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ แต่ไม่ได้ครุ่นคิดให้ลึกซึ้ง
น่าหลานรั่วหงยิ้มพูด “ผู้อาวุโสบ้านเราเลื่อมใสสำนักซย่าโหวมากครับ บอกว่าจิตใจคนสำนักซย่าโหวบริสุทธิ์ ไม่แปดเปื้อนกิเลส คนในสังคมสมัยนี้ยากที่จะตกผลึกในเรื่องต่างๆ ได้อย่างถ่องแท้ครับ”
ซย่าโหวโซ่วยิ้มตอบ “ปู่ของเธอต่างหากที่สติปัญญาหลักแหลมที่สุด ไม่อย่างนั้นอาเล็กของเธอไม่มีทางไปรับราชการ ได้เป็นใหญ่เป็นโต”
ถูกต้อง น่าหลานเจี๋ยผู้เฒ่าตระกูลน่าหลานยังมีน้องชายอีกคนชื่อน่าหลานจั๋ว รับราชการในสุ่ยเซียงที่งามดุจภาพวาด
ถึงแม้ตอนนี้จะเกษียณออกมาแล้ว แต่ญาติผู้น้องของทั้งสองคนก็เป็นข้าราชการท้องถิ่นเช่นกัน แถมยังเป็นข้าราชการระดับเมืองที่อยู่ในอาณาเขตของเจียงตู
สวีเสี่ยวเจิงเล่าให้มู่เถาเยาฟังหลังจากที่กลับจากเยี่ยมฉือซานที่เจียงตูและมาหาเธอที่เมืองเย่ว์ตูอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นเขาที่ไม่สนโลกภายนอกจะรู้ได้อย่างไร
ต่อให้ใช้แซ่น่าหลานเหมือนกัน เขาก็ไม่มีทางคิดอะไรมาก อย่างไรเสียประเทศเหยียนหวงก็ใหญ่มาก ต่อให้คนแซ่น่าหลานไม่เยอะ แต่ก็ไม่มีทางน้อย ย่อมไม่ได้มีแค่ตระกูลน่าหลานที่ปลีกวิเวก
น่าหลานรั่วเซิงยิ้มพูด “เมื่อก่อนอาเล็กงานยุ่งมาก ไม่ค่อยได้กลับบ้านเกิด มีไม่กี่คนที่รู้ว่าตระกูลน่าหลานยังมีบ้านรองด้วย ยกเว้นคนในหมู่บ้าน”
อาเล็กเป็นน้องชายแท้ๆ ของพ่อเขา แน่นอนว่าก็เป็นสายตรงเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ไปเรียนข้างนอก ทำงาน สร้างครอบครัว เรือนใหญ่ของตระกูลน่าหลานจึงมีแค่พวกเขาที่อยู่อาศัย คนในตระกูลใหญ่จึงดูน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ภรรยาของเขาจงใจพูดเรื่องอาเล็กให้เสี่ยวเยาเยาฟัง เพราะอยากให้สำนักแพทย์โบราณกับสำนักซย่าโหวเชื่อใจ
สองสำนักนี้มีชื่อเสียงที่ดีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ควรค่าให้พวกเขาไว้ใจและคบหาด้วย มิฉะนั้นลำพังแค่บุญคุณที่ช่วยรักษาคุณนายผู้เฒ่ากับให้ยาล้างเอ็นคลายเส้นก็ยังไม่เพียงพอให้ตระกูลน่าหลานทำถึงขั้นนี้
รู้สึกขอบคุณที่ช่วยชีวิต ให้ตอบแทนย่อมได้ แต่การจะให้ตระกูลที่ก่อตั้งมาเป็นพันปีไว้เนื้อเชื่อใจเต็มร้อยย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
พวกมู่เถาเยาเข้าใจ จึงให้ความจริงใจในระดับเดียวกันเช่นกัน
หยวนเหยี่ยยิ้มพลางพยักหน้า “อาเซิง ทำไมพ่อแม่เราไม่มาด้วยกันล่ะ”
น่าหลานรั่วเซิง “หลังจากคุณแม่หายดีก็หอบยาล้างเอ็นคลายเส้นไปบ้านอาเล็กพร้อมคุณพ่อแล้วครับ ตอนนี้ยังอยู่ที่สุ่ยเซียง บอกว่าจะฉลองตรุษจีนที่นั่น จากนั้นจะพาหลานสองคนกลับมาอยู่ด้วยจนกว่าจะเปิดเทอมครับ”
หยวนเหยี่ยพยักหน้า
น่าหลานรั่วหงมองมู่เถาเยา “เสี่ยวเยาเยา พวกเราเข้าเขตป่าชั้นในเมื่อไรเหรอ อวิ๋นจือกับอวิ๋นไคเข้าด้วยได้ไหม”
“ตอนบ่ายหนูกับอาจารย์สามจะเอาแมลงหลานกู่กับดอกหลานหลัวที่พวกคุณอาเอามาไปทำยาก่อนค่ะ พรุ่งนี้ค่อยเข้าเขตป่าชั้นใน อวิ๋นจือ อวิ๋นไค อวิ๋นหร่าน ยังตามเข้าไปไม่ได้ค่ะ ไว้อาใหญ่กับอารองเข้าเขตป่าชั้นในก็จะรู้สถานการณ์ข้างในค่ะ”
สองพี่น้องน่าหลานพยักหน้า
ถังถังถามด้วยความสนใจ “อาใหญ่อารองคะ ไปเจอดอกหลานหลัวที่ไหนมาคะ”
น่าหลานรั่วหงยิ้มตอบ “บนเขาอีกลูกน่ะ อวิ๋นจือเจอก่อนแล้วกลับมาบอกให้พวกเราไปเก็บ”
ถังถังมองน่าหลานอวิ๋นจือ ยิ้มตาโค้งแล้วพูด “ดวงดีจังเลย! ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่เยอะเท่าครั้งก่อน แต่ก็น่าจะทำออกมาได้ประมาณสี่สิบเม็ด”
น่าหลานอวิ๋นจือยิ้ม ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนมีสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดมา
“ถ้าไม่ใช่เพราะถังถังกับเสี่ยวเยาเยา ต่อให้เจอของดีกว่านี้พวกเราก็ยังคงไม่รู้เรื่อง ถ้ามีโอกาสจะขอความรู้เรื่องสมุนไพรจากพวกเธอหน่อย วันหน้าเจอเข้าจะได้ไม่พลาด”
“ได้เลยค่ะ”
อวี้อวี๋กับสวีเสี่ยวเจิงมองหน้ากันอย่างมีเลศนัย ยิ้มมุมปากอย่างรู้กัน
นับตั้งแต่รู้ว่าเสี่ยวเยาเยาเป็นว่าที่หัวหน้าเผ่าหมาป่าพระจันทร์ พวกเธอก็ไม่อยากจับคู่เสี่ยวเยาเยากับอวิ๋นไคแล้ว
แต่ถังถังกับอวิ๋นจือมีความเป็นไปได้สูง!
ผู้หญิงโตกว่าปีสองปีไม่ใช่เรื่องใหญ่ ขอแค่ดูแลตัวเอง หน้าเด็กกว่าสามีก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
ส่วนเรื่องจะมีลูกยากพวกเขาไม่ได้ติดใจอะไร
แต่ตระกูลน่าหลานทำความดีสารพัดตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา สวรรค์ย่อมเห็น พวกเขาย่อมมีความมั่นใจว่าไม่มีทางขาดทายาทสืบสกุล
น่าหลานอวิ๋นไค “เสี่ยวเยาเยา เขตป่าชั้นในของป่าเซียนโหยวไม่มีดอกหลานหลัวเหรอ”
“อาจจะไม่มีค่ะ ฉันเข้าออกนับครั้งไม่ถ้วนแล้วยังไม่เคยเจอ พืชบางชนิดมีเงื่อนไขในการดำรงชีวิตสูง ถึงแม้ป่าเซียนโหยวจะเป็นป่าดึกดำบรรพ์ แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับพืชทุกชนิด”
ทุกคนพยักหน้า เรื่องนี้เข้าใจได้ง่าย
น่าหลานอวิ๋นหร่านถามด้วยความสงสัย “พี่เยาเยาคะ ฉันได้ยินมาว่าในป่าเซียนโหยวแปลกประหลาดมาก ทีมสำรวจเข้าไปหลายทีมก็ยังไม่รอดออกมา”
“ไม่แปลกประหลาดหรอก แค่พืชกับสัตว์อันตรายมีเยอะมาก พิษบางอย่างรุนแรงถึงขั้นแค่ถูกผิวหนังนิดเดียวก็ตายได้ ดังนั้นคนที่วิชาพิษน้อย ต่อสู้ไม่เก่ง ประสบการณ์เดินป่าไม่มากพอก็ยากที่จะรอดออกมาได้ สามอย่างนี้ขาดไม่ได้เลยสักอย่าง เว้นเสียแต่จะมีคนที่ปกป้องตัวเองและคนอื่นได้”
“อันตรายขนาดนั้นเลย แล้วสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนั้นอยู่รอดกันได้ยังไง”
“โลกนี้มีสรรพสิ่งมากมาย พึ่งพากันหักล้างกัน พืชกับสัตว์ก็เหมือนมนุษย์ ผู้เหมาะสมย่อมอยู่ได้”
น่าหลานอวิ๋นหร่านดวงตาเปล่งประกาย “พี่เยาเยาความรู้เยอะจังเลยค่ะ”
มู่เถาเยา “…”
‘ผู้เหมาะสมย่อมอยู่ได้’ เรื่องนี้คนทั่วไปก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
เธอก็แค่ใจกล้าบ้าบิ่นมากกว่าหน่อย เข้าเขตป่าชั้นในบ่อยประสบการณ์ก็เลยเยอะกว่าเท่านั้นเอง
อาจารย์แม่รองถังหยวนยิ้มเรียกทุกคน “อย่ามัวแต่คุยกันเลย รีบกินข้าว อากาศหนาวอาหารเย็นชืดเร็ว”
ทุกคนพยักหน้าแล้วคีบกับข้าวกิน
กินอาหารกลางวันกันอย่างครึกครื้นเสร็จมู่เถาเยาก็ให้มู่หว่านกับเหลียงจีพาคนครอบครัวน่าหลานไปเดินเล่นในหมู่บ้าน จากนั้นเธอ หยวนเหยี่ย ลู่จือฉิน ปาอิน และถังถังก็ไปทำยาล้างเอ็นคลายเส้นที่ห้องด้านข้าง
พวกเขาออกมากันตอนอาทิตย์ตกแล้ว
“อาใหญ่ อารองคะ ทั้งหมดได้สี่สิบห้าเม็ด ให้พวกคุณอายี่สิบสามเม็ด หนูกับพี่ถังถังคนละสิบเอ็ดเม็ดค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยา พวกเธอคนเยอะ ให้พวกเราสิบเม็ดก็พอแล้ว”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ก่อนหน้านี้คุยกันแล้วว่าแบ่งแบบนี้” มู่เถาเยายืนกรานจะให้พวกเขายี่สิบสามเม็ด
น่าหลานรั่วหงรับไว้อย่างจนปัญญา
คิดว่าอีกหน่อยถ้ามีโอกาสเอายานี้ให้อีกฝ่ายเป็นของขวัญก็ดีเหมือนกัน